ในงาน Tokyo Game Show 2023 ครั้งนี้ ทีมงานไทยเกมวิกิได้มีโอกาสลองเล่นเดโมของ Like A Dragon: Infinite Wealth ภายในงานครับ เราเลยอยากมาเล่าประสบการณ์ในช่วงสั้น ๆ นี้ให้ได้อ่านกัน
สำหรับเดโมครั้งนี้จะเริ่มต้นหลังจากที่คาสึกะ อิจิบังพระเอกของเรามาเยือนฮาวายได้สักครู่หนึ่งแล้ว ดังนั้นปาร์ตี้ของเราจึงประกอบไปด้วยสมาชิกสี่คนนั่นคืออิจิบังเอง คิริว คาซึมะพระเอกขาประจำที่หลายคนคุ้นเคย และอีกสองคนคือตัวละครใหม่นั่นคือโทมิซาวะ เอริกแท็กซี่ที่ปล้นอิจิบังตั้งแต่เหยียบเกาะฮาวาย ส่วนคนสุดท้ายก็คือสาวสวยหน้าใหม่อย่างฟูจิโนะมิยะ จิโตเสะครับ ซึ่งเดโมจะจบลงเมื่อเราไปปราบบอสประจำเดโมได้ แต่ในระหว่างนั้นเราจะไปทำอะไรก็สุดแท้แต่ (หากเวลาอำนวย)
ในเดโมนี้เปิดโอกาสให้เราสำรวจแผนที่ใหม่อย่างเต็มที่ ซึ่งก็มีสิ่งที่ผู้เล่นคาดหวังจะได้พบอย่างครบถ้วนครับ ทั้งจุดเล่นมินิเกมเอย ซับสตอรี่เอย หรือจะตระเวนชมเมืองไปทั่วโดยใช้รถเซกเวย์ก็ยังได้ สิ่งที่น่าสนใจก็คือในภาคนี้เราจะสามารถลงไปว่ายน้ำในทะเลได้ด้วย จากเดิมที่ภาคก่อน ๆ จะลงได้แค่ระดับหน้าแข้งแล้วก็จะติดกำแพงล่องหน งวดนี้พอเราวิ่งลงทะเลเกมก็จะตัดโหลดนิดนึง ก่อนที่อิจิบังและคนอื่น ๆ จะเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำแล้วลงมากันทั้งหมู่คณะเลยครับ นอกจากว่ายเล่นแล้วในทะเลก็มีจุดให้สำรวจที่อิจิบังจะดำลงไปเก็บไอเท็มได้ด้วยเหมือนกัน เชื่อว่าพอเกมจริงออกน่าจะมีอะไรเพิ่มมาให้ทำเยอะเลย
ในส่วนของระบบต่อสู้นั้น ยังคงเป็นเทิร์นเบสอาร์พีจีเหมือนภาค 7 (ที่ใช้ชื่อในฝั่งตะวันตกว่า Yakuza: Like A Dragon) ครับ นั่นคือตัวละครฝ่ายเราและฝ่ายศัตรูจะผลัดกันออกแอ็กชันในเทิร์นของตนเอง โดยที่สกิลต่าง ๆ ก็จะมีให้เลือกใช้มากมายตามสายอาชีพของตัวละครในตอนนั้น ๆ แต่สิ่งที่ปรับปรุงมากขึ้นกว่าเดิมก็คือ ในคราวนี้แต่ละคนจะสามารถเดินไปมาได้ในพื้นที่วงกลมรอบ ๆ ตัว ซึ่งส่งผลต่อการต่อสู้ครับ เพราะบางท่าที่โจมตีเป็นแอเรียหรือเป็นเส้นตรง เราก็สามารถเลือกเดินเพื่อหามุมโจมตีให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ด้วย
