Reviews

FAR CRY 6 [ฟาร์ คราย 6] – รีวิว [Review]

โดย ปอลนาโช่

FAR CRY 6 [ฟาร์ คราย 6] – รีวิว [Review]
เมื่อทรราชเป็นกฏหมาย การปฏิวัติจึงกลายเป็นหน้าที่

ขอขอบคุณโค้ดเกม (PS5) เพื่อการรีวิว จากบริษัท UBISOFT มา ณ โอกาสนี้ครับ

ฟาร์ คราย 6 เป็นเกมใหญ่แห่งปีครับ ผมทราบดีว่าแฟนเกมชาวไทยหลายคนรอคอยเกมนี้อยู่…จนแทบจะรอไม่ไหวกันแล้วใช่มั้ย? ดังนั้นการรีวิวในคราวนี้จะขอเกริ่นนำสั้น ๆ แค่นี้แหละ! ไปเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

Narration

ผมจะเล่าแค่พล็อตคร่าว ๆ ของเรื่องราวเบื้องหลังเกมให้ทราบครับ ไม่ต้องห่วงว่าจะมีสปอยล์ใด ๆ ทั้งสิ้น โดยแฟนเกมส่วนใหญ่น่าจะรู้เนื้อเรื่องเบื้องต้นกันแล้วว่าเกมนี้พูดถึงการปฏิวัติประชาชน ในประเทศสมมติที่ชื่อยารา โดยตัวเอกที่เลือกเพศได้ของเรา ชื่อ ดานี่ โรฮาส ต้องต่อสู้ผจญภัยเพื่อโค่นล้มเผด็จการอันตอน คาสติลโญ่ ลงให้ได้

ทีนี้ พอเข้าไปสู่ตัวเกม โครงสร้างของการดำเนินเรื่องจะคล้ายคลึงอย่างมากกับเกม Tom Clancy’s Ghost Recon Wildlands กล่าวคือ เกาะยาราจะแบ่งเป็นภูมิภาคเหนือ (แบ่งเป็นตะวันตกเฉืองเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ)กลางและใต้ แต่ละภาคจะมีผู้นำ ซึ่งเป็นบรรดารัฐมนตรี, นายพล ตลอดจนหัวคะแนนมือขวาของอันตอน คอยปกครองพื้นที่อยู่…ใช่แล้วครับ เรามีหน้าที่ต้องต่อสู้พวกมันด้วยการเข้าไปช่วยเหลือ, สนับสนุนปฏิบัติการของแนวร่วมที่เข้ากับฝ่ายต่อต้าน จนกว่าจะสำเร็จเป็นยุทธวิธีป่าล้อมกรุง จนสุดท้ายก็บุกเข้าเผด็จศึกเมืองหลวงเอสเปรันซ่าต่อไป

โดยบรรดาแนวร่วมในพื้นที่เหล่านี้ก็ได้แก่ กลุ่มศิลปินแร็ป, อดีตผกค. (ผู้ก่อความไม่สงบต่อยารา), และตระกูลชาวไร่ชาวนา (คุ้นชิบเป๋ง)

คีย์เวิร์ดสำคัญอย่างหนึ่งในเกมนี้คือ การตอกย้ำคำว่า ชาวยาราแท้ (ทรูยารา) ของอันตอนต่อพลเมืองของตน และการป้ายสีภาพของ ชาวยาราปลอม ให้กับพวกที่ลุกฮือต่อต้าน ซึ่งตลอดทั้งเกมจะพัวพันอยู่กับปมนี้ครับ จะมีภาพของประชาชนสองฝ่าย ที่หลายคนก็ยังฝักใฝ่ในภาพฝันของสังคมศิวิไลซ์ในกลุ่มชนชั้นนำ อยากได้ชื่อว่าเป็นยาราแท้ โดยพวกนี้จะคอยช่วยเหลือทหารเพื่อกำจัดกลุ่มลิเบอร์ตาดของตัวเอก ขณะที่ฝ่ายที่ถูกหาว่าเป็นยาราปลอม ก็จะถูกโจมตีว่าฝักใฝ่ต่างชาติ บูชาสหรัฐอเมริกามากกว่าเกาะยาราบ้านเกิด ซึ่งชะตากรรมจะไม่พ้นถูกจับ ถูกอุ้ม หรือไม่ก็ส่งไปใช้แรงงานในทุ่งปลูกวิวิโร่ พืชที่ให้สารตั้งต้นในการผลิตยาแห่งอนาคต ที่สามารถรักษาโรคมะเร็งได้ ซึ่งวิวิโร่นี่เอง คือแหล่งที่มาของรายได้มหาศาลต่อประเทศยารา

