รีวิว SNK Fatal Fury City Of The Wolves
*ขอขอบคุณ SNK สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5
เป็นเกมต่อสู้อีกหนึ่งเกม ที่พวกเรามีโอกาสได้ทดสอบหลังวันวางจำหน่ายค่อนข้างนานมาก…และเข้าใจว่าบรรดาแฟนขาประจำคงได้เล่นเกมกันไปหมดแล้ว ฉะนั้น ผมจะขอเขียนเชิงแนะนำเกมให้กับผู้ที่ยังลังเล หรือเป็นขาจรที่แอบเหล่เกมนี้…อยากจะลองซื้อมาเล่นดูซักครั้ง
สำหรับซีรีส์ Fatal Fury นั้นหายหน้าหายตาไปจากตลาดเกมยาวนานกว่า 26 ปี กลับมาคราวนี้พร้อมระบบ REV ใหม่และตัวละครรับเชิญแบบแหวก ๆ อีกสองคน!
โดย Fatal Fury ของ SNK วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อค.ศ. 1991 ในฐานะผู้บุกเบิกกระแสนิยมอันล้นหลามของเกมแนวต่อสู้ ขณะที่เกม GAROU: MARK OF THE WOLVES (วางจำหน่ายในปี 1999) ถือเป็นเกมสุดท้ายที่วางจำหน่ายในซีรีส์นี้
SNK Fatal Fury City Of The Wolves เล่าถึงเมืองเซาต์ทาวน์ หนึ่งปีหลังจากเหตุการณ์ใน King of Fighters: Maximum Mayhem เรื่องราวหมุนรอบ ร็อค ฮาวเวิร์ด และการตามหา มารี ไฮน์ไลน์ แม่ของเขา ซึ่งเชื่อกันว่าถูกมิสเตอร์บิ๊กจับตัวไว้ ด้าน เคน อาร์. ไฮน์ไลน์ ลุงของร็อค เปิดเผยว่ามารียังมีชีวิตอยู่และถูกขังเพื่อเรียกค่าไถ่ โดยข้อเรียกร้องดังกล่าวเป็นมรดกของกีส ฮาวเวิร์ด มรดกนี้รวมถึงม้วนคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์แห่งจิน ซึ่งกีสสั่งให้ทำลาย แต่บิลลี่ เคน เปิดเผยว่ายังคงเก็บรักษาไว้อยู่
การดำเนินเรื่องในเกมนี้ บอกเล่าผ่านภาพและตัวหนังสือซึ่งมีการเขียนบทที่ต้องบอกว่า…แย่มาก เหมือนเขียนขึ้นโดยคนที่ไม่ได้เก่งด้านนิยายหรือการสร้างบทภาพยนตร์ เพราะทุกฉากเต็มไปด้วยเหตุการณ์ที่ดูไร้สาระ ไม่สมจริง และมีปมเรื่องที่โบราณอย่างน่าใจหาย
มิหนำซ้ำ งานแปลเป็นภาษาไทยยังต่ำกว่ามาตรฐานเป็นอย่างมาก ทั้งแปลผิด, ใช้สำนวนแบบมือสมัครเล่น จนบางทีแอบคิดว่าใช้ AI แปลหรือเปล่า พองานแปลภาษาผสมกับบทที่อ่อนด้อยแล้ว จึงได้ออกมาเป็นประสบการณ์ของเนื้อเรื่องเกมที่…ข้าม ๆ ไปเถอะ อย่าไปสนใจมันมากเลยครับ
มาดูกันต่อที่ตัวละครในเกม โดยเกมนี้มาพร้อมนักสู้ที่มีให้เล่นกว่า 22 คน ประกอบไปด้วยนักสู้ทั้งหน้าใหม่และคุ้นเคยถึง 17 คน กับนักสู้รับเชิญที่จะมาในรูปแบบของ DLC อีก 5 คนใน Season Pass 1 (ทยอยอัปเดตเพิ่มให้ตลอดทั้งปี) แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ ตัวละครรับเชิญพิเศษอย่างนักเตะระดับตำนาน Cristiano Ronaldo และศิลปินเพลง DJ Salvatore Ganacci (คนนี้ใคร? ผมยอมรับเลยว่าได้ยินชื่อเขาครั้งแรกก็จากเกมนี้แหละ)
ทั้งสองคนมีประเด็นดราม่าเยอะเลยในชุมชนชาวเกมต่อสู้ แต่สำหรับตัวผมเอง ผมขอเจาะไปที่การออกแบบเชิงการต่อสู้ในเกม ของสองคนนี้ที่ผมรู้สึกว่า “แย่” ไม่เข้ากับเกม และเล่นไม่สนุก โดยเฉพาะในรายของโรนัลโด้ ที่ท่าต่อสู้มันโคตรไม่สมจริง หลายท่าแทบเป็นไปไม่ได้ในเชิงตรรกะ แต่ถ้าใครจะมองว่าทั้งคู่เป็นแค่ตัวแถมแบบขำ ๆ ผมก็ไม่ว่าอะไร แค่สงสัยว่าใส่มาแล้วมันทำให้ยอดขายพุ่งขึ้นได้บ้างหรือเปล่า? อันนี้อยากรู้จริง ๆ นะ SNK
