Destroy All Humans! 2 – Reprobed – รีวิว [REVIEW]
Destroy All Humans 2! – Reprobed – รีวิว
*ขอขอบคุณโค้ดรีวิวจาก THQ Nordic มา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PC
โลกนี้มันแย่ และมนุษย์ก็ควรตายโหงตายห่าไปให้หมด โชคดีที่เรามีมิตรสหายที่คิดแบบเดียวกันมากมาย และหนึ่งในนั้นก็เป็นมนุษย์ต่างดาวทรงพลังจากอวกาศ เขามีนามว่า คริปโตสะปอริเดียม หรือจะไปกอดคอและเรียกเขาอย่างสนิทสนมว่า คริปโต ก็ได้ ถ้าคุณคิดว่าโลกนี้ไม่มีอะไรเหลือให้มนุษย์อย่างคุณทำแล้ว
Destroy All Humans 2! – Reprobed เป็นการรีเมกเกมจากต้นฉบับดั้งเดิมคือ Destroy All Humans! 2 ซึ่งวางขายไปในปี 2006 หายใจไม่กี่เฮือกเวลาก็ผ่านไป 16 ปี ถ้าเป็นเด็กคนนึงก็โตพอจะเป็นเหยื่อทดลองของคริปโตแล้ว Destroy All Humans! 2 เป็นเกมที่ผ่านการพิสูจน์ตัวเองในเวลานั้นว่าการสวมบทเป็นมนุษย์ต่างดาวคอยระเบิดสมองคนก็สนุกไม่เลว และทำให้ซีรีส์นี้เข้าขั้น Cult Classic อย่างที่ผมเคยเขียนถึงมันในบทความนี้
แต่ถึงแบบนั้น เกมที่เดินทางข้ามกาลเวลามาไกล เพื่อจะรีเมกยกเครื่องกราฟิก แต่ยังคงเนื้อเรื่องและเกมเพลย์ไว้เกือบจะครบ 100% ต้องมีคำถามแน่นอนว่ามันจะหาที่ทางท่ามกลางเกมสมัยใหม่ได้สักแค่ไหน ซึ่งใน รีวิว Destroy All Humans 2 – Reprobed เราจะมาขยี้เรื่องนี้กันหนัก ๆ ครับ
ทำลายมนุษย์ถือเป็นงานคราฟต์แบบหนึ่ง
เป้าหมายหลักของคริปโตและเจ้านายของเขาก็คือการเก็บเกี่ยวเหล่ามนุษย์มาเป็นวัตถุดิบเพื่อใช้ดำรงเผ่าพันธุ์ของตัวเองต่อไป และถึงแม้เขาจะเกลียดมนุษยชาติแค่ไหน คริปโตก็ถือว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวที่มีอารยะมากพอในการทำลายล้าง ไม่ว่าจะด้วยอาวุธหรือคำพูดคำจา แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือ เหล่ามดปลวก หรือ มนุษย์พวกนี้กลับสามารถระเบิดยานคริปโตได้ตั้งแต่เริ่มเกม นำไปสู่เหตุการณ์ที่เขาจะต้องเข้าไปพัวพันกับองค์กรสายลับชื่อดังของเหล่าประเทศมหาอำนาจ และหาต้นตอที่จะกลายเป็นภัยคุกคามเผ่าพันธุ์ของเขาให้ได้
ภารกิจหลักที่ออกแบบมาจะไม่ใช่การเอาปืนไปไล่ช็อตชาวบ้านอย่างเดียว ถึงคุณจะสามารถทำแบบนั้นได้ถ้าต้องการ แต่มันจะเรียกร้องให้คุณต้องปลุกพลังแห่งศิลปะในการล้วงลึกข้อมูล ใช้อำนาจในฐานะสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่าทั้งการพรางตัว การอ่านความคิด การใช้พลังจิตควบคุมสิ่งของให้เหมาะสมกับภารกิจที่ทำ โดยเฉพาะการเขาสิงร่างมนุษย์อย่างเนียนกริบเพื่อสื่อสารกับเป้าหมายเฉพาะคนหรือเดินทางเข้าเขตต้องห้ามบางแห่ง ซึ่งใน Destroy All Humans! ภาคแรก การสิงแบบนี้เป็นเรื่องทำได้ยากพอสมควร แต่ในภาคนี้เกมได้ใส่ลูกเล่นคือพลัง Free Love เปิดฟลอร์ฮิปปี้ปาร์ตี้สะกดใจให้มนุษย์รอบตัวแดนซ์และเปิดโอกาสให้เราเข้าสิงร่างคนอย่างแนบเนียนได้ง่ายกว่าเดิมมาก
หากพูดในแง่คุณภาพของภารกิจ ผมคิดว่า Destroy All Humans! 2 – Reprobed มีการออกแบบมาได้ค่อนข้างหลากหลายและเต็มปากเต็มคำมากกว่าภาคแรกอย่างเห็นได้ชัด จากใจคนที่เล่นภาคแรกมาก่อนผมรู้สึกว่าภารกิจมันค่อนข้างสั้นและห้วนในหลาย ๆ ครั้ง แต่สำหรับภาคนี้ ถ้าเราไม่นับช่วงฝึกสอนตอนเริ่มเกม ภารกิจจะมีความยาวไม่มากไม่น้อยเกินไป และเดินคู่กับการเล่าเรื่องได้ค่อนข้างราบรื่น ส่วนภารกิจรองที่จะทำให้ได้คะแนนโบนัสก็ไม่ได้ยากหรือง่ายแบบสุดโต่ง โดยเกมจะมีการประเมินผลงานของเราเมื่อจบแต่ละภารกิจ ซึ่งอันดับสูงสุดคือ Excellent เป็นเกรดเมื่อเราทำภารกิจหลักกับรองได้อย่างครบถ้วน พร้อมแต้มให้เรานำไปอัปเกรดอาวุธ
ถ้าให้เทียบผมรู้สึกว่าทั้งเนื้อเรื่องและส่วนของภารกิจ ผมชอบ Destroy All Humans! 2 – Reprobed มากกว่าภาคแรกค่อนข้างเยอะกว่าเกือบจะเท่าตัวเลยก็ว่าได้ มันดูเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น และไปในสเกลที่ใหญ่ขึ้น คู่ขนานกับเกมเพลย์ที่จะเล่าต่อไป
ไม่ใช่แค่คริปโต แต่ปืนก็โตนะ
ความครีเอตของปืนในเกมนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องพูดถึงนะครับ แม้จะเทียบกับมาตรฐานเกมปัจจุบัน ผมก็ยังคิดว่าพลังปืนมันแหวกแนวดี ผมชอบตั้งแต่ปืนยิงกระสุนเด้ง ที่ยิ่งชาร์จนานเป้าหมายก็จะโดนกระเด้งเยอะไปด้วย ปืนทะลวงทวาร Anal Probe เจาะลึกชอนไชเข้าทวารศัตรูจนมันทรมานตายไปเอง และแน่นอน ปืนแต่ละแบบก็มีจุดอ่อน เหมาะใช้ปราบศัตรูหรือสถานการณ์แตกต่างกันไป ตรงนี้เกมก็ทำออกมาได้ไม่เลวเลยทีเดียวครับ
สิ่งที่ผมชอบต่อมา ก็เป็นเรื่องระบบอัปเกรดอาวุธของ Destroy All Humans! 2 – Reprobed เพราะการอัปเกรดเพิ่มแต่ละขั้นมันไม่ใช่แค่เพิ่มความเร็ว ความแรง อัตราบรรจุกระสุน หรือเฉพาะแค่ค่า Stat เพียว ๆ แต่มันเปลี่ยนคุณสมบัติบางอย่างของปืนด้วย อย่าง ปืนยิงกระสุนแมกม่ากระบอกโปรดของผม Disintegrator Ray เมื่ออัปไปจนสุดสาย ก็ทำให้มันกลายเป็นปืนกลที่สาดกระสุนสามลูกได้ในคราวเดียว แล้วยังมีปืนยิงจานบินน้อย Gastro Gun ที่ยิงกระสุนระเบิดเป็นวงกว้างได้ด้วยเมื่ออัปเลเวลสูงสุด
