ขอขอบคุณ PLAY Interactive สำหรับการสนับสนุนอุปกรณ์เพื่อการทดสอบในครั้งนี้ครับผม! และขอขอบคุณสถานที่ใช้ถ่ายภาพ – ร้าน ลอยลำดวน คาเฟ่แอนด์ฟาร์ม
เมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา ผมเพิ่งมีโอกาสได้ทดสอบจอยคู่ Omelet JoyCon สำหรับ Nintendo Switch ไปแล้ว (อ่านย้อนหลังได้ที่นี่ – OMELET: WIRELESS GAMING JOY-PAD CONTROLLER – รีวิว) ซึ่งผมยังใช้งานได้ไม่เท่าไหร่เลยครับ ทางบริษัทผู้ผลิตก็มีสินค้าตัวใหม่มาให้ทดลองใช้ ซึ่งขอบอกเลยว่า จอยตัวนี้เด็ดจริง!
โดยมันคือ “จอยโปรพลัส” สำหรับนินเทนโดสวิตช์, พีซี, มือถือ และอุปกรณ์ไอโอเอส ทีนี้ เราไปไล่ดูความสามารถของมันกันดีกว่า ว่ามันทำอะไรได้บ้าง และใช้งานจริงได้ดีตามคำโฆษณาหรือเปล่า
แกะกล่อง
เมื่อเปิดกล่องมาเจอตัวคอนโทรลเลอร์ สิ่งแรกที่เตะตาผมก็คือปุ่มกดคริสตัลแบบใหม่ ที่ช่วยยกระดับรูปลักษณ์ของ Switch Pro+ Wireless Controller ไปอีกขั้นหนึ่ง (รุ่นเก่าจะเป็นพลาสติกตัน ๆ ธรรมดา) โดยมันแสดงสีสันแบบ RGB และลักษณะของปุ่มกดคริสตัลแบบนี้จะช่วยให้อายุการใช้งานยาวนานกว่าเดิม ทำให้ทนทานจากการใช้งานมากกว่าคอนโทรลเลอร์ไร้สายส่วนใหญ่ในท้องตลาด
นอกจากนั้น Pro+ Wireless Controller ยังออกแบบมาด้วยรูปทรงที่เหมาะมือมากขึ้น (เล็ก และเบากว่าจอย PS5 นิดหน่อย) จับถนัดกว่ารุ่นเดิม (ส่วนรูปร่างหน้าตามันคล้าย ๆ กับจอย Xbox Wireless Controller ที่มีขนาดเล็กลงมาอ่ะครับ)
รอบ ๆ แกนอนาล็อกจะมีวงแหวน RGB หลากสี ขณะที่ปุ่มทิศทางนั้นตัวคอนโทรลเลอร์มีวัสดุเป็นพื้นผิวที่ดูดจับนิ้วโป้ง เพื่อช่วยให้คุณยึดมั่นกับการควบคุมได้ดีขึ้น
ในแง่การใช้งานแล้ว Switch Pro+ Wireless Controller รองรับการใช้งานทั้งแบบมีสายและไร้สาย พร้อมด้วยฟีเจอร์อย่างการปรับแต่งระดับสั่นแบบคู่, ปุ่มที่โปรแกรมได้ และฟังก์ชันเทอร์โบระดับแอดวานซ์ ที่จะช่วยให้คนเล่นสามารถเปิดใช้งานการเคลื่อนไหวได้มากกว่าหนึ่งอย่างในแบบซ้ำ ๆ
คอนโทรลเลอร์ตัวนี้ยังรองรับการเล็งแบบไจโร เพื่อใช้ควบคุมด้วยระบบเคลื่อนไหวบน Switch และยังสามารถเปิดใช้งานเครื่อง Nintendo Switch จากโหมดสลีปได้ ยิ่งไปกว่านั้นเกมเมอร์ยังสามารถ ติดตั้งปุ่มเฉพาะลงในปุ่มด้านหลังของคอนโทรลเลอร์ เพื่อยกระดับการเล่นในการแข่งขันไปอีกขั้นหนึ่งได้ด้วย
สรุปฟีเจอร์ที่รองรับ
1.Thumbstick ต้านแรงเสียดทาน
- มีการออกแบบพื้นผิวขนาดเล็กล้อมรอบ Thumbstick
- มีหลุมตรงกลางป้องกันการลื่น
2. โหมดเทอร์โบขั้นสูง
- เมื่อกดปุ่ม T ค้างไว้แล้วกดปุ่มการทำงานใด ๆ จะเป็นการกำหนดฟังก์ชันเทอร์โบให้กับปุ่มที่เลือก
- ทำซ้ำขั้นตอนด้านบนอีกครั้งเป็นครั้งที่สองจะตั้งค่าฟังก์ชันเป็น Auto Turbo
- ปุ่มจะทำงานหลายครั้งเมื่อคลิกและปล่อย และหยุดเมื่อผู้เล่นคลิกปุ่มครั้งที่สอง
3. Gyro Motion & Wake Up Mode (รองรับ Nintendo Switch เท่านั้น)
- ปลุก Nintendo Switch จากโหมดสลีปโดยกดปุ่ม Home (หลังจากจับคู่ครั้งแรก)
- รองรับ Gyro Sense Aiming สำหรับ Nintendo Switch
4. ปุ่มกดคริสตัล
- ปุ่ม ABXY ในแบบคริสตัลใส พร้อมไฟ LED สวยงาม
- ปุ่มมีความทนทาน ไม่เสื่อมสภาพเร็วจากการใช้งานเป็นเวลานานและบ่อยครั้ง
- ตั้งค่าสีของปุ่มได้โดยกด T + Thumbstick ขวา
5. วงแหวน RGB หลากสี
- มี 3 โหมด: สว่างเสมอ / โหมดกระพริบช้า ๆ (Breathing Mode) / ปิด
