News Reviews

Raidou Remastered: The Mystery of the Soulless Army – รีวิว [REVIEW]

โดย G-jang

Raidou Remastered: The Mystery of the Soulless Army – รีวิว [REVIEW]

*ขอขอบคุณ SEGA Corporation สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5

สำหรับ Raidou Remastered: The Mystery of the Soulless Army เกมนี้ เป็นเกมฉบับรีมาสเตอร์ (ก็ตามชื่อ) ของเกมต้นฉบับที่เคยวางจำหน่ายบน PlayStation 2 ในปีค.ศ.2006 ครับ ซึ่งก็คงต้องออกตัวไว้ก่อนว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นการเล่นของคนที่เรียกได้ว่าไม่เคยเล่นต้นฉบับมาก่อน จึงจะไม่มีการเปรียบเทียบอะไรกับต้นฉบับนะครับ ว่าแล้วก็ไปอ่านกันเลยว่าผมรู้สึกอย่างไรกับเกมนี้บ้างครับ


เนื้อเรื่อง

สำหรับเรื่องราวในเกมนี้จะดำเนินเรื่องไปในประเทศญี่ปุ่นแห่งยุคไทโชปีที่ 20 หรือเทียบเท่าปีค.ศ.1931 นั่นเอง หากแต่ว่าเกมนี้เลือกที่จะเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์สมมติที่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นไม่เปลี่ยนยุคจากยุคไทโชไปเป็นยุคโชวะตามที่ควรจะเป็น (เพราะยุคไทโชกินเวลาเพียงแค่ 15 ปีเท่านั้น) ซึ่งนั่นก็จะเป็นหนึ่งในพล็อตที่จะเผยออกมาให้ทราบกันเมื่อคุณดำเนินเรื่องราวต่อไปครับ

ในเกมนี้คุณจะรับบทเป็นเด็กหนุ่มผู้สืบทอดชื่อของไรโด คุซุโนฮะ ซึ่งเขาเป็นลำดับที่ 14 ของกลุ่มก้อนองค์กรผู้อัญเชิญปีศาจที่คอยรักษาความสงบของญี่ปุ่นมานับตั้งแต่โบราณกาล และในวันที่เขาพิสูจน์ตัวเองว่าคู่ควรกับชื่อนี้เขาก็เริ่มหน้าที่ของตนทันที โดยเป็นทั้งเด็กนักเรียนม.ปลาย เป็นทั้งผู้ช่วยนักสืบประจำสำนักงานนักสืบนารุมิ และเป็นผู้พิทักษ์ความสงบแห่งเมืองหลวงโดยคอยกำจัดเหล่าภูตผีปีศาจที่ก่อความวุ่นวาย

วันหนึ่ง ที่สำนักงานนักสืบนารุมินั้น ไรโดและนารุมิผู้เป็นเจ้าของสำนักงานได้รับคำไหว้วานจากเด็กสาวคนหนึ่งที่ติดต่อมาและบอกพวกเขาให้ช่วยสังหารเธอซะ และท่ามกลางความสับสนนั้นเธอก็โดนกลุ่มทหารในชุดแดงลึกลับลักพาตัวไป จากเหตุการณ์นี้เองที่จะทำให้พวกเขาต้องไปพัวพันกับสถานการณ์ที่ใหญ่เกินคาดคิดเอาไว้ทีแรกมากนัก

หากจะให้พูดถึงความรู้สึกในแง่เนื้อหาของเกมแล้ว ผมรู้สึกว่าตัวเกมก็นำเสนอได้ค่อนข้างโอเคในแง่ความลึกลับชวนค้นหาว่าสุดท้ายแล้วต้นตอของเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นคือใครและคืออะไร แม้ว่าจะมีจุดหักมุมในหลายจุดที่มันชวนให้แบบ “ห๊ะ? พี่เอางี้เหรอ?” อยู่เนือง ๆ ก็ตาม ถึงกระนั้นก็เถอะพอมานึกได้ว่ายังไงเสียเกมนี้ก็คือหนึ่งในสปินออฟของแฟรนไชส์ Shin Megami Tensei มันก็เลยพอจะเข้าใจและยอมรับได้อยู่ครับ รวม ๆ แล้วก็เรียกได้ว่าเนื้อหานั้นสนุกชวนติดตามใช้ได้ แค่ว่ามันอาจจะเป็นอะไรที่ไม่ใหม่แล้วในยุคนี้ครับ


