Reviews

MotoGP 22 [PS5: มีภาษาไทยในเกม] – รีวิว [REVIEW]

โดย ปอลนาโช่

รีวิว MotoGP 22

ขอขอบคุณโค้ดเกม (PS5) เพื่อการรีวิว จากบริษัท Ripples Thailand มา ณ โอกาสนี้ครับ

ก่อนอื่น ผมขอบอกตามตรงเลยครับว่า ตอนที่จบงานรีวิว MotoGP 21 เมื่อปีที่แล้ว โดยส่วนตัวผมคิดว่าตัวเกมมันน่าจะมาถึงจุดอิ่มตัวในระดับหนึ่ง ซึ่งถ้าภาคต่อไปไม่มีการพัฒนาอะไรใหม่ ๆ ขึ้นมา ผมคงต้องกดคะแนน ข้อหากินบุญเก่าอยู่ร่ำไปแน่ ๆ แต่ปรากฏว่า…ผมคิดผิดถนัดเลยครับ!

คิดผิดชนิดที่ว่า ต้องขอโทษทีมงานไมล์สโตนไว้ ณ ที่นี้เลยที่เผลอดูแคลนไว้ เพราะเมื่อผมได้โค้ดรีวิวมาแล้วจัดแจงเปิดเล่นทดสอบดู ก็พบว่าเกมเพิ่มเติมฟีเจอร์ใหม่เข้ามาพอสมควร และที่สำคัญที่สุดคือ “รองรับภาษาไทย” ทั้งเกม! โดยมีอะไรใหม่น่าเล่นในภาคนี้บ้าง ไปไล่ดูกันตามหัวข้อด้านล่างนี้เลยครับ

Game Mode

ปีนี้ตัวเกมเน้นความเป็นตำนานของการแข่งขันโมโตจีพี พวกเขาใช้คำว่า A Great Legacy โดยนอกจากการเล่นโหมดซีซัน 2022 ที่จัดเต็มทั้งนักแข่ง, รถจยย.และสนามที่ใช้ซึ่งตรงตามของจริงแบบเป๊ะ ๆ แล้ว ยังมีการนำเอาตัวรถและนักบิดในประวัติศาตร์ของโมโตจีพีกว่า 70+ มาไว้ในเกมให้เลือกเล่นได้ด้วย! ด้านนักแข่ง, สนามและรถ ที่เลือกได้นั้น ยังรวมถึงโมโตครบทุกรุ่น ไล่มาตั้งแต่ MotoE, Red Bull MotoGP Rookies Cup, Moto3, Moto2 และ MotoGP รวมแล้วกว่า 120+ นักบิด กับอีก 20+ สนามแข่งขัน

เสริมด้วยโหมดพิเศษ Graphic Editor ที่เปิดโอกาสให้คนเล่นได้ออกแบบสร้างสรรค์อุปกรณ์เสริมตกแต่งรถ อาทิ หมวกกันน็อก, สติ๊กเกอร์, กราฟิกหมายเลขรถ และลวดลายรอบตัวถัง เป็นต้น

ในปีนี้ตัวเกมปรับปรุงโหมดขาประจำให้ตอบสนองต่อผู้เล่นมากขึ้น ให้ผู้เล่นเข้าถึงแก่นของตัวเกมได้ดียิ่งขึ้น อย่างแรกคือการพัฒนาสิ่งที่เรียกว่า Revised Tutorial และ MotoGP Academy แบบใหม่ โดยมันก็คือ โหมดฝึกสอนที่ยกเครื่องใหม่ แบ่งบทเรียนเป็นเซสชันการเล่นเกมสั้น ๆ ที่มีโจทย์แตกต่างกันไป เพื่อช่วยให้ผู้เล่นหน้าใหม่เข้าใจพื้นฐานของเกมและรู้สึกมั่นใจในการขี่มอเตอร์ไซค์ได้ดียิ่งขึ้น

ส่วน Academy จะสอนวิธีปรับปรุงและทำให้สไตล์การขี่ของผู้เล่นสมบูรณ์แบบได้เร็วขึ้นในทุกสนาม พร้อมผ่านความท้าทายเฉพาะที่มุ่งเน้นไปที่ระบบอิเล็กทรอนิกส์, ปริมาณการใช้ยาง, อุณหภูมิเบรก, และความแตกต่างของแกนกลางระหว่างสามประเภทหลัก

