![Kunitsu-Gami: Path of the Goddess – รีวิว [REVIEW]](https://thaigamewiki.com/wp-content/uploads/2024/07/Kunitsu-Gami_-Path-of-the-Goddess_Review-Cover-v2.jpg)
*ขอขอบคุณโค้ดรีวิวจาก Capcom Singapore มา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5
สำหรับ Kunitsu-Gami นี้ ถือเป็นเกม IP ใหม่เอี่ยมจาก Capcom ที่สร้างผลงานซึ่งครองใจเกมเมอร์มามากมายในแบบที่ว่าพูดชื่อไปหลายคนก็รู้จักทันทีอย่างเช่น Resident Evil, Street Fighter และ Devil May Cry เป็นต้น ถึงอย่างนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมา Capcom ก็มีเกมหลาย IP ในอดีตที่ผู้คนชื่นชมและชื่นชอบ แต่ปัจจุบันไม่ได้รับการสานต่อเท่าที่ควร ถึงอย่างนั้นก็เถอะ การมาถึงของ Kunitsu-Gami ในครั้งนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่าหลังจากนี้เราอาจจะได้เห็น Capcom นำไอเดียเก่า ๆ มาต่อยอดแตกแขนงออกไปมากขึ้นครับ
และผมคิดเห็นอย่างไรกับเกมนี้ เชิญอ่านต่อได้เลยครับ
เนื้อเรื่อง
สำหรับเรื่องราวใน Kunitsu-Gami นั้น บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหุบเขาคาฟุคุ (Kafuku) ที่ผู้คนใช้ชีวิตกันอยู่อย่างปกติสุข หากแต่ว่าในวันหนึ่งกลับได้มีมวลพลังงานลึกลับปรากฏขึ้นปกคลุมไปทั่วหุบเขา ความสงบสุขพลันพังทลาย ทั้งหมู่บ้าน ป่าไม้และลำธารก็แปรสภาพไปด้วยพลังของมลทิน อีกทั้งเหล่าภูตผีโยไคก็ออกอาละวาดเต็มไปหมด
โยชิโร (Yoshiro) ที่ทำหน้าที่เป็นมิโกะแห่งหุบเขา ได้พยายามต่อสู้โดยเรียกผู้พิทักษ์ของเธออย่างโซห์ (Soh) ออกมาต่อกร แต่พลังของเหล่ามลทินนั้นแข็งแกร่งเกินไป จนทำให้ทั้งสองคนต้องล่าถอยลงจากยอดเขา และตามหาบรรดาหน้ากากซึ่งมีพลังของเหล่าเทพสถิตอยู่ พร้อมรวบรวมสรรพกำลังกลับขึ้นยอดเขาไปจัดการกับต้นตอทั้งหมด
ถ้าจะให้พูดถึงด้านเนื้อเรื่องของเกมโดยรวมนี่ ผมคิดว่ามันค่อนข้างตรงไปตรงมาครับ เพราะเป้าหมายของเกมมันก็ชัดเจนตั้งแต่ฉากแรกนั่นล่ะที่ว่าเราต้องหาทางขจัดมลทินให้สิ้นไปจากภูเขาแห่งนี้ ดังนั้นพวกเสียงพากย์หรือการบรรยายอะไรแบบนั้นก็จะมีหลัก ๆ ในช่วงต้นเกมที่เป็นคัตซีนบ้าง เป็นภาพวาดสไตล์อุคิโยเอะบ้าง แต่ในระหว่างเกมก็จะไม่มีบอกเล่าเนื้อหาอะไรเพราะว่าแต่ละจุดก็เน้นการขจัดปัดเป่ามลทินของแต่ละสถานที่ล้วน ๆ