พอเล่นผ่านบทนำช่วงแรกแล้ว ผู้เล่นจะต้องเดินทางออกจากเกาะจิ๋ว อิสล่า ซานทัวริโอ้ ซึ่งเป็นเกาะบริวารขนาดเล็กรอบนอก แล้วถูกส่งขึ้นเกาะใหญ่ ซึ่งผมขอแนะนำทุกท่านตรงนี้เลยว่า “อย่าพลาดการอัปเกรด “แหล่งกบดาน” เป็นอันดับแรก ที่ค่ายของกลุ่มเกอริญ่า เพราะนี่คือการซื้อ “ฟาสต์ทราเวล” ตามจุดต่าง ๆ ทั่วแผนที่ ขอบอกเลยว่ามีประโยชน์มากครับ

ด้านรายละเอียดของเกาะยารา เริ่มที่:

1. มาดรูกาด้า หรือเขตตะวันตกเรื่อยไปจนถึงตะวันตกเฉียงเหนือของยารา ปกครองโดยนายพลจอมโหด หลานชายของอันตอน พื้นที่โซนนี้จะเป็นแหล่งเพาะปลูกหลักของวิวิโร่ แต่เดิมเป็นไร่ยาสูบ แต่อันตอนสั่งให้เผาไร่เดิมแล้วทั้งภาคต้องกลายมาเป็นแหล่งปลูกวิวิโร่หลักของประเทศ ในมาดรูกาด้านี้เองที่ผู้เล่นจะได้เจอกับน้อนหมาโชริโซ่

2. วัลเญ่ เดอ โอโร่ ตอนกลางของยารา เป็นเขตที่ราบลุ่มชื้นแฉะ แหล่งเสื่อมโทรม ชุมชนแออัดที่เต็มไปด้วย เซ็กซ์, ยา และท่วงทำนองแร็ป! ซึ่งเกมนี้ใช้บริการศิลปินแร็ปจากเวเนซุเอลา ที่บอกเลยพอฟังในเกมแล้วมันสุด ๆ (ถึงจะฟังไม่ค่อยออกก็ตาม)

3. เอล เอสเต้ ภาคใต้ในสภาพภูมิประเทศแบบป่าดงดิบ ภูเขาสูงชัน ดินแดนแห่งการสู้รบระหว่างทหารแห่งรัฐกับอดีตผู้ก่อความไม่สงบจากยุคอดีต

และพื้นที่สุดท้ายตอนเหนือสุดของเกาะ คือเมืองหลวง “กรุงเอสเปรันซ่า” ที่มีขนาดใหญ่โตสวยงามมาก ที่สำคัญคือมีฉากเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยตึกอาคารบ้านช่องหนาแน่น แห่งเดียวในเกาะยารา

วิเคราะห์การดำเนินเรื่อง

สรุปในส่วนเนื้อเรื่องนี้ ผมพบจุดแข็งสำคัญที่น่าชื่นชมในภาคนี้นั่นก็คือการใช้งาน จิอันคาร์โล เอสโปสิโต้ ในบทบาทปธน.คาสติลโญ่ ได้อย่างคุ้มค่ามาก ๆ (ไม่โผล่มาแว้บเดียวแบบ jon bernthal ใน Ghost Recon Breakpoint) โดยผู้เล่นจะพบภาพลักษณ์ของเขาไปทั่วทั้งเกาะยารา ไม่ว่าจะเป็นเสียงตามสายกระจายทั่วชุมชน, เสียงในวิทยุ-โทรทัศน์, ภาพโปสเตอร์ตามตึกและในบ้านเรือนของชาวบ้าน ซึ่งมันช่วยสร้าง “ความอิน” ให้กับคนเล่นอย่างเรา ที่มีสิ่งคอยย้ำเตือนอยู่เสมอว่าเรากำลังสู้กับใคร

