รีวิว Towa and the Guardians of the Sacred Tree เทพผู้พิทักษ์แห่งต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่สั่นสะเทือนกาลเวลา
*ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ค่ะ
**สเปคพีซีที่ใช้รีวิว Intel(R) Core(TM) i7-14700HX 2.10 GHz Ram 32 GB RTX4060
Towa and the Guardians of the Sacred Tree คือเกมแอ็กชัน RPG สไตล์ Roguelite ที่หยิบกลิ่นอายตำนานญี่ปุ่นโบราณมาผสานกับการเล่นแบบ “วิ่งตะลุยดันเจี้ยน” ซ้ำไปซ้ำมา โดย Roguelite หมายถึงเกมที่ผู้เล่นจะต้องเข้าไปผจญภัยในดันเจี้ยนที่สร้างขึ้นแบบสุ่ม ทุกครั้งที่แพ้ก็ต้องเริ่มต้นใหม่ แต่สิ่งที่ได้จากการเล่น เช่น ค่าพลัง อัญมนีตัวละคร หิน อาวุธ หรือของบางอย่าง จะถูกเก็บไว้เพื่อใช้พัฒนาตัวละครในรอบถัดไป ทำให้ยิ่งเล่นบ่อยก็ยิ่งเก่งขึ้น เกมนี้พัฒนาโดย Brownies inc. และจัดจำหน่ายโดย Bandai Namco Entertainment Inc.
เล่าเรื่องย่อแบบเทพๆ
ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่ง หมู่บ้านชินจุ (Shinju Village) เส้นกาลเวลาอันเคยเป็นระเบียบกลับบิดเบี้ยวเพราะการปรากฏตัวของ Magatsu เทพอสูรผู้ก่อหายนะ!!
Towa เทพธิดามิโกะผู้พิทักษ์ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ กับเหล่าผู้พิทักษ์ทั้ง 8 จึงต้องผนึกกำลังปราบเหล่าลูกหลานแห่ง Magatsu ทีละตน เพื่อปะติดปะต่อเส้นด้ายแห่งโชคชะตาให้กลับคืนมา ทุกครั้งที่ปราบอสูรลงได้ กาลเวลาก็จะก้าวกระโดดไป หน้าที่ของคุณคือการนำพาเหล่า ผู้พิทักษ์ที่ถูกเลือกออกไปทำภารกิจต่อสู้ เพื่อแก้ไขเส้นเวลาให้กลับมาเป็นปกติ ซึ่งสิ่งที่พิเศษคือ ทุกครั้งที่คุณทำภารกิจใหญ่สำเร็จ เวลาในหมู่บ้านจะก้าวข้ามไปหลายสิบปี แต่โทวะและผู้พิทักษ์จะยังคงอายุเท่าเดิม ทำให้ผู้เล่นได้เห็นการเติบโตและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของชาวบ้านรุ่นแล้วรุ่นเล่า หัวใจหลักของเกมจึงอยู่ที่การต่อสู้เพื่อปกป้องหมู่บ้าน พร้อม ๆ กับการสร้างความสัมพันธ์และเฝ้ามองชีวิตของผู้คนที่คุณรักเติบโตและส่งต่อมรดกข้ามกาลเวลาต่อไป
เกมเพลย์
อย่างที่เกริ่นไว่ในย่อหน้าแรกว่าเกมเป็นแบบ Roguelite หมายความว่าแต่ละรอบ คุณจะวิ่งลงไปในฉากโทริอิแบบกึ่งสุ่ม โดยต้องไล่ฆ่าศัตรู เก็บของ และจบด้วยบอส วนไป
เมื่อจบรอบของรอบนั้น ก็จะได้ Graces(บัฟพิเศษเพิ่มสกิลล์) วัสดุต่างๆ เงิน และอื่นๆ แล้วเราจะนำกลับไปใช้ในหมู่บ้านชินจู เพื่ออัพเกรด ทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้นสำหรับรอบถัดไป แต่หากพ่ายแพ้ก็ต้องเริ่มรอบใหม่จากจุดเริ่มต้นของดันเจี้ยน… แต่อย่าเศร้าไป มันจะมีความก้าวหน้าบางอย่างคงอยู่
ตัวละครก็จะแบ่งบทบาทเป็น Tsurugi กับ Kagura
