OUTRIDERS รีวิว [REVIEW] – ก่อนเข้าเรื่อง…ผมต้องขอขอบคุณบริษัท SQUARE ENIX สำหรับโค้ดรีวิวของเครื่อง PS5 มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ แต๊งกิ้วคร้าบบบ!!
พูดถึงเกม Outriders ช่วงก่อนหน้าที่เกมจะออก เวลาที่ผมเห็นข่าวเกี่ยวกับเกม ผมนึกเอาเองว่าตัวเกมคงจะมีลักษณะเหมือนเกมอย่างเดสตินี่ หรือ เดอะ ดิวิชั่น ที่เน้นความเป็นลูตเตอร์-ชู้ตเตอร์หนักๆ เน้นออนไลน์มัลติเพลเยอร์ เน้นเรื่องการหาของ, เก็บเลเวล อะไรแบบนั้น
แต่พอได้เล่นจริง ในเวอร์ชั่นตัวเกมเต็ม ๆ กลับพบว่าเกมมันมีความแตกต่างจากที่เคยคาดเดาค่อนข้างชัดเจนครับ ถึงแม้จะหยิบยืมระบบหลัก ๆ มาจากแนวเกมอย่างที่ว่า แต่สำหรับ Outriders เองนั้น เกมเลือกทางเดินในแบบของตัวเอง มีเอกลักษณ์ของเกมที่ชัดเจน และที่สำคัญ มันทำได้ดี เล่นสนุกติดหนึบพอสมควร
ทีนี้ เมื่อลองย้อนไปดูประวัติทีมงาน ก็ถึงบางอ้อว่าไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นทีมเก๋าอย่างทีมคนบินได้ หรือ PEOPLE CAN FLY สตูดิโอเบื้องหลังเกมฮิตมากมาย อาทิ Bulletstorm, Gears of War: Judgment และ Painkiller ฯลฯ โดยพวกเขาค่อนข้างมีชื่อเสียงด้านการปรับใช้ UNREAL ENGINE เป็นเกมได้อย่างชำนาญ
Story
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ทีมงานสามารถออกแบบเรื่องราว และค่อย ๆ ดำเนินเรื่องให้เราอินกับเหตุการณ์ได้ดีเกินคาด ไม่ค่อยมีจังหวะหน่อมแน้มให้เห็นมากนัก
มันเหมือนเส้นบาง ๆ นะครับ กับเรื่องราวสเกลใหญ่คล้ายหนัง Avatar ที่ว่าด้วยการเดินทางอพยพไปสำรวจดาวดวงอื่นของชาวโลก เพราะหากเล่าเรื่องไม่ดี จากความอลังการก็จะกลายเป็นความตลกโอเวอร์ ดูไม่สมเหตุสมผลไปได้ง่าย ๆ ตรงจุดนี้ผมถือว่าทีมพัฒนาคุมโทนได้ดี ทำให้เรื่องราวในเกมดูน่าติดตามใช้ได้
โดย Outriders เริ่มเกมด้วยการระบุว่า โลกมนุษย์ดั้งเดิมของเราเกิดมลพิษจนเลยจุดที่จะแก้ไขใด ๆ ได้แล้ว จึงนำไปสู่ความร่วมมือกันทั้งโลก เพื่อหาทางย้ายชาวโลกบางส่วนไปยังดาวดวงใหม่ที่ชื่อว่า Enoch ซึ่งมีสภาพแวดล้อมที่สิ่งมีชีวิตน่าจะอยู่อาศัยได้
ต่อมาจึงเกิดโครงการ ECA (Enoch Colonization Authority) ที่สร้างยานอวกาศยักษ์ขึ้นมาสองลำ เพื่อใช้ขนย้ายผู้คน แต่ก่อนนั้นก็ได้ส่งทีมสำรวจนำร่องไปก่อน นำโดยกำลังรบพิเศษ ที่มีทั้งฝีมือและความกล้าหาญ เราเรียกพวกเขาว่า Outriders
ทว่า ไม่นานนักรบ Outriders ก็ค้นพบว่าที่ดาวดวงใหม่นี้มีปรากฏการณ์ปริศนา คล้ายพายุของมวลพลังงาน ที่ส่งผลทำลายวัตถุและก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสิ่งมีชีวิต ซึ่งอันตรายเกินกว่าจะเสี่ยงมาตั้งรกรากกันถาวร แต่สถานการณ์ก็พลิกผันเกินกว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ทัน สุดท้ายชาวอาณานิคมต้องมาตั้งบ้านใหม่อยู่บนดาวสุดอันตราย นำไปสู่ความแตกแยกมากมายในหมู่คณะ เกิดการแบ่งฝ่าย การสู้รบ ทั้งสู้กันเองและสู้กับเอเลี่ยนบนดาว Enoch
