Metaphor: ReFantazio เกมไตเติลใหม่ฉลองครบรอบ 35 ปี ของแบรนด์ ATLUS
ปล่อยข้อมูลรายละเอียดโลกทัศน์ในเกม
บริษัท SEGA CORPORATION ได้เปิดเผยข้อมูลเกมใหม่ล่าสุดของ Metaphor: ReFantazio ผลงาน RPG ชิ้นใหม่ที่พัฒนาโดย STUDIO ZERO จาก ATLUS ที่จะมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 11 ตุลาคม 2024 นี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวเกมมีกำหนดวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม Xbox Series X|S, Windows, PlayStation®5, PlayStation®4 และ Steam
■โลกทัศน์ของเกม
・โลกที่อารมณ์ความหวั่นวิตกของผู้คนสามารถมองเห็นได้
เชื่อมโยงกับโลกแห่งความจริง
เรื่องราวเกิดขึ้นในสหราชอาณาจักรยูโครเนียที่ประกอบด้วยประเทศ 3 ประเทศรวมกัน ที่แห่งนั้นมีเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ 8 เผ่า
มันเป็นโลกแฟนตาซีเพ้อฝันสำหรับผู้เล่น แต่สำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ในโลกแฟนตาซีแห่งนั้น ก็ย่อมมี “ความแฟนตาซีเพ้อฝัน” เป็นของตัวเองเช่นกัน:
ในโลกแห่งนั้น มีเพียงเผ่าพันธุ์เดียวอาศัยอยู่ ทุกคนยอมรับซึ่งกันและกัน ไม่มีการแบ่งแยกเลือกปฏิบัติโดยชาติกำเนิด
พวกเขาไม่มีเวทมนตร์ สร้างเมืองขนาดใหญ่ขึ้นมาได้ด้วยหนึ่งสมองและสองมือ หอคอยกระจกสูงเสียดฟ้า กลางคืนปลอดภัยไร้ความมืดมิด มีรถยนต์ที่สัญจรไปมา และกฎที่เติมเต็มการใช้ชีวิตของพวกเขานั้น ก็ระบุไว้ว่า ชีวิตของประชาชนนั้นเท่าเทียมกัน
จินตนาการที่ผู้คนในโลกแฟนตาซีวาดฝันไว้ สำหรับผู้เล่นแล้วเหมือนกับโลกแห่งความจริงนั่นเอง ต่างคนต่างก็คิดว่าโลกของอีกฝ่ายเป็นเพียงความเพ้อฝันที่เป็นไปไม่ได้ ทว่า มันจะเป็นไปไม่ได้จริง ๆ น่ะหรือ? มีอะไรบางอย่างทำให้พวกเราคิดว่า “ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้” รึเปล่า? คีย์เวิร์ดก็คือ “ความหวั่นวิตก” นั่นเอง นี่จะเป็นธีมหลักที่เรียบง่ายและเป็นรากเหง้าของเกม ๆ นี้
พลังที่จะตื่นขึ้นเฉพาะในผู้ที่เผชิญหน้ากับความหวั่นวิตกเท่านั้น
เวทมนตร์ คือคำที่ใช้เรียกศาสตร์หนึ่งที่ใช้ “พลังเวทย์” ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่ขัดต่อกฎของธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ผู้คนที่อาศัยอยู่ในยูโครเนียไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ด้วยพลังของตัวเอง
การจะใช้เวทมนตร์ ต้องใช้เครื่องมือพิเศษที่เรียกว่า “อุปกรณ์เวทมนตร์” ในการครอบครองและใช้งานก็จำเป็นต้องมีใบอนุญาต ตัวเอกและเพื่อน ๆ ได้ปลุกพลังที่แตกต่างไปจากสามัญสำนึกที่ว่านี้ และจะใช้มันได้อย่างคล่องแคล่ว
Archetype ศาสตร์ลับดั้งเดิม ที่จะปลุกให้ตื่นขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเผชิญหน้ากับความหวั่นวิตกและความกลัวของตัวเอง กล่าวอีกนัยหนึ่ง นี่คือการตื่นขึ้นของ “ความกล้าหาญ” ที่หลับใหลอยู่ในหัวใจผู้คนนั่นเอง
・เผ่าพันธุ์ทั้ง 8
ผู้คนที่อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรยูโครเนีย สถานที่ดำเนินเรื่องในเกมนี้ ถูกแบ่งแยกด้วยแนวคิดเรื่อง “เผ่าพันธุ์” ที่แตกต่างไปจากโลกแห่งความจริง แต่ละเผ่าก็จะมีลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่เกมนี้เน้นเป็นพิเศษเลยก็คือ “บุคลิกและวิธีคิด” ของแต่ละเผ่า
การแบ่งแยกเผ่าพันธุ์ถูกตีความให้มีสาเหตุหลักมาจากอุดมการณ์และความเชื่อของแต่ละเผ่า มากกว่าความแตกต่างทางกายภาพ เช่น รูปร่างหน้าตา สิ่งเหล่านี้ควรเป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่พวกเขาก็ยังดำเนินชีวิตอยู่ในความเป็นจริงที่ว่า อนาคตของพวกเขาได้ถูกกำหนดด้วยชาติกำเนิด
เมื่อผู้เล่นดำเนินเนื้อเรื่องไป และได้รู้เกี่ยวกับ “ลักษณะเด่น” ของแต่ละเผ่าพันธุ์ลึกซึ้งมากขึ้น พวกเขาอาจรู้สึกว่ามีเผ่าพันธุ์ที่ค่อนข้างคล้ายกับตัวเองอยู่ก็เป็นได้
เผ่า Clemar
เผ่าพันธุ์ที่มีประชากรมากที่สุดในสหราชอาณาจักร
พวกเขามี “เขาสัตว์” อยู่ที่หัวทั้งสองข้าง เป็นลักษณะเด่นทางกายภาพเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีร่างกายและความสามารถทางร่างกายโดยรวมเฉลี่ยทั่วไป ไม่มีอะไรที่โดดเด่น แต่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเผ่าอื่นเช่นกัน
เผ่า Clemar ดำรงตำแหน่งสำคัญและเป็นบุคคลสำคัญมากมายในราชวงศ์ยูโครเนีย และมักถูกมองว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่เป็นศูนย์กลางของอาณาจักร และตัวพวกเขาเองก็ยังมีแนวโน้มที่จะซึมซับความคิดนี้เข้าไปโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย
เคารพในเสรีภาพและไม่ชอบกฎเกณฑ์ที่ไม่สมเหตุสมผล พวกเขาชื่นชอบที่จะพูดคุยถกเถียงกันเพื่อแก้ปัญหาในทุก ๆ เรื่อง และไม่เคยสงสัยเลยว่าการทำเช่นนั้นจะเหมาะสมในทุกสถานการณ์หรือไม่ ทำให้บ่อยครั้งที่มักจะนำไปสู่ความขัดแย้ง
เผ่า Roussainte
เผ่าพันธุ์ที่มีประชากรในสหราชอาณาจักรมากเป็นอันดับสองรองจาก Clemar
ลักษณะเด่นทางกายภาพ คือ หูที่ยื่นยาวออกมา เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีร่างกายและความสามารถทางกายภาพที่ยอดเยี่ยม และแม้แต่ผู้หญิงก็มักจะมีความแข็งแกร่งทางร่างกายมากกว่าผู้ชายของเผ่าพันธุ์อื่น ทำให้มีบุคลากรทางทหารจากเผ่า Clemar จำนวนมาก และหลายคนก็ดำรงตำแหน่งสำคัญในกองทัพ
ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงถูกมองว่ามีอิทธิพลภายในอาณาจักรทัดเทียมกับเผ่า Clemar และบางคนเรียกก็ทั้งสองเผ่าพันธุ์รวมกันว่า “เผ่าพันธุ์หลัก”
ชนเผ่า Roussainte จำนวนไม่น้อยที่ภาคภูมิใจในพลังที่เหนือกว่าเผ่าอื่น อาจกล่าวได้ว่าพวกเขามีความเถรตรงและต่อสู้อย่างซื่อสัตย์ แต่ในทางกลับกัน ก็มีผู้คนอีกจำนวนมากที่มีนิสัยหมกมุ่นอยู่แต่กับการแพ้ชนะ และพยายามกำหนดความเหนือกว่าและด้อยกว่าในทุก ๆ เรื่อง
เผ่า Rhoag
เผ่าพันธุ์ที่มีลักษณะเด่นคือ “อายุที่ยืนยาว”
พวกเขามีอายุยืนยาวเป็นพิเศษ บางคนมีอายุขัยเกินค่าเฉลี่ยของเผ่าพันธุ์อื่นมากกว่า 2 เท่า อย่างไรก็ตาม เผ่า Rhoag มีอัตราการเติบโตที่เป็นเอกลักษณ์ โดยช่วงวัยเด็กจนถึงช่วงปลายวัยรุ่นจะเติบโตพอ ๆ กับเผ่าพันธุ์อื่น ๆ แต่ช่วงวัยกลางคนจนถึงวัยชราจะยาวนานมากเกินครึ่งหนึ่งของช่วงชีวิต นั่นทำให้ผู้คนจำนวนมากติดภาพจำว่า “เผ่า Rhoag นั้นคือความชราภาพ”
ภายใต้ธรรมเนียมการทำงานตามลำดับขั้นอาวุโสแบบดั้งเดิม ทำให้ชาวเผ่า Rhoag มักได้ครองตำแหน่งสูง ๆ และสำคัญ ๆ และด้วยอายุที่ยืนยาว พวกเขามีวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับ “การส่งต่อ” ความรู้และเจตนารมณ์ จนมีคำกล่าวกันตามท้องถนนว่า “ชนเผ่า Rogue จะไม่ลืมบุญคุณความแค้นที่พวกเขามีใน 3 รุ่น”
นอกจากนี้ ชาวเผ่า Rhoag จำนวนมากยังมี “ลวดลาย” อันเป็นเอกลักษณ์บนใบหน้าของพวกเขา สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่มีมาแต่กำเนิด แต่เป็นการแต่งหน้าประเภทหนึ่งตามประเพณีของชนเผ่าของพวกเขา
เผ่า Ishkia
เผ่าพันธุ์ที่มี “ปีก” อันสง่างามตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
ลักษณะหน้าตายังโดดเด่นด้วยดวงตาและขนตาที่เรียวยาว มีจำนวนน้อยที่สุดจากทั้ง 8 เผ่าพันธุ์ แต่ก็ว่ากันว่าพวกเขามีความฉลาดมากกว่าเผ่าพันธุ์อื่น ๆ และมีสถานะค่อนข้างโดดเด่นในเขตเมือง
ในความเป็นจริงแล้ว ชาวเผ่า Ishkia จำนวนมากดำรงตำแหน่งระดับสูงในแวดวงงานที่ต้องใช้มันสมอง เช่น นักวิชาการหรือนักบวช และมีไม่น้อยที่เป็นคนชนชั้นสูง
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่มักได้รับความชื่นชมจากรูปลักษณ์อันโดดเด่น แต่ก็มีบางคนที่มีพฤติกรรมชอบดูถูกเผ่าพันธุ์อื่น และพวกเขาได้รับการโต้กลับด้วยความเกลียดชังในระดับเดียวกัน
เผ่า Nidia
เผ่าพันธุ์ที่โดดเด่นด้วยดวงตาที่กลมโตและโทนสีของมัน
นัยน์ตาครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของดวงตา สีของดวงตาและรูม่านตาสะท้อนแสงแวววาวเจ็ดสีราวกับปริซึม
แม้จะเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่มีลักษณะที่โดดเด่นเหนือเผ่าอื่น ๆ แต่ก็ว่ากันว่า ชาวเผ่า Nidia หลายคนเข้ากับคนอื่นได้ง่ายและเก่งในการชนะใจผู้คน อย่างไรก็ตาม นิสัยประเภทนี้มักถูกมองในแง่ลบว่าเป็นพวกดีแต่พูดเชื่อถือไม่ได้ หรือไม่ก็เป็นคนประหลาด
เผ่า Paripus
เผ่าพันธุ์ที่มีหูและหางเหมือนสัตว์
ขนและสีผิวของพวกเขามีหลากหลายอย่างมาก โดยบางคนมีสีโทนเย็นซึ่งไม่อาจพบได้ในเผ่าพันธุ์อื่น
เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีความสามารถทางกายภาพสูง แต่ก็มีความอ่อนไหวตอบสนองต่อสิ่งเร้าทางร่างกายได้ง่าย ชาวเผ่าหลายคนมีนิสัยชอบหาความสำราญจากสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดีหรือร้าย ชอบงานเลี้ยงสังสรรค์และความรื่นเริง ไม่สนใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นจุดแข็งของพวกเขา แต่ก็มีข้อเสียที่จะอารมณ์ฉุนเฉียวได้ง่ายและไม่ชอบคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ
เพราะเหตุนี้ แม้จะเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีจำนวนมากพอ ๆ กับเผ่า Clemar และ Roussainte แต่พวกเขาก็ไม่มีความได้เปรียบทางการเมืองและมักจะถูกเผ่าอื่นดูถูกดูแคลน โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีแนวโน้มที่จะถูกดูแคลนมากเป็นพิเศษ
เผ่า Eugief
เผ่าพันธุ์ขนาดเล็กที่มีปีกและหูคล้ายค้างคาว
นอกจากรูปลักษณ์ที่แตกต่างและจำนวนที่มีอยู่น้อยนิดแล้ว ด้วยความที่ชาวเผ่าหลายคนออกหากินเวลากลางคืน มองเห็นในตอนกลางคืนได้ดี และมีประสาทการได้ยินที่ดีเยี่ยม พวกเขาจึงมักถูกมองว่าเป็นพวกน่าขนลุกและถูกเลือกปฏิบัติ เป็นผลให้ชาวเผ่า Eugief ส่วนใหญ่จำต้องทนใช้ชีวิตที่ไม่อาจร่ำรวยมั่งคั่งได้และมีสถานะทางสังคมที่ต่ำต้อย
พวกเขาทุกคนล้วนมีความสุภาพอ่อนโยน ให้ความร่วมมือกับคนอื่นเป็นอย่างดี ทว่าในทางกลับกัน พวกเขากลับไม่เก่งในการตัดสินใจเรื่องสำคัญ ๆ มักจะลังเลและกังวลใจกับผู้อื่น ซึ่งจะทำให้สถานะทางสังคมของพวกเขาต่ำลง
เผ่า Mustari
เผ่าพันธุ์ที่มี “ตาดวงที่ 3” อยู่บนใบหน้า
เนื่องจากพวกเขาสวมชุดประจำเผ่าที่ปกปิดหน้าตา จึงมักถูกมองว่าน่าขนลุกอยู่บ่อยครั้ง แม้ว่าจะไม่ใช่ชนกลุ่มน้อย แต่ชาวเผ่าส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนเกาะรอบหมู่เกาะต่าง ๆ ในทะเล จึงไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อยนัก
ชาวเผ่า Mustariเคารพในศาสนาเฉพาะของตนที่แตกต่างไปจากศาสนาอันศักดิ์สิทธิ์แห่งราชอาณาจักร จึงมักถูกกลั่นแกล้งข่มเหงในฐานะที่เป็น “พวกนอกรีต” ของดินแดนแห่งนี้ และมีปริศนาบางอย่างซุกซ่อนอยู่
เหล่าสัตว์ปีศาจที่ถูกเรียกว่า “Human”
ในเวทีแห่ง Metaphor จะมี “อนุภาคแห่งความวิตก” ที่กำเนิดมาจาก “ความรู้สึกวิตกกังวล” ของผู้คนลอยอยู่ในอากาศ
สิ่งนี้แหละคือ “Magla” ที่เป็นต้นกำเนิดของเวทมนตร์ของโลกแห่งนี้ และส่งอิทธิพลต่าง ๆ นานา
Magla เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในโลกนี้ เนื่องจากมันจะถูกดูดและรวบรวมโดยอุปกรณ์พิเศษที่อยู่ในเมือง และกลายเป็นแหล่งเงินทุนของอาณาจักร ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ความวิตกกังวลของประชาขนเพิ่มขึ้น เหล่าสัตว์ปีศาจก็ได้ปรากฏตัวขึ้นราวกับตอบสนองต่อการเพิ่มขึ้นของ Magla ซึ่งสัตว์ปีศาจที่ร้ายกาจสุดก็หนีไม่พ้น Human โดยดีไซน์ของ Human มีต้นแบบมาจากภาพวาดอันน่าอัศจรรย์จำนวนมากที่จิตรกรยุคกลาง ฮีเยโรนีมัส โบช หลงเหลือไว้ ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นบุคคลแรกในโลกที่วาดภาพสิ่งมีชีวิตในจินตนาการ “มอนสเตอร์”
เหล่าตัวเอกจะได้พบกับผู้คนที่ทนทุกข์จากการคุกคามของสัตว์ปีศาจเหล่านี้ และออกเดินทางที่เต็มไปด้วยความพลิกผันมากมาย
・“Human”
“Human” สัตว์ปีศาจลึกลับประหลาดซึ่งมีรูปร่างหน้าตาแปลกประหลาดไม่เหมือนกับสัตว์อื่นใดในโลก แต่ละตัวมี Magla ในสภาพบ้าคลั่งจำนวนมากอยู่ในร่างกาย และจะโจมตีทุกสิ่งรอบตัวโดยไม่เลือกหน้า
ระบบนิเวศน์ของมันเต็มไปด้วยปริศนา พวกมันมีความบ้าคลั่งราวกับไร้ซึ่งสติปัญญา แต่พวกมันก็ยังใช้เวทมนตร์ระดับสูงที่แม้แต่ผู้คนในโลกนี้ก็ไม่สามารถควบคุมได้โดยง่าย พวกมันมีร่างกายที่แข็งแกร่ง ที่ถ้าเป็นประเภทขนาดใหญ่ก็สามารถทำลายกระทั่งกองทัพทั้งกองให้พินาศย่อยยับได้
Homo Gorleo
ปีศาจ Human ที่โผล่มาโจมตีป้อมปราการทางทหารที่ตั้งอยู่ในถิ่นทุรกันดารทางตอนเหนือของนครหลวงแกรนด์แทร็ด (Royal Capital Grand Trad) ความน่าสะพรึงกลัวของมัน แค่เพียงตัวเดียวสามารถกวาดล้างกองกำลังทั้งหมดที่ประจำการอยู่ในป้อมได้
Homo Avades
ปีศาจ Human ที่มีร่างกายเป็นเปลือกไข่ที่ประหลาดสุดจะพรรณา แม้แต่ในหมู่ Human ประเภทขนาดใหญ่ด้วยกัน มันจัดว่ามีขนาดใหญ่โตมหึมาเป็นพิเศษ เป็นอันตรายอย่างยิ่งถึงขนาดสามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้
หากเราจะหาลักษณะร่วมของ Human ที่มีรูปร่างประหลาดเกินพรรณานี้ ก็คงจะเป็น “ส่วนที่ดูเหมือนอวัยวะของมนุษย์” ที่มีอยู่ทั่วร่างกายของพวกมันนั่นเอง
▼ATLUS Exclusive – Metaphor: ReFantazio | ติดตามวิดีโอซีรีส์ คลิกที่นี่
ATLUS Exclusive – Metaphor: ReFantazio 4.23.2024
ATLUS Exclusive – Metaphor: ReFantazio | Archetypes
ATLUS Exclusive – Metaphor: ReFantazio พาร์ตเนื้อเรื่อง