Tsurugi คือดาบ เป็นตัวละครหลักที่ผู้เล่นควบคุมโดยตรง อาทิ การเคลื่อนที่ การโจมตี สกิลใกล้/ไกล ขึ้นกับตัวละครและดาบที่ใช้ ส่วน Kagura คือคฑา จะเป็นเหมือนผู้ช่วยสำรองที่เดินตามหลังโดย AI และร่ายสกิล/เวทย์ สนับสนุนตัว Tsurugi ทั้งด้านบัฟหรือโจมตีระยะไกลได้ บลาๆ
ตัวละครเทพทั้งหมดมี Towa และผู้พิทักษ์ 8 คน สามารถถูกตั้งค่าให้เป็น Tsurugi หรือ Kagura อะไรก็ได้ ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนบทบาทนี้ได้ระหว่างรอบ ทำให้เกิดการจัดคู่ที่หลากหลายทางสไตล์การเล่น แต่ละตัวละครมีสองรูปแบบการโจมตีหลัก ซึ่งขึ้นกับว่า “ดาบชิ้นไหน” ถูกใช้อยู่ และดาบแต่ละเล่มมีรูปแบบโจมตีและคอมโบต่างกัน ซึ่งมันหลากหลายดี แต่ความหลากหลายก็มีข้อเสีย ทำให้การเรียนรู้ต้องใช้เวลามากตาม ผู้เล่นมักยึดตัวโปรดเป็นหลักและพลาดการทดลองเล่นตัวอื่น ๆ
ตัว Kagura จะทำงานอัตโนมัติ ร่ายสกิลสนับสนุนและโจมตีระยะไกล ผู้เล่นสามารถเข้าไปควบคุมตัว Kagura ชั่วคราวได้ แต่การสลับนี้มักทำให้การควบคุม Tsurugi ขัดๆ การต่อสู้อาจติดขัดถ้าใช้อยู่บ่อย ๆ
ข้อสังเกตคือ ตัว Kagura ที่เดินตามห้อยหลังเรา มักจะเป็นตัวโดนประจำ เวลาจะวิ่งหนีทีก็อาจจะต้องตีวงกว้างๆ หน่อย จะได้รอดทั้งคู่
อ้อ แล้วเกือบลืม ระบบต่อสู้แบบซัพพอร์ตเพื่อน มันสามารถเรียกเพื่อนมาเล่นด้วยได้นะ รองรับทั้งแบบออนไลน์และแบบนั่งเล่นด้วยกัน โดยผู้เล่นที่ 1 จะควบคุมตัวละคร Tsurugi ผู้เล่นที่ 2 จะควบคุมตัวละคร Kagura
เกมรองรับการเล่นแบบแบ่งหน้าจอสำหรับผู้เล่น 2 คน บนเครื่องคอนโซลหรือ PC เดียวกัน แต่ผู้เล่นที่ 2 จะไม่สามารถเลือกตัวละคร เก็บไอเทมได้ และการอัปเกรดส่วนใหญ่ต้องทำผ่านผู้เล่นที่ 1 และการปลดล็อกเนื้อเรื่องและการอัปเกรดถาวรจะถูกบันทึกที่ Host ผู้เล่นที่ 1 เช่นกัน
เรามาดูระบบอาวุธกันดีกว่า
ดาบ เมื่อใช้โจมตีจะลดความทนจนอาจพังได้ แต่เมื่อคุณสลับดาบแล้วดึงดาบเก่ากลับ มันจะฟื้นความทนของดาบที่ได้สลับทันที ทำให้บางคนใช้การสลับเร็ว ๆ เพื่อรีเซ็ตความทน แต่บางทีระบบสลับดาบนี้ก็อาจทำให้การต่อสู้กระตุกจนขัดใจ ข้อเพิ่มเติมคือดาบแต่ละเล่มมีค่าสถานะ แบ่งเป็นพลังโจมตี ความเร็ว เอฟเฟกต์ ฯลฯ สามารถปรับแต่งได้
มีมินิเกมให้ฝึกตีเหล็ก! ในหมู่บ้านมีระบบตีดาบ ซึ่งต้องกดจังหวะตีให้ทัน ควบคุมการชุบที่เตา และอื่นๆ อีกเยอะ (เยอะมาก) ซึ่งถ้ายิ่งทำได้ดี ก็จะยิ่งได้ดาบที่สเตตัสดีกว่า และมีโอกาสติดเอฟเฟกต์พิเศษง่ายๆ ซึ่งวัสดุสำหรับตีดาบก็ได้จากการสำรวจและสู้ภายในรอบดันเจี้ยนต่างๆ ทำให้การหาแร่และชิ้นส่วน กลายเป็นเป้าหมายสำคัญเช่นกัน
นอกจากนั้น ขณะที่อยู่ในดันเจี้ยนคุณจะได้ “Graces” หรือก็คือการ power up ที่คุณจะเห็นเป็นการ์ดใบต่างๆ ที่ปรับแต่งความสามารถของตัวละคร เช่น เพิ่มพลังโจมตี เพิ่มความเร็ว ลดคูลดาวน์ เพิ่มโอกาสคริติคอล ฯลฯ