Open World Redefined

ในหัวข้อนี้ค่อนข้างละเอียดซับซ้อน เพราะมีหลายปัจจัยที่ฟาร์คราย 6 ได้พัฒนาเพิ่มเติมกว่าฟาร์ครายทุกภาคที่ผ่านมา ผมจะพยายามอธิบายเป็นข้อย่อย ๆ ดังนี้

แปลซับฯ ไทยได้ถูกใจมากครับ

โดยรวมผมมองว่าเกมนี้ คือที่สุดแห่งการยำรวมข้อดีทั้งหมดของบรรดาเกมโอเพ่นเวิลด์ในบริษัทยูบิซอฟต์เอง เพราะหลายฟีเจอร์ ผู้เล่นน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ระบบการควบคุมทั้งหมด และลักษณะการเคลื่อนไหวและสกิลพื้นฐานต่าง ๆ ของตัวละคร ที่เล่นปุ๊บก็รู้เลยทันทีว่านี่แหละ เกมฟาร์คราย, ระบบการค้นหาขุมทรัพย์ในพื้นที่แคบ ๆ แบบภาค 5, การขับขี่ยานพาหนะได้แทบทุกประเภทที่ปรากฏในเกม

ในส่วนของการยึดฐานศัตรูนั้น ผมพบว่าภาค 6 มีการปรับให้มีจำนวนฐานไม่เยอะมาก แต่! ที่มีปรากฏในเกมคือระดับป้อมปราการของแท้ เล่นแล้วดุเดือดเร้าใจ “น้อยแต่แน่น” ว่างั้นเถอะ ซึ่งบรรดาฐานเหล่านี้พอยึดได้แล้วก็จะกลายมาเป็นจุดเดินทางเร็ว และใช้เป็นที่เติมกระสุน, ซื้อขายและอัปเกรดอุปกรณ์ต่าง ๆ

ด้านการเดินทาง ผู้เล่นสามารถเรียกยานพาหนะมาได้เกือบทุกที่ ซึ่งนอกจากเส้นทางถนนแล้ว ยังมีเส้นทางลัดแบบบุกป่าฝ่าดงให้ด้วย ซึ่งต้องคอยมองสัญลักษณ์ของกลุ่มต่อต้านสีฟ้า ๆ ให้ดี เพื่อใช้เดินทางปีนป่าย, ลอดอุโมงค์ใต้ดิน ฯลฯ เพื่อเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป

ดานี่ เวอร์ชันของผู้เขียนเอง

สิ่งที่หายไปคือระบบปีนหอคอย ที่เริ่มตกยุคไปแล้วนั่นเอง

ประเด็นสำคัญอีกอย่างก็คือ หากคุณเข้าสู่พื้นที่ที่เป็น HUB หรือเป็นฐานปฏิบัติการฝ่ายกบฎ มุมมองการเล่นจะเปลี่ยนเป็นบุคคลที่สามครับ ให้คุณได้เห็นตัวละครที่ปรับแต่งมาอย่างดีของคุณแบบเต็มตา แต่พอเดินออกสู่ฉากแผนที่ มุมกล้องก็จะกลับเป็น FPS เหมือนเดิม

มุมมอง TPS ขณะอยู่ในค่ายเกอริญ่า

ระบบชั้นยศ (Rank-Up)

โครงสร้างนี้ เหมือนยกมาจากซีรีส์ assassin’s creed odyssey ทั้งดุ้นเลย คือแต่ละเขตแดนจะแบ่งความยากของเหล่าศัตรูเป็นยศ เพื่อเป็นไกด์คร่าว ๆ ให้ผู้เล่นได้วางแผนว่าจะไปบุกที่ไหนก่อนหลัง ส่วนตัวละครดานี่ ก็จะเพิ่มยศตัวเองได้ด้วยการเคลียร์ภารกิจของฝ่ายเกอริญ่าไปเรื่อย ๆ ยิ่งยศเพิ่ม ก็จะสามารถเข้าถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ชั้นสูงได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ระดับยศในพื้นที่นั้นไม่ตายตัวนะครับ ยิ่งคุณอัปเกรดตัวเองยิ่งขึ้นเท่าไร อันตอนก็จะสั่งการ เพิ่มความเข้มข้นด้านการป้องกันในพื้นที่อ่อนไหว ให้เพิ่มแรงค์ตามคุณขึ้นไปด้วย

