ในเกม Kunitsu-Gami: Path of the Goddess นั้น นอกจากการบังคับโซห์ (Soh) ผู้เป็นตัวเอกเข้าฟาดฟันเหล่าศัตรูที่เป็นความพิโรธ (Seethe) แล้ว องค์ประกอบสำคัญอีกอย่างหนึ่งของเกมคือการมอบบทบาทให้แก่ชาวบ้านในแต่ละฉากเพื่อทำหน้าที่เป็นกำลังรบ และเป็นกำลังสนับสนุนให้เราผ่านฉากได้โดยสะดวก
และในคราวนี้เราจะมาแนะนำรายละเอียดเกี่ยวกับบทบาททั้งหมด 12 ชนิดที่ผู้เล่นจะได้มอบหมายให้แก่ชาวบ้านในเกมครับ
ก่อนอื่นเลยสิ่งที่ควรทราบก็คือแต่ละบทบาทนั้นคุณจะสามารถอัปเกรดได้ทั้งหมด 6 ขั้นด้วยกัน ซึ่งขั้นที่ 1, 2, 4, 5 นั้นจะเป็นการเพิ่มค่าพลังพื้นฐานของบทบาทดังกล่าว ส่วนขั้นที่ 3 และ 6 จะเป็นการเพิ่มความสามารถพิเศษที่ทำให้บทบาทนั้น ๆ มีประโยชน์ใช้สอยที่เพิ่มมากขึ้น เช่นท่าโจมตีที่ลดค่า Resist ของศัตรูที่เมื่อลดจนหมดแล้วโซห์จะเข้าไปใช้ท่าสังหารได้ (หากว่าอัปเกรดท่าไว้)
Woodcutter (คนตัดไม้)
สำหรับคนตัดไม้นี้ เรียกได้ว่าเป็นบทบาทพื้นฐานสำหรับการโจมตีระยะประชิดของเกมและใช้คริสตัลไม่เยอะ เหมาะกับการสู้กับศัตรูทั่วไปที่ไม่ได้เก่งกาจมากนัก แต่หากว่าคุณอัปเกรดจนเต็มที่แล้วพวกเขาก็แข็งแกร่งไม่เบาเหมือนกัน ยิ่งถ้ามีปริมาณมากล่ะก็คุณจะยกพวกไปถล่มบอสได้แบบไม่ยากเย็นเลย
อัปเกรด 1 เพิ่มพลังชีวิตเล็กน้อย
อัปเกรด 2 เพิ่มพลังโจมตีเล็กน้อย
อัปเกรด 3 Gale Slash คนตัดไม้จะออกท่าโจมตีในขณะที่วิ่งเข้าหาศัตรูและยังไล่ตามตัวที่จะหนีด้วย ท่านี้จะทำการลดค่า Resist ของศัตรู
อัปเกรด 4 เพิ่มพลังชีวิตอย่างมาก
อัปเกรด 5 เพิ่มพลังโจมตีอย่างมาก
อัปเกรด 6 Ravaging Blows คนตัดไม้จะใช้ท่าโจมตีต่อเนื่องอย่างรุนแรงก่อนจะปิดฉากด้วยการกระโดดจามขวานจากด้านบน ท่านี้จะทำการลดค่า Resist ของศัตรู
Archer (พลธนู)
พลธนูนี้ ถือเป็นบทบาทพื้นฐานสำหรับการโจมตีระยะไกล และก็เช่นกันที่พวกเขาจะใช้คริสตัลไม่เยอะ พลธนูจะมีประโยชน์มากในการจัดการกับศัตรูที่บินอยู่เพราะว่าบรรดาบทบาทที่โจมตีประชิดจะเล่นงานศัตรูเหล่านั้นไม่ได้หากว่าพวกมันไม่ลดระดับลงมา ถ้าคุณใช้งานพลธนูควบคู่กับคนตัดไม้ก็จะรับมือศัตรูในสถานการณ์ทั่ว ๆ ไปได้ดี
อัปเกรด 1 เพิ่มพลังชีวิตเล็กน้อย
อัปเกรด 2 เพิ่มพลังโจมตีเล็กน้อย
อัปเกรด 3 Incendiary Shot เพิ่มระยะการโจมตีของพลธนูและจะโจมตีด้วยลูกธนูไฟได้ ท่านี้จะทำการลดค่า Resist ของศัตรู
อัปเกรด 4 เพิ่มพลังชีวิตอย่างมาก
อัปเกรด 5 เพิ่มพลังโจมตีอย่างมาก
อัปเกรด 6 Double Shot พลธนูจะง้างธนูได้เร็วขึ้นและยิงธนูได้สองลูกติดต่อกัน ท่านี้จะทำการลดค่า Resist ของศัตรู
