ข้อมูลใหม่ส่งตรงจากทีมพัฒนา Payday 3
*ขอขอบคุณทาง PLAION ที่ให้เกียรติ Thaigamewiki ในการเข้าร่วมเซสชันพรีวิวครั้งนี้ด้วยครับ
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทีมงาน Thaigamewiki ได้รับโอกาสให้เข้ารับฟังและชมการนำเสนอเกมปล้นแบงก์ชื่อดังที่กำลังจะปล่อยภาคใหม่คือ Payday 3 ในคราวนี้เราได้เข้าร่วมพูดคุยกับทีมผู้พัฒนาเกมคือ Starbreeze โดยตรง
ในงานนี้จะแบ่งเป็นสองช่วงหลักคือ ช่วงการนำเสนอตัวเกมกับการถามตอบ และเซสชันที่ทีมพัฒนาจะแบ่งกลุ่มให้สื่อเจ้าต่าง ๆ ได้เข้าทดสอบการปล้นแบงก์กัน
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูกันเลยว่าทีมพัฒนาเขาแง้มให้เราดูอะไรใน Payday 3 กันบ้าง
การก้าวกระโดดของ Payday 3
ในช่วงนำเสนอคุณ Almir Listo ผู้กำกับแบรนด์ระดับโลก/หัวหน้าฝ่ายชุมชน และคุณ Andreas Hall-Penninger ได้มาชี้ให้เราเห็นว่า Payday 3 จะมีลักษณะที่ก้าวกระโดดไปจากภาค 2 ทั้งในแง่ของกราฟิกและเกมเพลย์ เพื่อตอบสนองต่อโจทย์หลักของพวกเขาคือการสร้างแฟนตาซีการปล้นอย่างยิ่งใหญ่ และสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นได้เพราะขุมพลัง Unreal Engine
สิ่งที่คุณ Almir บอกว่าการพัฒนา Payday 3 ด้วย Unreal Engine นับว่าเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุดในการพัฒนา Payday 3 ก็ว่าได้ ไม่เหมือนกับภาค 2 ที่ยังใช้ Diesel Engine 2.0 ในการพัฒนา ซึ่งการเดินหน้าด้วยเอ็นจิ้นใหม่จะทำให้พวกเขาสามารถตอบโจทย์ความต้องการและยกระดับประสบการณ์ผู้เล่นได้มากกว่าเดิม อย่างแรกเลยก็คือกราฟิกที่ดูสวยขึ้น และมันสามารถเข้ามาแก้ปัญหาที่แฟน Payday เรียกร้องให้จัดการมานาน คือระบบ Cross-Play และ Cross-Progression
พูดได้ว่า Payday 3 จะให้คุณได้เรียกเพื่อนร่วมแก๊งมาปล้นแบงก์กันข้ามแพลตฟอร์มได้แล้ว และถ้านับว่าฐานแฟนเกมนี้ก็มีไม่ใช่น้อย ทั้งสองระบบต้องเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้เล่นได้แน่นอน รวมถึงยังช่วยปลดล็อกความต้องการผู้พัฒนาให้ทำในสิ่งที่ Payday ควรจะเป็นจริง ๆ ได้สักที เช่น การทำลายสิ่งแวดล้อมในฉาก ที่ใน Payday 3 เมื่อคุณสาดกระสุนไปทั่วห้องคุณจะรู้สึกได้เลยว่าวัตถุสิ่งของมันโดนทำลายจริง ๆ เตรียมสัมผัสการจารกรรมแบบเน็กซ์เจนได้เลย
ลูปการปล้นที่เปลี่ยนไปและวิธีการที่หลากหลายกว่าเดิม
Payday 3 จะมีการขยายมิติของความเป็นเกมแนวลอบเร้นมากขึ้น โดยคุณ Almir Listo ยืนยันว่าคุณสามารถฉกเงินจากแบงก์โดยที่ไม่มีใครรู้ตัวเลยได้แน่นอนถ้าคุณมือถึง
นอกจากนี้ พวกเขายังทำการเพิ่มเฟสใหม่เข้าไปในเกมเพลย์ด้วยนั่นคือช่วง ค้นหา (Search) และช่วงเจรจา (Negotiation) โดยช่วงค้นหาหมายถึงพวกยามรักษาการณ์จะสงสัยและเข้าหาเราถ้าเราทำตัวมีพิรุธ ถ้าพวกเขารู้ว่ากำลังจะถูกปล้นก็จะมีการโทรเรียกตำรวจเกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณเข้าสู่ช่วงเจรจา คุณสามารถคุยต่อรองกับตำรวจได้ และซื้อเวลาด้วยการค่อย ๆ ส่งตัวประกันให้ตำรวจทีละคน ในขณะที่เพื่อนของคุณก็ทำการเจาะตู้นิรภัยต่อไป
