รีวิว Tales of Symphonia Remastered [PS4]
ขอขอบคุณโค้ดเกม (PS4) เพื่อการรีวิว จากบริษัท Bandai Namco Entertainment มา ณ โอกาสนี้ครับ
Tales of Symphonia Remastered คือตัวเกมฉบับรีมาสเตอร์ของ Tales of Symphonia ซึ่งวางจำหน่ายเมื่อค.ศ.2003 และทำยอดจำหน่ายทั่วโลกไปกว่า 2.7 ล้านชุด และเป็นเกมที่ผมดองไว้นานมาก จำได้ว่าเคยเล่นของเครื่องเกมคิวบ์ ไปกลางเกมแล้วยังเล่นไม่จบ มาคราวนี้กับเวอร์ชันรีมาสเตอร์ ผมจึงมีโอกาสได้สะสางความค้างคาใจครั้งนั้นกันอีกครั้ง
จะว่าไป แฟรนไชส์เกมตระกูลเทลส์ออฟฯ ถือเป็นซีรีส์โปรดของผม…โดยไม่ได้ตั้งใจครับ กล่าวคือ ผมมีโอกาสได้เล่นเยอะมาก แล้วก็ชอบมาก ๆ ด้วย แต่ทุกภาคที่เล่น ผมจดจำอะไรไม่ค่อยได้แล้ว คือมันเป็น JRPG ที่ผมชอบ แต่ไม่ได้ประทับใจสุด ๆ เหมือนบางเกมที่ผมชอบจริง ๆ อย่างเดอะเลเจนด์ออฟฮีโร่, ไฟนอลแฟนตาซี, บาเทนไคทอส จำพวกนั้นอ่ะครับ
โดยเกมตระกูลเทลส์ที่ผมชอบเป็นการส่วนตัวก็ได้แก่ Tales of Berseria, Tales of Vesperia และ Tales of the Abyss เป็นต้น
STORY
สำหรับ Symphonia เล่าเรื่องราวในโลกของซิลวาแรนท์ ที่ประสบปัญหาจากการหาประโยชน์ของพลังงานมานา มายาวนาน และยังมีหายนะภัยจากการกลับมาของเดเซียน (Desians) ซึ่งเป็นกลุ่มอันชั่วร้ายที่ควรจะโดนผนึกไปด้วยฝีมือของวีรชนมิธอส (Mithos) ไปแล้วเมื่อ 4,000 ปีก่อน
ต่อมา “โคเล็ตต์” บุตรสาวแห่งเทวดา ได้รับลางพยากรณ์และออกเดินทางเพื่อฟื้นฟูโลกกลับมาอีกครั้ง โดยมีเพื่อนสมัยเด็กของเธอ “ลอยด์” ร่วมทางไปด้วย
หากว่าเธอถือกำเนิดใหม่เป็นเทวดา โลกนี้ก็จะได้รับการฟื้นฟู…เมื่อเชื่อเช่นนั้น ลอยด์และผองเพื่อนก็ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าพวกเขาก็ได้พบว่าการช่วยเหลือซิลวาแรนท์ย่อมหมายถึงความเสื่อมถอยของโลกแห่งเทเธออัลลาที่ดำรงอยู่ในมุมกลับ และทั้งสองโลกเชื่อมต่อกันอยู่แบบไม่อาจแยกจากกันได้ หากโลกหนึ่งเจริญรุ่งเรือง อีกโลกหนึ่งก็จำต้องสละตนเอง จะมีหนทางใดที่หลีกหนีชะตากรรมนี้ไปได้หรือไม่…?
