Sand Land – รีวิว [Review]
* ขอขอบคุณโค้ดรีวิวจาก Bandai Namco Entertainment Asia มา ณ โอกาสนี้
** รีวิวนี้เป็นตัวเกมฉบับ PlayStation 5
SAND LAND คือผลงานมังงะต้นฉบับโดยอาจารย์อากิระ โทริยามะ ผู้ให้กำเนิดดราก้อนบอล และด็อกเตอร์สลัมป์ โดยผลงานเรื่องนี้ตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ และผลงานที่รวบรวมได้เป็นจำนวนหนึ่งเล่มนี้ก็ได้รับความนิยมทั่วโลกนับแต่ตีพิมพ์เมื่อปี 2000
ผมโชคดีที่เกิดทันช่วงวางจำหน่ายของมังงะแซนด์แลนด์ ซึ่งต้องบอกว่า ตอนนั้นผมชื่นชอบการ์ตูนเรื่องนี้เป็นพิเศษครับ เพราะมันให้บรรยากาศของเรื่องสั้นที่สดใหม่ เปลี่ยนอารมณ์จากดราก้อนบอลที่ตามอ่านมานมนาน แถมเนื้อเรื่องก็สนุก ภาพวาดก็สวย เสียดายที่หนังสือการ์ตูนที่ผมเคยซื้อไว้ได้สูญหายไปตามกาลเวลาเรียบร้อยแล้ว
ล่วงเลยมาถึงปี 2024 ทางบันไดใจถึง จับมังงะแซนด์แลนด์มาทำออกมาเป็นเกมให้พวกเราได้เล่นกัน ในจังหวะเดียวกับที่โลกเราต้องพบกับข่าวเศร้าจากการสูญเสียบุคคลสำคัญอย่างอาจารย์โทริยามะพอดิบพอดี…การรีวิวเกมในครั้งนี้จึงเปรียบได้กับการคารวะและบอกลาอาจารย์เป็นครั้งสุดท้ายครับ
เนื้อเรื่อง
แซนด์แลนด์บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับมิตรภาพที่ไม่มีใครคาดคิดระหว่างมนุษย์และปีศาจในโลกอันโหดร้าย ที่ซึ่งน้ำกลายเป็นทรัพยากรหายากที่สุด ตัวเอก Beelzebub (ต้องอ่านว่า “บีเอลเซบับ” หรือออกเสียงเร็ว ๆ เป็น เบลเซบับ ก็ได้ครับ) เจ้าชายปีศาจและผู้ติดตามธีฟ จะต้องร่วมทางไปกับนายอำเภอราโอ ในการออกค้นหาน้ำพุในตำนานเพื่อช่วยเหลือบรรดาผู้อาศัยในแซนด์แลนด์ การเดินทางตระเวนทั่วโลกของพวกเขาจะเต็มไปด้วยมิตรภาพใหม่และการต่อสู้อันดุเดือด เพื่อต่อกรกับอันตรายแห่งผืนทรายและกองทัพของราชาแห่งแซนด์แลนด์
ด้านโลกในเกมนั้นจะถูกขยายออกไปด้วยเรื่องราวและดินแดนใหม่พิเศษ ภายใต้จินตนาการและการกำกับดูแลโดยอาจารย์โทริยามะ โดยเบลเซบับและผองเพื่อนจะต้องเดินทางสู่ฟอเรสต์แลนด์ (Forest Land) อันเป็นประเทศที่เขียวชอุ่ม ซึ่งแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับแดนทะเลทราย
ฟอเรสต์แลนด์นั้นถูกปกครองโดยกองทัพอันดุร้ายที่เป็นคู่ปรปักษ์กับแซนด์แลนด์อยู่ ผู้นำกองกำลังนี้คือมูนิเอล (Muniel) ผู้น่ากลัว (แม้ว่าจะมีรูปลักษณ์เหมือนเด็กน้อยก็ตาม) และเขามุ่งมั่นจะช่วยเหลือดินแดนของตนโดยการช่วงชิงอควอเนียมมาครอบครอง ซึ่งมันคือทรัพยากรอันทรงพลังและอันตราย