เอาเป็นว่า ในฉากคัตซีนเอย สู้บอสเอย ชนะบอสเอย โยชิโรกับโซห์ไม่มีฉากคุยกันเลยครับ เต็มที่ก็จะเป็นพวกเสียงประกอบในระหว่างเล่นที่พอศัตรูเข้าใกล้โยชิโร เสียงขอความช่วยเหลือของเธอจะดังออกจากลำโพงที่คอนโทรลเลอร์เพื่อเรียกให้เรากลับไปช่วยเหลือแค่นั้นเอง ถึงอย่างนั้น เมื่อดำเนินเรื่องไปมันก็จะมีเหตุการณ์มีอะไรที่ทำให้เห็นได้ว่าสถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียดและคับขัน จึงชวนให้ติดตามต่อเหมือนกันว่าเกมจะดำเนินไปในทิศทางใดต่อ
แต่ถ้าในแง่ของตัวละครแต่ละคนนั้นจะไม่ค่อยมีอะไรให้พูดถึงมาก ด้วยความที่ไม่มีบทพูดโต้ตอบระหว่างกันก็เลยทำให้ไม่ค่อยจะรู้ว่าแต่ละคนมีบุคลิกนิสัยเป็นอย่างไรกันนี่ล่ะครับ ซึ่งถ้ามองธรรมชาติของเกมว่าไม่ได้เน้นที่เนื้อหาผมก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนัก ส่วนถ้าใครอยากทราบ lore หรือเซ็ตติ้งของเกมให้มากขึ้นก็อ่านได้จากพวกแผ่นป้ายเอมะ (Ema Plaque) หรือไม่ก็ม้วนภาพเอมากิ (Emaki Scroll) อะไรแบบนั้นครับ
เกมเพลย์
รายละเอียดของเกม Kunitsu-Gami นี้ถูกระบุเอาไว้ว่าเป็นแนว Kagura Action Strategy แต่ว่ามันหมายถึงอะไรล่ะ?
ระบบต่อสู้
ตอนกลางวัน
รูปแบบการเล่นของเกมนี้จะแบ่งออกเป็นสองช่วงเวลาในแต่ละฉาก นั่นคือกลางวันและกลางคืนครับ ในช่วงกลางวัน คุณจะต้องใช้เวลาที่มีจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด โดยวิ่งออกสำรวจฉากเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่โดนกักขังในสภาวะรังไหม รวมถึงขจัดมลทินต่าง ๆ ที่กระจายทั่วฉาก ซึ่งทรัพยากรสำคัญของคุณที่ต้องบริหารจัดการก็คือสิ่งที่เรียกว่าคริสตัลครับ
คริสตัลเหล่านี้จะมีการใช้งานหลัก ๆ สองประการคือประการแรก ใช้เพื่อลากเส้นทางให้โยชิโรเดินตามแล้วมุ่งหน้าไปยังประตูโทริอิที่เป็นเส้นชัยในแต่ละฉากเพื่อทำการชำระล้าง และอีกประการคือการกำหนดบทบาทหน้าที่ให้กับชาวบ้านที่เราช่วยเหลือ เพื่อมาเป็นกำลังรบให้เราในตอนกลางคืน และก็แน่นอนว่าแต่ละบทบาทจะมีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป จำนวนคริสตัลที่ใช้ก็ต่างกันด้วย