Sumo Wrestler (นักซูโม่)
นักซูโม่นี้เรียกได้ว่าเป็นบทบาทที่รับหน้าที่ตัวแทงก์ของเกม เพราะเมื่อคุณเลือกใช้พวกเขาแล้ว พวกเขาจะทำหน้าที่ดึงความสนใจของศัตรูให้มุ่งเล่นงานตนเป็นหลัก ดังนั้นค่าพลังชีวิตของพวกเขาจึงสูงมากเพื่อให้รับมือการโจมตีได้นาน แต่นอกเหนือไปจากความถึกแล้วพลังโจมตีของพวกเขาก็รุนแรงไม่เบา หากคุณอัปเกรดจนเต็มล่ะก็พวกเขาจะแทบเป็นบทบาทที่คุณเลือกใช้ในแทบทุกฉากได้เลย
อัปเกรด 1 เพิ่มพลังชีวิตเล็กน้อย
อัปเกรด 2 เพิ่มพลังโจมตีเล็กน้อย
อัปเกรด 3 Sumo Stomp นักซูโม่จะใช้ท่ากระทืบพื้นให้แตกเพื่อทำให้ศัตรูเสียหลักและยังสร้างความเสียหายได้ด้วย เพียงแต่จะไม่ได้ผลกับศัตรูที่บินได้ ท่านี้จะทำการลดค่า Resist ของศัตรู
อัปเกรด 4 เพิ่มพลังชีวิตอย่างมาก
อัปเกรด 5 เพิ่มพลังโจมตีอย่างมาก
อัปเกรด 6 Onslaught นักซูโม่จะใช้ท่าโจมตีไปข้างหน้าอันรุนแรงได้ ท่านี้จะทำการลดค่า Resist ของศัตรูอย่างมาก
Shaman (คนทรง)
คนทรงนี้ ถ้าจะให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือตัวฮีลประจำเกมนั่นเอง เมื่อคุณเลือกใช้พวกเธอแล้วใครก็ตามที่อยู่ในรัศมีของสกิล (รวมถึงโซห์) ก็จะได้รับการฟื้นฟูพลังชีวิตทีละน้อย ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือเธอจะฮีลตัวเองไม่ได้ และจะไม่มีท่าโจมตีเลย การวางตำแหน่งของเธอไว้ไม่ให้ปะทะกับศัตรูจึงเป็นสิ่งจำเป็น ทั้งนี้หากคุณเลือกใช้นักซูโม่แล้วจัดวางตำแหน่งของคนทรงเอาไว้ด้านหลังก็เป็นการเล่นสอดประสานที่ใช้งานได้ดี หรือจะวางไว้ให้ช่วยฮีลบรรดาบทบาทที่ต้องไปบู๊ประชิดเสมอ ๆ ก็ดีไม่แพ้กัน
อัปเกรด 1 เพิ่มพลังชีวิตเล็กน้อย
อัปเกรด 2 เพิ่มปริมาณการฟื้นฟูพลังชีวิตเล็กน้อย
อัปเกรด 3 Healing Range Increase ขยายระยะของรัศมีสกิลออกไปเล็กน้อย
อัปเกรด 4 เพิ่มพลังชีวิตอย่างมาก
อัปเกรด 5 เพิ่มปริมาณการฟื้นฟูพลังชีวิตอย่างมาก
อัปเกรด 6 Resurrection เมื่อพลังชีวิตของคนทรงหมดลงในการต่อสู้ เธอจะทำการชุบชีวิตให้กับชาวบ้านที่พลังชีวิตหมดไปและอยู่ในสภาวะรังไหม แต่การคืนชีพด้วยสกิลนี้จะใช้ได้หนึ่งครั้งต่อหนึ่งคืนเท่านั้น
Ascetic (นักพรต)
นักพรตนี้ เป็นอีกหนึ่งบทบาทสายสนับสนุนเพราะไม่มีท่าโจมตีศัตรูโดยตรง แต่ความสามารถของนักพรตนั้นก็มีประโยชน์ไม่แพ้บทบาทอื่น ๆ เพราะความสามารถของเขาคือการใช้เวททำให้ศัตรูในรัศมีมีการเคลื่อนไหวที่ช้าลง ซึ่งจะเปิดโอกาสให้คนอื่น ๆ โจมตีได้ง่ายขึ้น แน่นอนว่าความสามารถของนักพรตก็มีผลกับบรรดาบอสต่าง ๆ ในเกมด้วยเช่นกัน
