รีวิว ACE COMBAT 7: SKIES UNKNOWN – DLC TOP GUN MAVERICK
*ขอขอบคุณโค้ดรีวิวเวอร์ชัน Ultimate Edition จาก Bandai Namco Entertainment Asia มา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นเวอร์ชัน PS5
ACE COMBAT 7: SKIES UNKNOWN เป็นเกมฮิตของเมื่อปี 2019 ครับ ตอนนั้นตัวเกมได้รับเสียงชื่นชมแบบถล่มทลาย โดยถือเป็นการกู้ชื่อเสียงคืนมาได้สำเร็จ หลังก่อนหน้านั้นย้อนไปเมื่อปี 2014 มีภาคฟรี-ทู-เพลย์ที่ชื่อ Ace Combat Infinity ออกมาบนเครื่อง PS3 และไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไรนัก โดย Ace Combat 7 ได้คะแนนเฉลี่ยจากเว็บเมตาฯ ไปถึง 80 คะแนน [PS4] และคว้ารางวัลเทคนิคเสียงยอดเยี่ยมจากเวที CEDEC Awards ไปครองในปีเดียวกันนั้นด้วย
ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2019 จนถึงปัจจุบัน ตัวเกมยังคงมีอัปเดตเนื้อหาให้กับคนเล่นแบบต่อเนื่อง โดยจำหน่ายในรูปแบบ DLC ต่าง ๆ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับด้วยดีจากกลุ่มแฟนเกมแนวเครื่องบินรบอันเหนียวแน่น จนมาถึงปีนี้ที่ทางทีมงาน Bandai Namco Studios เล็งเห็นโอกาสเหมาะในการจับมือกับภาพยนตร์ดัง Top Gun: Maverick (ภาคต่อของ ท็อปกัน ฟ้าเหนือฟ้า) เพื่อออกขายส่วนเสริมตัวล่าสุดในชื่อ TOP GUN: MAVERICK AIRCRAFT SET ซึ่งบทความชิ้นนี้ เราจะมาดูกันสิว่า เวอร์ชันนี้ของตัวเกม มีความคุ้มค่าน่าซื้อแค่ไหน
FEATURE
เมื่อเข้าสู่เกม ผู้เล่นจะมีโอกาสได้เลือกเล่นเกมจากโหมดต่าง ๆ มากมาย แบ่งเป็น โหมดแคมเปญ ที่สามารถเล่นเพลิน ๆ ได้สิบกว่าชั่วโมง โดยโหมดนี้จะมีเนื้อหาเรื่องราวที่เข้มข้น ผ่านสงครามสมมติที่ทางทีมงานเขาแต่งขึ้นมา และหากเล่นผ่านไปแล้วก็สามารถเล่นซ้ำได้ (โดยเลือกตรง Free Mission) เพื่อลองเปลี่ยนเครื่องบินที่เราใช้ และในเวอร์ชันอัลติเมทนี้ยังมีมิชชันเสริมให้เล่นอีกจำนวนหนึ่ง โดยมาในรูปของ Add-on ครับ
ถัดมาเป็นมัลติเพลเยอร์ที่เอาไว้ต่อสู้กับผู้เล่นอื่น ๆ ผ่านออนไลน์, โหมด VR ซึ่งใครมีอุปกรณ์สำหรับการเล่นก็ถือว่าสุดคุ้มกันไปเลยสำหรับเกมนี้ ส่วนโหมดที่เหลือเป็นพวก Data Viewer ที่เอาไว้ดูข้อมูลของเครื่องบินรบต่าง ๆ
TOP GUN: MAVERICK AIRCRAFT SET
สำหรับความพิเศษของตัวเกมเวอร์ชันนี้ก็อยู่ตรงบรรดาเครื่องบินเท่ ๆ จากหนังฮอลลีวู้ดชื่อดัง โดยเครื่องบินใหม่ที่เล่นได้ ประกอบไปด้วย
- F/A-18E Super Hornet | Top Gun: Maverick (The Boeing Company)
- F-14A Tomcat | Top Gun: Maverick (Northrop Grumman Systems Corporation)
- 5th Gen Fighter | Top Gun: Maverick
- Dark Star
- F-14A Tomcat
- F/A-18E Super Hornet
นอกจากเครื่องบินแล้ว ก็จะมีตราสัญลักษณ์และฉายาจากในภาพยนตร์ โดยตราสัญลักษณ์ทั้งหมด 10 แบบประกอบไปด้วย Maverick, Hangman, Payback, Rooster, และ Bob, รวมถึงสองโลโก้จากภาพยนตร์ ส่วนฉายาทั้งหมด 12 แบบที่ประกอบไปด้วย Goose, Cougar, และอีกมากมาย
GAMEPLAY