ยกระดับการทำลายล้างไปอีกขั้น นั่นคือจานบินติดอาวุธสุดร้ายกาจชื่อ Saucer มันคือการที่เราเข้าสู่โหมดทำลายล้างขั้นสูงสุด ปล่อยพลังสเกล Delete อาคารได้ในพริบตา แต่ก็จะต้องรับมือกับกองกำลังมนุษย์ที่ขนหุ่นยนต์ รถถัง เครื่องยิงจรวด และอีกมากมายมาคอยสอยเราให้ร่วง ซึ่งเอาเข้าจริงถึงช่วงขี่ยานจะให้ความรู้สึกอลังการกว่า แต่มันก็พะรุงพะรังไม่ใช่น้อย เพราะเราต้องคอยมานั่งกดบาเรียป้องกันมิสไซล์ หลบกระสุนต่อต้านอากาศยาน แล้วก็คอยรักษาพลังงานบาเรียของเราไม่ให้หมดด้วย
นอกจากคลังแสงต่างดาว ตัวคริปโตเองก็มีพลังจิตเป็นอาวุธติดตัวอยู่แล้ว แถมมันยังสามารถอัปเกรดด้วยวิธีการที่เติมเต็มแฟนตาซีมนุษย์ต่างดาวสุด ๆ นั่นคือเราต้องขึ้นยาน Saucer แล้วใช้ลำแสงดูดพวกมนุษย์ตัวจ้อยของแต่ละประเทศเข้ามาปั่นในยาน หากเราดูดมาได้เยอะพอ เราจะเลือกอัปเกรดพลังติดตัวของคริปโตได้ เช่น เพิ่มพลังการสิงร่างคนให้ร่างนั้นสามารถวิ่งได้เร็วขึ้น ของพวกนี้ดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เอาเข้าจริงมันก็อำนวยความสะดวกได้เยอะอยู่
Boss Fight
ใน Destroy All Humans 2 – Reprobed บอสจะค่อนข้างมีบทบาทเยอะ ยกขบวนมาทุกเชื้อชาติ หลากสายพันธุ์ ก็คิดดูว่าภาคนี้ถึงขนาดให้เราไปบวกกับไคจูน่ะคุณ ในแง่ปริมาณนั้นเหมาะสมแล้ว ส่วนในแง่คุณภาพผมมองว่ามันก็ดีในแง่ที่บอสแต่ละตัวมันมีลูกล่อลูกชนอะไรบางอย่างให้น่าจดจำ แต่มันไม่ตราตรึงอะไรขนาดนั้น ถ้าจะยกประโยนช์ให้จำเลยก็คือพวกนี้มันยืนพื้นมาจากเกมต้นฉบับเมื่อ 16 ปีก่อน บอสไฟต์สนุกได้ถึงระดับนี้ผมคิดว่ายอมรับได้
งานกราฟิกของ Destroy All Humans! 2 – Reprobed
อย่างที่บอกครับว่า Destroy All Humans! 2 – Reprobed เน้นการพัฒนาด้านกราฟิกเป็นหลัก ซึ่งก็ออกมาน่าประทับใจ ถ้าไม่นับรวมพวกหน้าตัวประกอบ กราฟิกด้านอื่นถือว่าสวย ทั้งเอฟเฟกต์ปืน การพังทลายของสิ่งก่อสร้าง โดยเฉพาะฉากที่เราได้ออกไปนอกโลก ฉากนั้นผมรู้สึกว่าพวกอาคาร ยานพาหนะ พื้นผิวดาว ทำออกมาแล้วดูสวยเป็นพิเศษ
ไม่ใช่แค่ความละเอียดของภาพ แต่การเปลี่ยนแปลงยังตามไปถึงสไตล์ของงานศิลป์และจังหวะการเล่าเรื่อง อย่างชุดตัวละครหลักที่ถูกนำมาออกแบบใหม่ให้ดูเท่เข้ามาตรฐานปัจจุบันยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหน้าตาของคริปโตที่มีการใส่รายละเอียดความวาวของดวงตา ความใสของผิวหนังที่มองทะลุเห็นสมองได้ลาง ๆ ไม่รวมบรรดาสกินของคริปโตและยาน Saucer ที่มีให้เราได้เลือกเยอะมาก (มีสกินพี่ Death จาก Darksiders ด้วยนะเออ) แล้วยังมีการดัดแปลงฉากเล่าเรื่องเล็กน้อยเพื่อขยี้อารมณ์ โดยที่ยังใช้บทสนทนาแบบเดิม
