อย่างที่หลายคนอาจทราบกันแล้วว่า Taipei Game Show ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 19 โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ถึง 31 มกราคม ณ TaiNEX Hall 1 ที่กรุงไทเป, ไต้หวัน และครั้งนี้จะถือเป็นครั้งแรกที่มีการจัดงานทั้งในแบบออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่รวบรวมผู้ประกอบการในวงการและเกมเมอร์เข้าไว้ด้วยกันโดยไม่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่นั่นเอง ทั้งนี้ Taipei Game Show 2021 จะประกอบไปด้วยสามส่วนหลัก ๆ นั่นคือ: Asia Pacific Game Summit (APGS), โซน B2B และโซน B2C
ทั้งหมดนี้จะช่วยก่อให้เกิดแพลตฟอร์มด้านความร่วมมืออันมีประสิทธิภาพ และช่วยให้บรรดาผู้จัดแสดงสามารถเข้าถึงสื่อได้เต็มที่ ทั้งยังสร้างประสบการณ์เติมเต็มให้แก่เกมเมอร์ได้อย่างแท้จริง ในแต่ละปี Taipei Game Show สามารถดึงดูดผู้จัดแสดงได้กว่า 400 ราย, มีบุคคลธรรมดาเข้าชมงาน 320,000 รายและมีผู้ประกอบการที่เข้าชมงาน 2,400 รายจาก 25 ประเทศในทุก ๆ ปี และครั้งนี้จะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่กว่าเคย ด้วยเหตุนี้ทีมผู้จัดงาน Taipei Game Show จึงหวังว่าจะได้เชื้อเชิญผู้ที่สนใจและผู้ประกอบการจากทั่วโลกได้มาเป็นส่วนหนึ่งของงานในครั้งนี้
Asia Pacific Game Summit (“APGS”)
APGS มีการจัดฟอรัมรายปีในช่วงต้นปีโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างการสื่อสารภายในอุตสาหกรรม และจะมีอีเวนต์อื่น ๆ ในช่วงกลางปี นับแต่ปี 2014 เป็นต้นมา APGS ก็ได้มีการจัดปาฐกถาและเวทีถามตอบมาแล้วราว 200 เวที ซึ่งก็สามารถดึงดูดผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมวิดีโอเกมจากทั่วโลกมาเข้าร่วมได้เกือบ 10,000 รายด้วยกัน ในปี 2016 และ 2017 นั้น APGS ได้ขยายขอบเขตไปสู่กรุงโตเกียว, ญี่ปุ่น และได้เชื้อเชิญบริษัทเกมมากมายจากทั้งไต้หวันและญี่ปุ่นมาแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการทำการตลาดในแต่ละท้องถิ่น นอกจากนั้นแล้ว APGS ยังจัด “INDIE SALON” ที่ได้มีการเชื้อเชิญบรรดานักพัฒนาเกมมากฝีมือจากทั่วโลกมาแบ่งปันไอเดียในการพัฒนาเกมอีกด้วย โดยที่ APGS 2021 จะมีการจัดงาน INDIE SALON ONLINE ที่จะมาแบ่งปันความรู้ให้แก่เหล่ามืออาชีพในวงการและเกมเมอร์ทั่วโลก
โซน B2B ของ Taipei Game Show
โซน B2B คือแพลตฟอร์มสำหรับการเจรจาธุรกิจและการตกลงเรื่องลิขสิทธิ์ต่าง ๆ โดยจะแบ่งออกเป็น “โซน B2B” และ “Indie House” สำหรับโซนแรกจะเน้นไปที่ผู้พัฒนาเกม, ผู้จัดจำหน่าย, ระบบการชำระเงินจากเธิร์ดปาร์ตี้และบรรดานักโฆษณา ส่วน Indie House จะเป็นการรวมตัวกันของนักพัฒนาเกมอินดี้ทั่วโลกเพื่อมาแบ่งปันและขายสินค้าต่าง ๆ จากเกมของตนเอง นอกจากนั้นแล้วโซน B2B ยังเป็นแพลตฟอร์มจับคู่ทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย โดยจะช่วยให้บริษัทเกมและนักพัฒนาได้พบกับโอกาสทางธุรกิจรวมถึงความร่วมมือใหม่ ๆ ที่ผ่านมาในปี 2020 นั้น “TGS LINK Biz-Matching 2.0” คือแพลตฟอร์มใหม่ที่เริ่มใช้งานเพื่ออำนวยความสะดวกด้านปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ประกอบการได้แบบ 24/7 ซึ่งช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจที่มากขึ้น และการจัดอีเวนต์แบบผสมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ในปี 2021 นี้ โซน B2B จะมีแพ็กเกจออนไลน์ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ประกอบการที่กำลังมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ โดยเฉพาะด้วย
โซน B2C ของ Taipei Game Show
โซน B2C คือโซนที่เปรียบเสมือนเป็น “งานเทศกาล” ที่จะมีอีเวนต์บนเวทีในแบบไม่ธรรมดา ที่มักดึงดูดแฟน ๆ จำนวนมหาศาลให้มีส่วนร่วมได้ตลอด ด้วยความที่เป็นงานเกมแรกในช่วงต้นปี จึงทำให้โซน B2C เต็มไปด้วยข้อมูลและเทรนด์ล่าสุดสำหรับเกมเมอร์ ซึ่งประกอบไปด้วยเกมคอนโซลชื่อดัง, เกมออนไลน์, เกมมือถือ, สื่อบันเทิงแบบ 3C และ VR รวมถึงแวดวง eSports เช่นกัน โซน B2C ยังประกอบไปด้วย “Indie House” และ “Board Game Wonderland” โดย Indie House คือแพลตฟอร์มสำหรับนักพัฒนาเกมอินดี้และเกมเมอร์ให้ได้ทำความรู้จักกัน ส่วน Boardg Game Wonderland คือพื้นที่ไม่มีพิษไม่มีภัยสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองและบุตรหลานได้มาเล่นสนุกร่วมกัน เมื่อผสมผสานโชว์แบบออนไลน์และอีเวนต์แบบออฟไลน์เข้าด้วยกันแล้ว โซน B2C จะมอบทางเลือกความบันเทิงแนวใหม่ให้แก่เกมเมอร์ได้ไม่ยากเลย
สามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ Taipei Game Show 2021 เพิ่มเติมได้ที่นี่
