Reviews

Horizon Forbidden West: Burning Shores – รีวิว [REVIEW]

โดย ปอลนาโช่

รีวิว Horizon Forbidden West: Burning Shores

*ขอขอบคุณ Sony Interactive Entertainment สำหรับโค้ดเพื่อการรีวิว
**รีวิวนี้เล่นบน PS5

หาก Horizon Zero Dawn ซึ่งเป็นภาคแรกของแฟรนไชส์นั้น เปรียบได้ดังการ “Coming of age”, การค้นหาตัวเองเพื่อก้ามข้ามวัยของ “เอลอย” แล้วจากนั้นภาคสอง Horizon Forbidden West เปรียบเสมือนการเติบใหญ่เต็มที่ ก้าวไปสู่การขับเคลื่อนสังคม การมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ แล้วล่ะก็…ภาคเสริมอย่าง Burning Shores นี่ก็คือการค้นพบสัจธรรมชีวิต การค้นหาความสงบ สิ่งที่เรียกว่าบ้านและ “ความรัก”

ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่มีโอกาสได้รับรู้การเดินทางในห้วงเวลาชีวิตของเอลอย ตัวเอกระดับไอค่อนคนนึงของวงการเกมร่วมสมัย ซึ่งนับเป็นหนึ่งในซีรีส์เกมที่ผมชื่นชอบ และเชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้สึกเหมือนกัน ตัวเกมทุกภาคที่ผ่านมาเล่นสนุก เป็นโอเพ่นเวิลด์คุณภาพคับแก้ว แต่ไม่ใช่ว่ามันไม่มีตำหนินะครับ ทุกภาคล้วนมีจุดด้อยบ้างเหมือนกัน โดยต่อไปนี้คือความเห็น, ความรู้สึก ที่ผมมีต่อ Burning Shores ซึ่งผมจะมาเล่าให้ฟังทั้งข้อดีและข้อเสียของตัวเกมครับ

STORY

The Burning Shores เป็นหมู่เกาะภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ทางใต้ของ Clan Lands โดยแต่เดิม มันก็คือพื้นที่ของ Los Angeles, California นั่นแหละครับ ทีนี้ ด้วยความที่ดินแดนดังกล่าว ถูกแยกออกจากกันโดยการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกในช่วงเวลาเกือบหกทศวรรษ ทำให้กลายเป็นหมู่เกาะภูเขาไฟที่อันตราย ถึงขนาดที่เผ่านักรบอย่าง Tenakth ซึ่งเป็นชนเผ่าที่อยู่ใกล้ภูมิภาคนี้ที่สุด ยังขนานนามดินแดนนี้ว่า “ชายฝั่งที่ลุกโชน” ฟังดูน่าเกรงขามจริง ๆ

ทั้งนี้ ชนเผ่า Tenakth เคยทำภารกิจสอดแนม Burning Shores เพื่อพิจารณาความเหมาะสมสำหรับที่อยู่อาศัย แต่ก็ลงมติกันว่า “มันอยู่ยาก” เพราะสภาพพื้นที่เป็นเกาะแก่ง และมีสัตว์ร้ายที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน

แต่ความเป็นจริงก็คือ มันอยู่ได้ครับ แถมมีชนเผ่าท้องถิ่นครองดินแดนอยู่ด้วย แถมเท่านั้นไม่พอ พวกนี้ยังเรียกเรา (เอลอย) ผู้มาจากแผ่นดินใหญ่ว่า “พวกคนเถื่อน” ซะด้วย (แหม๊ๆๆๆ คนนอกไม่ใช่พวกเรา ล้วนเป็นคนเถื่อนล้าหลังไปซะหมด สะท้อนสังคมโลกจริง ๆ (ฮา)

โดยเริ่มเกมมา ไซเลนส์ จะเรียกเอลอยไปคุยพร้อมแจ้งเบาะแสสำคัญว่า มี “บางอย่าง” ที่เอลอยต้องไปจัดการที่หมู่เกาะ Burning Shores และมีแต่เราเท่านั้น ที่จะทำภารกิจนี้ได้