ผู้เล่นคือ Outriders ที่รอดชีวิตมาจากพายุพลังงาน Anomaly คือโดนเข้าไปเต็ม ๆ แต่ดันไม่ตายครับ แถมได้พลังพิเศษติดตัวมาด้วย….จากนั้นเกมก็เริ่มต้นขึ้น
Gameplay
สำหรับผมแล้ว การได้เล่นเกมยิงมุมมอง TPS ด้วยอันเรียลเอนจิ้นอันคุ้นเคยนั้นให้ความรู้สึกดีเสมอ เพราะว่ากันตามจริง เกมเมอร์ยุคแก่อย่างผม ที่โตมากับเกมแอ็คชั่นเดินยิงตั้งแต่สมัย PS2-PS3 มีความชื่นชอบเอนจิ้นเกมตัวนี้ ซึ่งมันเคยทำได้ดีแบบสุด ๆ มาแล้วกับเกมอย่างเกียร์ออฟวอร์ ที่หลายคนชื่นชอบ
ถามว่าเบื่อมั้ยกับอันเรียลเอนจิ้น…ตามความเห็นของผมคือ เอนจิ้นตัวนี้ค่อนข้างลงตัว สร้างความแข็งแกร่งพื้นฐานให้เกมแอ็กชั่นผจญภัยส่วนใหญ่ได้เป็นอย่างดี การใช้เอนจิ้นนี้ทำเกม จึงไม่ได้สร้างความรู้สึกน่าเบื่อแต่อย่างใด เพราะมันถือเป็นเพียงโครงสร้างเบื้องต้นของตัวเกมทั้งหมด ปัจจัยอื่น ๆ ที่เหลือต่างหากคือตัวกำหนดว่าเกมจะน่าเบื่อหรือไม่
มาดูกันที่หน้าตาที่แท้จริงของ Outriders โดยระบบเกมออกแบบให้เป็น RPG ที่อาศัยการยิงสไตล์หลบหลังที่กำบัง เป็นแกนกลาง เล่นไปเล่นมาก็จะรู้สึกว่ามันเหมือนเกียร์ออฟวอร์ชะมัด…ในแง่ที่ดี
ตัวเกมดุเดือด เอไอฉลาดมาก ตีโอบเราเก่งเหลือเกิน แถมระบบการเติมเลือดคือคุณต้องฆ่าศัตรูโดยอาศัยพลังพิเศษ ยิ่งเน้นการบุกมากกว่าให้ซุ่ม หลบ ๆ ซ่อน ๆ ดังนั้นภาพที่ได้คือเกมยิงมุมมองบุคคลที่สาม ที่สาดกระสุนกันไม่ยั้ง รวดเร็ว และต้องแม่นยำครับ หากไม่อยากตายง่าย ๆ
ช่วงต้นเกม ผู้เล่นจะได้เลือกคลาสให้กับตัวเอก จากทั้งหมด 4 คลาส ได้แก่ Technomancer, Pyromancer, Trickster และ Devastator. แต่ละแบบก็แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่จะเป็นความต่างด้านสไตล์ที่บางคลาสเน้นปะทะ บางคลาสถนัดโจมตีระยะไกล ตัวผมเองเล่นสายไฟ ไพโรแมนเซอร์ ถนัดระยะกลาง เพราะชอบใช้ซับแมชชีนกัน เป็นอาวุธหลัก
Outriders มีแคมเปญเนื้อเรื่องหลักที่เล่นยาว ๆ ได้ราวยี่สิบกว่าชั่วโมงก็จะจบส่วนนี้ จากนั้นจะเป็นส่วนเตรียมความพร้อม หรือช่วงเอนด์เกมครับ จะเป็นภารกิจยาก ๆ ให้เล่นไต่เลเวลเรียกว่า Expedition ตรงนี้ช่วยต่ออายุให้เกมได้อีกนานเลย เหมาะแก่คนที่ต้องการพัฒนาตัวละครไปเรื่อย ๆ และที่สำคัญคือควรใช้เล่นกับเพื่อน หรือผู้เล่นออนไลน์คนอื่น เพราะตัวเกมจะฉายแววความมันนรกแตก หากเล่นกับเพื่อนรู้ใจ โดยใช้ไมค์ เตี๊ยมวางแผนกันกับสหายอีกสองคน บอกให้คนนึงยิงกดหัว อีกคนตีโอบ อย่างมันอ่ะครับบอกเลย
แต่ผู้เขียนลองเล่นกับผู้เล่นออนไลน์ที่ไม่รู้จักกัน เกมมันจะออกมามั่ว ๆ หน่อย ต่างคนต่างวิ่ง ต่างคนต่างยิง แล้วก็ตายไล่เลี่ยกันไป สรุปคือเล่นกับเพื่อนที่รู้จักกันจะดีที่สุด
