Reviews

Tales of Graces f Remastered – รีวิว [REVIEW]

โดย ปอลนาโช่

รีวิว Tales of Graces f Remastered

*ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment Asia สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ

สมัยหนุ่ม ๆ ผมมีโอกาสได้เล่นเกมตระกูลเทลส์ ออฟ หลายต่อหลายภาค แต่ขอสารภาพเลยว่ากับไตเติล Tales of Graces (และ Tales of Graces f ของเครื่อง PS3) เป็นภาคที่ผมพลาดไป…พลาดแบบ พลาดโดยสิ้นเชิง! ไม่เคยแตะเลย ดังนั้น ในการเล่นเพื่อรีวิวสำหรับ Tales of Graces f Remastered ในคราวนี้ก็เหมือนกับผมได้เล่นเกมใหม่ในซีรีส์นี้เลยอ่ะครับ

ทีนี้ ระหว่างท่องเว็บหาอ่านข้อมูลการแนะนำเกมเบื้องต้น เพื่อทำความรู้จักกับ Tales of Graces ผมก็พบว่า ภาคนี้ทำผลงานไว้ได้ดีทีเดียว มีแฟนเกมทั่วโลกส่งเสียงยินดี, ชื่นชอบกันมากมาย และก็แน่นอนที่พวกเขาเหล่านั้นต่างก็รอคอยการรีมาสเตอร์ภาคนี้กันมาหลายปีแล้ว

และเมื่อชั่วโมงการเล่นของผมผ่านไปได้ด้วยดีแล้ว ผมก็พบว่า นี่มันเป็นยิ่งกว่าการรีมาสเตอร์เกมที่เสี่ยงต่อการสูญหายไปตามกาลเวลาให้กลับมามีชีวิตโลดแล่นในโลกเกมได้อีกครั้ง แต่มันจะกลายเป็นเกม jRPG ขั้นเทพแห่งยุคปัจจุบันได้เลยทีเดียวเชียวแหละ! เพราะอะไรน่ะเหรอ มาสิ..ผมจะเล่าให้ฟัง

เริ่มด้วยพล็อตเรื่องคร่าว ๆ กันก่อน กล่าวคือเซ็ตติ้งของเกมคือโลก Ephinea, ดวงดาวที่เต็มไปด้วยความเขียวขจี โลกนี้ถูกปกครองด้วยสามประเทศใหญ่ ซึ่งแต่ละประเทศถือครองพลังแห่ง Eleth ตัวเอก Asbel ได้ตั้งชื่อ “Sophie” ให้กับเด็กสาวที่เขาได้พบในสวนดอกไม้ผู้ไร้ความทรงจำ เขาและเจ้าชาย Richard จึงได้ผูกมิตรกับเธอ

เมื่อกาลเวลาผ่านไป Asbel และเพื่อน ๆ ก็เติบโตกลายเป็นนักรบเต็มตัว ซึ่งพวกเขาได้เข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ที่เกี่ยวพันกับชะตาของโลกเพื่อทำตามคำมั่นสัญญาที่ได้ให้กันไว้ในวันนั้น นอกจากนี้บท “Genealogy of the Future” ซึ่งเป็นบทท้ายของเนื้อหาหลักก็ถูกรวมอยู่ในคราวนี้ด้วย

ในส่วนของเกมเพลย์ ต้องบอกเลยว่า นี่คือจุดแข็งสำคัญของการรีมาสเตอร์ในครั้งนี้ เพราะทีมงานทำการบ้านมาดีมาก ปรับเกมให้เล่นได้สะดวกสุด ๆ เริ่มต้นด้วยการปรับปรุงคุณภาพกราฟิกของเกมให้คมชัดสวยงาม (แต่ภาพเกมต่าง ๆ ยังคงเหมือนต้นฉบับแบบเดิมนะครับ แค่คมชัดขึ้นเฉย ๆ)

ด้านฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ผมชอบมากก็ได้แก่ การบอกจุดหมายปลายทาง ในฉากแผนที่ โดยผู้เล่นสามารถกด L1 เพื่อดูลูกศรบอกทิศได้ หากเล่นถึงจุดที่ไม่รู้จะไปไหนต่อ แค่กดปุ๊บ เกมก็จะชี้นิ้วบอกให้เลย สะดวกสำหรับเกมที่มีฉากแบบล็อกตายตัว (ไม่สามารถหมุนภาพดูแบบ 360 องศา) เพราะหลายครั้งที่เรายืนหลงทิศอยู่ในฉาก ไอ่ฉากแผนที่โลกน่ะไม่เท่าไหร่ เพราะเราเห็นได้ไกลมากจากการซูมออกของตัวเกม แต่ในฉากภายในเมืองนี่แหละอย่างงงครับ หลงทางเป็นประจำ พอมีฟีเจอร์นี้ถือว่าช่วยได้ดีเลยทีเดียว

ที่ผมชอบอันต่อมาก็คือการกดข้ามอีเวนต์ และปรับการเจอศัตรูในฉากแผนที่ ซึ่งคุณตั้งค่าให้ข้ามมันไปได้ เหมาะกับคนที่ต้องการประหยัดเวลาเป็นอย่างมาก (ส่วนใครที่อยากได้รับประสบการณ์แบบดั้งเดิม ก็สามารถทำได้ อย่าลืมว่านี่เป็นแค่ออปชั่นนะครับ)

สุดท้ายก็คือระบบ Grade Shop อันคุ้นเคยจากซีรีส์ก็จะปลดล็อกตั้งแต่ต้นเลยเช่นกัน (เดิมจะปลดล็อคหลังจากจบเกมเท่านั้น) เพื่อประสบการณ์ในการเล่นอันสะดวกสบายกว่าเดิมยิ่งขึ้นไปอีก โดยคุณสามารถเลือกผลประโยชน์ได้หลากหลาย อาทิ ได้ค่าประสบการณ์มากขึ้นหลายเท่า, ได้เงินเพิ่มขึ้นมหาศาล ฯลฯ

อ้อ!…ยังมีอีกอย่างนั่นก็คือ บรรดา DLC กว่า 80 ชนิดที่วางจำหน่ายในเวอร์ชันต้นฉบับ อย่างเช่นชุดและการแชตระหว่างตัวละครก็ได้รวมอยู่ในเวอร์ชันนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

สรุป

สรุปแล้ว ผมคิดว่า Tales of Graces f Remastered คือการพยายามทำดีที่สุดแล้วของทีมงาน ในการที่จะจับเอาเกมเก่าในอดีตมาปัดฝุ่นเพื่อวางขายกันอีกครั้ง บางคนอาจเสียดายที่ไม่ใช่การรีเมก หรือบางคนอาจบอกว่า รีมาสเตอร์แล้วก็ยังดูเหมือนฉบับเดิมอยู่ดี แต่ผมมองอย่างนี้ครับว่า ตัวเกมมันมีของดีในตัวมันเอง (โดยเฉพาะเนื้อเรื่องกับระบบต่อสู้สุดมันส์) และเขาก็พยายามปรับเรื่องการเข้าถึง และการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เล่น ให้มันเล่นได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ ฉะนั้น ถ้าใครยังไม่เคยเล่นภาคนี้มาก่อนเลย (แบบผม) การซื้อหามันมาเล่นก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่นะ ไม่มีทางขาดทุนแน่นอนครับ

The Review

80% การรีมาสเตอร์ที่จริงใจ!

Tales of Graces f Remastered วางจำหน่ายแล้วบน PlayStation5, PlayStation4, Nintendo Switch, Xbox Series X|S, Xbox One และ PC ผ่าน Steam

80%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์