News

เผยรายละเอียดชุดแรกของ Star Ocean The Second Story R

คล็อด ซี เคนนี (Claude C. Kenny) เจ้าหน้าที่วัยหนุ่มของสหพันธ์แพนกาแล็กติก (Pangalactic Federation) ถูกส่งตัวไปสำรวจโดมปริศนาที่ค้นพบบนดาวมิโลคีเนีย (Milokeenia) ตามคำสั่งของโรนิกซ์ (Ronyx) ผู้เป็นพ่อและผู้บังคับบัญชาของเขา ที่นั่นเขาได้พบกับกลไกที่มีรูปร่างหน้าตาไม่คุ้นเคย ด้วยความที่หวังจะแสดงความกล้าหาญของตนเอง เขาไม่สนคำคัดค้านของโรนิกซ์และแตะต้องกลไกดังกล่าว จนหายตัวไปในแสงสว่าง

คล็อดฟื้นขึ้นมาและพบว่าตนอยู่ท่ามกลางป่าเขียวชอุ่ม และพบว่าตนถูกวาร์ปมาที่อื่นซึ่งห่างไกลจากเดิม

เขาพยายามที่จะติดต่อกับโรนิกซ์ แต่ในระหว่างที่คล็อดสำรวจพื้นที่โดยรอบนั้นก็ได้พบกับมอนสเตอร์ที่กำลังจะโจมตีหญิงสาวผู้หนึ่ง

เขารีบพุ่งเข้าไปช่วยเหลือ และยิงปืนจากเฟสกัน (Phase Gun) ที่พ่อได้ให้ไว้

เมื่อได้เห็นคล็อดช่วยชีวิตเธอเอาไว้ด้วยพลังงานแสงสว่างและรุนแรงเช่นนี้ หญิงสาวผู้ได้รับการช่วยเหลือที่ชื่อเรนา แลนฟอร์ด (Rena Lanford) จึงเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นบุคคลจากตำนานในบ้านเกิดของเธอ วีรบุรุษผู้ถือดาบแห่งแสงสว่าง

และเพื่อขอบคุณเขา เรนาจึงได้พาคล็อดไปยังหมู่บ้านอาร์เลีย (Arlia) โดยหวังว่าเขาจะเป็นผู้ที่สามารถกอบกู้ประเทศแห่งนี้ได้

ระบบ Dual Hero

นี่คือเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของตัวเอกสองคนที่ได้ท่องไปท่ามกลางมหาสมุทรแห่งดวงดาว เกมนี้ใช้ระบบตัวเอกคู่ ซึ่งจะให้ผู้เล่นได้เลือกว่าจะเล่นเป็นใคร เพราะตัวเอกแต่ละคนจะได้รับรู้เรื่องราวที่ต่างกัน มีเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องที่ต่างกันรวมถึงบทสนทนากับตัวละครอื่น ๆ ที่จะเปิดเผยมุมมองใหม่ ๆ

ฟีเจอร์ของรีเมก : ตัวละคร

ศิลปินอย่างคุณยูคิฮิโระ คาจิโมโตะ (Yukihiro Kajimoto) ได้ออกแบบและวาดตัวละครหลักทั้ง 13 คนใหม่ รวมถึง NPC ด้วย โดยงานอาร์ตในครั้งนี้จะอ้างอิงจากดีไซน์แบบออริจินัล ก่อให้เกิดเป็นความโดดเด่นที่แตกต่างไปจากงานอาร์ตต้นฉบับแบบพิกเซลที่เพิ่มน้ำหนักและยกระดับคอนเซปต์ของงานต้นฉบับให้เด่นชัดยิ่งขึ้นกว่าที่เคย

Claude C. Kenny (คล็อด ซี เคนนี)
“ฉันต้องการปกป้องเธอ และฉันคิดว่านั่นเป็นเหตุผลที่ฉันถูกพามาที่นี่”

ชายหนุ่มผู้มีประเด็นบางอย่างกับพ่อของตนเองที่เป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่