แม้ว่าอาจจะฟังดูธรรมดา แต่เอาเข้าจริงเมื่อดำเนินเรื่องไปเรื่อย ๆ เกมก็จะมีการใส่กิมมิคใหม่ ๆ เข้ามาท้าทายคนเล่นเสมอครับ บางฉากก็อาจมืดสนิทและมีเพียงแสงไฟจากตะเกียงหิน คุณก็ต้องไปคอยจุดไฟไม่เช่นนั้นชาวบ้านจะช่วยเราสู้ไม่ได้ บางฉากนี่ตัวเราช่วยต่อสู้ไม่ได้และต้องอาศัยเพียงชาวบ้านที่เราเกณฑ์มาอย่างเดียว และอะไรอีกมากมายที่จะทำให้คุณต้องคอยปรับวิธีการเล่นอยู่เนือง ๆ เหมือนกัน
สิ่งที่ผมค่อนข้างชอบก็คือในแต่ละฉากนั้น มันจะมีไอเท็มซุกซ่อนอยู่ บ้างก็เป็นจุดที่คุณยังไปไม่ได้เพราะทางขาดจนกว่าจะไปเกณฑ์ชาวบ้านมาซ่อมแซมเส้นทางก่อน บางจุดก็มีพวกกล่องสมบัติที่ฝังดินและคุณจะเก็บไม่ได้จนกว่าจะเรียกชาวบ้านที่รับบทบาทเป็นหัวขโมยมาขุดขึ้นจากดินให้คุณเก็บ บางที่ก็เป็นจุดที่ไปไม่ได้เลยจนกว่าคุณจะปลดสกิลยิงธนูวาร์ปไปก่อน อะไรแบบนั้น ดังนั้นค่อนข้างจะเป็นไปได้ยากที่การเล่นฉากใดเพียงรอบเดียวแล้วคุณจะเก็บอะไร ๆ ได้ครบครับ
นอกเหนือจากนั้นแล้ว ตามฉากจะยังมีพวกกับดักกระจัดกระจายมากมาย ซึ่งกับดักเหล่านี้คุณจะต้องเรียกช่างไม้มาซ่อมแซมและแต่ละชิ้นก็จะใช้เวลาในการซ่อม ดังนั้นคุณต้องวางแผนแต่เนิ่น ๆ เหมือนกันว่าคุณจะให้โยชิโรเดินไปจุดไหน หรือหยุดอยู่ตำแหน่งไหนเพื่อที่จะรับมือกับศัตรูในตอนกลางคืน เพราะการที่ปล่อยให้โยชิโรเดินไปตามเส้นทางนั้น บางทีอาจทำให้คุณเข้าช่วงกลางคืนในตำแหน่งที่เสียเปรียบทีหลังครับ
ตอนกลางคืน
พอตะวันตกดิน โยชิโรจะหยุดอยู่กับที่ทันที และคุณจะไม่สามารถสำรวจอะไรในฉากได้อีก รวมถึงบรรดาศัตรูมากมายจะหลั่งไหลกันมาเพื่อโจมตีโยชิโร หากว่าเธอพลังชีวิตหมดก็จะเกมโอเวอร์ ส่วนในด้านของคุณเองนั้น หากว่าคุณพลังชีวิตหมดก็จะอยู่ในสภาวะวิญญาณและจะต้องรอเวลาเพื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งก็จะทำให้เกิดความเสียเปรียบอย่างมากเหมือนกัน ยิ่งในฉากหลัง ๆ นี่โผล่กันมาอย่างกับน้ำป่าไหลหลากแถมยังมีหลากหลายประเภทในคราวเดียว
สิ่งที่คุณจะทำได้เพื่อรับมือก็คือการมอบบทบาทให้กับชาวบ้านแต่ละคน จากนั้นก็จัดวางแต่ละคนในตำแหน่งที่เหมาะสมกับสถานการณ์และตำแหน่งที่คุณอยู่ โดยที่เกมก็ยืดหยุ่นระดับหนึ่งครับ เพราะถ้าคุณรู้สึกว่ายูนิตที่คุณมีอยู่ไม่เหมาะกับการสู้ คุณก็สามารถเลือกเปลี่ยนบทบาทของแต่ละคนได้ตลอด เพียงแต่ว่าในการเปลี่ยนแต่ละรอบก็จะต้องใช้คริสตัลทุกครั้ง ดังนั้นการกดเปลี่ยนเล่น ๆ ไปมานี่จะทำให้ทรัพยากรคริสตัลของคุณหมดไปง่าย ๆ ได้เหมือนกัน
