รีวิว Override 2: Super Mech League เกมปาร์ตี้ตีหุ่นจากบราซิล
ขอขอบคุณโค้ดรีวิว (เวอร์ชัน PS4) จากบริษัท Ripples Thailand มา ณ โอกาสนี้ครับ
อันดับแรกต้องยอมรับนะครับว่า เกมนี้มีการออกแบบฉากและตัวละครได้ดีมาก มันดึงดูด, เตะตา ตั้งแต่แว้บแรกที่เห็น ถือว่าสวยเลยแหละ! แถมแนวเกมก็เป็นสไตล์ต่อสู้ด้วยหุ่นยนต์ยักษ์ เชื่อเหลือเกินว่าต้องถูกใจใครหลายคนแน่ ๆ เอาเป็นว่าภาพลักษณ์เกมถือว่าโอเคเลยทีเดียว แต่ตัวเกมจะเล่นสนุกมั้ย? เราไปแจกแจงกันดูทีละส่วนแล้วกันครับ
เริ่มต้นด้วย โครงสร้างของเกมคร่าว ๆ โดย Override 2: Super Mech League พัฒนาโดยทีมงาน Modus Studios Brazil สตูดิโอพัฒนาเกมจากแดนแซมบ้า แต่มีออฟฟิศดำเนินงานที่สหรัฐ และอังกฤษ ซึ่งมีผลงานเกมขนาดกลาง ที่ทั้งพัฒนาเองและเป็นผู้จัดจำหน่าย หลายต่อหลายเกมด้วยกัน
สำหรับ Override 2: Super Mech League เป็นภาคต่อของ Override: Mech City Brawl เกมเมื่อปี 2561 ที่ประสบความสำเร็จด้วยดีในแง่ที่ว่า สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้คนจดจำได้ดี สร้างที่ทางสำหรับเกมหุ่นยนต์อัดกันในฉากอารีน่า ให้กับตัวเองได้สำเร็จ ตัวเกมรับคะแนนเฉลี่ยไป 69 จากเว็บเมตาฯ ซึ่งต้องถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง
มาในภาคสอง เปิดเกมมาเบื้องต้น ผู้เล่นจะได้เลือกตัวละครหุ่นยนต์ 1 จาก 21 ตัว เพื่อเล่นได้เลยแบบไม่ต้องคิดอะไรมากใน VS Mode ตรงจุดนี้ผมชื่นชมเรื่องการออกแบบหุ่นครับ เพราะทีมงานทำการบ้านได้ดี หุ่นแต่ละตัวมีเอกลักษณ์แตกต่างกันชัดเจน ดูแล้วน่าเล่นน่าลองให้ครบทุกตัว
ด้านระบบการต่อสู้ ตัวเกมปรับปรุงจากภาคแรกไปเยอะพอสมควร โดยเน้นให้ออกท่วงท่าได้ง่ายขึ้นมาก ปรับมาใช้ระบบ โจมตีเบา-หนัก ตามปุ่มที่กดแบบเดียวกับเกมต่อสู้ ส่วนท่าพิเศษอาศัยการกดสองปุ่มพร้อมกัน โดยสลับปุ่มใช้งานครบหมดทั้งจอย ทำให้หุ่นแต่ละตัวมีท่าให้เลือกใช้เยอะเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี ในภาวะการต่อสู้จริง ตัวเกมก็หนีไม่พ้นลักษณะของการรัวปุ่มอัดกัน ซึ่งมันจะไม่มีปัญหาหรอก ถ้ามุมกล้องมันตอบสนองได้ดีในทุกจุดของฉาก ทว่าปัญหาโลกแตกของเกมมุมมองบุคคลที่สามในฉากแบบปิดก็หนีไม่พ้นเรื่องมุมกล้องหมุนไปหมุนมานี่แหละครับ ส่งผลให้การต่อสู้อันรวดเร็วชวนสับสนอยู่บ้างในบางจังหวะ
ในส่วนของโหมดหลัก ซึ่งก็คือการเล่นแบบลีก จะเน้นให้ผู้เล่นลงแข่งในซีรีส์ศึกหุ่นยนต์แบบมีเงื่อนไขแตกต่างกันไปในแต่ละด่าน ตัวลีกจะเน้นออนไลน์มัลติเพลเยอร์เป็นหลัก แต่ถ้าหาคนเล่นไม่เจอตัวเกมจะยัดบอทมาให้ ซึ่งการสู้กับบอทจะง่ายมาก จนถึงง่ายเกินไป เพราะพวกมันจะชอบวิ่งวนไปวนมา มากกว่าเน้นต่อสู้ซะอีก
การเล่นแบบลีก ยังเน้นไปที่การแข่งเก็บแต้มเพื่อปลดล็อกไปสู่ระดับสนามที่สูงขึ้น ส่วนแมตช์ที่คุณจะได้เจอ จะมีทั้งแบบตัวต่อตัว, 2×2 และ 4 คนตะลุมบอนแบบแบทเทิลรอแยล
ทั้งนี้ หากใครกลัวว่าจะเบื่อเร็ว ก็ลองจัดชุด Ultraman Deluxe Edition มาเล่นจะคุ้มกว่า เพราะได้ตัวละครจากอุลตร้าแมนมาเพิ่ม รับรองเท่ถูกใจ
บทสรุปทิ้งท้ายหลังจากลองเกมครบหมดทุกส่วนแล้วผมพบว่า เกมนี้คือเกมที่สร้างมาเพื่อเน้นขายการเล่นกันในครอบครัวเพื่อนฝูง เป็นปาร์ตี้เกมสไตล์โลคอล แบ่งหน้าจอแล้วรัวปุ่มอัดกันแบบเฮฮา หรือไม่ก็เน้นเล่นมัลติฯ ออนไลน์กับคนอื่น ๆ มากกว่าซื้อมานั่งเล่นคนเดียวครับ
