เกมเวอร์ชั่นที่ครอบคลุมที่สุดพร้อมให้เล่นแล้วบน Xbox Series X รวมถึงใน Xbox Game Pass และ PlayStation 5
วอร์ซอ โปแลนด์ – 10 พฤษภาคม 2565 – เกือบแปดปีหลังจากการเปิดตัว This War of Mine ยังคงเป็นเกมต่อต้านสงครามที่ทรงพลัง เข้าถึงผู้เล่นมากกว่า 7 ล้านคนทั่วโลกแล้ว โดยทีมงาน “11 บิต” มีความภูมิใจที่จะเผยแพร่เรื่องราวที่สร้างผลกระทบนี้ต่อไปในขณะที่ This War of Mine: Final Cut วางจำหน่ายแล้ววันนี้บน Xbox Series X|S และ PlayStation 5
Final Cut ทำหน้าที่เป็นประสบการณ์ This War of Mine ที่ขัดเกลาที่สุดที่เผยแพร่บนคอนโซล เป็นผลรวมของแพตช์มากมาย การปรับแต่ง การปรับสมดุล การปรับปรุง AI การอัปเดตโครงร่างการควบคุม และความเสถียรที่นำมาใช้ตั้งแต่เปิดตัวในฮาร์ดแวร์รุ่นล่าสุด เกมฉบับสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งมีเนื้อหาเพิ่มเติมทั้งหมดที่มีให้ในการอัปเดตหลักสองรายการ: ฉบับครบรอบ พร้อมสถานที่ใหม่สามแห่ง พลเรือน NPC ใหม่ สถานการณ์ใหม่ ตัวละครที่เล่นได้ใหม่ และความสำเร็จอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมการอัปเดตภาพ 4K, การปรับ UI และปรับตำแหน่งสิ่งต่าง ๆ ในเกมจากทั้งเกมหลักและ DLC แถมด้วยภารกิจและเหตุการณ์ใหม่
This War of Mine: All Expansions Pack ประกอบด้วย The Little Ones DLC ซึ่งเพิ่มเด็กๆ ให้กับกลุ่มผู้รอดชีวิต และเรื่องราวที่เน้นการเล่าเรื่องสามเรื่องซึ่งเปิดตัวบนคอนโซลของ Microsoft และ Sony ต่อมาก็จะเป็น Father’s Promise, The Last Broadcast และ Fading Embers ต่างก็แนะนำสถานที่และกลไกใหม่ๆ พร้อมกับเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับแง่มุมทางศีลธรรมและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของการเอาชีวิตรอดในช่วงสงคราม The Last Broadcast เขียนบทเกมโดย Meg Jayanth ผู้เขียน “80 Days”
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่ This War of Mine เป็นหนึ่งในความสำเร็จสูงสุดของบริษัทของเรา เราใส่ใจอย่างมากกับมัน และเกมได้เปลี่ยนแปลงไปมากจากเดิม และคราวนี้เจ้าของเครื่องคอนโซลจะมีโอกาสดำดิ่งลงไปในการต่อสู้ของพลเรือน เราได้ปรับปรุงในทุกแง่มุมของเกมต้นฉบับ และตอนนี้ด้วยศักยภาพของฮาร์ดแวร์ใหม่ที่เรามีอยู่ เราภูมิใจที่เราสามารถนำเสนอเวอร์ชันที่สมบูรณ์แบบของอัญมณีที่ขายดีที่สุดของเรา” Bartek Gwardiak หัวหน้าผู้ผลิตที่สตูดิโอ 11 บิต กล่าว
ทั้งนี้ ตัวเกมยังมีให้ใน This War of Mine: Complete Edition ซึ่งรวมเกมหลักเข้ากับ DLC ทั้งสี่อีกด้วย