(หมายเหตุ: ถึงแม้ศัตรูจะแรงค์สูง และเกมนี้มีแถบค่า HP ของข้าศึกให้เห็นเวลาโดนเรายิง แต่หากคุณยิงเฮดช็อต มันก็จะถือเป็นการสังหารโดยทันทีนะครับ ไม่ต้องดูค่าพลังที่เหลือ)

สัตว์ร่วมทาง Amigo!

ที่บริษัทเขาโปรโมตมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมานั้นทำให้เราได้เห็นตัวตนของคู่หูร่วมทางอย่าง จระเข้กัวโป, น้องหมาโชริโซ่ และไก่ชิชาโรน แต่ตัวเกมจริงยังมีตัวอื่นเพิ่มเข้ามาอีกนะครับ ผมจะไม่สปอยล์ชื่อและชนิดของสัตว์เหล่านั้นหรอก ไว้รอเจอกันเองดีกว่า แต่เท่าที่ใช้ดู ผมพบว่ากัวโปสะดวกที่สุดสำหรับผม เพราะมันมีความพิเศษที่ชุบชีวิตตัวเองได้ ทำให้เราไม่ต้องคอยไปกดชุบเหมือนตัวอื่น ๆ (สกิลพิเศษของโชริโซ่คือใช้ความน่ารักหลอกล่อพวกทหารได้ ส่วนไก่ชน ก็พุ่งโจมตีศัตรูในระยะไกล ๆ ได้)

เรโซลเวร์

ระบบการโมดิฟายด์ หรือประกอบอาวุธขึ้นมาเองในเกมนี้สนุกมากครับ ถือว่าทำได้ดีกว่าทุกภาคที่ผ่านมาเลยทีเดียว การรีโซลเวอร์ (หรือออกเสียงแบบอเมริกาใต้ว่า เรโซลเวร์) ช่วยเพิ่มกลิ่นไอแบบเกม RPG ให้กับซีรีส์ ผู้เล่นสามารถปรับแต่งปืนให้เหมาะกับสถานการณ์ได้

คือเกมนี้มันแบ่งศัตรูเป็นหลายประเภทครับ มีทหารธรรมดา มีทหารสวมเกราะทั่วตัว ฯลฯ ซึ่งคุณต้องเตรียมกระสุนให้หลากหลาย ทั้งแบบธรรมดา แบบเจาะเกราะ ไปจนถึงธนูไฟ ธนูระเบิด และต้องติดเกราะให้ตัวเองด้วย ให้ป้องกันการโจมตีแบบต่าง ๆ ได้ครอบคลุม ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำได้ที่โต๊ะเครื่องมือซึ่งกระจายตัวให้ใช้งานได้ทั่วไปในเกม ผมจะไม่แจกแจงดีเทลมากนัก เพราะเดี๋ยวคุณก็จะได้เจอและต้องไปเรียนรู้กันเอง แต่ผมอยากจะบอกว่า ฟาร์คราย 6 ออกแบบฟีเจอร์นี้มาได้ดีจริง ๆ เพราะนอกจากมันจะช่วยมอบอาวุธที่สวยงาม (และแหวกแนวอย่างเป้สุพรีโม่) ให้คุณได้พกพาแล้ว มันยังถือเป็นปัจจัยสำคัญมาก ๆ ในการเคลียร์เกม…