เหล่าฝูงลิงสมองตายของคริปโต
การยกเอาเกมต้นฉบับเกือบจะ 100% มาเปลี่ยนเปลือกใหม่ มันทำให้เรามองเห็นริ้วรอยของกาลเวลาหลายอย่างแน่นอน ถ้าให้ลงน้ำหนัก ผมคิดว่า AI ของเกมมีปัญหามากที่สุด ไม่ใช่แค่ตัวละครหน้าซ้ำกันเหมือนออกจากท้องเดียวกันมา แต่หลัก ๆ คือพฤติกรรมบ้ง ๆ หลายอย่างที่ในเวลานั้นเทคโนโลยีการสร้างยังมีข้อจำกัดอยู่เยอะ เช่น เดินเอาหน้าไถกำแพง ศัตรูยืนนิ่ง ๆ ให้ยิงเล่น ซึ่งความจริงปัญหาพวกนี้เห็นชัดเจนมาตั้งแต่ Destroy All Humans! รีเมกภาคแรกแล้ว ซ้ำร้ายไปกว่านั้น พอผมไปค้นข้อมูลดู นักวิจารณ์เกมต้นฉบับเมื่อ 16 ปีก่อน ก็ยังบ่นเรื่อง AI สมองตายด้วย
ฉะนั้น ภายใต้เปลือกที่ดูเป็นเกมลุคโมเดิร์น แต่เอาเข้าจริงกลับมีจุดอ่อนที่สำคัญอย่างพวก AI ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องมีปฏิสัมพันธ์ไปตลอดทั้งเกม เมื่อมันออกมาไม่ดี คะแนนในภาพรวมก็จะหายไปเยอะ
ถึงแบบนั้นก็ขอหมายเหตุไว้หน่อยครับว่า ทางผู้พัฒนามีแผนจะออกแพตช์ล้างบั๊กเวฟแรกออกมาตั้งแต่วันวางจำหน่าย ก็หวังว่าจะเป็นการเก็บงานสวย ๆ ไปเลยในคราวเดียว
คริปโตผู้แจกจ่ายการเหยียดอย่างเท่าเทียม
อีกหนึ่งประเด็นที่สุ่มเสี่ยง แต่จะไม่พูดถึงเลยก็ไม่ได้คือโทนอารมณ์ขันของเกม ในยุคที่อินเทอร์เน็ตยังไม่แพร่หลายสิ่งที่ทีมพัฒนาใส่เข้าไปในยุคนั้นอาจไม่ได้เป็นประเด็นอะไรเท่าไร แต่มาถึงยุคนี้คริปโตจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูหน้าใหม่ทั้งบรรดานักรบผู้ผดุงความยุติธรรมทางสังคม (Social Justice Warrior), เหล่าผู้ตื่นรู้แล้ว (Woke), และอาจรวมไปถึงบรรดาเฟมทวีตที่พร้อมจะหันปลายดาบแห่งการเอดูเขตเข้าใส่สารพัดมุกเหยียดในเกม ซึ่ง Destroy All Humans! 2 – Reprobed ก็มีเรื่องพวกนี้แทบจะทุกลมหายใจเข้าออก…
ไม่ใช่ว่าทีมพัฒนาจะไม่รู้เรื่องนี้นะครับ พวกเขารู้อยู่เต็มอกเลยล่ะว่า Destroy All Humans! 2 – Reprobed อุดมสมบูรณ์และพรั่งพร้อมไปด้วยมุกที่ใช้การเหยียด ไล่ไปตั้งแต่ เหยียดเชื้อชาติ เหยียดประเทศ เหยียดเพศ เหยียดอาชีพ เหยียดนิสัยใจคอ รวมถึงภาพเหมารวมมากมาย แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือว่าพวกเขาก็ยังเลือกที่จะคงเนื้อหาและบทสนทนาพวกนี้เอาไว้ โดยขึ้นแค่คำเตือนก่อนเข้าเกมว่า นี่เป็นเกมที่รีเมกจากของเดิมเมื่อ 16 ปีก่อน มันก็ต้องสะท้อนคุณค่าวัฒนธรรมของคนในยุคนั้น พูดอีกอย่างหนึ่งคือถ้าคุณเลือกจะไปต่อ เลือกจะเล่นเกมนี้ มันคือภาระความรับผิดชอบของตัวผู้เล่นเองว่าจะคิด หรือ ตัดสินเนื้อหาในเกมนี้ยังไง
