รีวิว Little Nightmares III ใจสู้ ขาสั่น ลั่นทีเดียวตาย
*ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ค่ะ
**รีวิวนี้เล่นบน PC: Intel(R) Core(TM) i7-14700HX 2.10 GHz Ram 32 GB RTX4060
กลับมาอีกครั้งกับเกม “Little Nightmares III”…
คำว่า “กลับมาอีกครั้ง” อาจจะดูเท่ แต่ความจริงแล้วนี่คือครั้งแรกที่ Lnwza Papus ได้จับเกมนี้ด้วยมือตัวเอง ปกติก็เคยเห็นแต่คนอื่นเล่น ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเจอความโกลาหลด้วยตัวเองแบบนี้!
Little Nightmares เป็นซีรีส์ที่ขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศแห่งฝันร้าย กับเกมเพลย์แนวหนี /แอบ/แก้ปริศนา ที่ตัวปีศาจไม่ค่อยโวยวายอะไรมาก เพราะคนเล่นกรี๊ดแทนให้หมดแล้ว (อ๊ากกกกก) ส่วนภาค 3 นี้ เพิ่มระบบเล่นสองคนเข้ามา จะเล่นกับเพื่อนก็ได้ หรือเล่นคนเดียว ปล่อยให้ AI ช่วยก็ได้ แต่บางทีคำว่า”ช่วย” ก็ต้องเติมเครื่องหมายคำถามไว้ด้วย ว่านี่ช่วยแล้วใช่มั้ย (ฮา)
เนื้อเรื่อง
ภาคนี้เราจะรับบทเป็นเด็กสองคน Alone (น้องประแจ) กับ Low (น้องหยองยิงธนู) ที่บังเอิญติดอยู่ในโลกประหลาดที่เหมือนฝันร้ายซ้อนฝันร้ายที่เชื่อมต่อกันด้วยกระจก พวกเขาต้องเดินทางผ่านสถานที่อันน่าสะพรึงกลัว เช่น ซากปรักหักพังที่มีผีเด็กเฝ้าอยู่ โรงงานที่เต็มไปด้วยแมลง และสวนสนุกที่หลอนประสาท เพื่อหาทางออกสุดท้ายจากโลกนี้
จุดเด่นด้านเนื้อเรื่อง คือความผูกพันที่เกิดขึ้นระหว่างน้องหยองธนู กันน้องประแจ 2 แกละ ที่พวกเขาต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อเอาชีวิตรอด ท่ามกลางความโดดเดี่ยวของฝันร้าย
ระบบการเล่น
ก่อนอื่นต้องพูดเลยว่าเกมนี้ โคตรมืด! มืดจนเป็นลางไม่ดีตั้งแต่นาทีแรก ถ้าเผลอลืมเพิ่มความสว่างหน้าจอคอมก่อนเปิดเกมคือปวดตับ ไอ้จะเปิดความสว่างในเกม ก็รู้สึกว่าภาพขุ่น ๆ เหมือนทาแป้งเด็กทับจอ สุดท้ายต้องยอมออกเกมไปเพิ่มแสงคอมเอง
เกมเพลย์ไม่ซับซ้อน มันคือ วิ่ง – แอบ – กระโดด – เกาะ – แก้ปริศนา – ร้องกรี๊ด – ตาย – เกิดใหม่ แล้วก็วนลูปใหม่ มีหลายฉากที่ต้องตั้งสติ เพราะแค่กระแทกปุ่มผิดนิดเดียว ตัวละครจะพุ่งหลาวลงเหวแบบไม่ลังเล
เราจะเล่นเป็นตัวประแจหรือไม่ก็ตัวธนู ผู้รีวิวเลือกเล่นตัวประแจ แล้วรู้สึกว่าน้องมัน โคตรหน่วงเลย! วิ่งก็ช้า (น้องหยองแซงตลอด) กระโดดก็ไม่พ้น ดูเหมือนตัวหนักอึ้ง (อ้วนนะน้องนะ!) ในจังหวะวิ่งหนีแบบพีค ๆความรู้สึกเหมือนน้ำหนักถ่วง ทำให้การกระโดดพลาดง่ายมาก จนตายเพราะกระโดดไม่พ้นบ่อยครั้ง