เกมเพลย์

ระบบพื้นฐาน

พื้นฐานระบบเกมเพลย์ของ Raidou Remastered: The Mystery of the Soulless Army นี้ ยังคงอ้างอิงมาจากแฟรนไชส์หลักอย่าง Shin Megami Tensei ครับ นั่นคือคุณต้องพึ่งพาอาศัยปีศาจที่อยู่ใต้อาณัติของคุณมาคอยช่วยกำจัดศัตรูต่าง ๆ โดยที่องค์ประกอบการผสมปีศาจเพื่อให้ได้ตัวใหม่เอย การสืบทอดสกิลของปีศาจเอย รวมถึงระบบการแพ้ธาตุต่าง ๆ นั้นยังมาครบ แบบที่ว่าถ้าคุณเคยเล่น Shin Megami Tensei หรือ Persona มาสักภาคก็จะเข้าใจได้ในทันทีครับ

ระบบต่อสู้

หากจะมีสิ่งที่แตกต่างมากจากเกมสปินออฟอื่น ๆ ในตระกูลนี้ก็คือระบบต่อสู้ในคราวนี้จะเป็นเกมแอ็กชันแทนที่จะเป็นเกมเทิร์นเบสใส่คำสั่งเหมือนที่แล้ว ๆ มา ดังนั้นเมื่อคุณเจอเข้ากับศัตรูแล้ว เกมก็จะตัดฉากให้คุณเข้าไปอยู่ในสนามต่อสู้ที่คุณวิ่งไปมาได้อิสระ พร้อมกับปีศาจที่เรียกมาช่วยเหลือได้สูงสุดสองตัว

หากจะพูดถึงในแง่ความเป็นเกมแอ็กชันแล้ว เกมนี้จะมีระบบการเล่นที่ค่อนข้างรวดเร็วใช้ได้อยู่ แล้วก็มีระบบมาตรฐานอย่างที่สามารถคาดหวังได้จากการเป็นเกมแอ็กชันเหมือนหลายเกม มีการตีเบา ตีหนัก มีการป้องกัน มีการกลิ้งหลบ มีการหลบในระยะกระชั้นชิดเพื่อหาจังหวะใช้ท่าพิเศษ กระทั่งการเล็งปืนแบบมุมมองข้ามไหล่ก็มี อะไรทำนองนั้น แต่ถึงอย่างนั้นเกมก็ยังไม่ใช่เกมแอ็กชันลุยฟาดฟันดะแต่อย่างใด เพราะมันยังคงมีรากฐานของความเป็น Shin Megami Tensei อยู่เต็มที่ครับ

ฉะนั้นถ้าคุณเล่นเกมนี้แบบตีดะฟันมั่ว ไรโดก็จะวูบไม่รู้ตัวได้เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้เวลาต่อสู้คุณเลยยังต้องคำนึงถึงรูปแบบการโจมตีของศัตรูที่เจอ ต้องหาจังหวะหลบ ต้องคำนึงถึงสกิลที่ปีศาจของคุณมี หรือสกิลที่ศัตรูของคุณแพ้ อะไรพวกนั้นอยู่เพื่อที่จะได้ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ครับ เกมไม่ได้ออกแบบมาให้คุณต่อคอมโบ ต่อท่า ผสานการตีต่อเนื่องอะไรแบบนั้น แม้ว่าเอฟเฟกต์ต่าง ๆ มันจะฉูดฉาดสวยงามก็เถอะ

อีกสิ่งที่แตกต่างไปจากที่แล้ว ๆ มาในแง่ระบบต่อสู้ก็คือเกมนี้เวลาปีศาจของคุณใช้เวท ใช้ท่า ใช้สกิลอะไรต่าง ๆ นั้น ค่าเวทที่เสียไปมันจะเป็นค่าเวทของคุณคนเดียวเลยครับ เรียกง่าย ๆ ว่าปีศาจของเราจะใช้ค่าเวทกองกลางเดียวกัน (ซึ่งเป็นของไรโด) ดังนั้นคุณก็ต้องคอยทำหน้าที่บริหารจัดการค่าเวทเหล่านี้ให้ดี ในขณะที่สกิลความสามารถต่อสู้ของไรโดนั้นจะเป็นการติดตั้งสกิลพิเศษได้สูงสุด 3 ท่าและเมื่อใช้ก็จะต้องรอคูลดาวน์ก่อนจึงจะใช้ได้อีกครั้งแทน