มาถึงหัวข้อสำคัญ โดยถึงแม้ ACE COMBAT 7 จะเป็นเกมที่ออกขายมาหลายปีพอสมควร แต่ตัวเกมยังคงความอมตะในแง่มุมของวิธีการเล่น และการออกขายอีกครั้งโดยสวมธีมหนัง Top Gun มาด้วยแบบนี้ ยิ่งทำให้เกมมีหน้าตาดูทันสมัยได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ด้านการต่อสู้กลางเวหา หรือ “ด็อกไฟต์” นั้น ACE COMBAT 7 แสดงให้เห็นว่าพวกเขาคือเบอร์ต้น ๆ ของโลกสำหรับเกมแนวนี้ หลายคนอาจจะบอกว่า เกมนี้มันอาร์เคดเล่นง่าย แต่ผมมองว่า ทีมงานเขาแก้ปมตรงนั้นด้วยความเท่ของมุมกล้อง การมีรีเพลย์ให้ดู และที่สำคัญคือบรรดาเครื่องบินรบที่เป็น “บอส” ให้เราต่อสู้ ที่มาในแนวล้ำยุคเหมือนหลุดมาจากนิยายสงครามไซไฟ (บางคนบอกเหมือนเมทัลเกียร์เวอร์ชันเครื่องบินรบ) เหล่านี้ ล้วนทำให้เกมเมอร์ ทั้งแบบแคชชวลและมืออาชีพ สามารถสนุกไปกับเกมได้ตามใจต้องการ ซึ่งผมถือว่าดีนะครับ
ความคุ้มค่า
หัวข้อนี้ผมขอเอาข้อมูลไอเทมต่าง ๆ ที่จะได้จากเกมเวอร์ชันพรีเมียมที่เพิ่งวางขายในสโตร์มาให้ได้พิจารณากัน โดยเกมชุดรวมที่ออกขายรอบนี้ (ถ้าไม่นับเวอร์ชันสแตนดาร์ดปกติ) ก็จะมี 2 แบบด้วยกันคือ ฉบับ TOP GUN: Maverick Edition และ TOP GUN: Maverick Ultimate Edition แต่ถ้าใครมีเกมเต็มอยู่แล้ว สามารถซื้อเฉพาะ Top Gun: Maverick DLC ได้ในราคา 599 บาท
แบบแรก TOP GUN: Maverick Edition ผู้ซื้อจะได้เกม ACE COMBAT 7: SKIES UNKNOWN, เครื่องบิน F-104C: Avril และเครื่องบินทุกลำจาก TOP GUN: Maverick Aircraft Set ส่วนฉบับ Ultimate Edition คนซื้อจะได้ ตัวเกมหลัก, เครื่องบิน F-104C: Avril, คอนเทนต์เสริมจากซีซันพาส, ตราสัญลักษณ์ชื่อดัง 8 แบบของซีรีส์ และเครื่องบินจาก TOP GUN: Maverick Aircraft Set
ใครสนใจแบบไหนก็ลองเลือกดูกัน โดยส่วนตัวผมคิดว่าทั้งสองแบบนี้เหมาะกับคนที่ไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อน แล้วอยากซื้อมาลองเล่นดู ผมขอแนะนำให้จัดชุดใหญ่ไปเลย รับรองคุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอน ส่วนใครมีเกมอยู่แล้ว อาจต้องถามตัวเองดูว่ากำลังอินกับหนังท็อปกันมากแค่ไหน เพราะ DLC ชุดนี้เขาเพิ่มแต่เครื่องบิน ไม่มีภารกิจพิเศษมาให้
GRAPHICS & SOUNDTRACK
ผมชอบงานภาพในเกมนี้ เพราะนอกจากความสวยงามของวิวระยะไกลแล้ว บรรดาเอฟเฟกต์ที่เกี่ยวกับเมฆ, ไอน้ำ, ไอพ่น, ฝน และซูเปอร์โซนิคของเครื่องเจ็ต ล้วนทำออกมาได้ดี เสียดายที่ผู้เขียนไม่มีโอกาสลองเล่นกับอุปกรณ์ VR แต่เท่าที่อ่านดูประเด็นนี้จากงานรีวิวต่างประเทศ พบสรุปตรงกันเกมนี้คือหมุดหมายที่ดีของการใช้ VR ที่เกมอื่นควรเอาอย่าง
ด้านเสียงเพลง นอกจากบรรดาเพลงธีมคุ้นหูดั้งเดิมของตัวเกมแล้ว คราวนี้มีเพิ่มมาเป็นเพลงที่เรียบเรียงใหม่โดยอ้างอิงจากเพลงคลาสสิกของตัวภาพยนตร์ มาบรรจุไว้ในเกมด้วยได้แก่ Top Gun Anthem และ Danger Zone (เรียบเรียงโดย Keiki Kobayashi) เพลงหลังนี่ถือเป็นตำนานร็อคยุค 80 ที่หลายคนชื่นชอบ (โดยเฉพาะผม 555)
CONCLUSION
หลังเล่นโหมดแคมเปญในแบบใช้เครื่องบินท็อปกัน ผมสรุปให้สั้น ๆ เลยว่าทีมงานนี้เขาฉลาดในการใช้ธีมจากหนังเครื่องบินรบสุดฮิต มาช่วยฟื้นกระแสชีวิตให้กับตัวเกม ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จนะ ทุกครั้งที่ผมใช้เครื่องบินจากท็อปกัน มันทำให้ผมรู้สึกว่าได้เล่นเป็นตัวละครดังจากในหนังมากกว่าเรื่องราวในเกมดั้งเดิมเสียอีก มันให้ความรู้สึกสดใหม่ แถมเครื่องบินรบอย่าง ดาร์กสตาร์ ยังรวดเร็วเหลือเชื่อ พุ่งเข้าใส่แล้วล็อกเป้าปล่อยจรวดได้อย่างเท่เลยอ่ะครับ!