ถ้าจะให้สรุปสั้น ๆ เกี่ยวกับหน้าตาที่แท้จริงของระบบเกมใน Outriders ก็คือ มันไม่ใช่ลูตเตอร์ชู้ตเตอร์ ในแบบรุ่นพี่ก่อนหน้านี้ทั้งหลาย เพราะเกมนี้สามารถเล่นคนเดียวได้ ตัวเกมสมบูรณ์และเล่นจบได้ในแพ็กเกจเดียว ไม่ต้องรอ DLC ตอนต่อไป และไม่เน้นคนเยอะ แค่ออนไลน์กับเพื่อนอีกสองคน ก็พร้อมลุยไปในโลกเกมได้ยาว ๆ หรือถ้าอยากเล่นคนเดียว ก็สามารถทำได้จนจบเกม โดยตัวเกมจะปรับลดจำนวนศัตรูลงให้อัตโนมัติ
Server problem
อย่างไรก็ตาม หลังเกมวางจำหน่ายไม่นาน ผู้เล่นทั่วโลกก็เจอปัญหาใหญ่ (ที่กระทบการตัดสินใจซื้อเกมได้อย่างสำคัญ) นั่นคือเซิร์ฟล่มจนต่อเข้าเกมไม่ได้ หรือบางครั้งเล่น ๆ อยู่ ก็ถูกดีดออกจากเกมเพราะการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์มีปัญหา ทั้ง ๆ ที่เกมนี้มีโหมดเนื้อเรื่องแบบเล่นโซโล่ได้ แต่ Outriders กลับไม่ยอมให้เล่นเกมได้แบบออฟไลน์ ยังไงก็ต้องต่อออนไลน์ก่อนเท่านั้น ถึงจะเข้าเกมได้
ตรงนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทุกคนควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อเกมกันนะครับ…
สำหรับตัวผมเอง ได้โค้ดมารีวิวเมื่อ 1 เม.ย.พร้อมวันวางจำหน่าย เล่นไปแล้วหลายสิบชั่วโมง ไม่เคยเข้าเกมไม่ได้นะครับ แต่หลายครั้งต้องรอเข้าเกมนานสิบกว่านาทีก็มี และเคยโดนดีดออกจากเกมเพราะคอนเน็กชัน ลอสต์ 2 ครั้งด้วยกัน (เน็ตบ้านทำงานปกติ) โดยพบปัญหาหนักช่วงวันที่ 2-3 เม.ย. โดยรอนานสุด 15-20 นาทีเลยทีเดียว แต่เมื่อสำรวจตามเว็บบอร์ดเมืองนอก นับว่าผมโชคดีกว่าฝั่งอเมริกาที่ส่วนใหญ่เข้าเกมกันแทบไม่ได้ ต่อยังไงก็ไม่ติด แถมเล่นหลุดก็บ่อย
ทั้งนี้ ในส่วนของทวิตเตอร์ทางการของ Outriders พบว่าทีมงานทราบปัญหาตั้งแต่วันแรก แล้วก็เร่งแก้ไขกันอย่างหนัก จนล่าสุดเชื่อว่าแก้ได้เยอะพอสมควร เพราะผมเข้าเล่นหลังวันที่ 5 มานี่ไหลลื่นตลอด และเชื่อว่าทีมงานคงคอยอัปเดตตัวเกมอย่างต่อเนื่อง เพราะเกมยังมีอายุการบริการอีกนาน
Soundtrack & Graphics
ด้านดนตรีประกอบและกราฟิก เห็นได้ชัดว่าภาพระหว่างเกมเพลย์นั้นสวยงาม รายละเอียดในฉากเพียบ เอฟเฟกต์อลังการ เสียงปืนดังสะใจ แต่กับฉากคัตซีนเล่าเรื่องทำเอาผมตกใจ เพราะดูไม่ค่อยเน็กซ์เจนเท่าที่ควร การแสดงสีหน้าท่าทางก็ดูแล้วรู้สึกเหมือนทีมงานไม่เน้นคุณภาพงานด้านนี้กันเสียเลย ดูเหมือนคัตซีนจากเกมยุคเก่าเลยอ่ะครับ
Conclusion
ช่วงสรุปส่งท้ายนี้ผมขอพูดถึงประเด็นเกี่ยวกับ “การละเลย” ที่สำคัญของทีมงาน ต่อการใช้คุณลักษณะเด่นในจอยดูอัลเซนส์ ของ PS5 เพราะแทบไม่มีการใส่ฟังก์ชั่นที่โชว์ความสามารถของจอยเข้าไปเลย ทั้ง ๆ ที่เกมเน้นยิงปืนแท้ ๆ น่าจะใส่ความสมจริงเกี่ยวกับไกปืน ตลอดจนการปล่อยพลังพิเศษเข้าไปเสียหน่อย ได้แต่หวังว่าจะมีแพตช์อัปเดตในส่วนนี้ในอนาคตนะครับ