หากจะมีจุดที่ผมคิดว่าทำให้เกมมันเข้าถึงง่ายกว่าเกมในตระกูลนี้ที่เป็นภาคหลักก็คงไม่พ้นความที่มันเป็นแอ็กชันนี่ล่ะครับ เกมจะค่อนข้างตัดปัจจัยการสุ่มว่าจะโจมตีได้หรือหลบได้หรือไม่ในแบบเทิร์นเบสไปเลย รอบนี้คือคุณตีโดน ตีวืด หลบได้หรือโดนซัดหน้า มันขึ้นอยู่กับการเล่นของคุณเองล้วน ๆ ครับ

ระบบความก้าวหน้า

บรรดาระบบความก้าวหน้าของตัวละครรวมถึงปีศาจในเกม ก็ยังยกยอดมาจากแฟรนไชส์ต้นทาง นั่นคือเมื่อคุณหรือปีศาจเลเวลอัปก็จะได้แต้มค่าพลังมาอัปพลังในสายที่ต้องการ แล้วแต่ว่าคุณจะปั้นตัวละครไปทางไหน (แต่ก็มีไอเท็มไว้เพิ่มค่าพลังได้ถาวร ถ้าคุณอยากอัดเต็มทุกสาย) และในส่วนของไรโดก็จะอาศัยการตีดาบใหม่เพื่อเพิ่มความรุนแรงและรับสกิลใหม่ ๆ จากดาบที่ตีขึ้นมาแทนโดยจะไม่มีของสวมใส่อย่างอื่นครับ

ดาบของเกมนี้จะแบ่งออกเป็นสามสายด้วยกันโดยจะแตกต่างกันที่ท่าโจมตีครับ สามสายที่ว่าก็ประกอบไปด้วยดาบ หอก และขวาน ซึ่งก็อย่างที่พอจะเดากันได้ว่าดาบนั้นจะสมดุลสุด หอกจะเร็วและตีต่อเนื่อง ขวานจะช้าสุดแต่ก็ตีหนักสุด ซึ่งคุณถนัดแบบไหนก็เลือกใช้ได้ตามสะดวก

การสำรวจ

องค์ประกอบหนึ่งที่อาจเรียกได้ว่าเป็นองค์ประกอบเฉพาะเกมนี้ที่แตกต่างจากเกมอื่น ๆ ในแฟรนไชส์เดียวกันก็คงเป็นการสำรวจสภาพแวดล้อมหรือแม้แต่การคุยกับเหล่า NPC โดยใช้ความสามารถเฉพาะของปีศาจแต่ละตัวครับ บางจุดนั้นคุณจำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือของเหล่าปีศาจที่มีเพื่อหาทางไปต่อ อาจจะเป็นการอ่านใจคนอื่น เป็นการบินไปเก็บไอเท็ม แช่แข็งน้ำเพื่อให้เดินต่อไปได้ ฯลฯ อะไรเหล่านั้น ซึ่งก็ทำออกมาได้น่าสนใจดี เพียงแค่ว่าผมรู้สึกว่าการต้องคอยสลับปีศาจไป ๆ มา ๆ เพื่อใช้ความสามารถเหล่านั้นก็แอบขลุกขลักอยู่เหมือนกัน

และก็อย่างที่บอกไปหลายรอบว่าเกมนี้คือเกมสปินออฟจาก Shin Megami Tensei ดังนั้น การเดินทางไปมาในฉากแมปใหญ่จึงมาในลักษณะคล้าย ๆ กันคือเราจะมีลักษณะเหมือนเป็นหมุดที่เคลื่อนไปมาบนแผนที่ ต่อเมื่อเข้าไปในพื้นที่ใดเป็นการเฉพาะแล้วเท่านั้นจึงจะให้เราวิ่งไปมาสำรวจฉากได้ ซึ่งโดยมากคุณก็จะได้เจอกับไซด์เควสต์ บ้างก็เป็นจุดต่อสู้กับศัตรูเพื่อชำระล้าง อะไรแบบนั้น