องค์ประกอบหนึ่งที่มีในภาคก่อน ๆ ที่เป็นแอ็กชันแต่โดนตัดไปในภาค 7 และกลับมาอีกครั้งใน Infinite Wealth ก็คือระบบการหยิบข้าวของข้างทางมาโจมตีครับ นอกจากโจมตีปกติและใช้สกิลแล้ว ถ้าในพื้นที่ของเรามีพวกจักรยานหรืออะไรอยู่ เราสามารถกดหยิบของเหล่านั้นมาโจมตีแทนได้ เหมือนเป็นกึ่งกลางระหว่างแอ็กชันเพียว ๆ กับสไตล์เทิร์นเบสของภาคนี้
ก่อนหน้านี้ใครที่สงสัยว่าคิริวที่ปกติแอ็กชันระห่ำมาตลอด บู๊กับคนได้เป็นร้อยตามลำพังถ้าต้องมาเล่นแบบเทิร์นเบสนี่จะยังไง เกมนี้ก็เลยตอบข้อสงสัยที่หลายคนถามนี่ล่ะครับ คิริวเองจะเปลี่ยนสไตล์การต่อสู้ได้ 3 แบบที่ในเกมเรียกว่าสไตล์ยากูซ่า สไตล์รัช และสไตล์บีสต์ ซึ่งถ้าจะถามความแตกต่างหลัก ๆ เลยนี่ก็คงต้องรอเกมตัวเต็มออก เพราะสิ่งที่เราอยากพูดถึงจะเป็นระบบพิเศษของคิริวครับ เมื่อเกจพิเศษเต็มแล้วเรากด R2 ค้างไว้คิริวจะเปลี่ยนโหมดตัวเองจากเทิร์นเบสกลายเป็นแอ็กชันเต็มตัว สามารถวิ่งไปบวกศัตรูทุกตัวในฉากได้ตามใจชอบจนกว่าเกจจะหมด เพราะงั้นใครที่ขัดใจกับการที่คิริวต้องมายืนรอรับหมัดผลัดกันต่อยก็น่าจะสบายใจกันขึ้นเยอะครับ
ระบบอื่น ๆ ที่คุ้นเคยจากภาค 7 อย่าง Poundmates ที่เป็นการเรียกพวกมาช่วยก็ยังมี คัตซีนก็ยังคงความขำขันเอาฮาไม่เสื่อมคลาย แม้แต่ท่าใหญ่ของแต่ละคนนี่ก็เวอร์วังและชวนฮาเหมือนเดิมครับ ไม่ว่าจะของโทมิซาวะที่พาศัตรูขึ้นรถแท็กซี่ขับปาดไปมาก่อนพุ่งรถไประเบิดแล้วโดดหนีออกมา หรือของฟูจิโนะมิยะที่พาศัตรูมาเป็นคู่เต้นรำก่อนหวดด้วยศอกและเท้า ฯลฯ ทุกอย่างยังคงเล่นใหญ่ในแบบที่ดูยังไง๊ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ แต่พอมาอยู่ในเกมที่ใช้โมเดลตัวละครแบบสมจริง มันเลยเกิดเป็นความเข้ากันได้แบบประหลาด ๆ
ใครที่อยากเล่นคาราโอเกะ เดโมนี้ก็มีให้เล่นนะ โดยจะไปร้องได้ที่บาร์ประจำเมือง (คล้ายกับบาร์ Survive ในภาคก่อน) ที่สำคัญคือสาวผู้ช่วยเจ้าของบาร์ก็เป็นคนที่หลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากัน เพราะเธอนำแบบหน้ามาจากคุณ kson onair ที่ชนะการประกวดสาวบาร์ในภาค Like A Dragon Gaiden นั่นเองครับ สำหรับเพลงที่ยืนยันในเดโมก็คือ Hell Stew ที่อิจิบังร้อง เพลง Judgment Shinpan ของคิริว (ใครจำภาค Zero ได้จะขำกับฉาก MV แน่นอน) และสุดท้ายคือเพลงใหม่ที่ร้องโดยฟูจิโนะมิยะนั่นเองครับ
โดยรวมแล้วเราประทับใจกับเดโมในครั้งนี้มากจนอยากให้เกมออกวันนี้เลยเสียด้วยซ้ำไปครับ ไว้ถ้าเกมจริงวางจำหน่ายแล้วก็รออ่านรีวิวจากเราได้เลย!