ทั้งนี้ ระบบช่วยเหลือผู้เล่นของเกม ยังเพิ่มข้อความป๊อปอัปให้ด้วย (ในเกมใช้คำเรียกว่า Adaptive Difficulty System) โดยจะเป็นคำแนะนำประเภทวิธีปรับและปรับเปลี่ยนระดับความยากตามทักษะของคนเล่นที่ปรากฏแบบเรียลไทม์ ตัวอย่างเช่น เกมอาจแนะนำให้ลดความยากลงหากผู้เล่นไม่สามารถทำสิ่งท้าทายที่เฉพาะเจาะจง หรือเปิดใช้งานความช่วยเหลือในกรณีที่หกล้มมากเกินไป

หรือแม้กระทั่งแนะนำให้เล่นบทช่วยสอนที่เน้นเรื่องการใช้ยางโดยเฉพาะในกรณีที่พวกเขาจบการแข่งขันด้วยยางไม่ตรงตามเงื่อนไข คำแนะนำเหล่านี้จะปรากฏเมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน และผู้เล่นสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ได้ตามต้องการ

ด้านโหมดผู้จัดการทีมแข่ง (The Managerial Career) โดยให้ผู้เล่นสามารถสร้างทีมของตนเองขึ้นใหม่ หรือเข้าร่วมทีมที่มีอยู่จริง เพื่อจัดการด้านกลยุทธ์ ตั้งแต่การพัฒนาจักรยานยนต์ไปจนถึงพนักงานที่ทุ่มเทเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ ผู้เล่นยังสามารถกำหนดฤดูกาลเองได้ โดยเลือกว่าต้องการเล่นกรังปรีซ์ใดจากรายการแข่งอื่น

ประเด็นสุดท้ายคือ ภาคนี้ถือเป็นครั้งแรกในซีรีส์นี้ MotoGP 22 ที่มาพร้อมฟีเจอร์แบ่งหน้าจอสำหรับผู้เล่น 2 คนในเครื่อง, ผู้เล่นหลายคนผ่านออนไลน์ และการเล่นข้ามผ่านคอนโซลในตระกูลเดียวกัน

โหมด “NINE” Season 2009

เมื่อตอนสิ้นสุดฤดูกาล 2021 วาเลนติโน่ รอสซี่ เจ้าของฉายา “เดอะ ด็อกเตอร์” นักบิดชื่อดังชาวอิตาลีประกาศอำลาวงการโมโตจีพี โดยเขาทิ้งเรื่องราวอันเป็นตำนานไว้มากมายในหน้าประวัติศาสตร์ของการแข่งขัน โดยเฉพาะกับศึกในฤดูกาลเมื่อปี 2009 ที่ถือเป็นหนึ่งในฤดูแข่งที่มีเรื่องราวดราม่าระทึกใจและประทับใจมากที่สุดครั้งหนึ่งของวงการ ทางทีมงานไมล์สโตนจึงจับเอาทุกเหตุการณ์สำคัญจากทั้ง 17 สนามการแข่งขันมาร้อยเรียงเป็นโหมดแคมเปญเนื้อเรื่องอิงประวัติศาสตร์ นำเสนอในรูปแบบแชลเลนจ์ หรือภารกิจที่ต้องเคลียร์ให้ได้ นับเป็นรูปแบบการเล่นที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับเกมแข่งรถแฟรนไชส์นี้

โดยผู้เล่นจะได้สลับสับเปลี่ยนไปเล่นเป็นนักบิดคนสำคัญหลายคน อาทิ วาเลนติโน รอสซี (อิตาลี / เฟียต-ยามาฮา) ฮอร์เก ลอเรนโซ (สเปน / เฟียต-ยามาฮา) เคซีย์ สโตเนอร์ (ออสเตรเลีย / ดูคาติ) ดานี เปโดรซา (สเปน / เรปโซล-ฮอนดา) ฯลฯ เพื่อลงแข่งขันตามเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ซึ่งจะบอกเล่าสถานการณ์ผ่านคัตซีน (มีซับไตเติลไทยในเกมทั้งหมด บรรยายโดย Mark Neale ผู้กำกับสารคดี MotoGP) เพื่อให้คนเล่นอินกับเนื้อเรื่องได้มากที่สุด

