รีวิว Oddworld: Soulstorm – “เส้นทางสู่เสรีภาพ…ไม่ใช่เรื่องง่าย”
ขอขอบคุณโค้ดเกมเพื่อการรีวิว จากบริษัท Ripples Thailand มา ณ โอกาสนี้ครับ
ปลดแอก…คือคำที่เหมาะสมสำหรับซีรีส์เกม ออดด์เวิลด์ ครับ เพราะเนื้อหาเล่าถึงการหนีจากการเป็นทาสของเหล่าตัวละครในเกม โดยซีรีส์นี้มีมานมนาน ตั้งแต่ผมยังเป็นวัยรุ่น มีสร้างซ้ำกันต่อ ๆ มาหลายภาค มีการพอร์ตไปลงเครื่องเกมต่าง ๆ ก็เยอะ
โดยภาคแรกสุดของแฟรนไชส์ก็คือ Oddworld: Abe’s Oddysee เมื่อปี 1997 ทำลงให้กับ PC และ PS1 ตัวเกมประสบความสำเร็จอย่างมาก ส่งผลให้ทีมงาน Oddworld Inhabitants ถูกต้นสังกัดคือ GT Interactive บีบให้เข็นภาคสองออกมาโดยเร็ว จึงเป็นที่มาของ Oddworld: Abe’s Exoddus ในปี 1998 ถัดมาแค่ปีเดียวว่างั้นเถอะ
ทีนี้ต่อมาในปี 2014 เกมภาคแรก Abe’s Oddysee ถูกนำกลับมารีเมกอีกครั้งด้วยเอนจิ้น Unity ให้ภาพทันสมัยขึ้นพร้อมใช้ชื่อใหม่เป็น Oddworld: New ‘n’ Tasty! จากนั้นทีมงาน Oddworld Inhabitants ตัดสินใจที่จะรีเมกภาคสองเดิมด้วย โดยคราวนี้หันมาจัดจำหน่ายเอง พร้อมระบุว่า นี่ไม่ใช่การรีเมก เพราะเมื่ออดีตพวกเขาถูกจี้ให้ออกภาค Abe’s Exoddus เร็วเกินไป ทำให้ไอเดียหลายอย่างต้องถูกตัดออก คราวนี้จึงอยากทำใหม่ให้สมบูรณ์ พร้อมเปิดตัวชื่อตอนว่า Oddworld: Soulstorm ด้วยระยะเวลาการพัฒนานานถึง 7 ปีเต็ม ในที่สุดก็วางขายได้ในปีนี้
Story
เรื่องราวใน Soulstorm พยายามเพิ่มเติมรายละเอียดให้กับภาค Exoddus โดยเริ่มเรื่องต่อจากตอนจบของภาค 1 ที่ เอ๊บ ตัวเอกอาชีพภารโรงชาวมูโดคอน ทำงานในโรงงานเนื้อกระป๋อง ซึ่งพยายามที่จะช่วยเหลือแรงงานทาสเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ของตน ไม่ให้ถูกสังหารหมู่เพื่อเอาเนื้อไปยัดกระป๋องส่งขาย โดยหลังจากพากันหลุดออกมาได้จากโรงงานนรกแล้ว เหล่ามูโดคอนยังต้องหลบหนีการไล่ล่าจากบรรดานายทาสจอมโหด ผ่านพื้นที่รกร้าง สุสาน หน้าผาสูงต่าง ๆ เพื่อไปให้ถึงซึ่งดินแดนแห่งเสรีภาพให้จงได้
Oddworld: Soulstorm เป็นเกมขนาดใหญ่ครับ ผู้เล่นจะได้ผจญภัยไปใน 15+2 เลเวล (ถ้าจบแบบกู้ดเอนดิง จะได้เล่นเพิ่มสองฉากพิเศษ) ที่ต้องใช้เวลาเล่นประมาณ 20 ชั่วโมงกว่าจะจบ (ขึ้นอยู่กับว่าจะตายบ่อยแค่ไหน…บางคนอาจเร็วกว่านี้ หรือนานกว่านี้)
โดยรวมเนื้อหาถือว่าเข้มข้นใช้ได้ เล่นแล้วรู้สึกอินได้ไม่ยาก โดยเฉพาะประเด็นด้านการเปลี่ยนจากคนไม่สนใจโลก ไม่อยากยุ่งกับปัญหาในช่วงต้นของ เอ๊บ ก่อนกลายมาเป็นแกนนำในการพาผู้คนหลบหนี ถือว่าเป็นสากล และเป็นปมที่เหนือกาลเวลาครับ ไม่ว่าจะเล่นในปีไหน ก็รู้สึกว่าเรื่องแบบนี้ไม่เคยเชยหรือล้าสมัยแต่อย่างใด
Gameplay
ตัวเกมเป็นแพลตฟอร์ม หาทางแก้ปริศนาเพื่อเดินทางไปต่อ ในฉากแบบ 2.5 มิติ หมายถึงเคลื่อนที่ด้านข้างซ้ายขวา แต่ก็จะมีช่วงที่ฉากจะให้เดินไปในทางลึกได้ด้วย เกมใช้ระบบเช็คพอยต์ ในการเซฟ สำหรับภาคนี้มีระบบเกมใหม่เพิ่มเข้ามา นั่นคือการลูตไอเทมในฉาก และการคราฟต์อุปกรณ์เพื่อใช้งาน โดยเอ๊บ สามารถค้นหาสิ่งของต่าง ๆ ในกล่อง, ลังข้างทาง หรือล้วงกระเป๋าจากศัตรูที่งีบหลับ