ไหน ๆ ก็แตะเข้าเรื่องระบบต่อสู้แล้ว ผมขอต่อด้วยการแจกแจงระบบ REV ที่ยกเครื่องใหม่กันเสียหน่อย โดย เกมจะแนะนำให้ผู้เล่นได้รู้จักกับระบบ REV System ชุดเครื่องมือใหม่ที่จะมอบตัวเลือกในการรุกที่ไม่เหมือนใครตั้งแต่วินาทีแรกที่เริ่มต่อสู้ คนเล่นจะได้ใช้ทักษะ REV Arts, REV Accel, REV Blows (เมื่อ S.P.G. กำลังทำงาน) และอื่น ๆ จนกว่าคุณจะถึงลิมิตและเกจ REV Meter ของคุณโอเวอร์ฮีท ซึ่งทั้งหมดนี้ จำเป็นต้องอาศัยการเรียนรู้ทำความเข้าใจและฝึกฝนมากพอสมควร อธิบายตรงนี้ลำบาก แต่ผมขอสรุปว่า มันค่อนข้างไม่เป็นมิตรกับมือใหม่นะ เกมนี้เล่นไม่ง่ายเท่าเกมอื่น ๆ อย่างสตรีตหรือเทคเคน มันมีมิติที่ลึกกว่าพอสมควรครับ นี่ยังไม่นับดีเทลอื่น ๆ อีกทั้ง ระบบ Combination Attacks, Just Defense, Braking, Dodge Attacks, Feints, S.P.G. (Selective Potential Gear)
อย่างไรก็ตาม เกมมีระบบควบคุมให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ Arcade Style ก็คือคุณต้องกดทุกอย่างเอง ออกท่าเอง กับ Smart Style ที่จะช่วยให้คุณสามารถปล่อยท่าไม้ตายสุดอลังการและคอมโบได้ง่าย ๆ ด้วยการกดทิศทางและปุ่มเพียงไม่กี่ปุ่ม
ฟังดูเหมือนจะมีตัวช่วยคล้าย ๆ กับการควบคุมแบบโมเดิร์นของสตรีต 6 ใช่มั้ย? แต่ของเกมนี้ มันไม่ให้ความรู้สึกแบบนั้นเลยครับ เพราะ Smart Style มันรวบท่าคอมโบไว้ในปุ่มเดียวจนเหมือนกับว่านี่คือท่าพิเศษอย่างหนึ่ง มันทำลายจังหวะของเกมไปเลย และตามที่ผมบอกไปแล้วว่าเกมนี้จังหวะมันยาก ดีเทลมันเยอะ มันเลยกลายเป็นว่า…ต่อให้คุณใช้ Smart Style ก็ไม่ได้หมายความว่าเกมจะง่าย หากคุณไม่เข้าใจระบบอื่น ๆ ทั้งหมดในเกมนี้
สรุปก็คือ เกมนี้มือเก๋าจะเล่นสนุก แต่จะเป็นนรกสำหรับมือใหม่อย่างแน่นอน หากอยากเล่นแล้วคุ้มเงินที่จ่าย คุณจำเป็นอย่างมากที่จะต้องทุ่มเท, ร่ำเรียนแล้วฝึกฝนจนเล่นเป็นในระดับนึงก่อนครับ
อ่ะ หันมาดูโหมดต่าง ๆ ในเกมกันบ้าง โดยตัวเกมจะมีโหมดเนื้อเรื่องที่เรียกว่า EPISODES OF SOUTH TOWN เป็นโหมดการเล่นแบบ single-player ทซึ่งจะพาผู้เล่นไปวัดฝีมือกับผู้ท้าชิงภายใต้กติกาพิเศษต่าง ๆ เพื่อสะสมค่า XP และรางวัลอื่น ๆ พัฒนานักสู้ของคุณ รวบรวมทักษะอันหลากหลาย และพิชิตคู่ต่อสู้เพื่อไต่เต้าขึ้นที่หนึ่ง
ส่วนโหมดออนไลน์นั้นรองรับฟีเจอร์ cross-platform เต็มรูปแบบ ให้คุณสามารถแข่งขันกับผู้เล่นจากทั่วโลกได้ แม้จะเล่นกันบนแพลตฟอร์มหรือคอนโซลคนละระบบ โหมดการแข่งขันก็มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Ranked Match, Casual Match, และ Room Match หรือจะประมือกับร่างโคลนที่สร้างขึ้นจากระบบ AI อัตโนมัติที่เรียนรู้จากการเล่นของผู้เล่นต่าง ๆ ก็ได้
สรุป
SNK Fatal Fury City Of The Wolves เป็นเกมที่ผมมองว่า ติดกับดักการพัฒนาอะไรซักอย่างอยู่แน่ ๆ เพราะมันดู “แปลก ๆ” มีการโปรโมทระดับโลกแบบจัดเต็ม (สงสัยได้ทุนจากซาอุฯ) แต่ตัวเกมกับดูแหว่ง ๆ กราฟิกเมนูและคัตซีนดูโลว์คอสต์ ระบบเกมที่เล่นยากและแอบโบราณล้าหลัง รีไซเคิลของเก่ามาเยอะมาก แถมมีตัวละครรับเชิญพิเศษที่กระโดดมาจากวงการอื่นซะงั้น ทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่ใช่เรื่องผิดหรอกครับ แค่มันดูประหลาด และกลายเป็นเกมที่ดูล้อเลียนเอาฮา มากกว่าจะเป็นเกมต่อสู้จริงจังที่ครบเครื่องทั้งสำหรับผู้เล่นระดับเซียน และคนทั่วไปที่อยากหยิบเกมต่อสู้ขึ้นมาเล่นคลายเคลียดในแต่ละวัน