สิ่งนี้จะต่างจากภาคก่อนอย่างชัดเจน เพราะในภาคเดิมถ้าคุณไม่เน้นลอบเร้น ก็คือต้องเล่นใหญ่ไปเลย แต่เฟสที่เพิ่มเข้ามาใหม่มันเหมือนอยู่ระหว่างกึ่งกลางของการเล่นทั้งสองแบบ เป็นการเพิ่มมิติและทางเลือกของกลยุทธ์ให้ผู่เล่นมากขึ้น
ในการนำเสนอ เรายังเห็นฉากการปล้นในหอแสดงชิ้นงานศิลปะมูลค่ามหาศาลที่มีการเฝ้าระวังด้วยระบบเลเซอร์สีแดงด้วย แน่นอนว่ามันให้ความรู้สึกถึง Mission Impossible เพราะทีมพัฒนาต้องการให้คุณเข้าถึงแฟนตาซีการจารกรรมที่มันมีรสชาติฮอลลีวูดในนั้นด้วย
ระบบ Customization ยังเป็นหัวใจสำคัญ
ใน Payday 3 คุณยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของคุณได้มากกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนหน้ากากที่ใส่ ชุดที่สวม อุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งหมดจะมีความหลากหลายมากกว่าที่เคย รวมถึงสกิลต่าง ๆ ที่เขาบอกว่ามีมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จากที่คุณ Andreas เปิดให้ดูคร่าว ๆ ก็นับว่าเยอะจริงและส่งผลกับวิธีการเล่นพอสมควร เช่น สกิลปามีดใส่สิ่งแวดล้อมแล้วมีดไม่พัง สามารถเก็บมาใช้ต่อได้ หรือ สกิลที่ถ้าคุณเหลือเกราะติดตัว การโดนระเบิดแสง การล้ม หรือ การโดนสตันจะลดผลกระทบลง 50%
ประสบการณ์หลังทดลองเล่น
ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมทดสอบเล่น Payday 3 กับสื่อเกมประเทศเพื่อนบ้านท่านหนึ่ง และคนจากฝั่ง Starbreeze ซึ่งได้เข้ามาทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงคอยช่วยแนะนำแนวทางการเล่น หลังจากแอดเพื่อนและเชื้อเชิญกันเสร็จแล้ว โจรทั้ง 3 และบอทอีก 1 ตัว ก็ได้เข้าไปยังแผนที่หลักที่มีจุดมุ่งหมายคือให้เราปล้นธนาคารที่มีอักษรย่อน่าหวาดเสียวแห่งหนึ่ง
ในครั้งนี้ โจรที่มีประสบการณ์ (คนของ Starbreeze) ได้นำทางผมและทีมไปยังตรอกเล็ก ๆ หลังธนาคาร และช่วยสอนวิธีการลอบเร้นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการหลบสายตายาม ไปจนถึงใช้ปืนเก็บเสียงยิงกล้องวงจรให้หมด จนเราสามารถลักลอบเข้าไปในอาคารได้ พร้อมทั้งใส่หน้ากาก
ทุกอย่างดำเนินไปตามแผนของมัน กระทั่งมีโจรผู้หวังดีคนหนึ่ง (ตัวคนเขียนเอง) ใช้ปืนสอยกล้องวงจรปิดโดยไม่รู้ตัวเลยว่าไม่ได้ใส่ที่เก็บเสียงไว้ ผลก็คือ ลูกศรสีแดง Alert ขึ้นทั้งธนาคาร ด้วยความงงปนอึ้งในสติปัญญา ทำให้พี่เลี้ยงของทีมต้องบอกให้พวกเราเข้าสู่หมดเตรียมรับศึกกับตำรวจที่จะบุกเข้ามาไล่เก็บเรา
ในการต่อสู้นั้นเราจะมีทั้งพลังส่วนที่เป็นเกราะ ซึ่งสามารถฟื้นเองได้ตราบใดที่เกราะยังไม่ถูกทำลายจนเกลี้ยง ทำให้การเผชิญหน้ากับบรรดาเจ้าหน้าที่ในตัวอาคารไม่ค่อยยากนัก และเกมก็ไม่มีระบบยิงเพื่อนแล้วบาดเจ็บด้วย ทำให้ผมและทีมสามารถสาดกระสุนได้เต็มที่ ต้องบอกว่าตัวละครเราค่อนข้างอึดทีเดียวและสามารถยืนยิงสู้กับศัตรูสักตัวสองตัวแบบประจันหน้ากันได้ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะตัวเกมถูกปรับระดับความยากให้น้อยลงจนเหมาะสมกับฝีมือสื่ออย่างผมก็ได้