จากนั้น เรื่องราวก็จะเดินทางต่อไป ขยายจากตัวเกมหลักไปได้อีกหลายชั่วโมงครับ แถมมาพร้อมตัวละครใหม่มากมายให้คนเล่นได้พบเจอ โดยเฉพาะกับ “เซย์กะ” ฮีโร่สาวเจ้าถิ่น ผู้ที่จะมาเป็นเพื่อนร่วมรบกับเอลอย และมีบทบาทสำคัญมากมายในภายหลัง

GAMEPLAY

วิธีการเข้าเล่นในภาค Burning Shores – ในภาค Burning Shores จะดำเนินเรื่องราวต่อจากเนื้อเรื่องที่ Horizon Forbidden West ค้างไว้ เพื่อเข้าถึงการเดินทางในบทต่อไปของเอลอย คุณต้องแน่ใจว่าคุณได้ทำภารกิจหลักทั้งหมดในภาค Forbidden West สำเร็จแล้ว รวมไปถึงภารกิจ “Singularity”

หากคุณเข้าเล่นในโหมด New Game+ ของเกม Horizon Forbidden West คุณจะต้องทำภารกิจหลักให้สำเร็จก่อน (ภารกิจหลักทั้งหมด รวมไปถึงภารกิจ “Singularity”) หรือโหลดเซฟเกมสำรองที่ทำภารกิจหลักเสร็จสมบูรณ์แล้วเพื่อเข้าถึง DLC ตัวนี้นะครับ

เมื่อคุณติดตั้งภาค Burning Shores เรียบร้อยแล้วเอลอย จะได้รับการติดต่อจาก ไซเลนส์ ผ่านอุปกรณ์โฟกัสของเธอ แล้วเควสต์แรกก็จะเริ่มต้นขึ้น โดยตัวเมนเควสต์ใน DLC นี้มีทั้งหมด 5 ภารกิจ แต่ละเควสต์จะเต็มไปด้วยชุดของอีเวนต์ขนาดยาว ต้องทำหลายอย่าง, ไปหลายที่ กว่าจะเล่นจบแต่ละเควสต์ นอกจากนี้ ตัวแผนที่ใหม่ที่มีขนาดราว 1 ใน 3 ของแผนที่หลัก ยังเต็มไปด้วยภารกิจรอง และงานธุระปะปังมากมายครับ ใครที่ชอบเก็บแบบ 100% คุณได้เล่นยาว ๆ คุ้มค่าเงินแน่นอน

ด้านระบบเกม จะมีการขยายสกิลเพิ่มเติมให้ผู้เล่นได้อัปเกรดฝีมือการรบของเอลอยได้ในทุก ๆ ด้าน สอดคล้องกับบรรดาสัตว์จักรกลใหม่ ๆ ที่มาพร้อมลูกเล่นสุดแสบไว้คอยเล่นงานคุณ โดยเฉพาะเจ้ากบยักษ์ ที่กระโดดจู่โจมได้อย่างรวดเร็ว และกินพื้นที่ทำดาเมจเป็นวงกว้าง (หลบยากมากกกกกส์)

ART & CREATIVITY

ที่ผมถือว่าเป็นความคุ้มค่าคุ้มราคาจริง ๆ ของ DLC ชุดนี้ก็คือ การได้ฉากแผนที่ใหม่มาเล่น ท่ามกลางการออกแบบฉากที่สวยงามมาก ผมออกตัวก่อนเลยว่า ผมเพิ่งผ่านการรีวิวเกมอย่าง เดดไอส์แลนด์ 2 กับ สตาร์วอร์ส เจได เซอร์ไวเวอร์ มาหยก ๆ โดยทั้งสองเกมนั่นว่ากราฟิกสวยแล้วนะครับ มาเจอ Burning Shores นี่ต้องยอมแพ้ เพราะ Burning Shores สวยกว่ามากจริง ๆ ยกนิ้วให้เลย!