ในขณะที่ (น้องหยองตัวธนู) ซึ่งควบคุมโดย AI ส่วนใหญ่ก็ทำได้ดี โดยเฉพาะการทิ้ง “Hint” หรือสัญญาณให้รู้ว่า เราควรทำอะไรต่อไป ทำให้ไขปริศนาง่ายขึ้นมาก แต่ในจังหวะที่ต้องใช้ธนูยิงเป้าเพื่อเปิดทางหนี… AI น้องธนูทำไมไม่ยอมออโต้คับ?! จะตายอยู่แล้วกรี๊ดดด! กลายเป็นไส้กรอกอีสานไปหลายรอบกว่าน้องจะยอมทำตามคำสั่ง (คุณต้องไปยืนใกล้ ๆ แล้ว “บ๊ายบาย” หรือทำท่าทางเชิญชวน น้องถึงจะยอมยิง) ความหน่วงของตัวละครและความช้าของ AI คือสาเหตุหลักที่ทำให้เราต้องกลายเป็นไส้กรอกบ่อยครั้ง
พอกลางเกมที่ต้องเดินทางผ่านสถานที่อันมืดมิด เราจะโชคดีที่ตัวเกมมอบไฟฉายให้ แต่ความโชคร้ายคือแสงจากไฟฉายไม่ได้ทำให้เราปลอดภัยขึ้นเลย มันกลับ… น่ากลัวกว่าเดิม เพราะแสงสว่างช่วยเผยให้เห็นรายละเอียดอันสยดสยองของฉากและศัตรูที่ซ่อนอยู่ในเงามืดได้อย่างชัดเจนแบบไม่ทันตั้งตัว!
ระบบ 2 คน Co-op เป็นจุดที่ยอดเยี่ยมสำหรับภาคใหม่ เพราะมันทำให้เราเล่นกับเพื่อนได้ ช่วยเพิ่มความกล้าในการเผชิญหน้ากับความมืดและปริศนาที่ซับซ้อน
การแปลภาษาไทยของ Little Nightmares III นั้นทำได้ดี แม้ว่าตัวเกมเองจะเป็นแนวผจญภัยที่เน้นภาพและบรรยากาศเป็นหลัก ทำให้มีบทสนทนาหรือข้อความในเกมค่อนข้างน้อย แต่ในส่วนที่มีการแปลนั้นก็ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ สำหรับแฟนเกมชาวไทย การเห็นเกมฟอร์มดีจากผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่อย่าง Bandai Namco รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ ถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างมาก ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นรู้สึก อบอุ่นใจ และ เข้าถึงบรรยากาศของเกมได้เต็มอรรถรส โดยไม่ต้องกังวลเรื่องภาษาอังกฤษ
งานด้านภาพ
สำหรับคนที่หลงรักเรื่องสยองขวัญ แต่ก็เป็นคนขี้กลัว จะรักงานภาพของ Little Nightmares แน่นอน และภาคนี้ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของซีรีส์ไว้อย่างครบถ้วน
การออกแบบฉากต่างๆ เต็มไปด้วยโครงสร้างพังๆ เครื่องเล่นพัง ๆ และความรื่นเริงที่กลายสภาพเป็นฝันร้าย ตามทางเดินจะมีเหมือนอวัยวะ ลูกกวาด ของผิดรูปผิดร่างและน่าขยะแขยงวางอยู่ ศัตรูตัวหลักถูกออกแบบมาให้มีสเกลที่ใหญ่โตเกินจริงและดูน่ากลัวในแบบ “จัมป์สแกร์”
อย่างที่เคยกล่าวไปแล้วว่าเกมนี้ โคตรมืด แต่ความมืดนั้นถูกออกแบบมาเพื่อซ่อนความสยอง และกระตุ้นจินตนาการ ผู้เล่นที่แพนิคจะยิ่งตื่นตระหนกเมื่อต้องเดินผ่านทางเดินมืด ๆ เพราะแสงและเงาที่สลัว ๆ จะทำให้เห็นภาพหลอน หรือระแวง ทำให้ต้องเพ่งมองและหนาวหลังอยู่ตลอดเวลา มุมกล้องส่วนใหญ่จะเป็นแบบภาพหันข้าง ตัวละครที่เล่นก็ตัวจิ๋ว คลานยุกยิกในโลกภายนอกและบ้านศัตรู เวลาปีศาจโผล่เข้ามา มันจะมาเต็มจอโดยมีเราเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ ทำให้ความกดดันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และบีบคั้นความรู้สึกจนทำให้ “ล่ก”ในจังหวะที่ต้องวิ่งหนี