ที่ผมบอกแบบนี้ก็เพราะเกมนี้ค่อนข้างยากนะครับ ต่อให้เล่นโหมดสตอรี่ ศัตรูก็ตึงมือสุด ๆ ทหารทุกนายวิ่งเร็วอย่างเหลือเชื่อ มีจำนวนค่อนข้างมากในแต่ละฐาน มีการเสริมกำลังกันเร็วมาก แถมถ้าคุณก่อความวุ่นวายเยอะ ๆ ก็จะเป็นการไปเรียกของหนักอย่างรถถัง, เฮลิคอปเตอร์ทหาร ออกมาโจมตีคุณ ซึ่งกระสุนธรรมดายิงยานเกราะไม่ค่อยเข้านะครับ ขอเตือนไว้ก่อน

ดังนั้น เกมจะบังคับกลาย ๆ ให้คุณหันมาให้ความสนใจในการพัฒนาคลังแสงส่วนตัว จะไปไหนทีต้องพกอาวุธให้ครอบคลุม สามารถจัดการศัตรูได้ทุกประเภท

ถามว่าเราจะอัปเกรดปืนและอุปกรณ์ของเราได้อย่างไร? คำตอบคือ หลัก ๆ จะได้มาจากร้านของ ฮวน คอร์เตซ ที่เหลือก็จะได้ทรัพยากรมาจากการท่องโลกในเกมนั่นแหละครับ ผสมกับการเพิ่มยศเพื่อให้ร้านค้ามีอาวุธพิเศษให้เราซื้อเพิ่มขึ้น และยังมีการสร้างอาคารพิเศษในฐานของเรา เพื่อเข้าถึงไอเท็มเสริมกิจกรรมพิเศษในเกม (เช่น การตกปลา การล่าสัตว์ เป็นต้น) แบบเดียวกับการสร้างกระท่อมเพิ่มในชุมชนของเกม Assassin’s Creed Valhalla นั่นเลยแหละ

ชนไก่ & ภารกิจพิเศษ และ ภารกิจ ลอส บันดีดอส

นอกเหนือจากภารกิจหลัก, ภารกิจเรื่องราวในยารา, ภารกิจยึดฐานทหาร, ภารกิจตามล่าสมบัติในฉากแผนที่, ภารกิจล่าสัตว์ในตำนาน, การแข่งขันโดมิโน่แล้ว ตัวเกมยังมีอีเวนต์แยกย่อยให้ผู้เล่นได้ทำกันอีก เริ่มจาก กีฬาชนไก่ในฐานกองโจรของเรา ซึ่งเกมทำเป็นโหมดแยกย่อยแบบเกมไฟติ้งกันเลยครับ! คล้าย ๆ เทคเคน (ดูภาพประกอบ) ถือว่าเล่นเพลินดีเหมือนกัน

ต่อมาคือ “ปฏิบัติการพิเศษ” ที่เราสามารถเดินไปเลือกทำได้กับ NPC โลล่า ซึ่งโหมดนี้จะพาคุณเข้าสู่ ภารกิจแยกออกไปจากแคมเปญหลัก แต่ละมิชชั่นมีขนาดใหญ่ ในพื้นที่แยกต่างหากจากแมปหลักในเกม โดยตัวเกมสร้างมาให้เล่นคนเดียวก็ได้ แต่จะให้ดีคือเล่นโค-ออปกับเพื่อน ๆ เพราะการออกแบบมีลักษณะเอื้อต่อการเล่นร่วมมือ และที่สำคัญ โหมดนี้คือการปูทางสู่การเพิ่มเติมคอนเทนต์ใหม่ ๆ ได้อย่างสะดวกในอนาคต โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไปวุ่นวายกับเส้นเรื่องหลัก

สุดท้ายคือ ภารกิจ ลอส บันดีดอส ที่ผู้เล่นสามารถเลือกส่งทหารมือดีในสังกัดไปทำงานสนับสนุนฝ่ายต่อต้านด้านต่าง ๆ โดยคุณแค่เลือกคน, เลือกแนวทางการปฏิบัติการ แล้วรอเวลา, รอลุ้นผลลัพท์ว่าจะสำเร็จได้ไอเท็มกลับมามากน้อยแค่ไหน ลักษณะคล้าย ๆ ในเกมเมทัลเกียร์ภาค 5 นั่นแหละ