แถมตัวพื้นที่ ยังออกแบบได้อย่างชาญฉลาด เอื้อต่อการสำรวจและบุกเบิก เพราะพื้นที่ทั้งหมดเป็นซากเมืองที่มีซากอาคารสูง กระจายตัวทั่วแผนที่ขณะที่พื้นด้านล่าง ถูกน้ำทะเลท่วมไปหมดแล้ว ส่วนทางมุมด้านหนึ่งก็มีสภาพเป็นภูเขาไฟและทะเลลาวา

โอ้โหลองนึกภาพดูสิครับ คุณจะได้สวมบทเป็นเอลอย ขี่หุ่น Sunwing บินไปหาไอเท็มบนยอดตึกสูง ๆ หรือไปเกาะตามโขดหินแล้วดำน้ำหาทรัพยากรเจ๋ง ๆ มาอัปเกรดอาวุธ อย่างเพลินอ่ะ! นี่เป็นหนึ่งในเกมโอเพ่นเวิลด์ที่เอื้อต่อการ free roam สุด ๆ แล้วครับ ผมขอยืนยัน

CONCLUSION

จากที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น ผมสรุปได้ว่า ตัวส่วนเสริมชุดนี้ของ Horizon Forbidden West มาพร้อมการขยายขนาดตัวเกมด้วยฉากแผนที่ใหม่เอี่ยม ที่ออกแบบดี สวยงามและมีไซด์เควสต์ให้ทำเยอะ ด้านเนื้อเรื่องก็แต่งต่อได้ดีมากครับ โดยเฉพาะการเพิ่มมิติความลึกซึ้งด้านจิตใจให้กับเอลอย เราจะได้เห็นนางในอีกแง่มุม ได้เห็นด้านที่อ่อนโยน ซึ่งทำให้เราเห็นใจนางมากขึ้น สนิทกับนางมากขึ้นและเอาใจช่วยนางในการผจญภัยครั้งต่อ ๆ ไป แถมตอนจบยังแอบมีทิ้งท้าย “ปม” ที่จะไปต่อยอดสู่เกมภาค 3 ได้อีกด้วยนะ! แบบนี้ต้องติดตามเล่นกันยาว ๆ แล้ว!

Pros

  • เราจะได้เห็นการแสดงครั้งสุดท้ายในเกมนี้ของ Lance Reddick (ในบท Sylens) ซึ่งตัวนักแสดงเสียชีวิตไปแล้ว, Rest in Peace 1962-2023
  • เนื้อเรื่องฉายให้เห็นอีกด้านของเอลอย ด้านที่อ่อนไหว ด้านที่งดงาม ด้านที่น่าค้นหา
  • ฉากแผนที่ Burning Shores ใหญ่โตคุ้มค่าแถมสวยงามไร้ที่ติ
  • ศัตรูใหม่ท้าทาย โหดแต่สู้สนุก โดยเฉพาะ “บอสตัวสุดท้ายของเกม”

Cons

  • ถ้าคุณมาสายรีบเล่น วิ่งทำแต่เควสต์หลัก ไม่สนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเลยล่ะก็ คุณจะพบว่าตัวเกมสั้นมาก เล่นไม่ถึงครึ่งวันจบแล้ว DLC

The Review

80% ทะเลพระเพลิง ระเริงสองนาง

Horizon Forbidden West: Buring Shores ส่วนเสริมที่มาทำหน้าที่ส่งท้ายตัวเกมภาคสอง พร้อมทิ้งปมไว้เชื่อมต่อกับเกมในภาคต่อไป ทว่า นอกจากหน้าที่ดังกล่าวแล้ว เนื้อหาในภาคนี้กลับสร้างความฮือฮาครั้งใหญ่! ด้วยพัฒนาการทางอารมณ์ของ เอลอย สาวตัวเอกของเกม ซึ่งมันช่วยเพิ่มมิติความลึกและความสมจริงให้กับตัวละครคนนี้ได้ดีมาก

80%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์