ระบบเสียง
งานเสียงในซีรีส์นี้เน้นการสร้างบรรยากาศ และเป็นสัญญาณเตือนภัย ในช่วงปกติดนตรีประกอบจะมีความมืดหม่นจนถึงเงียบไปเลย เราก็จะเริ่มระแวงเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ รอบตัวว่า มันจะโผล่มาเมื่อไหร่ แต่ทันทีที่ปีศาจปรากฏตัวและเริ่มไล่ล่าดนตรีจะเปลี่ยนไป และมีเสียงสัตว์ประหลาดคำราม เราไม่จำเป็นต้องเห็นตัวปีศาจก่อน แค่ได้ยินเสียงที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ ก็รู้แล้วว่า “ต้องรีบซ่อนเร็ววว!” หรือบางทีเราก็ต้องระวังไม่ทำเสียงดังซะเอง บ่อยครั้งเมื่อเจอตัวประหลาด เราต้องย่องให้ไม่เกิดเสียง ฉะนั้นความเงียบก็เป็นอีกหนึ่งเสียงที่ทำให้เครียดกว่าเดิม จึงถือว่าเกมนี้ทำเสียงสยองได้ดีตามมาตรฐาน
สรุป
Little Nightmares III คือการกลับมาที่ยังคงรักษาแก่นของซีรีส์สยองขวัญแนวแพลตฟอร์ม/ปริศนาไว้อย่างครบถ้วน โดยมีจุดเด่นคือการเพิ่มระบบ Co-op ออนไลน์ 2 คน เข้ามาเป็นครั้งแรก ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นสามารถแบ่งปันความหวาดกลัวกับเพื่อน และร่วมกันไขปริศนาไปกับคู่หูใหม่คือ Low (ธนู) และ Alone (ประแจ) งานด้านภาพยังคงโดดเด่นในสไตล์ที่มืดหม่นและบิดเบี้ยว สร้างบรรยากาศที่กดดันและน่าขนลุกผ่านการใช้แสงและเงาได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะที่งานด้านเสียงก็ทำหน้าที่เป็นสัญญาณเตือนภัยและบีบคั้นอารมณ์ได้อย่างหนักหน่วง อย่างไรก็ตาม ตัวเกมมีข้อสังเกตในเรื่อง การควบคุมที่หน่วงและไม่แม่นยำ โดยเฉพาะในจังหวะที่ต้องวิ่งหนีอย่างเร่งด่วน ซึ่งนำไปสู่ความตายบ่อยครั้ง โดยรวมแล้วเกมนี้ ได้มอบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น กดดัน และคุ้มค่าที่จะลอง แม้จะต้องฝืนความกลัวและรับมือกับความหงุดหงิดจากการควบคุมบ้างก็ตาม
จุดเด่น
- ระบบ Co-op ใหม่ ช่วยให้ผู้เล่นสามารถร่วมกันไขปริศนาที่ซับซ้อนกับเพื่อนได้อย่างสนุกสนาน
- บรรยากาศ (Atmosphere) สามารถสร้างความรู้สึกหวาดกลัวและความไม่สบายใจได้อย่างดีเยี่ยม
- งานภาพเป็นสไตล์ศิลปะแนว Gore หลอน และเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ใส่ใจ
ข้อสังเกต
- เกมมืดแบบมืดจริง ๆ ควรต้องมีการปรับแสงหน้าจอให้สว่างมากๆ
- ความลำบากของการควบคุม โดยเฉพาะตัว Alone (ประแจ) ที่ค่อนข้างหนักและกระโดดไม่ค่อยถึง เข้าใจว่าทำเพื่อให้เป็นข้อจำกัดตัวละคร แต่น่าจะมีมือจับแพลตฟอร์มแบบออโต้เวลากระโดด
- AI ที่ช้าในจังหวะเร่งด่วน น้อง Low (ธนู) ต้องมีการสั่งการที่ชัดเจนเวลาจะให้ยิง และช้าเกินไปในบางสถานการณ์
คะแนนรวม
- เกมเพลย์ (Gameplay) 70/100
- งานภาพ (Graphics) 90/100
- งานเสียง (Audio) 80/100
- เนื้อเรื่อง (Story) 80/100