เอ๊บ มีพลังจิตที่ใช้เปิดเส้นทางหรือใช้สิงร่างฝ่ายตรงข้ามได้ด้วย ซึ่งมีประโยชน์มากระหว่างการเล่น ในขณะที่ ตัวเกมส่วนใหญ่จะเป็นเส้นตรง แต่ฉากมีขนาดใหญ่มาก และมีพื้นที่ลับมากมายซึ่งให้รางวัลแก่ผู้เล่นในการสำรวจอย่างละเอียด
อย่างไรก็ดี ในส่วนของเกมเพลย์มีจุดน่าพิจารณาสำหรับบางคนที่กำลังจะลองเล่นดู นั่นคือเกมนี้มีฉากจบ 4 แบบ ผมจะไม่เผยรายละเอียดตรงนี้เยอะ แค่จะบอกว่า ฉากจบแบบดีสุดคือคุณต้องช่วยเหลือพี่น้องมูโดคอนให้ได้เกินกว่า 80% ในแต่ละฉาก (ข้อมูลเกมระบุว่า ทั้งเกมมีมูโดคอนราว 1,400 ราย) ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนะครับบอกเลย ก็อย่างที่ขึ้นไว้ตอนต้นว่า การจะได้มาซึ่งเสรีภาพไม่ใช่งานง่าย ๆ แถมเจ้ามูโดคอนผู้น่ารักและน่าสงสาร ยังชอบพากันไปตายง่าย ๆ ให้คุณต้องถอนหายใจตลอดทั้งเกม…
Bugstorm
มาถึงจุดติสำคัญของเกมนี้ กับบั๊กในเกมที่ค่อนข้างเยอะพอสมควร เรียกได้ว่าตลอดเวลาการเล่นเพื่อรีวิวของผมในแต่ละวัน เปิดมาจะเจอแจ้งเตือนการอัปเดตแพตช์เล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ตลอด ซึ่งผมจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพ
อย่างแรกคือ ระบบการปาขวดเชื้อเพลิง หรือขวดน้ำเปล่า เพื่อเติมเชื้อไฟหรือใช้ดับไฟตามลำดับ ซึ่งหลายครั้งมาก ๆ ที่เล็งเข้าเป้าเต็ม ๆ ไม่มีอะไรจะเป๊ะไปกว่านี้แล้ว แต่กลายเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปาน้ำใส่กองไฟแต่ไฟไม่ดับ ปาเชื้อเพลิงเข้ากองไฟแต่ไฟไม่ติด…แถมบางจังหวะ เรามีโอกาสปาครั้งเดียวก่อนยามหันมาเจอ ซึ่งพอผลมันออกมาแบบนี้ก็ทำให้เราตายแบบไม่ควรจะเป็น เหมือนเกมมันยากเพราะการออกแบบ ไม่ใช่เราไม่เก่งพอ…อะไรแบบนั้น
หรือการที่ตัวศัตรูจมในฉาก, ศัตรูหลุดคิว…ที่เราพยายามล่อให้มันเดินมา แต่มันกลับเฉย ทั้ง ๆ ที่เป็นพฤติกรรมบังคับที่เกมกำหนดไว้แล้ว หรือแรงสุด คือพวกทาสมูโดคอนหายแว้บไปจากจอ ต้องโหลดใหม่ถึงจะกลับมา เป็นต้น
ทว่า ที่ผมยกตัวอย่างมาเหล่านี้ เชื่อว่าจะได้รับการแก้ไขในโอกาสต่อ ๆ ไป เพราะทีมงานแสดงให้เห็นว่ากำลังออกแพตช์แก้อย่างต่อเนื่อง ถ้าให้ผมเดาเอาเอง ก็คงอาจต้องโทษโควิดก่อนหน้านี้ ที่ไม่แน่ว่าจะส่งผลให้การทำงานช่วงทดสอบเกมมีปัญหาติดขัดกันไปตามสภาพของโลก
Summary
Oddworld: Soulstorm เป็นเกมที่มีกราฟิกสวยงาม ฉากคัตซีนก็อัปเกรดมากขึ้นกว่าในอดีต ใครสนใจก็ลองไปหาดูเวอร์ชันเกม PS5 ตามยูทูบได้เลยครับ สุดท้ายนี้ ผมขอทิ้งท้ายด้วยจุดด้อยสำคัญอีกอย่างหนึ่งของตัวเกมนั่นคือ Soulstorm แทบไม่ใช้ประโยชน์ใด ๆ จากฟีเจอร์สุดเทพของจอย PS5 ซึ่งอาจมาจากตัวเกมที่ใช้เวลาพัฒนามายาวนาน ก่อนช่วงการมาถึงของ PS5 ทำให้ใส่ระบบเพิ่มเติมไม่ทัน