รีวิว Homeseek
*ขอขอบคุณ The Iterative Collective สำหรับโค้ด PC เพื่อการรีวิวในครั้งนี้
เกมสร้างเมืองในบรรยากาศโลกแตก (อาทิเกมอย่าง Frostpunk หรือ Endzone – A World Apart ฯลฯ) มันจะให้ความรู้สึกบางอย่าง ที่แปลกแตกต่างจากเกมสร้างเมืองทั่ว ๆ ไปเสมอครับ ถ้าจะให้อธิบายแบบเร็ว ๆ ก็คือ มันจะมีปัจจัยของ “การดิ้นรนเอาชีวิตรอด” เจือปนอยู่ในทุกการตัดสินใจของผู้เล่น ทุกการสร้างหรือไม่สร้างสิ่งใด ๆ ในเกม ล้วนก่อผลให้เกิดการอดอยากล้มตาย…หรือนำไปสู่การรักษาชีวิตผ่านพ้นฤดูกาลของบรรดาชาวเมืองของเราแทบทั้งสิ้น
มันเป็นความบันเทิงที่มาพร้อมความตึงเครียดอย่างแท้จริง 555!
ทีนี้ ล่าสุดมันมีเกมใหม่ออกมาครับ ชื่อว่า Homeseek มาในแนวเดียวกับที่ผมเกริ่นไว้ข้างต้นนั่นแหละ ซึ่งเจ้าเกมเนี้ย ตามบรรดาบอร์ดกระทู้เมืองนอกเขาตั้งฉายากันเล่น ๆ ว่า นี่คือดาร์กโซลในแบบเกมวางแผน…อะไรมันจะขนาดนั้น! ผมจึงจัดการลองเล่นด้วยตัวเอง แล้วต่อจากนี้ผมจะเริ่มเล่าให้ฟังกันครับ ว่าแท้จริงแล้ว Homeseek มันเป็นเกมแบบไหน แล้วเล่นยากแบบที่ถูกกล่าวหาไว้หรือเปล่า
STORY
Homeseek (เล่นได้แล้วบน Steam) เป็นผลงานจากสตูดิโออินดี้สัญชาติกรีก Traptics โดยเป็นเกม RTS เอาชีวิตรอด คุณต้องบริหารทรัพยากรด้วยการออกสำรวจและเอาชนะอุปสรรคเพื่อรักษาชุมชนให้อยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายของโลกในแบบดิสโทเปียที่ขาดแคลนทรัพยากร
ขาดแคลนขนาดไหนน่ะเหรอ? เอาเป็นว่า แค่คนงานที่คุณสามารถสั่งการให้เขาไปปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ ในชุมชนนั้น ยังแทบไม่พอเลยครับ บางคนอาจต้องวิ่งหลายจ๊อบใน 1 วันกันเลยทีเดียว
จากนั้นคุณต้องตัดสินใจขยายชุมชนของคุณอย่างระมัดระวัง ไม่เช่นนั้นคุณจะมีทรัพยากรไม่เพียงพอต่อการพัฒนา สถานที่ที่คุณเลือกสร้างชุมชนจะสัมพันธ์กับทรัพยากรสำรองที่มีซึ่งส่งผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพของคอมมูฯ
พอเล่นไปได้ซักพัก หากคุณฝ่าฟันพาคนของคุณหลุดพ้นช่วงตั้งไข่ไปได้แล้วล่ะก็ คุณจะต้องเริ่มคิดถึงการค้นคว้าพัฒนาองค์ความรู้ของคนในชุมชนและเครื่องจักรกลเพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอันมีน้อยนิดให้ได้ผลสูงสุด
อาทิ จากแต่เดิมชาวบ้านต้องทนกินน้ำปนเปื้อน ก็จะสามารถสร้างระบบกลั่น/กรองน้ำดิบให้สะอาดขึ้น, หรือพัฒนาคลีนิกให้สามารถรักษาโรคภัยได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ใช่ส่งคนเจ็บเข้าไปรอความตายแบบอนาถา
GAMEPLAY
ทีนี้ มาว่ากันต่อในเรื่องของเกมเพลย์ กล่าวคือคุณจะไม่ได้แค่หมกมุ่นอยู่กับการไล่เก็บทรัพยากรแล้วก็ก่อสร้างอาคารใหม่ ๆ อยู่แต่ในพื้นที่ ๆ เดียว เพราะตัวเกมจะมีระบบการส่งทีมเดินทางออกสำรวจไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในเวิลด์แมปด้วย
โดยระหว่างการเดินทางนั้น เกมจะใช้ระบบจำลองการเคลื่อนที่แบบเดียวกับพวกเกมแนว CRPG ครับ คือจะเป็นลูกศรสัญลักษณ์ค่อย ๆ เคลื่อนช้า ๆ ไปบนแมป จากนั้นก็จะมีอีเวนต์และเควสต์ โผล่ขึ้นมาแบบแรนด้อมให้คุณจะได้เผชิญกับการตัดสินใจอันยากลำบากและศัตรูสุดอันตราย
