Reviews

Project Motor Racing – รีวิว [REVIEW]

โดย ปอลนาโช่

รีวิว Project Motor Racing

*ขอขอบคุณ SEGA Corporation สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5

ก่อนจะไปกันที่การรีวิว! ผู้เขียนขอแจ้งให้ทราบก่อนว่า บทความชิ้นนี้จะไม่มีการตัดสินให้คะแนนใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะผู้เขียนไม่มีจอยพวงมาลัยรถ และนี่เป็นเกมแข่งรถในแนว Simulation ข้าพเจ้าจึงไม่อาจหาญไปให้แต้ม/ตัดแต้มตัวเกม ทั้ง ๆ ที่ใช้แค่จอยแพดเล่น! โดยผู้เขียนจะพยายามอย่างดีที่สุดในการประเมินเกมนี้ในแง่ของความคุ้มค่าต่อการซื้อหามาเล่น ตลอดจนการวิเคราะห์พวกโหมดเกมที่มีมาให้ เพื่อให้ผู้อ่านใช้ประกอบการตัดสินใจ เอาล่ะ! ถือว่าเข้าใจตรงกันแล้วนะครับ

สำหรับแฟน ๆ เกมแข่งรถ เมื่อได้ยินชื่อเกมอย่าง Project Motor Racing คงจะเริ่มคุ้นหูกันบ้างแล้วใช่มั้ย? ถ้านึกไม่ออกผมเฉลยให้ โดยเกมนี้ก็คือทายาทโดยตรงของเกมดังในอดีตอย่าง Project CARS ของนายเอียน เบลล์ นักพัฒนาเกมชาวอังกฤษนั่นเอง ซีรีส์ Project CARS นั้นจบสิ้นไปแล้ว หลังทีมงานเบื้องหลัง Slightly Mad Studios ย้ายจาก Bandai Namco Entertainment ไปซบ EA ก่อนท้ายที่สุดทาง EA สั่งปิดโครงการเกมนี้แล้วจัดการสลายทีม Slightly Mad Studios ส่งผลให้ เอียน เบลล์ ต้องออกไปตั้งบริษัทใหม่ชื่อว่า Straight4 Studios แล้วก็หันมาซุ่มทำ Project Motor Racing เรื่อยมา

สำหรับ Project Motor Racing อันที่จริงมันก็เหมือนกับ Project CARS 4 กลาย ๆ เพราะหน้าตาเมนูและลักษณะของกราฟิกต่าง ๆ ภายในเกมนี่แทบจะถอดแบบกันมาเลยครับ ซึ่งก็สวยงามดี ตรงนี้ผมไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมากนัก

อย่างไรก็ตาม หากคุณเล่นเกมแข่งรถมาเยอะ ๆ ก็จะพอมองเห็นความแตกต่างได้อย่างนึงว่า Project Motor Racing สวยสู้เกมอื่น ๆ เขาแทบไม่ได้เลย โดยเฉพาะความละเอียดของวัตถุ ทั้งตัวถังรถและสภาพแวดล้อมประกอบฉาก น่าเสียดายที่ยุคสมัยล่วงเลยมาถึง 2025 แล้ว แต่ภาพในเกมยังดูคล้ายกับเกมช่วง PS3 – PS4 นั่นเลย (โดยเฉพาะดีเทลในค็อกพิตหลังพวงมาลัย…คือแย่มากอ่ะ)

ด้านรายละเอียดในเกมเบื้องต้น ตัวเกมมาพร้อมรถแข่งประมาณ 70 คัน ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างรถแข่งรุ่นใหม่จากรายการแข่งขันระยะยาว เช่น LMDh, GT3 และ GT4 รวมถึงรถแข่งระดับตำนานที่ชวนให้คิดถึงอดีต ส่วนสนามแข่งก็เช่นกัน มีสนามแข่งยอดนิยมอย่าง Spa Francorchamps, Daytona และ Nürburgring แต่ก็ยังมีสนามแข่งอีก 18 แห่งที่เพิ่มเข้ามา เช่น Lexington และ Derby

ในภาพรวม ผมถือว่าน้อยมาก โดยเฉพาะประเภทของรถ มีให้เลือกไม่กี่ยี่ห้อ…นั่นก็เพราะ เกม ๆ นี้เขาเน้นจำลองการแข่ง GT เป็นหลักครับ

ใช่แล้ว เมื่อเราพูดถึง GT ก็หมายถึงการใช้รถแบบ Grand Touring ที่เน้นการแข่งสไตล์ Endurance เน้นไปที่การแข่งขันระยะไกลหรือแบบ Endurance Racing ซึ่งต้องใช้ความเร็ว ความทนทาน และการจัดการทีมที่ดี รวมถึงการเปลี่ยนตัวนักแข่งและเข้าพิท ขณะที่การแบ่งคลาสก็จะหลากหลาย เช่น GT3, GT4 โดยแต่ละคลาสจะมีข้อกำหนดด้านสมรรถนะที่แตกต่างกัน ซึ่งมักใช้ระบบ BoP (Balance of Performance) หรือการถ่วงน้ำหนักเพื่อทำให้รถมีความสามารถในการแข่งขันที่ใกล้เคียงกัน

