WORLD WAR Z: AFTERMATH – รีวิว [REVIEW]
ขอขอบคุณโค้ดเกมเพื่อการรีวิว จากบริษัท Ripples Thailand มา ณ โอกาสนี้ครับ
เกม WORLD WAR Z: AFTERMATH คือเวอร์ชันสมบูรณ์ของตัวเกมหลักที่ออกจำหน่ายเมื่อปี 2019 ครับ มันเป็นการอัปเดตเพื่อแก้ไข, เพิ่มเติมและปรับปรุงตัวเกมเดิมให้สมบูรณ์พร้อมเพื่อการนำมาขายใหม่บนเครื่องเกมในยุคปัจจุบัน ซึ่งเท่าที่ผมเล่นจนจบทุกฉากแล้วก็พบว่า…เขาทำมาได้ดีซะด้วยสิครับ!
Game features
ทีมงานเจ้าของเกมอย่าง Saber Interactive ตั้งใจอัปเกรดงานของตัวเองมาเป็นอย่างดี เริ่มตั้งแต่ การเพิ่มแคมเปญใหม่เข้ามาอีก 2 แมป 2 เนื้อเรื่องที่ออกแบบมาถือว่าใช้ได้ ตื่นเต้นเข้มข้นเวลาได้เล่น นั่นคือ Vatican City ใน Rome และฉาก Kamchatka ของ Russia
โดยส่วนตัว ผมชื่นชอบโหมดเกมที่มีให้เลือกในเกมนี้ ที่เริ่มตั้งแต่การเล่นแบบโคออป แบบมัลติเพลเยอร์ และแบบออฟไลน์โซโล่ ซึ่งโหมดหลังสุดนี่แหละที่ผมชื่นชอบเป็นอย่างมาก เพราะทำออกมาได้โอเคเลยสำหรับคนที่ชอบเล่นคนเดียว ลุยซอมบี้แล้วเน้นติดตามเนื้อเรื่องเกมไปเรื่อย ๆ
สรุปคือถ้าถามว่า เกมนี้เล่นคนเดียวได้มั้ย ตอบเลยว่าได้แน่นอนครับ เล่นได้จนจบทุกฉากนั่นแหละ แต่ว่า…
มันจะมีความยากอย่างนึงสำหรับคนเล่นคนเดียวก็คือ ในความยากระดับต้น ๆ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาหรอก แต่ถ้าเลือกความยากสูงขึ้นไปอาจจะพบความลำบากที่เพื่อนร่วมทีมเอไอ ไม่ค่อยมาช่วยเรา หรือมาช่วยเราไม่ทันเวลาโดนซอมบี้จับไว้ (เวลาโดนจับต้องรอคนอื่นช่วยอย่างเดียว)
ข้างล่าง (ขวามือ) มีฝูงซอมบี้วิ่งมารอต้อนรับทีมของคุณอย่างพร้อมเพรียง
อย่างไรก็ตาม เมื่อผมลองเล่นมัลติฯ แบบสุ่มดูก็เจอปัญหาโลกแตกอีกอย่างคือ ผู้เล่นออนไลน์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยช่วยเหลือกัน ตัวใครตัวมันสุด ๆ เล่นแล้ววุ่นวายมาก ดังนั้น ผมจึงแนะนำว่าเกมนี้เหมาะกับการเล่นกับเพื่อนฝูงรู้ใจ (ที่มีไมค์ด้วยยิ่งดี) จะถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เอาเป็นว่านึกถึงสมัยเล่น Left 4 Dead นั่นแหละ ป่วนมันฮา…แบบนั้นเลย
ยิงเข้าไป อย่าหยุด! (เราเตือนคุณแล้วนะ…)
Gameplay