ในช่วงแรก ๆ นั้นบทบาทที่มีจะยังไม่ค่อยเยอะ แต่เมื่อเล่นไปก็จะเริ่มมีบทบาทที่ใช้งานได้เยอะขึ้น และนั่นก็ทำให้คุณหาความสอดคล้องกันระหว่างยูนิตได้มากขึ้น เป็นการเปิดโอกาสให้ลองกลยุทธ์ใหม่ ๆ ครับ เช่นคุณอาจมีซูโม่วางไว้ตรงหน้าเป็นตัวแทงก์และดึงความสนใจศัตรู วางคนทรงเอาไว้ด้านหลังเพื่อคอยฟื้นพลังชีวิต แปะนักพรตไว้ตรงกลางเพื่อคอยใช้เวทหน่วงการเคลื่อนไหวศัตรู และด้านข้างก็อาจวางคนตัดไม้หรือนักธนูเอาไว้คอยเสริมการโจมตี ฯลฯ เกมนี้จะเปิดโอกาสให้ลองหา synergy ของทีมค่อนข้างเยอะครับ
ทั้งนี้ นอกจากชาวบ้านแล้ว ตัวของโซห์เองก็มีความสามารถที่ดีเยี่ยมครับ เรียกได้ว่านอกจากพาร์ตกลยุทธ์แล้ว พาร์ตแอ็กชันก็ทำออกมาได้สนุกไม่แพ้กัน ซึ่งช่วงต้นเกมนั้นความสามารถของโซห์ก็จะเป็นอะไรอย่างที่คาดหมายได้จากเกมแอ็กชัน โจมตีคอมโบ โจมตีหนักปิดคอมโบ หลบหลีก ป้องกัน กดใช้ท่าใหญ่ อะไรแบบนั้น แต่เมื่อเริ่มเล่นไป เราก็จะเริ่มอัปเกรดโซห์ได้ทำให้ความสามารถหลากหลายขึ้น เช่นการเพอร์เฟกต์แพรี่ การเคาเตอร์ การใช้ท่าสังหารเมื่อศัตรูมึนงง รวมถึงปลดสกิลยิงธนู หรือเพิ่มช่องใส่เครื่องราง ฯลฯ
บอสไฟต์ของเกมนี้ก็ทำออกมาได้เข้าท่าและสนุกครับ ส่วนใหญ่จะมีวิธีในการสู้ที่ค่อนข้างเห็นได้ชัดเจนอยู่ว่าควรต้องหลบยังไง ตีแบบไหน ใช้วิธีอะไรรับมือ แต่เกมก็ไม่ได้ง่ายแบบหลับตาเล่นได้ในรอบแรกที่คุณเจอบอส เว้นแต่ว่าคุณจะย้อนกลับมารังแกบอสเมื่ออัปเกรดไปเยอะมากแล้ว ถึงตอนนั้นคุณจะยกพวกชาวบ้านไปรุมตีบอสจนบอสตายแบบงง ๆ ก็เป็นไปได้อยู่ครับ
การพัฒนาฐาน
นอกจากการต่อสู้ปกติแล้ว เมื่อคุณเคลียร์ฉากไหนไปและชำระล้างมลทินให้ฉากนั้น คุณก็จะได้เข้าถึงสิ่งที่เป็นฐานปฏิบัติการของคุณ ซึ่ง ณ ที่นี่จะมีกระโจมของโยชิโรอันทำหน้าที่เป็นเหมือนหัวใจหลักในการปรับแต่งรูปแบบการเล่นของคุณเอง