อัปเกรด 1 เพิ่มพลังชีวิตเล็กน้อย
อัปเกรด 2 เพิ่มรัศมีของเวทขึ้นเล็กน้อย
อัปเกรด 3 Binding Spell เวทของนักพรตจะทำให้ศัตรูเคลื่อนไหวช้าลงนานขึ้นกว่าเดิม
อัปเกรด 4 เพิ่มพลังชีวิตอย่างมาก
อัปเกรด 5 เพิ่มรัศมีของเวทขึ้นอย่างมาก
อัปเกรด 6 Killing Curse นอกจากการทำให้ศัตรูเคลื่อนไหวช้าลงแล้ว เวทของนักพรตจะสร้างความเสียหายและลดพลังป้องกันของศัตรูด้วย
Spearman (พลหอก)
สำหรับพลหอกนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นเวอร์ชันอัปเกรดของคนตัดไม้ เพราะเป็นบทบาทสายโจมตีระยะประชิดแบบเดียวกันแต่จะใช้คริสตัลจำนวนมากกว่า จุดเด่นของพลหอกคือการโจมตีที่รุนแรงกว่าคนตัดไม้แต่มีความเร็วในการโจมตีที่ด้อยกว่า แต่ถึงอย่างนั้น หากคุณใช้งานพวกเขาในปริมาณมากก็สามารถทำให้บอสต้องหลั่งน้ำตาได้แน่นอน
อัปเกรด 1 เพิ่มพลังชีวิตเล็กน้อย
อัปเกรด 2 เพิ่มพลังโจมตีเล็กน้อย
อัปเกรด 3 Deluge Attack พลหอกจะใช้ท่าระดมแทงอย่างรวดเร็ว ท่านี้จะทำการลดค่า Resist ของศัตรู
อัปเกรด 4 เพิ่มพลังชีวิตอย่างมาก
อัปเกรด 5 เพิ่มพลังโจมตีอย่างมาก
อัปเกรด 6 Tempest Strike พลหอกจะใช้ท่าโจมตีในวงกว้างโดยเหวี่ยงฟาดหอกก่อนปิดท้ายด้วยท่าแทงอันรุนแรง ท่านี้จะทำการลดค่า Resist ของศัตรู
Marksman (พลปืน)
พลปืนก็เรียกได้ว่าเป็นเวอร์ชันอัปเกรดของพลธนูเช่นกัน ด้วยความที่เป็นสายโจมตีระยะไกลแบบเดียวกัน และก็แน่นอนว่าใช้คริสตัลจำนวนมากกว่าพลธนู จุดเด่นของพลปืนคือการโจมตีที่รุนแรงกว่าพลธนูแต่จะมีความเร็วในการโจมตีที่ด้อยกว่าเพราะเขาจะต้องใส่กระสุนใหม่ทุกนัดที่ยิงออกไป หากว่าคุณใช้งานพวกเขาร่วมกับพลหอกก็จะรับมือกับหลายสถานการณ์ได้อย่างไม่ยากเย็นเช่นกัน
อัปเกรด 1 เพิ่มพลังชีวิตเล็กน้อย
อัปเกรด 2 เพิ่มพลังโจมตีเล็กน้อย
อัปเกรด 3 Shot Range Increase เพิ่มระยะในการโจมตีของพลปืน
อัปเกรด 4 เพิ่มพลังชีวิตอย่างมาก
อัปเกรด 5 เพิ่มพลังโจมตีอย่างมาก
อัปเกรด 6 Quick Shot ลดระยะเวลาในการใส่กระสุนลงทำให้ยิงได้รวดเร็วขึ้น
Cannoneer (พลปืนใหญ่)
พลปืนใหญ่นี้เป็นสายโจมตีระยะไกลที่จะมีความพิเศษกว่าพลธนูและพลปืนในแง่ที่ว่าการโจมตีของพวกเขาจะกินพื้นที่เป็นวงกว้างกว่าและมีความรุนแรงมากกว่าอย่างชัดเจน การโจมตีของพลปืนใหญ่สามารถกวาดศัตรูได้เป็นจำนวนมากในคราวเดียว แต่ว่าหลังจากโจมตีไปแล้วหนึ่งทีก็จะใช้เวลานานมากในการบรรจุกระสุนปืนใหญ่เพื่อเตรียมยิงต่อไป ควรใช้งานเขาร่วมกับบทบาทอื่น ๆ ที่จู่โจมได้ต่อเนื่องรวดเร็วจะดีกว่าใช้งานโดยลำพัง