เขาดำรงตำแหน่งร้อยตรีประจำสหพันธ์แพนกาแล็กติก นับตั้งแต่วัยเด็กแล้วที่เขารู้สึกว่าเงาของพ่อบดบังตัวเขาตลอดเวลาในยามที่ใครต่อใครพูดถึงตัวเขาเอง ซึ่งนั่นก็ทำให้เขากังขาในความสามารถของตนเองเลยมีพฤติกรรมต่อต้านหลายต่อหลายครั้ง โดยธรรมชาติแล้วเขาเป็นคนจริงจังและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และรักความยุติธรรมในแบบที่ไม่สามารถเมินเฉยต่อคนที่ต้องการความช่วยเหลือได้

Rena Lanford (เรนา แลนฟอร์ด)
“ฉันอยากรู้ว่าแท้จริงแล้วฉันคืออะไรกันแน่”

หญิงสาวจิตใจดีผู้มีพลังในการรักษาเยียวยา

หญิงสาวผู้อาศัยอยู่กับแม่ของเธอเวสตา (Westa) ในอาร์เลียซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่สุดขอบห่างไกลของดาวเอ็กซ์เปล (Expel) เธอไม่มีพิษมีภัยกับใครจึงเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน แต่ว่าเธอก็รู้ตัวดีว่าเวสตานั้นเป็นแม่เลี้ยงของเธอ อีกทั้งด้วยความสามารถในการเยียวยารักษาที่เธอมีจึงทำให้เธอเป็นกังวลเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง

Celine Jules (เซลีน จูลส์)
“ถ้าอยากจะมีเรื่อง ก็ควรจะเลือกคู่ต่อสู้ให้มันดีกว่านี้นะ”

นักล่าสมบัติผู้มีพรสวรรค์ในศาสตร์แห่งเวทสัญลักษณ์

ผู้ใช้เวทสัญลักษณ์จากมาร์ซ (Marze) ซึ่งเป็นศูนย์รวมของศาสตร์ชนิดนี้ เธอสนใจการฝึกฝนและเงินตรามากกว่าความรัก จึงมักออกไปล่าสมบัติเป็นงานอดิเรกเมื่อมีเวลาว่าง ในการต่อสู้เธอจะเป็นสมาชิกที่ทรงพลังมากในแนวหลัง แต่ขาดทักษะการต่อสู้ประชิดตัว

Ashton Anchors (แอชตัน อันคอร์ส) 
“นายต้องรับผิดชอบเลยนะ! ดูฉันสิ! รูปร่างกลายเป็นแบบนี้ไปถาวรแล้วเนี่ย!”

นักดาบผู้มีมังกรสองหัวผูกติดอยู่กับตัว

นักดาบที่คล็อดและเรนาได้พบในระหว่างที่พยายามสังหารมังกรสองหัวที่ผู้คนพูดถึงในซัลวา (Salva) เขาต่อสู้โดยผสมผสานเวทสัญลักษณ์กับวิชาดาบคู่

Dias Flac (ดิอัส แฟล็ก)
“ฉันไม่อยากมาคอยดูแลใครต่อใครที่ทำประโยชน์อะไรไม่ได้นอกจากเป็นภาระหรอกนะ”

นักดาบผู้โดดเดี่ยวที่ออกเดินทางอันไม่มีที่สิ้นสุดเพื่อแสวงหาความแข็งแกร่ง

เขาเป็นนักดาบจากอาร์เลียที่รู้จักกับเรนาตั้งแต่ยังเด็ก ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั่วเอ็กซ์เปลในฐานะปรมาจารย์ดาบผู้ฝากฝีมือเอาไว้มากมาย และเชี่ยวชาญอาวุธมีคมทุกชนิด เขาเก่งในการโจมตีระยะไกลโดยใช้ดาบและเวทมนตร์

Precis F. Neumann (พรีซิส เอฟ นิวแมนน์)
“ให้ตายสิ! พลาดอีกแล้ว! โดนพ่อหัวเราะเยาะอีกแหง ๆ เลย!”