Graces จะสุ่มและสามารถสะสมได้ภายในการตะลุยด่านแต่ละรอบ ทำให้ทุกรอบมีความหลากหลายแตกต่างกันไป ซึ่งนอกจาก Graces ก็ยังมีไอเทมชั่วคราวอื่น ๆ อีก เช่น ยา ลูกแก้วเสริมสกิล ไอเทมสกัดวัสดุ บลาๆ
ยังไม่พอ เงิน และทรัพยากรที่ได้จากการตะลุยด่าน สามารถนำไปทำสิ่งต่างๆ ได้ในหมู่บ้าน อาทิ ตีดาบให้แรงขึ้น, เพิ่มพลังโจมตี-พลังชีวิต-ความเร็วของตัวละคร, สร้างหรือปรับปรุงอาคารในหมู่บ้านเพื่อโบนัสแบบถาวร (เช่น คาเฟ่ โรงตีเหล็ก โรงเรียน ฯลฯ) และการสวมอัญมณี (gems) บน Kagura ก็ยังทำได้ มันจะเพิ่มเปอร์เซ็นต์บูสเตอร์ที่ส่งผลต่อตัวละคร ทั้งหมดนี้ ถ้าโชคร้ายตายระหว่างทางไม่เป็นไร เพราะทรัพยากรบางอย่างจะยังคงถูกเก็บไว้ ทำให้การเล่นซ้ำไม่ไร้ความหมาย
เกมใช้มุมมองการต่อสู้แบบเฉียง (isometric) เน้นการเลี้ยวหลบ และการจัดตำแหน่งเพื่อหลบพลังของศัตรู แต่ไม่ต้องห่วง เกมมีการแสดงเครื่องหมายพื้นที่โจมตีล่วงหน้าให้วิ่งได้ทัน ควรดูจังหวะและการอ่านการโจมตีของศัตรู มากกว่าการกดสกิลสุ่มๆ แต่ละรอบจะจบด้วยการเผชิญหน้ากับลูกหลานของ Magatsu เมื่อเอาชนะได้ กาลเวลาจะเดินหน้าและเล่าเนื้อเรื่องต่อไป บอสแต่ละตัวมักมีรูปแบบโจมตีเฉพาะ และเป็นจุดสำคัญในการทดสอบคู่หูของผู้เล่น
คำแนะนำในการเล่น ให้เลือกผู้พิทักษ์เดียวเป็นหลักในช่วงแรกเพื่อเรียนรู้การโจมตีและคอมโบ แล้วค่อยทดลองตัวอื่นเมื่อมั่นใจ อย่าลืมให้ความสำคัญกับการตีเหล็กและอัปเกรดดาบแบบถาวร เพราะดาบชุ่ยๆ มันไม่ช่วยให้ผ่านบอสได้ง่ายขึ้น ควรอัปเกรดดาบที่ Dojo และสร้างอาคารที่ให้โบนัสถาวรก่อนจะพยายามลงบอสยาก ๆ นอกจากนั้นพยายามดูตำแหน่ง Kagura ให้ดี ระวังไม่ให้อยู่ในทางศัตรู และอย่าสลับการควบคุมตัวละครบ่อยๆ ให้ใช้เฉพาะช่วงสำคัญเท่านั้น รวมถึงอ่านสัญญาณโจมตีของศัตรูให้ดีเพื่อหาทางเข้าตีช่วงบอสเผลอ
งานภาพและเสียง
งานภาพมาในสไตล์อนิเมะเซลเฉดที่มีสีสันสดใสและมีชีวิตชีวา ภาพวาดตัวละครนั้นสวยงามน่ารัก และมีความเป็นญี่ปุ่นโบราณ ฉากที่ปรากฎในเกม ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้าน หรือดันเจี้ยนต่างๆ จะมีความเป็นสีน้ำ ฟรีแฮนด์ ซึ่งคุณจะเห็นความเป็นรอยสากของกระดาษ ให้อารมณ์เหมือนภาพสีหมึกแขวนผนังของญี่ปุ่น ทำให้ผู้เล่นผูกพันกับเหล่าผู้พิทักษ์และตำนานฟิลลิ่งญี่ปุ่นๆ ได้ง่าย แม้ว่าฉากต่อสู้ในดันเจี้ยนบางครั้งอาจจะดูซ้ำซากไปบ้าง แต่ก็ยังคงความละเอียดและสวยงามในภาพรวม