สรุปแล้ว ความโอเพ่นเวิลด์ของภาค 6 ผมถือว่าสอบผ่าน ทำมาได้ดีเกินคาด ผมรู้สึกว่าเวลาเล่นมันให้บรรยากาศแบบภาค 3 มาก ๆ ครับ ที่ทิวทัศน์เป็นเกาะเล็กเกาะน้อย ชายหาดสวย ๆ ผู้เล่นมีอิสระเต็มที่ในการเดินทาง ขณะที่การเดินเรื่องก็อาศัยเรื่องราวจากบรรดา NPC ที่จะพัฒนาเนื้อเรื่องส่งต่อเป็นทอด ๆ ไปตามพื้นที่ จนเติมเต็มเนื้อหาทั้งหมดในเกาะยารา

Graphic & Music

เกมสวยมาก! ผมเล่นบน PS5 ตัวเกมให้ภาพสวยงาม คมชัดในระดับที่น่าพอใจ เป็นฟาร์ครายที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเล่นมา แต่ถ้าเราเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง เช่นขับเครื่องบินใกล้ ๆ ผิวดิน หรือขับเรือเร็วริมชายฝั่ง ก็จะพบเห็นดีเทลของฉากที่โหลดตามไม่ทันบ้าง แต่ก็เร็วมาก มันจะเห็นแค่แว้บ ๆ นะครับ อย่างไรก็ตาม ผมต้องแจ้งก่อนว่า เมื่อเราลงเกมในเครื่องแล้ว จะมีการอัปเดต HD แพ็คของ PS5 แยกต่างหากอีกที ซึ่งรวมแล้วขนาดเกมจะอยู่ที่ประมาณ 70 GB ต่อมาเจอแพตช์เดย์-1 เข้าไปก็สิริรวม 90 กว่า GB เลยทีเดียว แต่เชื่อว่าหลังวางจำหน่าย ตัวเกมน่าจะรวมการโหลดดังกล่าวเข้ากับข้อมูลเกมหลักไปเลยทีเดียว

ทิวทัศน์ในเกมนี้สวยงามมากครับ

ด้านเพลงประกอบ ผมขอยกนิ้วซูฮกทีมงานกับการทำงานในส่วนนี้ เพลงเพราะมากในสไตล์ลาติน เริ่มตั้งแต่เพลงธีม “ลิเบอร์ตาด” ที่ให้อารมณ์แบบซีรีส์ทีวี (ผู้แต่งคือคนเดียวกับที่แต่งเพลงให้ NARCOS) มันติดหูง่ายมาก ขณะที่จังหวะการใส่เพลงให้เข้ากับบรรยากาศเกมนั้น ผมเชื่อว่าทีมงานต้องได้รับอิทธิพลจากเกมดัง ๆ ของค่าย naughty dog มาแหง ๆ เพราะเขาใช้การเกากีตาร์คลาสสิก เป็นการบิลด์อารมณ์ในจังหวะต่าง ๆ รวมไปจนถึงช่วงที่เกมเศร้า ๆ ก็ใช้เสียงกีตาร์คลอเบา ๆ กับเสียงร้องของสุภาพสตรีที่กรีดร้องอย่างโศกสลด ฟีลลิ่งคล้ายกับสมัยเล่นเกมเดอะลาสต์ออฟอัสภาค 2 เป็นอย่างมาก ใครชอบเพลงแร็ปก็น่าจะถูกใจกับจังหวะดนตรีแร็ปในเกมนี้ได้ด้วยเหมือนกัน

การแปลไทย

มาถึงประเด็นสำคัญสุด ๆ ซึ่งผมเชื่อว่าหลายคนรอคอยที่จะอ่านรายละเอียดในเรื่องนี้ เอาเป็นว่า ผมบอกชัดเจนให้เลยครับว่า เกมนี้แปลไทยดีมาก ทำได้ดีกว่า Ghost Recon Breakpoint แบบฟ้ากับเหว สำนวนแปลโอเค กล้าใช้คำหยาบได้ถูกที่ถูกจังหวะ เลือกฟอนต์ได้สวยงาม ที่สำคัญคือไม่มีปัญหาวรรณยุกต์จมหรือลอยให้ได้เห็น จะมีให้ติบ้างก็แค่เรื่องการทับศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่ดูแล้วไม่น่าจะถูกตามหลักการมากนัก

โปรดอ่าน! ทุกข้อ!