จุดเด่นมาก ๆ ถึงมากที่สุดของ AFTERMATH ก็คือการเปิดตัวเลือก FPS หรือมุมมองบุคคลที่หนึ่งให้ผู้เล่นเลือกเปลี่ยนได้อย่างอิสระ ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ช่วยเปลี่ยนอารมณ์เกมไปมากเลยครับ ผมขออธิบายแบบนี้ คือเวลาเล่นด้วยมุมมอง TPS แบบดั้งเดิม ที่เรามองผ่านด้านหลังตัวละคร มันมีประโยชน์ตรงการระแวดระวังภัยได้ดีกว่า มุมมองเปิดกว้าง พบเห็นซอมบี้ได้เร็ว แต่พอเปลี่ยนมาใช้ FPS คุณจะพบกับความเร้าใจของการถูกฝูงซอมบี้ถาโถมเข้าใส่แบบเผชิญหน้า มันกระตุ้นอารมณ์ได้สุด ๆ และตัวผมเองรู้สึกว่า…จะยิงปืนได้แม่นกว่าในโหมดนี้ด้วยครับ (อาจเป็นเรื่องของความถนัดแต่ละบุคคล)
สรุปว่า ตัวเลือกการปรับเปลี่ยนมุมมองนี้ถือเป็นของใหม่ที่เกมทำได้ดี ขอบวกคะแนนให้ไปเลยสำหรับประเด็นนี้
มีอีกเรื่องหนึ่งที่ควรแจ้งให้ทุกคนรับทราบ นั่นคือ WORLD WAR Z: AFTERMATH จะมีการเล่นซ้ำ ๆ ฉากเดิมบ่อยมาก…เรียกได้ว่ามันคือรูปแบบปกติของเกมนี้เลยดีกว่า เพราะความแตกต่างหลากหลายของมันจริง ๆ แล้วจะไปอยู่ที่การเลือกระดับความยากในแต่ละฉาก เพราะปริมาณ, ประเภท และตำแหน่งของซอมบี้จะแตกต่างกันไป รวมถึงการอัปเกรดอาวุธของผู้เล่นที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะทำให้การเล่นให้ความรู้สึกไม่เหมือนเดิมได้ครับ
แต่ถ้าใครคิดว่ามันซ้ำซาก หรือคิดว่าตัวเองน่าจะเบื่อเร็วที่ต้องเล่นภารกิจเดิม ๆ เพราะมันมีแค่ 7 แคมเปญ ก็ต้องพิจารณาถามใจตัวเองให้ดีก่อนซื้อ
Graphic & Sound
WORLD WAR Z: AFTERMATH ถือเป็นเกมยิงภาพสวยเกมหนึ่ง มีการออกแบบความซับซ้อนภายในฉากได้อย่างยอดเยี่ยม ทว่ารายละเอียดภายในฉากยังถือว่าน้อย ถ้าเอาไปเทียบกับเกมยิง, เกมแอ็กชั่นผจญภัยอื่น ๆ ขณะที่เสียงประกอบถือว่าอยู่ในระดับโอเค ผมชอบเสียงกรีดร้องของเหล่าผีดิบที่ดังเป็นฉากหลังอยู่เป็นระยะ ๆ ถือว่าช่วยสร้างบรรยากาศหลอน ๆ ได้อย่างน่าพอใจ
ตัวอย่างเมื่อปรับเป็น FPS
Summary
ถ้าจะให้สรุปสั้น ๆ ฟันธงเลยนะ…ก็ต้องบอกว่าเกมนี้เป็นเกมที่ “สนุก” เล่นสนุก เร้าใจ องค์ประกอบเกมแข็ง…หมายถึงมีจุดแข็งเยอะ เกมเพลย์ลงตัว ระบบการยิง, การเคลื่อนไหว ออกแบบมาได้ดีเลยครับ แต่มีจุดอ่อนที่เกมสั้น แคมเปญน้อย บวกการเล่าเรื่องที่เน้นเป็นตัวหนังสือเล่าประวัติตัวละครให้อ่านกันเอาเอง บวกกับคัตซีนเฉพาะของแต่ละคน ถ้าอยากใช้ตัวละครตัวไหนก็ต้องเล่นปลดล็อคไปเรื่อย ๆ (ในฉากเดิม ๆ นั่นแหละครับ)
อย่างไรก็ดี เกมจะเปลี่ยนหน้าตาไปทันทีหากคุณได้เล่นกับเพื่อนสนิท เพราะความมันแท้จริงจะบังเกิด จนคุณแทบจะไม่สนใจเลยว่า คุณกับเพื่อนต้องเล่นภารกิจเดิม ๆ ที่เล่นผ่านมาแล้วเป็นสิบ ๆ รอบ…ก็ใครจะไปสนล่ะครับ! ไปกับเพื่อน ไปที่ไหนก็สนุกทุกที่นั่นแหละ!
ฝูงหนูผี แบบเดียวกับเกม A Plague Tale