ส่วนด้านเสียงนั้นถือเป็นจุดแข็งที่ยอดเยี่ยม ด้วยเพลงประกอบที่ประพันธ์โดย Hitoshi Sakimoto (ผู้ฝากผลงานไว้ใน Final Fantasy Tactics, Vagrant Story) ซึ่งบรรเลงท่วงทำนองที่ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมและความยิ่งใหญ่ของแฟนตาซีเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ทำให้ทุกครั้งการลงในดันเจี้ยนและการกลับสู่หมู่บ้านเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ชวนดื่มด่ำในความเป็นเทพชินโตเลยทีเดียว
สรุป
Towa and the Guardians of the Sacred Tree คือเกม Roguelite Action RPG ที่มีจุดแข็งในด้าน งานศิลป์สไตล์อนิเมะที่สวยงามและดนตรีประกอบที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องราวการดำเนินชีวิตและความสัมพันธ์ของชาวบ้านในหมู่บ้านชินจูที่ล่วงเลยไปตามกาลเวลา ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่กินใจและสร้างความผูกพันได้อย่างลึกซึ้ง ระบบการต่อสู้แบบคู่หู (Dual-Character) และการอัปเกรดถาวรที่ฐานทัพหมู่บ้าน ก็มีแนวคิดที่ยอดเยี่ยม แต่ในทางปฏิบัติ ระบบการต่อสู้อาจไม่ลื่นไหลอยู่บ้าง รวมถึงกลไกการสลับดาบที่อาจจะไม่สะดวกมากเท่าที่ควร ดังนั้น หากคุณเป็นผู้เล่นที่หลงใหลในบรรยากาศ งานภาพสไตล์ J-RPG และเรื่องราวที่เน้นการสร้างความสัมพันธ์ข้ามยุคสมัย เกมนี้คือการผจญภัยที่คุ้มค่า แต่ถ้าความคาดหวังหลักคือระบบต่อสู้ที่เฉียบคมไร้ที่ติ คุณอาจจะต้องเผชิญกับความรู้สึกที่ค่อนข้างชะงักอยู่บ้างเล็กน้อย
จุดเด่น
- การดำเนินเรื่องที่ขับเคลื่อนด้วย “กาลเวลาที่ล่วงเลย” และการเห็น หมู่บ้านชินจูและชาวบ้านเติบโตเปลี่ยนแปลงไปตามทศวรรษ สร้างความผูกพันทางอารมณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม
- ทุกการเล่นไม่สูญเปล่า ผู้เล่นสามารถนำทรัพยากรมาใช้ในการอัปเกรดค่าสถานะ หลอมดาบใหม่ และ สร้างอาคาร เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
- ระบบ Tsurugi (ดาบ) / Kagura (คฑา) เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ทดลองจับคู่ตัวละครและสไตล์การเล่นที่หลากหลาย
- งานภาพศิลป์และดนตรีมีเอกลักษณ์ ดึงเสน่ห์ญี่ปุ่นโบราณมาผสมกับแฟนตาซีได้อย่างน่าประทับใจ
ข้อสังเกตและพิจารณา
- กลไกการสลับดาบเพื่อรีเซ็ตความทนทาน ทำให้การต่อสู้ขาดจังหวะต่อเนื่อง
- (Kagura) อาจจะดูเป็นภาระในบางครั้ง เพราะมักถูกโจมตีได้ง่าย ทำให้ผู้เล่นหลัก (Tsurugi) ต้องพะวงกับการดูแลคู่หูแทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การควบคุมที่แม่นยำ
- เรื่องราวการปราบเทพมาร Magatsu ขาดความซับซ้อน แรงจูงใจ และเสน่ห์ของตัวร้าย ว่ามีเรื่องราวเป็นมาอย่างไร
- แม้จะมีโหมดเล่นกับเพื่อน แต่ความคืบหน้าจะบันทึกที่ Host เป็นหลัก และผู้เล่นที่ 2 ถูกจำกัดบทบาทและการตัดสินใจค่อนข้างมาก
การให้คะแนน
- เกมเพลย์ (Gameplay) 80/100
- งานภาพ (Graphics) 85/100
- งานเสียง (Audio) 80/100
- เนื้อเรื่อง (Story) 75/100