นักประดิษฐ์ผู้ออกเดินตามหนทางของตนเอง

หญิงสาวที่อาศัยอยู่กับพ่อในเมืองแห่งการศึกษาลินกา (Linga) เธอได้รับอิทธิพลมาจากพ่อที่เป็นนักประดิษฐ์เต็ม ๆ จึงมีความสนใจเทคโนโลยีจักรกลมาก เธอจะต่อสู้โดยใช้อุปกรณ์อย่างโรบ็อตพันเชอร์ (Robot Puncher) ในกระเป๋าสะพายหลังและร็อบบี (Robbie) หุ่นยนต์แปลงร่างตัวจิ๋วที่เธอสร้างเอง

ฟีเจอร์ของรีเมก

ฉากหลังที่เป็น CGI จะได้รับการอัปเดตโดยใช้เชดเดอร์พิเศษเพื่องานภาพที่โดดเด่นขึ้นในทุกสภาพแวดล้อม ส่วนตัวละครจะนำเสนอในแบบพิกเซลเรโทรเหมือนต้นฉบับให้ได้ออกผจญภัยไปในโลก 3D

ระบบต่อสู้

ต่อสู้ในแอ็กชันแบบเป็นทีมที่สนุกตื่นเต้น!

ซีรีส์ Star Ocean มีระบบต่อสู้ที่ฉูดฉาด ตื่นเต้นและมีองค์ประกอบด้านกลยุทธ์อีกด้วย เพื่อที่จะพัฒนาสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น เกมในภาคนี้จึงได้นำเสนอฟีเจอร์ใหม่อย่างแอสซอลต์ แอ็กชัน (Assault Action) และเบรก (Break) ซึ่งจะก่อให้เกิดการต่อสู้ที่มีจังหวะรวดเร็ว ซึ่งเน้นการร่วมมือเป็นทีมในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งเอฟเฟกต์งานภาพและอนิเมชันของตัวละครก็ได้รับการขัดเกลายิ่งขึ้นกว่าเดิม เกิดเป็นการต่อสู้ระดับใหม่ที่ตื่นเต้นยิ่งกว่าเก่า

ระบบเสียง

อัดเสียงพากย์ใหม่จากนักพากย์เดิม*

ในเกมจะมีเสียงพากย์สองชุดที่เปลี่ยนได้ตลอดเวลา ในรีเกมครั้งนี้จะมีการอัดเสียงพากย์ใหม่สำหรับทุกตัวละคร ทำให้มีฉากคัตซีนแบบพากย์เต็มรูปแบบจากทีมพากย์ต้นฉบับที่เดิมไม่สามารถทำได้บน PS1 นอกจากนี้ตัวเกมยังรองรับการสลับเสียงพากย์ที่อัดใหม่นี้ และเสียงพากย์จากเวอร์ชัน PSP คุณจะสามารถเลือกปรับได้รายตัวละครจากหน้าจอ Status ได้ทุกเวลา ให้คุณได้เล่นเกมพร้อมเสียงพากย์ที่คุณชื่นชอบ

*เฉพาะเสียงญี่ปุ่นเท่านั้น

ซาวด์แทร็กที่เสริมพลังด้วยเสียงใหม่และรีมิกซ์

ซาวด์แทร็กทั้งหมดจะได้รับการเรียบเรียงใหม่โดยผู้ประพันธ์เพลงต้นฉบับโมโตอิ ซากุราบะ (Motoi Sakuraba) พร้อมด้วยเสียงใหม่ที่จะให้ความรู้สึกใหม่กับเพลงที่คุ้นเคย นอกจากนี้ยังมีการแต่งเพลงใหม่สำหรับบอสบางตัว และบางช่วงเวลาในเนื้อเรื่องด้วย บางเพลงก็อัดกันสด ๆ ด้วยวงดนตรีเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ฉากเวิลด์แมปไปจนถึงการสู้บอส ทุกอย่างจะมีพลวัติและตื่นเต้นยิ่งกว่าเคย

Star Ocean The Second Story R จะวางจำหน่ายบน Nintendo Switch/PS4/PS5/Steam ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2023 นี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์