ไม่ว่าคุณจะเลือกตัดสินใจแบบใด ผลลัพธ์ที่ได้อาจหมายถึงความเป็นความตายของชุมชนกันเลยทีเดียว ฉะนั้นจงตัดสินใจให้ดี ค่อย ๆ คิดทุกครั้งก่อนกด (อย่าพลาดแบบผู้เขียนที่มือเร็วใจเร็วเป็นประจำ สุดท้ายเกมโอเวอร์ต้องเล่นใหม่อยู่เรื่อย (ฮา)
ด้านการวิเคราะห์วิจารณ์ในส่วนของเกมเพลย์ โดยเฉพาะกับประเด็นที่ว่าเกมยากจนโดนแซวว่าเหมือนดาร์กโซลของเกมแนวจัดสรรทรัพยากร ซึ่งผมขอสรุปมุมมองของผมแบบนี้ครับ นั่นคือ Homeseek เป็นเกมที่เหมือนกับการมีคำตอบที่ถูกต้องอยู่เพียงคำตอบเดียวในโจทย์ คุณต้อง “เป๊ะ” ในการวางแผนแบ่งสันปันส่วนทรัพยาการต่าง ๆ ทั้ง จำนวนคนงาน, อาหาร, น้ำ และเศษวัสดุ (Scrap / ใช้ในการก่อสร้าง) ซึ่งถ้าคุณพลาด…มันจะพาล้มทั้งกระดาน แต่ถ้าคุณทำถูก คุณจะผ่านแต่ละอีเวนต์ไปได้อย่างง่ายดายสุด ๆ ไปเลยครับ
ดังนั้น สิ่งที่คุณจะเจอแน่ ๆ ก็คือ การเริ่มเล่นใหม่ตั้งแต่ต้น…แบบบ่อยเลยอ่ะ
อธิบายให้เห็นภาพก็คือ มันจะง่ายกว่ามาก เมื่อคุณเล่นมั่ว ๆ ลองผิดลองถูกไปก่อนในรอบแรก ๆ (ซึ่งช่วงนี้แหละที่คุณจะรู้สึกว่ามันยาก) แต่พอคุณรู้แล้ว ได้ทราบสภาพแวดล้อมในแผนที่นั้น ๆ แล้ว ได้รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน แหล่งน้ำกระจุกตัวอยู่ตรงไหน ฯลฯ แล้วพอคุณกลับไปเริ่มเล่นใหม่ ทีนี้เกมอย่างกับอีซี่โหมดเลยครับ เล่นง่ายมาก คุณสามารถออกแบบวางผังเมืองให้สวยถูกใจได้เลย
โดยส่วนตัว ผมมองว่า การส่งทีมสำรวจออกไปบนแผนที่โลกต่างหาก ที่ถือเป็นความท้าทาย และน่าสนใจของเกมนี้ เพราะมันมักจะนำพาเหตุการณ์เหนือความคาดหมายมากมายมาให้คุณได้ “ตัดสินใจ” ซึ่งนี่ต่างหาก เสน่ห์อันล้ำลึกของเกมแนว post-apocalyptic survival city builder
ART & CREATIVITY
คุณภาพกราฟิกและเพลงประกอบของ Homeseek สำหรับผมจัดให้อยู่ในระดับกลาง ๆ ครับ คือไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นว้าวมากมายอะไร แต่ที่ผมชอบมากก็คือ การเน้นบรรยากาศทะเลทราย ความแห้งแล้ง และการออกแบบอาคารต่าง ๆ ในเกม ที่ดูเหมาะสมกันดีกับโลกในธีมแบบภาพยนตร์แมดแมกซ์
CONCLUSION
การเอาชีวิตรอดใน Homeseek นั้นท้าทายแล้วก็สนุก โดยมันจะท้าให้คุณได้คิด, คำนวณในทุก ๆ การตัดสินใจ และไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเริ่มต้นเล่นใหม่บ่อย ๆ แต่ถ้าคุณเต็มใจที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง แล้วปรับปรุงไปสู่แผนการสร้างเมืองอันสมบูรณ์แบบในท้ายที่สุด คุณก็จะได้ค้นพบความเพลิดเพลินขั้นสุดยอดของเกมนี้ครับ
Pros
– การเรียนรู้จากความผิดพลาดซ้ำ ๆ จะทำให้คุณรู้สึกสะใจแบบสุด ๆ กับความสำเร็จ…ในแบบเดียวกับที่คุณฝึกฝนจนล้มบอสได้ซักตัวในเกมอย่างดาร์กโซล
– เล่นแล้วตื่นเต้น ไม่น่าเบื่อ เพราะตัวเกมเน้นให้คุณต้องพัฒนาชุมชนอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อหนีให้พ้นจากความอดอยาก, หายนะต่าง ๆ
Cons
– เกมไม่ค่อยอธิบายอะไรให้คนเล่นรับทราบมากนัก ช่วงแรกที่เล่นเหมือนเป็นการคลำทาง ลองผิดลองถูกกันเอาเอง
– ช่วงแรกของแต่ละมิชชั่น เกมเหมือนจะบีบให้ผู้เล่นเกมโอเวอร์แล้วเริ่มเล่นใหม่บ่อยครั้ง