อัปเกรด 1 เพิ่มพลังชีวิตเล็กน้อย
อัปเกรด 2 เพิ่มพลังโจมตีเล็กน้อย
อัปเกรด 3 Fire Flower พลปืนใหญ่จะยิงกระสุนที่ทำจากดอกไม้ไฟได้ ซึ่งสะเก็ดประกายไฟที่กระเด็นร่วงลงมาจะสร้างความเสียหายให้แก่ศัตรูด้วยเช่นกัน ท่านี้จะทำการลดค่า Resist ของศัตรู
อัปเกรด 4 เพิ่มพลังชีวิตอย่างมาก
อัปเกรด 5 เพิ่มพลังโจมตีอย่างมาก
อัปเกรด 6 Enduring Flame สะเก็ดประกายไฟของกระสุนจากดอกไม้ไฟจะเหลือตกค้างอยู่บนพื้น หากศัตรูตัวไหนเดินมาโดนเข้าก็จะได้รับความเสียหาย ท่านี้จะทำการลดค่า Resist ของศัตรู
Sorcerer (นักเวท)
นักเวทนี้คือบทบาทที่อ้างอิงมาจากนักเวทองเมียวจิ ดังนั้นความสามารถของพวกเขาจึงเป็นการร่ายเวทเพื่อรวบรวมพลัง และเมื่อเกจเต็มนั้นคุณจะสามารถเรียกชิคิงามิออกมาใช้งานได้โดยมีผลลัพธ์เป็นการกำจัดศัตรูจำนวนมากในคราวเดียวเสมือนเป็นเวทอัญเชิญอสูรในเกมอื่น ๆ (กดเลือกใช้ด้วยปุ่มเดียวกับปุ่มสลับ Tsuba Guard ของคุณ)
แต่ว่าพวกเขาเป็นบทบาทที่ต่อสู้ด้วยตัวเองไม่ได้ จึงควรวางไว้ในตำแหน่งที่ปลอดภัย ข้อดีอย่างหนึ่งก็คือไม่ว่าจะอยู่จุดไหนพวกเขาก็ร่ายเวทสะสมพลังได้จึงเหมาะเรียกใช้เหมือนเป็นไม้ตายสำรองในยามคับขัน นอกจากนี้แล้วยิ่งคุณเลือกใช้งานพวกเขาหลายคน ความเร็วในการร่ายเวทสะสมพลังก็จะเร็วขึ้นด้วย
อัปเกรด 1 เพิ่มพลังชีวิตเล็กน้อย
อัปเกรด 2 เพิ่มความเร็วในการร่ายเวทเล็กน้อย
อัปเกรด 3 Paper Guardian นักเวทจะสามารถเรียกใช้ชิคิงามิเพื่อมารับการโจมตีแทนได้บางส่วน แต่หากชิคิงามิโดนทำลายก็จะเรียกใช้งานอีกไม่ได้จนกว่าจะถึงคืนใหม่
อัปเกรด 4 เพิ่มพลังชีวิตอย่างมาก
อัปเกรด 5 เพิ่มความเร็วในการร่ายเวทอย่างมาก
อัปเกรด 6 God of Retribution นักเวทจะสามารถเรียกใช้ชิคิงามิเพื่อเข้าสกัดและรับการโจมตีของศัตรูได้ ท่านี้จะทำการลดค่า Resist ของศัตรู
Priest (นักบวช)
นักบวชก็เป็นอีกหนึ่งบทบาทสายสนับสนุนที่จะไม่สามารถต่อสู้ได้ด้วยตัวเอง แต่ความสามารถของพวกเขาเป็นการร่ายเวทที่จะทำให้ศัตรูซึ่งอยู่ในสภาวะบ้าคลั่งกลับสู่สภาวะปกติ แม้ว่าจะฟังดูไม่ค่อยมีประโยชน์นักในทีแรก แต่เมื่อเล่นไปฉากหลังที่ศัตรูมากันทีป่าช้าแตกและอยู่ในสภาวะบ้าคลั่งล่ะก็ พวกเขาจะช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นได้แน่นอน
อัปเกรด 1 เพิ่มพลังชีวิตเล็กน้อย
อัปเกรด 2 เพิ่มรัศมีของเวทขึ้นเล็กน้อย