- มีหลายสีให้เลือก
- ตั้งค่าสีได้โดยกด T + Thumbstick ซ้าย (คลิกเพียงครั้งเดียวเพื่อเปลี่ยนสี & ดับเบิลคลิกเพื่อเปลี่ยนโหมด)
6. การปรับการสั่นสะเทือนแบบคู่
- การสั่นสะเทือนในเกมสำหรับการตอบสนองแบบสัมผัส
- สามารถปรับแรงสั่นสะเทือนได้ด้วยปุ่ม ‘wave’ ด้านหลังจอย (25%, 50%, 75%, 100%, ปิด)
7. รูปทรงตามหลักสรีรศาสตร์
- ปรับปรุงวัสดุและการออกแบบที่ดีขึ้นเพื่อให้ผู้เล่นไม่เมื่อยล้าเมื่อจับคอนโทรลเลอร์เป็นเวลานาน
8. ปุ่ม Pro – Grammable ด้านหลัง
- ปุ่มหลังจอย 2 ปุ่ม (ข้างละ 1 ปุ่ม) ที่สามารถใช้งานฟังก์ชั่นปุ่มใดก็ได้เมื่อกำหนดตั้งค่าเอาไว้
กำหนดปุ่มโดยกด M + เลือกปุ่มด้านหลังที่ต้องการใช้
9. รองรับแบบมีสายและไร้สาย
10. รองรับหลายแพลตฟอร์ม
- สามารถเชื่อมต่อกับ Nintendo Switch, โทรศัพท์มือถือทั้งแอนดรอย์และไอโอเอส แท็บเล็ตและพีซี
- รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ
บทสรุปหลังใช้งานจริง
ผมทดลองใช้เจ้าคอนโทรลเลอร์ตัวนี้เล่นเกมบนหลาย ๆ แพลตฟอร์ม ทั้งสวิตช์ไลท์ พีซี ไอแพด แล็บท็อป ก็พบว่า มันทำงานได้ดีมาก ที่ชอบที่สุดคือเชื่อมต่อบลูทูธได้อย่างง่ายดายรวดเร็ว การตั้งค่าปุ่มดีฟอลต์ต่าง ๆ ก็อัตโนมัติ ต่อปุ๊บเล่นได้ปั๊บว่างั้น เมื่อทดลองฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ข้างกล่องเขาคุยโวเรื่องคุณสมบัติเอาไว้มากมาย ก็ทำงานได้ดีจริงครับ แต่โดยส่วนตัวผมเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องปุ่มเทอร์โบ หรือการตั้งชุดคำสั่งซับซ้อนอะไรมากมาย เข้าใจว่าคนเล่นเกมไฟต์ติ้งน่าจะชอบฟังก์ชันนี้มากกว่าผม
ด้านขนาดและน้ำหนัก ขอบอกเลยว่า เล็กและเบาครับ ท่านสุภาพสตรีที่มือเล็ก ๆ น่าจะถูกใจ ส่วนตัวผมมองว่ามันพกพาสะดวก พกติดไว้เล่นคู่กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเวลาออกเดินทางนี่เข้าท่าเลยนะ! และทีเด็ดสุดท้ายที่ผมมองว่ามันเป็นจุดแข็งก็คือราคาครับ ค่าตัวอยู่ที่ 1,399 บาท นี่ถือว่าสมเหตุสมผล คุ้มอยู่ครับกับคุณภาพสินค้าตัวนี้
สำหรับรีวิวนี้ที่ไม่มีการให้คะแนน เพราะผมอยากให้คุณผู้อ่านที่สนใจ เจาะจงดูที่หัวข้อ “สรุปฟีเจอร์ที่รองรับ” เลยครับ แล้วคุณจะรู้ว่าจอยรุ่นนี้มันทำอะไรได้บ้าง แล้วก็ค่อยไปดูเรื่องราคาเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ…อ้อ สำหรับวัสดุและการประกอบตัวอุปกรณ์ ถือว่าทำได้พรีเมียมกว่ารุ่นเก่าหรือรุ่น Joy-Pad คอนโทรลเลอร์อยู่หลายช่วงตัวเลยล่ะครับ
เกี่ยวกับ Switch pro+ wireless controller
ตัวจอยวางจำหน่ายแล้วตอนนี้ ในราคาที่จับต้องได้ที่ 1,399 บาท และยังมีระยะเวลารับประกัน 1 ปีจากผู้จัดจำหน่าย โดยนำเสนอในหลากหลายสีสันที่ประกอบไปด้วย: Snow White, Jet Black, และ Thunderbolt ส่วนคิวอาร์โค้ดข้างกล่อง เมื่อสแกนก็จะพบกับคู่มือการใช้งานในรูปแบบภาษาไทยด้วยนะ!
ร้านค้าออนไลน์: shopee.com.my/omeletgaming_os
เกี่ยวกับ Omelet Gaming
2022 คือจุดเริ่มต้นการเดินทางของ Omelet Gaming ด้วยการสร้างแบรนด์จากอาหารอย่างไข่เจียวนี่เอง บริษัทจึงหวังว่าจะเปรียบเหมือนภาพลักษณ์ที่สื่อถึงความคิดสร้างสรรค์และความสนุกที่ไม่มีสิ้นสุด ด้วยภาพลักษณ์นี้บริษัทจึงหวังว่าจะช่วยจุดประกายความบันเทิงและความเป็นเด็กในตัวของลูกค้าทุกคนในการเดินทางบนเส้นทางแห่งเกมกลับมาได้อีกครั้งหนึ่ง