ลอยด์จะต้องเผชิญหน้ากับความหวาดกลัวและความรู้สึกที่มีต่อโคเล็ตต์ แม้ว่าเธอจะต้องเสียความเป็นมนุษย์ไปทีละน้อยในทุกย่างก้าวเพื่อมุ่งหน้าสู่โชคชะตาที่รอคอย
GAMEPLAY
เมื่อเข้าสู่เกม สิ่งแรกที่พบเห็นก็คือ การเล่นที่พัฒนาขึ้น กล่าวคือ เกมนี้ได้เพิ่มเติมฟังก์ชันการกดข้ามอีเวนต์, พัฒนารายละเอียดบางอย่างเช่นการแจ้งเตือนวันที่ในหน้าจอเซฟ และพัฒนาการเล่นด้วย อัปเดตอื่น ๆ ยังรวมถึงเฟรมเรตที่เสถียรขึ้นในระหว่างการต่อสู้ และการบังคับควบคุมในทะเลตอนบังคับเรืออีกด้วย
ส่วนระบบการต่อสู้ในเกม คุณสามารถใช้งานกลยุทธ์และระบบอันหลากหลายได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นคอมโบที่ผสมผสานระหว่าง “สกิล/เวท” ได้อิสระ, “ท่าพิเศษ” ที่มีเอฟเฟคต์ฉูดฉาด และ “การโจมตีประสาน” ซึ่งก็คือเทคนิคที่ประสานกัน คือท่าโจมตีอันรุนแรงที่จะเกิดขึ้นเมื่อทำการเชื่อมสกิล/เวทกับเพื่อนในทีม
สรุปแล้ว หัวข้อเกมเพลย์นี่ถือว่าตัวเกมสอบผ่าน เกมเล่นได้สนุก ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรให้เห็น
ART & CREATIVITY
สำหรับหัวข้อนี้ ผมจะกล่าวถึงประเด็นด้านการ “รีมาสเตอร์” ที่เกี่ยวกับคุณภาพกราฟิกโดยเฉพาะ
และนี่เอง คือจุดที่ต้องถูกตำหนิเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นเรื่องน่าเสียดายที่การรีมาสเตอร์ครั้งนี้ให้ความรู้สึกเปล่าประโยชน์ เริ่มตั้งแต่คัตซีนเปิดเกมที่ให้ภาพ “เบลอ” อย่างเห็นได้ชัด คือมันจับเอาของเดิมมาใส่เลยอ่ะครับ อาจมีปรับปรุงสเกลนิดหน่อย แต่ไม่ใช่การทำขึ้นใหม่แน่ ๆ
ขณะที่ในภาพรวม ผมพบว่ามีการปรับปรุงด้านภาพที่ถือว่าเล็กน้อยมาก ด้วยพื้นผิวและฉากหลังที่ค่อนข้างหยาบ ไร้ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมให้คมชัดแม้แต่เมนูก็ดูเหมือนจะแทบไม่ได้รับการปรับปรุง เนื่องจากข้อความ ไอคอน และภาพตัวละครยังคงพร่ามัว ยิ่งไปกว่านั้น เกมยังจำกัดที่ 30 เฟรมต่อวินาที ถือว่าน่าผิดหวัง และหน้าจอโหลดบ่อยครั้งและกินเวลานานเกินไป แม้ว่าคุณจะเล่นบน PS5 ผ่านระบบ backwards compatibility ของเกมเวอร์ชัน PS4 ก็ตาม
CONCLUSION
เกือบสองทศวรรษผ่านมาแล้ว Tales of Symphonia Remastered เป็นเครื่องเตือนใจว่า เกมคิวบ์ดั้งเดิมและเกม PS2 นั้นทรงคุณค่าเพียงใด มีเกมอีกมากที่ชื่อชั้นระดับตำนาน และควรถูกนำมาทำแบบเดียวกันนี้ ขณะเดียวกัน Tales of Symphonia ก็ยังคงเป็นเกมแอคชัน RPG ที่ยอดเยี่ยม เต็มไปด้วยเสน่ห์และตัวละครน่าจดจำ ข้อเสียที่แท้จริงเพียงอย่างเดียวคือการรีมาสเตอร์ครั้งนี้ ยังถือว่าทำได้ไม่เต็มที่อย่างที่บรรดาแฟนเกมทั่วโลกอยากให้เป็น
Pros
- ตัวเกมออริจินัล เป็นเกมระดับตำนาน เล่นสนุก และมีเนื้อหาตราตรึงจิตใจ โดยเฉพาะระบบต่อสู้ และบรรดามุกขำขันทั้งหลายในบทสนทนา
- เพลงประกอบเพราะสุด ๆ
Cons
- เป็นการรีมาสเตอร์ที่ดูขี้เกียจเกินไปหน่อย ในแง่ของคุณภาพกราฟิกต่าง ๆ
- เสียงพากย์ตรง Skit มีเฉพาะภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น