จุดหักคะแนน

สำคัญเลยกับ ระบบการหาเส้นทางของ AI ที่เป็นปัญหาโลกแตกของเกมโลกเปิดในเครือยูบิซอฟต์ ทำมากี่เกมมีปัญหานี้เหมือนกันหมดครับ คือพวกภารกิจหลักที่เราต้องคุ้มกันคน, โดยสารรถที่ AI ขับ, ตลอดจนการเลือกให้ตัวละครขับรถแบบออโต้ไปยังจุดหมายที่กำหนด…เหล่านี้ ยังทำออกมาได้ขัดใจ หลายครั้งตัวละคร NPC ไม่ยอมเดินตามเราเพราะติดแม่น้ำ, กำแพง หรือเดินเชื่องช้า รอให้ศัตรูแห่กันมาเต็มฉาก, บ่อยครั้งที่ AI ขับรถไม่ตรงเส้นทางจนรถพังเสียหายหรือทำให้ข้าศึกตื่นตัวกันทั้งป้อมค่าย ทั้งที่เราปลอมตัวมาอย่างเนียน ฯลฯ แต่ถ้ามองเป็นเรื่อง ฮา ๆ ในความวินาศสันตะโรแบบเกมโอเพ่นเวิลด์ ก็อาจไม่คิดไรมากได้นะ แต่ผมคิดว่าระบบนี้ควรพัฒนาให้ดีขึ้นได้แล้ว

ซึ่งมันทำให้คิดต่อไปได้ว่า โครงสร้างของเกมฟาร์ครายในลักษณะนี้กำลังจะตกยุคอย่างมีนัยสำคัญ ผมบอกเลยว่าถ้าภาคต่อไปทำออกมาแล้วยังคงมีตำหนิแบบเดิมนี้อยู่…ก็คงไม่ได้คะแนนจากผมในระดับเดียวกันนี้อย่างแน่นอน”

Summary

ผมเล่นฟาร์ครายมาแล้วทุกภาค ซื้อเล่นทันทีที่เกมออกมาตั้งแต่ภาคแรก ที่ชอบมาก ๆ คือภาค 2 เล่นวนไม่รู้กี่รอบ จากนั้นภาค 3 ทำให้ผมเชื่อว่านี่คือจุดสูงสุดของซีรีส์นี้ ทว่าในภาคต่อ ๆ มา ผมเล่นด้วยความรู้สึกไม่เหมือนเดิม มันยังคงสนุกอยู่ แต่ความประทับใจแบบเดิมมันหดหายไปไหนหมดไม่ทราบ จนฟาร์คราย 6 นี่แหละครับที่ทำให้ผมรู้สึกกลับมาหลงรักซีรีส์นี้อีกครั้ง ฟาร์ครายภาคนี้คือการหวนคืนสู่จิตวิญญาณแห่งไกลตะโกนอย่างแท้จริง

และผมเชื่อว่า โมเดลที่เรียกว่า “ไลฟ์เกม” ของยูบิซอฟต์ ที่เขาจะคอยส่งคอนเทนต์ป้อนเกมหลักหลังวางจำหน่ายต่อไปแบบไม่หยุดอีกนานนับปี ทั้งในรูปแบบซีซันพาส และการอัปเดตเพิ่มเนื้อหาให้แบบฟรี ๆ (และไม่ฟรี) จะยิ่งช่วยให้ตัวเกมเล่นได้แบบยาว ๆ คุ้มค่าเงินทุกบาทที่เพื่อน ๆ ได้ลงทุนซื้อเกมนี้ไปไว้ในครอบครองอย่างแน่นอน

The Review

95% แปลไทยดี-มีตีไก่-ไล่เผด็จการ

เกมมันส์มาก โอเพ่นเวิลด์สนุก อีเวนต์เยอะ ที่สำคัญ ผลงานแปลไทยสอบผ่าน! ฟอนต์สวย ไม่มีวรรณยุกต์จมลอยให้เห็น!!

95%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์