Reviews

Two Point Museum: Zooseum – รีวิว [REVIEW]

by Reviewer Ocelot

Two Point Museum: Zooseum – รีวิว [REVIEW]

รีวิว Two Point Museum: Zooseum

ถ้าบริหารพิพิธภัณฑ์มันยังไม่ท้าทายพอ ก็ลองเอาคาปิบาร่าไปดูแล

* ขอขอบคุณโค้ด PC เพื่อการรีวิวจาก SEGA มา ณ โอกาสนี้ครับ

ความจริงการทำสวนสัตว์เป็นไอเดียที่สามารถเอาไปทำเป็นอีกเกมแยกของซีรีส์ Two Point แต่ทีมงานคิดจะใส่มันเข้ามาเป็นส่วนเสริมของเกมแทนซึ่งก็เข้าใจได้ เพราะการบริหารพิพิธภัณฑ์และสวนสัตว์มีจุดร่วมที่เหมือนกันอยู่คือการจัดแสดง แค่เปลี่ยนจากวัตถุโบราณมาเป็นบรรดาสัตว์ต่าง ๆ

อีกอย่างก็คือในตัวเกมหลักมันมีการให้เราบริหารพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและเอาผีมาเลี้ยงอยู่แล้ว แค่ปรับมาเป็นสวนสัตว์ก็พอ

สิ่งที่ส่วนเสริมนี้ทำได้ถูกต้องอย่างแรกเลยก็คือการเพิ่มด่านใหม่เข้ามาให้เพื่อให้เราได้เล่นเกมส่วนนี้โดยเฉพาะ พร้อมตัวละครใหม่คือวิกกี้ ซิลเวอร์บอตทอม ที่จะมาคอยแนะนำการเอาสัตว์มาดูแล ตั้งแต่การเดินทางไปพาตัวน้องทั้งหลายมาจากสถานที่ต่าง ๆ การสร้างพื้นที่จัดแสดง ล้อมรั้วปรับภูมิทัศน์ เพราะสัตว์แต่ละชนิดก็มีความต้องการพื้นฐานต่างกัน บางตัวต้องสร้างคอกเป็นป่า บางตัวต้องอยู่แบบทะเลทราย และต้องมีการเพิ่มเฟอร์ให้น้องอยู่อย่างแฮปปี้ที่สุด

เกมยังให้เราใช้ตาวิกกี้มาเป็นเจ้าหน้าที่ไปออกสำรวจได้ด้วย ซึ่งแกก็จะมีค่าความสามารถที่สูงระดับนึง ส่วนนี้นับว่าเป็นจุดอำนวยความสะดวก (Quality of Life) ให้ผู้เล่นได้ดี ไม่จำเป็นต้องรอปั้นผู้เชี่ยวชาญสัตว์คนใหม่

อีกส่วนที่ผมคิดว่าทีมงานเข้าใจคิดก็คือการปรับเรื่องการหาทรัพยากรในเกม เนื่องจากในการบริหารพิพิธภัณฑ์ก่อน ๆ เราสามารถเอาวัตถุสิ่งของจัดแสดงไปขายเป็นเงินมาจ่ายลิ่วล้อหรือเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้พิพิธภัณฑ์ได้ แต่ใน Zooseum เราไม่สามารถทำแบบนั้นเพราะมันจะออกแนวค้าสัตว์แทน

วิธีแก้ก็คือ ในเมื่อตัวเรามีหน้าที่เป็นทั้งผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญสัตว์ป่า เกมเลยเปลี่ยนให้เรามีตัวเลือกในการปล่อยสัตว์ที่จับมาคืนสู่ธรรมชาติ ซึ่งก่อนปล่อยคุณก็สามารถเอาน้องไปรักษาดูแลจนสุขภาพกายใจแข็งแรงก่อนปล่อยออกไป สิ่งที่คุณจะได้ตอบแทนกลับมาก็คือ ค่าศูนย์อนุรักษ์ เป็นเหมือนค่าเงินอีกแบบนึง (ใช้ทำอะไร เดี๋ยวจะบอก) แถมการปล่อยสัตว์คืนธรรมชาติเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศยังเป็นภารกิจหลักอย่างนึงของส่วนเสริมนี้

อีกไอเดียที่ใส่เข้ามาและเป็นเกมเพลย์ที่คิดอย่างรอบคอบคือการเพาะพันธุ์สัตว์ เงื่อนไขก็คือคุณจะต้องมีสัตว์ชนิดเดียวกันทั้งตัวผู้และเมีย (บางเคสก็ไม่ต้อง) แถมต้องทำให้น้องมีค่าความสุขเต็มที่ด้วย ในแต่ละรอบที่เราส่งคนออกไปสำรวจสถานที่เพื่อนำสัตว์กลับมา เราอาจจะได้แฮมสเตอร์ตัวผู้มาหนึ่งตัวแล้วรู้สึกขี้เกียจที่จะต้องส่งคนไปที่สถานที่เดิมเพื่อหวังจะได้แฮมตัวเมียซึ่งไม่มีอะไรการันตีเพราะมันเป็นกล่องสุ่ม

เกมแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างฉลาด ก็คือการเพิ่มศูนย์อนุบาลสัตว์เข้ามา ซึ่งจะมีสัตว์ให้คุณเลือกมาดูแลได้ทันที (ในศูนย์นี้จะมีแต่สัตว์ที่เราไปจับมาได้แล้วเท่านั้น) ที่คุณต้องทำก็แค่เสียเงินโฆษณาหาแฮมสเตอร์ตัวเมีย แล้วก็ใช้ค่าศูนย์อนุรักษ์ถอยน้องออกมาไว้ในสวนสัตว์ได้ทันที

เรื่องความกาวประจำซีรีส์ก็เป็นกลิ่นที่ทีมงานเอาใจใส่ทุกครั้ง คุณจะได้พบกับสิงโตผู้ดี ที่มีลายเหมือนใส่ชุดขุนนางยุโรป ยีราฟคอสปริง ไปจนถึงแมลงสคารัปก็ไม่เว้น มีสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่และมีสถานที่ใหม่ให้คุณสำรวจไปอีกหลายสิบชั่วโมง

และถ้าใครที่เล่นมาก่อนจะรู้ว่า การจะเพิ่มค่าความรู้ของสิ่งที่เราเอามาจัดแสดงก็คือการต้องเอามันเข้าห้องแล็ปแยกชิ้นส่วนศึกษา แต่ Zooseum ไม่ได้ใจร้ายขนาดต้องเอาคาปิบาร่ามาแยกชิ้นส่วน เกมเสนอวิธีใหม่ก็คือวิธีทำสปา ให้ผู้เชี่ยวชาญสัตว์ของเราคอยดูแลทำให้น้องผ่อนคล้ายและก็ทำให้เราได้ค่าความรู้ไปด้วย

พูดได้ว่านี่คือส่วนเสริมที่คิดมารอบด้าน และมีคอนเทนต์อุดมสมบูรณ์

เกือบลืมเรื่องสำคัญไปนั่นคือซับไทยครับ ในที่สุดเกมนี้ก็มีสิ่งที่มันควรจะมีสำหรับเกมเมอร์ไทยสักที การมีภาษาไทยในเกมจะช่วยให้คนเล่นเข้าใจสิ่งที่ต้องทำในเกมนี้เยอะขึ้นมาก คุณจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ฟังก์ชันต่าง ๆ ต้องใช้ตอนไหน ลดเวลาการทำความเข้าใจวิธีเล่นได้เกินครึ่ง (แต่ยังไงการลงมือเล่นเองก็จำเป็นอยู่ดี)

และอย่างที่บอกไปหลายครั้งว่าซีรีส์ Two Point มันขายความกาว ความสนุกมันไม่ได้มาจากแค่เกมเพลย์ แต่มันมาจากพวกบทสนทนา เหตุการณ์ที่เจอ ถ้าเราเข้าใจมุกของเกมก็จะทำให้เราอินกับมันได้มากที่สุด แถมการแปลชื่อคนเขาก็ใส่ความเป็นไทยไปเต็มที่ เช่น ฉวีวรรณ จริงใจ, ขนิษฐา ล่าแชร์คาน, พศินี อุ๊ยแมวพิมพ์ คือแค่เปิดตารางมาอ่านชื่อก็ฮาแล้ว

ถ้าจะมีอะไรให้บ่นนิดหน่อยมันก็คือสิ่งที่เป็นข้อเสียเดิม เวลาเราอยากดูพวกสัตว์ตัวเล็ก ๆ มันสังเกตยากไปหน่อย (ถึงเราจะสามารถเปิดหน้าต่างเมนูที่ลิสต์ชื่อน้องที่เราดูแลอยู่ได้) และแอ็กชันยังไม่ค่อยเยอะเหมือนพวกสัตว์ใหญ่ด้านนอก

สรุปภาพรวม ถึงการจัดการสวนสัตว์จะดูไม่แหวกเท่ากับการจัดแสดงในธีมแฟนตาซีก่อนหน้านี้ แต่เนื่องจากมีการเพิ่มคอนเทนต์มาได้ถูกสัดส่วน เพิ่มด่านใหม่ ใช้เมคะนิกที่มีอยู่เดิมดัดและปรับเปลี่ยนให้เข้ากับแฟนตาซีของการเป็นผู้อนุรักษ์สัตว์ต่าง ๆ และความคิดมารอบด้านของมัน ทำให้นี่เป็นส่วนเสริมที่ดีกว่าและคู่ควรกับราคาของมันจริง ๆ

The Review

85% ส่วนเสริมที่มีคอนเทนต์แน่นด้วยคอนเสปที่เรียบง่าย

85%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์