ในกระโจมของโยชิโรนั้น คุณจะได้อัปเกรดบทบาทของชาวบ้าน หรืออัปเกรดความสามารถของโซห์ โดยที่การอัปเกรดเหล่านี้หากคุณไม่ชอบใจ หรือรู้สึกว่าตนเองอัปผิดก็สามารถถอนอัปเกรดได้ตลอดเวลา หรือถ้าเล่นฉากไหนแล้วอยากจะบัฟยูนิตใดเป็นพิเศษ ก็อัปเฉพาะกิจแล้วค่อยถอนกลับมาก็ได้หมดครับ ซึ่งการอัปเกรดเหล่านี้จะใช้สิ่งที่เรียกว่ามุสุบิ (Musubi) ที่มักได้รับจากการเคลียร์ฉากแต่ละฉากในรอบแรก หรือการทำเงื่อนไขแชลเลนจ์ในฉากนั้น รวมถึงการซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างในฐานที่เสียหาย
ไม่เพียงแค่นั้น แต่คุณยังสามารถปรับแต่งความสามารถของโซห์ได้จากในกระโจม ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนกั่นดาบที่จะทำให้ใช้ท่าพิเศษได้ เปลี่ยนความสามารถพิเศษของธนู เปลี่ยนท่าดาบ สลับเครื่องรางมาโซ ฯลฯ ทั้งหมดทั้งมวลนี้รวมอยู่ที่เดียวคือในกระโจมนี่ล่ะครับ บางทีโยชิโรก็จะหยิบขนมมานั่งกินให้เราดูด้วยนะ
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งของฐานแต่ละแห่งก็คือการซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างครับ ซึ่งการจะซ่อมแซมแต่ละจุดได้นั้น จะต้องเกณฑ์ชาวบ้านให้ถึงตามจำนวนคนที่กำหนด โดยเกมจะบอกว่าระยะเวลาในการซ่อมแซมนั้นนานแค่ไหน แต่ว่าวิธีการนับเวลาของการซ่อมแซมฐานจะนับจากจำนวนฉากที่เล่นเคลียร์แทนครับ ดังนั้นคุณก็สามารถเลือกสิ่งที่จะซ่อม จากนั้นก็ไปเล่นฉากเก่า หรือเล่นฉากใหม่แล้วค่อยย้อนมาดูความสำเร็จทีหลัง
ภาพรวมของเกมเพลย์
ในแง่ของระบบการเล่นนั้น เกมนี้ออกแบบมาเน้นการเล่นวนซ้ำฉากเดิมครับ นั่นเพราะว่าในรอบแรกที่คุณเล่นแต่ละฉากคุณจะไม่ทราบเงื่อนไขพิเศษในการเล่นให้ได้รางวัลเลย จะต้องผ่านก่อนหนึ่งรอบเสมอ แต่ถ้าคุณเล่นเข้าเงื่อนไขแต่แรกก็จะได้รางวัลมาเลย ซึ่งรางวัลที่ว่าก็มักเป็นพวกเครื่องรางใหม่ ๆ หรือไม่ก็เป็นมุสุบิไว้อัปเกรดอะไรแบบนั้น มันก็เลยจูงใจในตัวเองให้ต้องวนมาเล่นหลายรอบอยู่
เมื่อบวกกับระบบพัฒนาฐานที่เน้นนับเวลาจากการเคลียร์ฉากเป็นหลัก ทุกอย่างในเกมก็เลยออกแบบมาให้ต้องเล่นซ้ำเป็นทุนเดิม แต่ส่วนตัวผมไม่ได้รู้สึกว่ามันซ้ำซากหรืออะไรนะครับ รู้สึกว่ามันเป็นโปรเกรสของเกมที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติอยู่
กราฟิกและการนำเสนอ