แต่ภารกิจหลักของเรายังต้องดำเนินการต่อไป คือการปล้นแบงก์ จ่าฝูงรีบขอให้เราตั้งเตาไฟเจาะพื้น (ไม่รู้ว่าเรียกอะไรเหมือนกัน) แล้วเอาสิ่งที่เหมือนเชื้อเพลิงจากหน่วยกำลังเสริมมาเติมใส่ไปเรื่อย ๆ หน้าที่ของเราคือคอยคุ้มกันไม่ให้ใครมาดับไฟได้ บางครั้งตัวน้ำดับไฟทำงาน ก็ต้องมีคนอาสาวิ่งเข้าห้องไปปิด เรียกได้ว่าเป็นเฟสที่มีความชุลมุนวุ่นวายพอตัว แต่นั่นยังไม่ใช่ที่สุด
เมื่อเตาไฟอั้งโล่ยักษ์เจาะพื้นเสร็จแล้ว ข้างใต้ก็คือห้องเก็บเงินพอดี ทั้งทีมรีบลงไปคว้าเงินใส่กระเป๋า ซึ่ง 4 คนจะแบกกระเป๋าเงินได้ 1 ใบ เท่านั้น เมื่อฉกทรัพย์เท่าที่จะทำได้ งานสุดท้ายก็คือต้องหนีตาย จ่าฝูงยังคงทำหน้าที่พี่เลี้ยงที่ดีคอยนำเราลัดเลาะไปยังถนนที่จะมีรถตู้มารับ ในเฟสนี้จะเป็นการยิงปะทะกันในที่แจ้ง ซึ่งให้อารมณ์ปราบผู้ก่อการร้ายมาก ตำรวจระดับ FBI ไปจนถึง SWAT จะบุกเข้ามามากขึ้น รวมถึงฝ่ายสไนเปอร์ที่ส่องหัวเราบนอาคารก็ทำให้การต่อสู้ในที่แจ้งเป็นงานที่ทุลักทุเลเอาเรื่อง มีเพื่อนร่วมทีมรวมถึงผมต้องล้มไปนอนกองหลายครั้ง แต่ก็พยายามไปช่วยดึงตัวลุกขึ้นมาสู้ต่อได้
ทันทีที่รถพร้อม โจรทั้ง 4 ก็ปาถุงเงินใส่ท้ายรถแล้วรอสมาชิกทั้งหมดให้อยู่ในรัศมีของรถ จากนั้นภารกิจก็สำเร็จไปได้อย่างงดงาม???
พี่เลี้ยงโจรฝึกหัดยังถามว่าเราอยากลองอีกตามั้ย ซึ่งทั้งทีมตอบตกลงแน่นอน เพราะอารมณ์อยากแก้มือ ในคราวนี้ ทุกอย่างก็ยังดำเนินไปอย่างเงียบเชียบ กระทั่งเข้าไปในธนาคารได้ แล้วมันก็คงเป็นวันจัญไรวันหนึ่ง ที่ผมได้รับเกียรติให้ทำ Stealth แตก อีกครั้ง และพาทั้งทีมเข้าสู่ลูปเดิม ต้องตั้งเตาอั้งโล่ยักษ์ ปล้นธนาคารแบบเล่นใหญ่กันใหม่ แต่ในคราวนี้คนของ Starbreeze ได้สอนให้ผมลองใช้อาวุธประเภท Overkill Weapon ซึ่งจะเป็นอาวุธหนักแบบปืนยิงกระสุนระเบิดที่เก็บกวาดศัตรูจำนวนมาได้ในพริบตา
ถ้าจะให้สรุปจากประสบการณ์ของผมที่ไม่เคยได้เลยแฟรนไชส์นี้มาก่อน ต้องบอกว่า Payday ก็เหมือนเกมแนวเล่นหลายคนที่ต้องทำภารกิจร่วมกัน นั่นคือมันต้องมีการเรียนรู้ ลองผิดลองถูกก่อนที่จะเป็นงานกันจริง รวมไปถึงการวางแผนกับเพื่อนร่วมทีมเลยว่าจะใช้วิธีไหนกับแผนที่ที่เลือก
เท่าที่สัมผัสมาเกมทำได้ดีในแง่ที่แต่ละเฟสมันมีอะไรให้ทำหลากหลาย และมันเหมือนไปวิจัยการปล้นอย่างจริงจังมากว่าพวกอาชญากรต้องใช้สิ่งนั้นสิ่งนี้ในการเจาะทะลวงระบบรักษาความปลอดภัย แน่นอนว่ามันต้องมีอะไรเวอร์วังเหนือจริงบ้างให้มันมีรสชาติเข้มข้นขึ้นด้วย และสิ่งที่ผมและสื่ออีกเจ้าเห็นตรงกันเลยก็คือว่าดนตรีช่วงยิงต่อสู้เดือดมาก
น่าเสียดายที่ในการทดสอบเล่นครั้งนี้ เราไม่ได้เห็นช่วง Question และ Negotiation ที่เขาได้นำเสนอไป และเป็นเกมเพลย์ที่ผมสนใจมากที่สุด แต่ก็นะ ไปทำ Stealth แตกสองรอบ เขาไม่ด่าให้ก็บุญเท่าไรแล้ว
สุดท้ายเราต้องขอขอบคุณฝ่าย PLAION อีกครั้ง รวมถึงผู้ที่มีส่วนในการจัดเซสชันนำเสนอนี้ขึ้นมาได้แก่: