TacticsOgre:Reborn จะนำเอาองค์ประกอบที่ดีที่สุดของ Tactics Ogre ภาคต้นฉบับและ Tactics Ogre: Let Us Cling Together มาใช้แล้วเพิ่มเติมองค์ประกอบใหม่ ๆ เข้าไป รวมถึงออกแบบระบบต่อสู้ใหม่เพื่อสร้างเกมในแบบปัจจุบันที่จะให้ประสบการณ์ด้านเกมเพลย์ที่สนุกกว่าเดิม ซึ่งในคราวนี้จะเป็นการดูรายละเอียดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของระบบต่อสู้, เน้นที่การเปลี่ยนแปลงของยูนิต, การต่อสู้และร้านค้า
เงื่อนไขการใช้ของสวมใส่แบบใหม่จะทำให้ใช้ได้ง่ายขึ้น
ใน Tactics Ogre: Let Us Cling Together, จะมีเงื่อนไขในการใช้งานของสวมใส่อย่างเช่นอาวุธและชุดเกราะ, ของใช้อย่างเช่นไอเท็มฟื้น HP และเวทมนตร์ ยกตัวอย่างเช่น ของสวมใส่บางชิ้นจะมีข้อจำกัดด้านเลเวล ส่วนของอื่น ๆ อาจจำเป็นต้องมีสกิลต่างหากถึงจะสวมใส่ได้ แต่ใน Tactics Ogre: Reborn, คุณจะสามารถติดตั้งของและใช้อะไรต่าง ๆ ได้ในทันทีที่เก็บมาได้ แต่อย่างไรก็ตามจะยังคงมีข้อจำกัดด้านคลาสสำหรับของสวมใส่และเวทบางอย่างอยู่ ยกตัวอย่างเช่น อัศวินจะไม่สามารถสวมใส่ธนูได้ และนักบวชก็ไม่สามารถติดตั้งเวทโจมตี เป็นต้น
แต่ละยูนิต จะมีช่องสวมใส่ทั้งหมดเจ็ดช่องสำหรับอาวุธและชุดเกราะ, สี่ช่องสำหรับไอเท็ม และสี่ช่องสำหรับเวท การตัดสินใจว่าจะผสมผสานของสวมใส่และความสามารถในการต่อสู้จะทำให้สนุกยิ่งกว่าที่เคย!
กฎเกี่ยวกับสกิลได้รับการยกเครื่องใหม่หมด!
ในตอนที่ยูนิตเลเวลเพิ่ม พวกเขาจะได้รับความสามารถพิเศษหรือก็คือ “สกิล” ที่สามารถใช้งานได้ และทำให้แต่ละคลาสมีรูปแบบการเล่นเฉพาะตัวในฉากสู้ เช่นเดียวกับไอเท็มและเวท ที่แต่ละยูนิตจะติดตั้งได้สูงสุดสี่สกิลด้วยกัน เพราะฉะนั้นคุณจะต้องคิดว่าจะผสมผสานสกิลที่ต้องการอย่างไรเพื่อใช้ในการต่อสู้ โดยในเกมนี้ได้มีการเพิ่มเติมสกิลใหม่ ๆ ด้วย และยังมีการปรับแต่งเอฟเฟคต์ต่าง ๆ ของสกิลเพื่อทำให้ขอบเขตของกลยุทธ์กว้างขึ้นกว่าเดิม แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคลาส ยกตัวอย่างเช่น หากคุณโจมตีศัตรูที่ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างยูนิตของคุณ ก็จะเกิดสกิลใหม่อย่างการโจมตีขนาบ (Pincer Attack) ซึ่งจะทำให้ฝ่ายเราที่อยู่ด้านหลังศัตรูโจมตีเสริม
ท่าพิฆาต, วิชานินจาและระบำสงครามต่างก็ได้รับการอัปเดตทั้งหมด!
ยูนิตจะสามารถเรียนรู้ท่าพิฆาตอันทรงพลังได้หากเข้าเงื่อนไขบางอย่าง โดยใน Tactics Ogre: Let Us Cling Together นั้น ท่าพิฆาต, วิชานินจาและระบำสงครามต่างก็จำเป็นต้องรวบรวมและใช้งาน Technical Points (TP) และบางครั้งก็จำเป็นต้องใช้น้ำยาเฉพาะบางชนิด แต่ว่าคราวนี้ความสามารถเหล่านั้นจะใช้เพียงแค่ Magic Points (MP) เหมือนเวลาใช้เวท ด้วยความที่ความสามารถเหล่านี้เปลี่ยนมาใช้ MP จึงทำให้คุณสามารถประเมินสถานะของแต่ละยูนิตในการต่อสู้ได้ง่ายขึ้น และคิดกลยุทธ์ได้ง่ายกว่าเดิม
ไอเท็มใหม่: เครื่องราง
เครื่องรางจะช่วยให้คุณพัฒนาค่าสถานะของยูนิตได้ในแบบที่ต้องการ!
เครื่องรางคือไอเท็มใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาเพื่อให้คุณสามารถควบคุมการพัฒนาค่าสถานะของยูนิตได้มากขึ้น คุณสามารถใช้เครื่องรางบนหน้าการจัดปาร์ตี้เพื่อพัฒนาและเปลี่ยนแปลงค่าสถานะของยูนิตได้ เครื่องรางจะสามารถหาได้จากการต่อสู้และได้เป็นรางวัลหลังจบการต่อสู้
ผลลัพธ์จากเครื่องราง
- เพิ่มเลเวลของยูนิต 1 เลเวล
- ให้ค่าประสบการณ์
- เพิ่มค่าสถานะโดยถาวรเช่น STR (ความแข็งแกร่ง) หรือ AGI (ความเร็ว)
- เปลี่ยนธาตุของยูนิตให้กลายเป็นธาตุอื่น (e.g., จากลมไปเป็นศักดิ์สิทธิ์)
ฟีเจอร์ใหม่บนหน้าจอก่อนเริ่มสู้!
คำสั่ง Scout จะช่วยให้คุณเก็บข้อมูลของศัตรูได้ก่อนเข้าต่อสู้!
เมื่อเลือก Scout ในหน้าจอก่อนสู้ คุณจะได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพภูมิประเทศและกองกำลังของศัตรู (ตำแหน่ง, เลเวล, คลาส, ของสวมใส่ ฯลฯ) ซึ่งคุณสามารถเปลี่ยนคลาสของยูนิตและของสวมใส่ได้ในหน้าจอก่อนเริ่มสู้ คุณสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อมาจัดปาร์ตี้ที่ดีที่สุดได้
คุณสามารถเซฟปาร์ตี้ที่แตกต่างกันได้สูงสุด 5 ปาร์ตี้!
หากคุณเตรียมปาร์ตี้เอาไว้หลากหลายแบบเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ต่างกัน อย่างเช่นเพื่อรับมือกับจำนวนศัตรูหรือคลาสของศัตรูต่าง ๆ คุณก็จะสามารถเลือกปาร์ตี้ที่เหมาะสมที่สุดได้อย่างรวดเร็วจากข้อมูลซึ่งคุณทราบมาก่อนต่อสู้
อัปเดตใหญ่ 7 อย่างของการต่อสู้!
1. พลิกสถานการณ์ด้วยการ์ดบัฟ!
ในระหว่างการต่อสู้ จะมีไอเท็มที่เรียกว่าการ์ดบัฟปรากฏขึ้นในฉากต่อสู้ เมื่อยูนิตไปเก็บการ์ดบัฟก็จะได้รับโบนัสที่อยู่ไปจนจบการต่อสู้ อย่างเช่นเพิ่มพลังโจมตีหรือเพิ่มโอกาสติดคริติคอล โบนัสที่ได้รับจะขึ้นอยู่ชนิดของการ์ดที่พบ ซึ่งยูนิตของคุณจะต้องแข่งกับศัตรูในการเก็บการ์ดบัฟเหล่านี้ และการเคลื่อนที่รวมถึงตอบสนองต่อการต่อสู้อย่างไรเพื่อชิงความได้เปรียบก็จะเป็นหนึ่งในองค์ประกอบอันตื่นเต้นของภาคนี้
ยูนิตจะสามารถรับเอฟเฟคต์จากการ์ดบัฟได้พร้อมกันสี่การ์ดในครั้งเดียว และยิ่งเก็บการ์ดบัฟที่มีเอฟเฟคต์ใกล้เคียงกันก็จะยิ่งเพิ่มพูนผลลัพธ์ขึ้นไปอีก ทำให้การต่อสู้เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาในตอนที่ยูนิตได้การ์ดเพิ่มขึ้น
2. AI ศัตรูแบบใหม่จะปรับตัวตามการต่อสู้
ศัตรูจะทำการพิจารณาภูมิประเทศ และรับรู้ถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่นถนนแคบและถนนกว้าง, ที่โล่งกว้าง รวมถึงการเคลื่อนไหวของผู้เล่น และจะใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อตัดสินใจว่าการปะทะจะเกิดขึ้นที่จุดไหนและเลือกตำแหน่งที่ดีที่สุดในการเข้าเผชิญหน้ากับผู้เล่น นอกจากนั้นแล้วการที่ศัตรูจะตอบสนองอย่างไรต่อการ์ดบัฟที่ปรากฏขึ้นแบบสุ่ม ก็จะก่อให้เกิดการต่อสู้ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและไม่ทำให้รู้สึกซ้ำซากแต่อย่างใด
3. รับรางวัลมากขึ้นเมื่อเคลียร์เป้าหมายโบนัส!
นอกเหนือไปจากเงื่อนไขการชนะตามปกติแล้ว แต่ละการต่อสู้จะมีเป้าหมายโบนัสใหม่ ผู้เล่นจะได้พบกับเป้าหมายอย่างเช่น “ชนะโดยมีอัศวินในปาร์ตี้” หรือไม่ก็ “เก็บการ์ดบัฟ” และถ้าทำตามเป้าหมายเหล่านี้ได้ ก็จะได้รับไอเท็มอย่างเช่นเครื่องรางและของสวมใส่ที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับกองกำลังของตน ลองมารับความท้าทายพิเศษนี้ถ้าคุณอยากทดสอบฝีมือตัวเอง!
4. ไม่เพียงแค่ศัตรูแต่ยูนิตของคุณก็มี AI ที่พัฒนาขึ้น!
หากคุณต้องการให้คอมพิวเตอร์ควบคุมยูนิตของคุณเอง จะมีเซ็ตติ้ง AI ที่ต่างกันสี่แบบให้เลือก: จู่โจมบ้าคลั่ง, ป้องกันมั่นคง, ยิงจากทางไกล และมุ่งมั่นเยียวยา คุณสามารถเปลี่ยนระหว่างการควบคุมเองและ AI ได้ทันทีสำหรับทุกยูนิต ไม่ว่าจะจากหน้าจอก่อนสู้หรือในระหว่างการต่อสู้!
5. ระบบคาดการณ์วิถีช่วยขจัดข้อผิดพลาด!
เมื่อทำการยิงโดยอาวุธอย่างธนูและหน้าไม้ หรือร่ายเวทที่เป็นการยิงจากระยะไกล อย่างเช่น Deadshot นั้น คุณจะกดดูวิถีโจมตีได้เพื่อให้มั่นใจว่าการจู่โจมนั้นจะโดนเป้าหมายโดยไม่พลาดไปโดนพวกเดียวกัน
6. ชุบชีวิตยูนิตที่สู้ต่อไม่ไหว
เมื่อศัตรูโจมตีจน HP ของยูนิตกลายเป็นศูนย์ ก็จะอยู่ในสภาวะ “สู้ต่อไม่ได้” จะมีการนับเวลาถอยหลังเหนือยูนิตที่สู้ต่อไม่ได้ดังกล่าว ซึ่งยูนิตนั้นจะได้รับการชุบชีวิตหากกดใช้ไอเท็มหรือใช้เวทก่อนตัวเลขนับถอยหลังกลายเป็นศูนย์ ยูนิตที่ฟื้นขึ้นมาแล้วจะเล่นต่อได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว, ฟื้นฟู HP หรือทำอย่างอื่นเพื่อตั้งตัว ซึ่งยูนิตจะสามารถูกชุบได้หลายครั้งตราบเท่าที่ตัวเลขนับถอยหลังไม่กลายเป็นศูนย์ ถ้าหากว่าตัวเลขกลายเป็นศูนย์ ยูนิตนั้นจะเข้าสถานะ “ตาย” และไม่สามารถชุบได้อีก
7. เลเวลอัปยูนิตด้วยการฝึกฝน!
เกมนี้ได้มีการนำเอาการเจอศัตรูแบบสุ่มในฉากเวิลด์แมปออกไปทั้งหมด แต่คุณจะได้เข้าต่อสู้ ณ สถานที่ที่กำหนดในเวลาใดก็ได้ที่ต้องการ ยูนิตจะไม่ตายในการต่อสู้แบบฝึกฝนนี้ ซึ่งก็จะทำให้การเลเวลอัปง่ายดายยิ่งกว่าเดิม
การปรับปรุงสมดุลเกมทั่วไป
การปรับปรุงกองทัพศัตรู
ได้มีการปรับปรุงค่าสถานะ, ของสวมใส่และสกิลของแต่ละยูนิต รวมถึงตำแหน่งที่ยืนในฉากต่อสู้
เพิ่มเติมเลเวลของปาร์ตี้
เลเวลปาร์ตี้ก็คือเลเวลโดยรวมของกองทัพของคุณ ซึ่งก็ทำหน้าที่เป็นเพดานเลเวลของแต่ละยูนิตเช่นกัน เพดานเลเวลปาร์ตี้จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นในตอนที่ผู้เล่นดำเนินเรื่องต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เล่นนั่งเก็บเลเวลจนสูงมากแล้วทะลวงฝ่าเกมไปอย่างง่ายดาย การนำเสนอเลเวลปาร์ตี้นี้จะทำให้การใช้งานแต่ละยูนิตเป็นสิ่งสำคัญมาก และเน้นยำรูปแบบการวางกลยุทธ์ของตัวเกมมากขึ้น เนื่องจากเลเวลปาร์ตี้จะกำหนดไว้ให้สูงกว่าเลเวลของศัตรูเล็กน้อย จึงจะไม่ทำให้รู้สึกว่าความยากของเกมเป็นไปอย่างก้าวกระโดด ผู้เล่นจะสามารถเพิ่มเลเวลของยูนิตได้จากการฝึกฝนและเครื่องราง ดังนั้นแม้แต่ผู้ที่ไม่เคยเล่นมาก่อนก็จะเข้าถึงเกมได้ง่าย
ปรับปรุงคลาส, ของสวมใส่, ไอเท็ม, เวท, สกิล, ท่าพิฆาตและดีบัฟ
เกมนี้ได้ทำการปรับปรุงของสวมใส่, ไอเท็ม, สกิล, ท่าพิฆาตและดีบัฟ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดต AI ด้วยเป้าหมายในการทำให้การต่อสู้ลื่นไหลกว่าเดิมและเข้าใจง่ายขึ้น ค่าสถานะและเงื่อนไขการปลดความสามารถก็ได้รับการปรับแต่ง และยังได้มีการเพิ่มเติมรวมถึงการตัดออกในหลายอย่างเพื่อความเหมาะสม ซึ่งตอนนี้คลาส Rogue ก็สงวนไว้ให้สำหรับยูนิตศัตรูแล้ว
ร้านค้าของวาเลเรีย (Valeria) ที่ปรับปรุงขึ้น!
UI ที่พัฒนากว่าเดิมและให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์! เมื่อทำการซื้อหรือขายของสวมใส่ คุณจะสามารถดูรายละเอียดข้อมูลอย่างเช่นจำนวนไอเท็มที่มี และยูนิตไหนที่สวมใส่อยู่ได้ทันที
อัตราความสำเร็จจากการคราฟท์คือ 100%!
การคราฟท์ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพของของสวมใส่และไอเท็มจะสำเร็จแน่นอน 100% ในครั้งนี้ เพื่อไม่ทำให้เสียวัตถุดิบไปโดยเปล่าประโยชน์ และตัดปัญหาการต้องลองคราฟท์ใหม่ นอกจากนั้นแล้วยังได้มีการเพิ่มเติมฟังก์ชันอย่างการคราฟท์ไอเท็มหลายชิ้นในครั้งเดียวเข้ามาด้วย