ดังนั้น ในหนึ่งสนาม คุณจะต้องลงขับประมาณ 16 รอบ (อาจแตกต่างกันไปตามซีรีส์และสนาม) ในรายการดัง ๆ อย่าง GT World Challenge หรือ SUPER GT เป็นต้น ซึ่งคุณต้องวางแผนการจัดการรถให้ดี และควบคุมการขับให้นิ่ง ครองสติและสมาธิให้ได้ตลอดระยะทางทั้งหมด

ซึ่งประเด็นนี้ ขอบอกเลยว่าถ้าใช้จอยจะยากมากครับ (ต่อให้ตั้งค่าทุกอย่างเป็นบีกินเนอร์ก็ตาม) เพราะพลาดนิดเดียวก็หมดลุ้นได้ทันที นี่จึงเป็นปัจจัยแรกสุด (และสำคัญที่สุด) ที่ผมขอฟันธงไปเลยว่า ยังไงซะเกมนี้ก็ต้องใช้จอยพวงมาลัยเล่น

การควบคุมรถโดยจอยเรซซิงวีล จะสามารถควบคุมรถขณะเข้าโค้งได้นิ่งกว่ามาก ๆ (ใครขับรถจริง ๆ เป็นจะเข้าใจ)

อ่ะ มาดูที่ตัวเกมกันต่อ, Project Motor Racing แบ่งการเล่นเป็น single-player และ multiplayer โดยคู่แข่งที่เป็น AI ในคอมจะมีได้ถึง 31 ตัว แต่บนคอนโซลจะเหลือแค่ 15 ด้วยข้อจำกัดด้านการแสดงผล สำหรับ single-player ก็แบ่งเป็นแค่การแข่งสนามเดียว (คล้าย ๆ ควิกเพลย์) กับโหมดหลักนั่นคือโหมด career ที่ให้เราสร้างตัวแล้วไปลุยแข่งไต่อันดับอาชีพไปเรื่อย ๆ ตามสนามแข่งและทัวร์นาเมนต์เท่าที่เกมจะมีมาให้

เมื่อดูตามโหมดเกมเพลย์ต่าง ๆ ที่ตัวเกมนำเสนอ ผมบอกเลยว่าเหนื่อยแน่…ไม่ใช่มีเยอะจนเล่นเหนื่อย แต่น้อยจัดจนเหนื่อยใจต่างหาก, จนดูด้อยกว่าเกมแข่งรถคู่แข่งอื่น ๆ เป็นอย่างมาก จนนี่อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ/ไม่ซื้อ ของแฟนเกมได้เลยทีเดียว เพราะเอาเข้าจริง ทั้งเกมมันก็มีมาให้แค่โหมดอาชีพนั่นแหละครับ ที่เหลือก็อาจไปลงแข่งออนไลน์กับผู้เล่นอื่น ๆ ถ้าคุณเป็นสายมัลติเพลเยอร์

ใครหวังจะได้เจอโหมดการเล่นหลากหลายรูปแบบ บอกเลยไม่มีในเกมนี้ครับ

สรุป

ถึงผมจะมองเห็นจุดด้อยค่อนข้างเยอะในเกมนี้ แต่อย่าลืมว่า ปัจจุบันเกมนี้เข้ามาอยู่ชายใต้คาการจัดจำหน่ายและดูแลโดยเซก้า (ซึ่งกำลังมีเงินถุงเงินถังจากตะวันออกกลาง) ผ่านบริษัทพันธมิตรอย่าง GIANTS Software ทำให้มีข่าวออกมาเรื่อย ๆ ว่า Project Motor Racing จะได้รับการสนับสนุนต่ออีกหลายปี ทำให้ผมเชื่อว่า สถานะของเกมในตอนนี้คือเป็นแค่จุดเริ่มต้น เขาน่าจะพยายามปล่อยอัปเดตอีกหลายครั้ง โดยเฉพาะการเพิ่มรถ เพิ่มสนาม และเพิ่มโหมดการแข่งขัน (ไอ้การเพิ่มเติมฟีเจอร์และคอนเทนต์รายปีนี่แหละ เป็นทางถนัดของเซก้าเขาเลย) ซึ่งมันอาจจะทำให้ Project Motor Racing เป็นเกมที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นได้อีก แค่ตอนเปิดตัว ณ จุดนี้ ผมว่ามันยังไม่คุ้มค่าเงินเท่าที่ควร ก็แค่นั้นแหละ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์