สำหรับ NINE ก็คือ 9 หรือก็คือ แชมป์โลกสมัยที่ 9 และเป็นสมัยสุดท้ายของรอสซี โดยความมันของปี 2009 อยู่ที่เจ้าตัวซึ่งเป็นแชมป์เก่ามาหลายสมัย ฟอร์มเริ่มแผ่วลงไป ขณะที่เมื่อปี 2008 คู่แข่งฝีมือฉกาจหลายรายเริ่มโชว์ฟอร์มร้อนแรงขึ้นมา โดยเฉพาะ “นิกกี้ เฮย์เดน” และ “เคซีย์ สโตนเนอร์” นอกจากนี้ยังได้ทีมเมทคนใหม่อย่าง “ฮอร์เก ลอเรนโซ” ที่ได้เข้ามาร่วมชิงชัยอีกคน ผู้เล่นจะได้รับรู้เรื่องราวเบื้องลึกมากมายที่เกิดขึ้นระหว่างซีซันดังกล่าว

Gameplay

ในส่วนของเกมเพลย์ คราวที่แล้วผมมีโอกาสทดสอบเกมเฉพาะของ PS4 เพื่อการรีวิว มาคราวนี้ได้เล่นเวอร์ชัน PS5 จึงเพิ่งได้ลิ้มรสของจอยดูอัลเซนส์ ที่ตอบสนองการควบคุมรถได้แตกต่างจากจอย PS4 อย่างมาก เล่นแล้วสนุกขึ้นเยอะ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเกมเพลย์การควบคุมรถส่วนใหญ่จะคล้ายของเดิมเกือบทั้งหมด ที่มีปรับปรุงอัปเกรดขึ้นนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ได้แก่

แอนิเมชั่นใบหน้าใหม่, ตัวละคร 3 มิติและคอกนักแข่งแต่ละทีม ที่ได้รับการปรับปรุงขึ้น ขณะที่ข้อมูลในคู่มือเกมระบุไว้ว่า ได้มีการยกระดับของกลไกลดความสูงท้ายรถ – ผู้เล่นสามารถจัดการกลไกการล็อคของ RHD (Ride Height Device) ด้วยตนเอง ส่วนสนามก็ได้รับการปรับปรุงพื้นผิว, ปรับปรุงระบบกันสะเทือน ปรับปรุงเพื่อความรู้สึกที่ดีขึ้นเมื่อผ่านขอบทาง และสุดท้ายคือการเสียรูปของยาง อาการของยางที่สมจริงยิ่งขึ้น

โดยส่วนตัว เมื่อผมได้ลองเล่น ขับแข่งขันกับบรรดา AI ในเกมในโหมดต่าง ๆ ก็พบว่า “ภาพรวม” ของเกมนี้ยังเหมือนเดิมครับ นั่นคือ ขับให้สนุกว่ายากแล้วขับให้ชนะยิ่งยากกว่า คือเกมนี้ไม่ใช่เกมยากนะครับ แต่เป็นเกมที่ “ต้องการการฝึกฝน” คุณต้องพลาดให้น้อยมากถึงมากที่สุด เพื่อเกาะกลุ่มผู้นำ แล้วไปอัดในแลปท้าย ๆ ต้องอดทนพอสมควร แต่ของแบบนี้ถ้าคนชอบก็จะไม่ค่อยมีปัญหาครับ เล่นได้แน่ แต่ถ้าถามว่า อยากซื้อมาเล่นแบบชิล ๆ ไม่เน้นแข่งยาวหลายสนาม จะโอเคมั้ย ขอตอบเลยว่าได้ครับ แต่แนะนำให้เข้าโหมดฝึกหัดบ่อย ๆ หน่อยก็จะดีมาก

Graphic & Sound

เกมในเวอร์ชัน PS5 สวยเฉียบเสียงเครื่องยนต์กระหึ่มสมจริง ในหัวข้อนี้ผมแทบไม่มีเรื่องให้ต้องหักคะแนนแต่อย่างใด