ดังนั้น แก่นเนื้อเรื่องหลักของเวอร์ชันเกม จะอยู่ที่ความท้าทายครั้งใหม่ของเบลเซบับ และผองเพื่อน ที่ต้องต่อสู้อย่างดุเดือดกับเหล่าแม่ทัพของฟอเรสต์แลนด์ ด้วยการสนับสนุนของแอน ช่างยนต์มากฝีมือ
เกมเพลย์
ตัวเกมเป็นแอ็กชันผจญภัย มีความเป็น RPG บ้างนิดหน่อย ไม่ถือว่าซับซ้อนอะไรมาก ออกจะเป็นแนวใส ๆ คล้ายเกมแคชชวลอยู่เหมือนกัน ผมเล่นแบบนอร์มอลไปหลายชั่วโมงมาก กว่าจะตายครั้งแรก แถมตายเพราะตกหลุมตกเหว มากกว่าสู้แพ้ศัตรูด้วยซ้ำไป
เกมนี้ช่วงแรกจะอืดมาก ๆ ครับ แถมเดินเรื่องตามอนิเมะซะจนผมที่ดูการ์ตูนมาแล้วทางดีสนีย์พลัส เกือบหลับระหว่างเล่นกันเลยทีเดียว แต่พอเข้าสู่ช่วงที่เราได้รถถังและหุ่นยนต์กระโดดสูงมาใช้งานแล้ว เกมการเล่นจะสนุกขึ้นอย่างมาก เพราะเบลเซบับและคณะจะได้พบกับโลกเปิดโอเพ่นเวิลด์ขนาดใหญ่ที่ให้อิสระเสรีในการออกรวบรวมไอเท็ม และบรรดาเควสต์รองต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อให้ผู้เล่นได้ชิ้นส่วนหายากต่าง ๆ มาใช้ประกอบเป็นยานยนต์หลากหลายรูปแบบ ที่จะต้องนำไปใช้สำหรับเควสต์หลักต่อไป
ทั้งนี้ การเดินเรื่องในช่วงกลางเกมจะต่างกับอนิเมะพอสมควร ไม่ต้องกังวลว่ามันจะเหมือนกันเป๊ะ ๆ นะครับ ด้านการเปิดแผนที่ เกมนี้เผยให้เห็นการหยิบยืมฟีเจอร์บางอย่างมาจากเกมโอเพ่นเวิลด์ตะวันตก อาทิ การตามหาและซ่อมแซมเสาวิทยุ เพื่อใช้ระบุพื้นที่กว้างโดยรอบ (คล้ายเกมอย่างฟาร์ คราย) เป็นต้น ส่วนฉากแผนที่ก็ไม่ได้ว่างเปล่าเกินไป ทีมงานเขาจะใส่พวกถ้ำ, แคมป์ร้าง ฯลฯ ที่มักจะมีหีบไอเท็มให้เราตามเก็บมาใช้ได้ (คล้ายเกมแมดแม็กซ์)
ทีมสร้างเกมแซนด์แลนด์ คือทีมเดียวกับที่ทำ One Piece Odyssey และผมเชื่อว่าใช้เอนจิ้นตัวเดียวกันด้วย เพราะบรรยากาศของโลกเกม ตลอดจนฟังก์ชันต่าง ๆ ในฉาก มันให้ความรู้สึกเดียวกับ One Piece Odyssey เป็นอย่างมาก
ด้านการต่อสู้ด้วยยานพาหนะ โดยเฉพาะรถถัง คือสิ่งที่คุณจะได้เล่นเยอะที่สุดในเกมนี้ครับ การต่อสู้ด้วยมือเปล่ามีไว้กับบอสบางตัวเท่านั้นแหละ ที่เหลือต้องขับรถถังไล่ยิงกันทั้งนั้น แต่ถือว่าโชคดีที่เกมเพลย์ในส่วนนี้เล่นสนุกจริง ออกแบบได้ดีเลยทีเดียว ผมไม่มีอะไรจะตำหนิในประเด็นนี้ครับ
แต่มีประเด็นหนึ่งเกี่ยวกับภารกิจที่ตัวเกมต้องการให้เราประกอบหุ่นยนต์ขึ้นมาชนิดนึง แล้วไม่บอกว่าชิ้นส่วนอยู่ตรงไหนในโลกเกมบ้าง ให้ไปหาเอาเอง หรือชิ้นส่วนไหนเราสามารถให้ช่างในเมืองประกอบให้เราได้บ้าง…คือไม่มีการบอกอะไรทั้งสิ้นครับ หากันไปสิ เดินหากันทั่วแผนที่โลก 555 นี่มันกลิ่นไอสไตล์เกม jRPG เก่าชัด ๆ ก็ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งครับ อย่างน้อยก็ถือเป็นตัวช่วยเพื่อไม่ให้เกมมันดูง่ายเกินไป
งานศิลป์
สำหรับหัวข้อนี้ ผมขออธิบายให้ทุกท่านได้ทราบกันแบบนี้ดีกว่า ว่า “ทุกตัวละครในเกม ทั้งที่มาจากต้นฉบับดั้งเดิมและที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ไปจนถึงบรรดายานยนต์และหุ่นยนต์ทั้งหมด ล้วนออกแบบโดย อากิระ โทริยามะ” แค่นี้พอมั้ยครับ จบนะ
บทสรุป
ถ้าจะให้สรุป…ผมมีความรู้สึกพิเศษสำหรับแซนด์แลนด์ ตรงที่มันเหมือนเป็นเกมสั่งลาของศิลปินชั้นครูที่มีอิทธิพลต่อคนทั้งโลก และตัวผมเองก็โตมากับดราก้อนบอลเหมือนกันกับหลาย ๆ ท่าน ทำให้เวลาได้เล่นเกมนี้ มันให้ความรู้สึกที่ปลื้มปลิ่ม…เอ่อล้น…มากกว่าเกมทั่วไป และก็เป็นบุญเหลือเกินที่บันไดนัมโคผลิตผลงานเกมนี้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันเล่นสนุกจริง เกมใหญ่เล่นได้นาน แถมภาพก็สวย ทางด้านเนื้อหาก็จรรโลงโลก ส่งเสริมค่านิยมที่ดี ความรุนแรงในเกมก็น้อยมากและไม่ถูกแสดงออกมาแบบจะแจ้งเกินไป เด็ก ๆ สามารถเล่นได้เลยครับไม่ต้องห่วง
จุดเด่น
- บรรยากาศในเกมถ่ายทอดโลกในจินตนาการของอากิระ โทริยามะ ออกมาได้ดีมาก นี่คือการแปลงมังงะให้ออกมาเป็นเกมได้ดีที่สุดแล้ว, ฉากต่าง ๆ ในโลกเกมนั้นสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
- ระบบตกแต่งยานยนต์ต่าง ๆ ทำได้ดี การต่อสู้ด้วยยานยนต์ก็สนุก และมีความหลากหลายไปตามแต่ละชนิดของยานพาหนะเหล่านั้น
- เนื้อเรื่อง สลับสับเปลี่ยนและสอดรับไปกับเวอร์ชันอนิเมะได้ดีมาก และเรื่องราวเพิ่มเติมในส่วนของดินแดนป่าไม้ก็เหมือนเป็นภาคต่อเติมเต็มให้กับมังงะต้นฉบับ (แฟนรุ่นเก่าเล่นแล้วถึงกับน้ำตาซึม)
จุดด้อย
- ระบบตัวช่วยในส่วนของแผนที่ ควรทำให้ดีกว่านี้ อย่างน้อยควรระบุจุดที่เราเคลียร์พื้นที่ไปแล้ว หรือเก็บไอเท็มไปหมดแล้ว จะได้ไม่ต้องวนไปมาซ้ำที่เดิม เพราะจุดเหล่านี้มันมีเยอะมาก เล่นไปนาน ๆ จำกันไม่ได้หรอกครับว่าตรงไหนเราไปมาแล้วบ้าง
- ระบบต่อสู้ด้วยยานพาหนะถือว่าดี แต่พอมาเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่าถือว่ายังออกแบบมาเรียบง่ายเกินไป ไม่ซับซ้อน จนดูเหมือนเกมโบราณสัก 5 ปี 10 ปีก่อนยังไงยังงั้น