ในส่วนของกราฟิกนั้น เกมนี้ไม่ได้เน้นนำเสนอความละเอียดของกราฟิกที่สมจริงเหมือน IP ใหญ่เกมอื่น ๆ ของ Capcom แต่สิ่งที่ทำให้โดดเด่นมากก็คืออาร์ตสไตล์ครับ สีสันและลวดลาย รวมถึงเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ของเกมนี่จัดจ้านมาก เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของตัวละครในเกมนี่ดูรู้ชัดว่าเป็นญี่ปุ่นโบราณ แต่มีการออกแบบที่ดูโมเดิร์นชัดเจนโดยที่ยังคงธีมเอาไว้ได้แบบไม่ขัดตา
นอกจากนั้นแล้ว ผมชอบดีไซน์พวกศัตรูในเกมนี้ที่อ้างอิงชื่อและคุณลักษณะมาจากเหล่าภูตผีโยไคพื้นบ้านของญี่ปุ่นจริง ๆ เพียงแต่ว่าเกมนี้ไม่ได้หยิบเอาดีไซน์ที่เราคุ้นตาจากสื่อบันเทิงอื่น หรือจากพวกภาพวาดโบราณมาใช้ตรง ๆ แต่ปรับรูปลักษณ์มาเป็นสไตล์ของเกมที่เหมือนเป็นพวกกลุ่มก้อนวิญญาณร้ายที่รวมตัวกัน บางตัวนี่คืออาจดูไม่ออกในทีแรกว่ามันตัวอะไร แต่พอเห็นพฤติกรรมของมัน การโจมตีของมัน รวมถึงรูปลักษณ์ในเกม มันก็เลยทำให้รู้สึกได้เลยว่าเออใช่แล้วแน่ ๆ ตัวอย่างที่เห็นชัดก็อย่างพวกคาไมตาจิ หรือไม่ก็ซึรุเบะโอโตชินี่ล่ะครับ ผมเชื่อว่าใครที่ชื่นชอบพวกตำนานภูตผีโยไคญี่ปุ่นเป็นทุนเดิม น่าจะชอบศัตรูแต่ละตัวในเกมนี้ได้ไม่ยากครับ
การนำเสนออีกอย่างที่ชัดเจนก็คือ พวกท่วงท่าต่าง ๆ ในเกมจะอ้างอิงมาจากระบำคางุระที่มีอยู่จริง ไม่ว่าจะการขจัดมลทิน หรือพวกท่าตวัดดาบของโซห์ที่มีลักษณะเหมือนเป็นการร่ายรำไปในตัว ถ้าพูดในแง่ของการนำเสนอนี่ถือได้ว่าโดดเด่นเป็นพิเศษมากครับ
เพลงประกอบ
ในส่วนของเพลงประกอบนั้นทำออกมาได้ยอดเยี่ยมสมกับธีมของเกมที่เป็นญี่ปุ่นโบราณครับ เพลงประกอบนี่เน้นใช้พวกเครื่องดนตรีพื้นบ้านญี่ปุ่นเป็นหลัก เลยได้บรรยากาศในลักษณะของญี่ปุ่นยุคโบราณแท้ ๆ เลย ไม่ว่าจะเพลงตอนสู้กลางคืน เพลงตอนชำระล้าง เพลงตอนอยู่ในฐาน ฯลฯ เรียกได้ว่าจะเป็นตอนไหน OST ในเกมก็เข้ากั๊นเข้ากันในทุกช่วงจังหวะของเกมครับ
สรุป
Kunitsu-Gami นี่ถือเป็นเกม IP ใหม่จาก Capcom ที่ผมชอบมากกว่าที่คิดไว้ทีแรก ผสมวิธีเล่นในแบบแอ็กชันกับเกมป้องกันหอคอยเข้าไว้ด้วยกันได้กลมกล่อมกำลังดี เพียงแค่ว่าการออกแบบเกมให้เล่นฉากเดิมซ้ำหลายรอบนี่อาจจะไม่ถูกจริตบางคนครับ แต่ถ้าคุณเล่นแล้วคลิก คุณจะเพลินไปกับเกมได้แน่นอน นอกจากนี้แล้วยังมีอาร์ตสไตล์ที่โดดเด่นมาก จะเรียกว่าเป็นการเล่นภาพวาดก็คงไม่ผิด ซึ่งเราก็หวังว่าเกมจะประสบความสำเร็จจนกลายมาเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ขาประจำครับ