อัปเกรด 3 Groundbreaking Ceremony นักบวชจะสามารถชำระล้างพื้นที่ปนเปื้อนไปด้วยพิษของศัตรูได้ทำให้โซห์และชาวบ้านเดินบนจุดนั้นได้ปกติอีกครั้ง
อัปเกรด 4 เพิ่มพลังชีวิตเล็กน้อย
อัปเกรด 5 เพิ่มรัศมีของเวทขึ้นอย่างมาก
อัปเกรด 6 Purification Rites นักบวชจะสามารถขับไล่วิญญาณที่สิงสู่โยชิโรและชาวบ้านได้
Thief (หัวขโมย)
สำหรับหัวขโมยนี้เป็นอีกหนึ่งบทบาทสายสนับสนุนที่ไม่มีความสามารถด้านการต่อสู้เลย แต่ประโยชน์ใช้สอยหลักของเขาก็คือการขุดกล่องเก็บของที่ฝังดินอยู่ขึ้นมาตามฉากต่าง ๆ ซึ่งแต่ละฉากนั้นจะมีกล่องเก็บของที่บรรจุมุสุบิสำหรับอัปเกรดเอาไว้ด้วย ดังนั้นคุณควรมีหัวขโมยไว้คอยเก็บของเหล่านี้เช่นกัน อย่างน้อยก็ในรอบแรกที่เล่นฉากนั้น ๆ ครับ อย่างไรก็ตาม เมื่อกลางคืนมาเยือนแล้วหัวขโมยจะวิ่งไปหาที่ปลอดภัยทันที ดังนั้นถ้าคุณเก็บของครบแล้วคุณควรเปลี่ยนเขาเป็นบทบาทอื่นไว้รับมือศัตรูแทน
อัปเกรด 1 เพิ่มจำนวนเสบียงที่เก็บได้จากกล่องเก็บของเล็กน้อย
อัปเกรด 2 เพิ่มจำนวนคริสตัลที่เก็บได้จากกล่องเก็บของเล็กน้อย
อัปเกรด 3 Locksmith หัวขโมยจะสามารถสะเดาะกุญแจได้แล้ว (บางจุดจำเป็นต้องใช้สกิลนี้เพื่อเก็บของ)
อัปเกรด 4 เพิ่มจำนวนเสบียงที่เก็บได้จากกล่องเก็บของอย่างมาก
อัปเกรด 5 เพิ่มจำนวนคริสตัลที่เก็บได้จากกล่องเก็บของอย่างมาก
อัปเกรด 6 Magpie เมื่อกลางคืนมาเยือน หัวขโมยจะคอยวิ่งเก็บคริสตัลที่กระจัดกระจายให้กับโซห์
Ninja (นินจา)
นินจานี้อาจเรียกได้ว่าเป็นบทบาทพิเศษของเกม เพราะพวกเขาสามารถต่อสู้ได้ทั้งระยะประชิดด้วยดาบและใช้มีดสั้นปาโจมตีจากระยะไกล และไม่เพียงแค่นั้น แต่ระยะการออกแอ็กชันของพวกเขานั้นครอบคลุมทั้งฉาก ดังนั้นไม่ว่าคุณจะวางตำแหน่งพวกเขาไว้ที่ไหน พวกเขาก็จะวิ่งไปปะทะกับศัตรูเองโดยอัตโนมัติทุกครั้งซึ่งมันก็ถือเป็นข้อดี แต่บางทีก็ไปผิดจังหวะจนน่วมกลับมาครับ
อัปเกรด 1 เพิ่มพลังชีวิตเล็กน้อย
อัปเกรด 2 เพิ่มพลังโจมตีเล็กน้อย
อัปเกรด 3 Teleportation Jutsu สามารถใช้วิชาหายตัวเพื่อเคลื่อนที่ระยะไกลได้ในพริบตา
อัปเกรด 4 เพิ่มพลังชีวิตอย่างมาก
อัปเกรด 5 เพิ่มพลังโจมตีอย่างมาก
อัปเกรด 6 Elusion Jutsu เมื่อพลังชีวิตหมดลง นินจาจะใช้วิชาตัวตายตัวแทนเพื่อเอาตัวรอดได้ แต่จะใช้ได้หนึ่งครั้งต่อหนึ่งคืน
สำหรับใครที่อยากอ่านรีวิวของเกม Kunitsu-Gami: Path of the Goddess จากเราสามารถอ่านได้จากที่นี่: https://thaigamewiki.com/2024/07/15/kunitsu-gami-path-of-the-goddess-%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7-review/