การแปลภาษาไทย

ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์สำหรับผู้เขียน เพราะไม่ได้รับข้อมูลใด ๆ มาก่อนหน้านี้เลยว่าตัวเกมจะรองรับภาษาไทยด้วย พอเข้าเกมไปลองเล่นก็ต้องตกใจ แถมคุณภาพงานแปลยังดีมาก การแสดงผลฟอนต์ก็ปกติ ไม่มีวรรณยุกต์จมหรือลอยให้เห็น จะมีแอบขัดใจก็แค่ฟอนต์ที่ดูเชยไปนิดนึง ทั้งนี้ ตัวเกมมีภาษาไทยในแทบทุกส่วน ทั้งเมนู หน้าจอคำอธิบายอ็อปชั่นต่าง ๆ รวมไปถึงรายละเอียดนักแข่งและตัวรถ (บรรดาชื่อเฉพาะของอุปกรณ์รวมถึงชื่อนักแข่ง แสดงเป็นภาษาอังกฤษ ไม่มีการใช้ทับศัพท์แต่อย่างใด) ส่วนฉากคัตซีนก็มีซับไตเติลให้ดูได้รู้เรื่องเป็นอย่างดี ต้องขอชื่นชมทีมงานครับ สำหรับการใส่ภาษาไทยเข้าสู่เกมในครั้งนี้

Conclusion

ผมทึ่งกับคุณภาพของผลงานเกมที่ออกมาครับ ตอนแรกนึกว่าสตูดิโอผู้สร้างเกมจากอิตาลีเจ้านี้จะหมดมุกกับซีรีส์เกมที่เริ่มโดนตำหนิว่าทำเกมออกมาซ้ำเดิมทุกปี ๆ แต่ที่ไหนได้ คราวนี้เขาคิดใหม่ทำใหม่ เพิ่มโหมดพิเศษ NINE เข้ามาสู่เกม โดยไม่ใช่แค่เข้ามาในฐานะน้ำจิ้มเพื่อเพิ่มสีสันนะครับ แต่ไอ้โหมดนี้รับบทเดอะแบกเป็นโหมดหลักของเกมเลยก็ยังได้สิเอ้า เท่านั้นไม่พอ MotoGP 22 โชว์เหนือเมฆด้วยการรองรับภาษาไทยเต็มที่ โอยยย แบบนี้ผมไม่มีทางเลือกแล้วครับ รับไปเลย 90 คะแนน!

Good

  • โหมด Season 2009 ทำออกมาได้ตื่นเต้น น่าติดตาม เป็นโหมดแคมเปญเนื้อเรื่องที่เข้ากันดีมากกับเกมแข่งรถ แค่โหมดนี้โหมดเดียวก็คุ้มค่าเกมแล้ว
  • ใครเป็นแฟนคลับ รอสซี่ น่าจะถูกใจภาคนี้เป็นพิเศษ
  • รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ ทั้งเมนู หน้าจอ HUD ในสนาม ตลอดจนซับไตเติลในคัตซีนยาวกว่า 50 นาทีเล่าตำนานของซีซัน 2009

Bad

  • เกมนี้ไม่มีคำว่าแคชชวล ต่อให้เลือกเล่น Beginner ก็ยังต้องฝึกฝนพอสมควรถึงจะเล่นได้สนุก
  • AI คู่แข่งยังออกแบบมาไม่ดี ล้ม/ชนกันบ่อยเกินจริง และเกมเพลย์ในสนามแข่งยังถือว่าไม่ต่างจากภาคเก่าเท่าไรนัก

The Review

90% ภาคย้อนตำนาน หมายเลข 46 "เดอะด็อกเตอร์"

เกมแข่งรถมอเตอร์ไซค์ทางเรียบรุ่นใหญ่ MotoGP 22 กลับมาอย่างใหญ่ยิ่ง เพิ่มฟีเจอร์รถและนักแข่งย้อนยุค บวกด้วยโหมดเนื้อเรื่องพิเศษ "NINE" Season 2009 เพื่อเพิ่มการเล่นแบบแคมเปญ แถมด้วยตัวเกมมีซับฯ ไทยทั้งหมด!

90%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์