อีกจุดหนึ่งที่เป็นไปตามธรรมเนียมของเกมตระกูลนี้ก็คือ พวกสถานที่สำคัญอย่างร้านค้าและห้องแล็บผสมปีศาจนั้นก็จะมีอยู่จุดเดียวทั้งเกมและไม่เน้นให้ผู้เล่นต้องไปตระเวนหาร้านลับอะไรพวกนั้น เรียกได้ว่าต้องการอะไรก็วิ่งมาที่เดียวได้เลย

ฟีเจอร์อำนวยความสะดวก

องค์ประกอบในแง่ QoL ที่ผมคิดว่าต้องชมเชยสำหรับเกมนี้ก็คือความสะดวกในการเดินทางครับ ถ้าคุณอยู่ในมิติปกตินี่คุณสามารถฟาสต์ทราเวลไปในสถานที่ที่เคยไปมาแล้วได้ทุกจุด (แลกกับเงินนิดหน่อย) จะไปพื้นที่ไหน ไปร้านค้าอะไร แม้แต่แวะไปดันเจี้ยนที่เคยลุยมาแล้วก็ยังได้ เรียกได้ว่าสะดวกมาก ๆ แบบที่ว่าถ้าเกมให้เราไปไหนต่อก็กดเมนูขึ้นมาแล้วฟาสต์ทราเวลไปเลย หรือไซด์เควสต์ที่ต้องทำอยู่จุดไหนก็วาร์ปไปตรงนั้นได้เลยเหมือนกัน

อีกหนึ่งองค์ประกอบที่อำนวยความสะดวกสุด ๆ ก็คือ Case File หรือก็คือหัวข้อที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับไซด์เควสต์ไว้บอกผู้เล่นครับ เวลาผ่านเนื้อเรื่องไปจุดหนึ่งแล้ว แค่ขยันเข้ามาดูหัวข้อนี้ก็จะรู้ทันทีว่าช่วงนั้น ๆ มีไซด์เควสต์อะไรปลดล็อกมาบ้างไม่ต้องไปวิ่งตระเวนหาเอง

ในแง่ของเวลาการเล่นนั้น ผมใช้เวลาเล่นรอบแรกแบบ Normal ไปจบที่ราว 30 ชั่วโมง “แต่” นะครับ นี่เป็นการเล่นโดยที่มี DLC อำนวยความสะดวกมาให้อย่าง Training Hall ที่ช่วยให้อัปเลเวลได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงสามารถเก็บไอเท็มราคาดีไปขายได้เพียบ มันเลยย่นเวลาหลายอย่างได้เยอะสุด ๆ ซึ่งถ้าคุณเล่นแบบปกติไม่สน DLC ผมคิดว่าน่าจะต้องเสียเวลาไปกับการ grinding หนักอยู่เหมือนกันครับ ไม่ว่าจะเพื่อเก็บเลเวลให้สามารถผสมปีศาจที่ต้องการได้ หรือจะเพื่อเก็บเงินมาตีดาบขั้นสูงก็ตามที

อีกประเด็นหนึ่งที่ผมมองว่าเป็นการสร้างความลำบากให้คนเล่นมากไปหน่อยก็คงเป็นการที่ต้องเล่นวนรอบแบบ NG+ เท่านั้นจึงจะสามารถเก็บอะไรได้ครบสมบูรณ์นี่ล่ะครับ แถมการเล่นวนรอบของเกมนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้สบายอะไรขึ้นมาก เพราะเลเวลเอย เงินเอย ไอเท็มเอย แม้แต่ดาบที่ตีก็ต้องมาเริ่มใหม่หมด สิ่งที่วนรอบก็มีแค่พวกปีศาจที่คุณปั้นมาและลงทะเบียนข้อมูลเอาไว้ในรอบก่อนหน้า เพราะงั้นถ้าคุณใช้เวลาในการเก็บทุกสิ่งทุกอย่างไปในรอบแรก คุณก็ต้องมานั่งเก็บสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นใหม่หมดในการเล่นวนรอบ มันเลยทำให้รู้สึกว่าแม้ QoL จะอำนวยความสะดวกได้เยอะ แต่มันก็มีจุดที่ทำให้รู้สึกลำบากและขัดใจอยู่เหมือนกัน


กราฟิกและการนำเสนอ

สำหรับเกมนี้ที่เป็นการรีมาสเตอร์มาจากเกมสมัย PlayStation 2 นั้น ก็ต้องเรียกได้ว่าทำได้ดีตามมาตรฐานครับ โดยเฉพาะฉากต่อสู้ที่ทำออกมาได้รวดเร็วและรุนแรงดี โดยเฉพาะพวกเอฟเฟกต์ท่าต่าง ๆ ที่ทำออกมาทรงพลังมาก ถึงอย่างนั้นในทางกลับกัน บรรดาโมเดลของพวก NPC ทั่วไปในเมืองนี่ดูแล้วเหมือนไม่ได้ปรับอะไรจากต้นฉบับเท่าไรเลย ซึ่งแม้จะเข้าใจได้ว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่มันก็แอบเห็นความแตกต่างชัดเจนเกินไปเวลาไปยืนข้าง ๆ กันครับ

มุมกล้องของเกมนี้จะอ้างอิงมาจากต้นฉบับ ดังนั้นเวลาคุณเดินในเมืองหรือดันเจี้ยนใดก็ตาม คุณจะไม่สามารถหมุนมุมกล้องเพื่อสังเกตสภาพแวดล้อมได้ เกมจะแช่มุมกล้องให้กับคุณและจะเปลี่ยนมุมกล้องให้โดยอัตโนมัติเมื่อเดินไปถึงจุดที่กำหนด เวลาเดินไปมามันเลยอาจจะชวนงงและสับสนได้เหมือนกันถ้าไม่สังเกตแผนที่ครับ ยังดีว่าคุณหมุนมุมกล้องในฉากสู้ได้อิสระอยู่


เสียงและเพลงประกอบ

ในแง่ของงานเสียงและเพลงประกอบของ Raidou Remastered ในครั้งนี้ผมคิดว่าทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานของเกมจาก Atlus ครับ เพลงธีมหลักของเกมและเพลงธีมตอนต่อสู้นี่ฟังปุ๊บติดหูปั๊บ โดยเฉพาะธีมหลักนี่ที่ให้บรรยากาศเหมือนซีรีส์นักสืบจริง ๆ แถมเลือกจังหวะใส่ลงมาในเกมได้ดีเลย ถ้าจะให้เปรียบนี่ผมว่าเพลงประกอบของเกมนี้เหมือนเป็นส่วนผสมตรงกลางระหว่างเพลงของ Shin Megami Tensei และ Persona คือมีความหนักแน่นแบบร็อกและผสมเพลงแจ๊สด้วยครับ


สรุป

Raidou Remastered: The Mystery of the Soulless Army ถือเป็นผลงานรีมาสเตอร์ที่นำเอาเกมเก่ามาปรับปรุงแล้วสามารถเล่นได้สนุกในยุคนี้ ระบบต่อสู้รวดเร็วฉับไวที่ไม่เป็นเกมแอ็กชันเพียว ๆ แต่ยังต้องอาศัยการวางแผนที่ดีเพื่อชัยชนะตามขนบของเกมตระกูล Shin Megami Tensei ซึ่งถ้าคุณไม่เคยลองเล่นเกมในแฟรนไชส์นี้มาก่อนเลย ก็ลองเล่นเกมนี้ได้ครับ ด้วยความที่ระบบต่อสู้เป็นแอ็กชันก็เลยทำให้ตัวเกมเข้าถึงง่ายกว่าเดิม แต่องค์ประกอบทั้งหมดก็ทำให้เกมนี้เป็นเกมในตระกูลเดียวกันอยู่ดีครับ

The Review

75% การกลับมาของนักอัญเชิญปีศาจแห่งปีไทโชที่ 20

Raidou Remastered: The Mystery of the Soulless Army คือการรีมาสเตอร์เกมเก่าที่ได้รับการปรับปรุงให้เหมาะกับแนวทางการเล่นในปัจจุบันมากขึ้น รูปแบบการเล่นนั้นเรียกได้ว่าสนุก แม้จะยังพอมีจุดขัดใจอยู่บ้าง แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเกมในตระกูล Shin Megami Tensei ที่แฟน ๆ น่าจะชื่นชอบ

75%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์