ถ้าวางความถูกต้องทางการเมืองลงก่อน แล้วมาดูกันที่ความสร้างสรรค์ของบรรดามุกและบทสนทนา ก็ต้องยอมรับจริง ๆ ครับว่า มุกเหยียดหลายสิ่งในเกม ก็ล่อซะผมอดหัวเราะไม่ได้ อย่างการที่เราเอาตัวคริปโตไปโผล่ต่อหน้าฝูงชนที่ Takoshima (มันก็คือญี่ปุ่นนั่นแหละ) แล้วมีคนท้องถิ่นตกใจตะโกนว่า ไกจินนน! หรือไวรัสที่คริปโตกับเจ้านายหวังจะใช้ทำลายพวกเอเลียนคู่แค้นก็เป็นของที่ติดมากับยานอะพอลโล 13 แต่ตรงใต้แคปซูลดันมีระบุว่า Made in China ถ้าริจะเดินทางสายเหยียดแล้ว ก็ต้องเหยียดให้มันขำไปได้เบอร์นี้
พออ่านย่อหน้าด้านบน หลายคนอาจจะคิดว่าผมสนับสนุนให้เกิดการเหยียดในเกม ขออธิบายว่าการสนับสนุนให้เหยียดกับการชี้ให้เห็นว่าคอนเทนต์มันเวิร์กยังไง สองเรื่องนี้ต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ แล้วด้วยสติปัญญาระดับผมก็ไม่สามารถจะไปตัดสินได้ว่าเราควรเลิกเหยียดหรือผ่อนปรนเรื่องนี้กันได้มากน้อยแค่ไหน ผมแค่เคารพทีมงาน Destroy All Humans 2 – Reprobed ที่แม้จะอยู่ในยุคของการรณรงค์เลิกเหยียดหลายสิ่งอย่างเข้มข้น แต่ก็ยังกล้าพอจะไม่ไปเปลี่ยนแก่นสำคัญของเกมต้นฉบับ แถมยังเอาออกมาขายซะด้วย สุดท้ายมันก็จะมีทั้งคนชอบคนชัง มีทั้งคนสนับสนุนและต่อต้าน หรือคนที่มองว่ามันก็เป็นเหมือนหมุดหมายหนึ่งของประวัติศาสตร์ของวงการเกม ที่สะท้อนคุณค่าและวัฒนธรรมในช่วงนั้น
อย่างน้อยที่สุด จะใครก็ตามในเกมนี้ล้วนแล้วแต่เสมอภาคกันในฐานะพวกลิงสมองตายในสายตาของคริปโต…
สรุป
Destroy All Humans! 2 – Reprobed ยังเดินหน้าทำลายล้างมนุษย์ใต้นิยามเหล้าเก่าในขวดใหม่ เป็นการหยิบโครงกระดูกของเกมเมื่อปี 2006 มาเป่ามนต์ลงลายเส้นกราฟิกให้มีความร่วมสมัย โดยคงเกมเพลย์ เนื้อเรื่อง กระทั่งบทสนทนาเดิมไว้แทบทั้งหมด ต้องนับถือทีมพัฒนาในเวลานั้นที่วางรากฐานได้อย่างมีวิสัยทัศน์ ทำให้การรีเมกโดยไม่แตะโครงสร้างเกมครั้งนี้ดูไม่ขัดเขิน แล้วเอามาขายได้แบบไม่น่าเกลียด
น่าเสียดายที่การเคารพต้นฉบับนั้นคือการนำ AI สมองตายกลับมาด้วย แต่โดยภาพรวมของเนื้อเรื่องและภารกิจ ผมให้ Destroy All Humans! 2 – Reprobed ไปได้ไกลมากกว่าภาคแรกเกือบเท่าตัว จะบอกว่าเป็นภาคล้างตาหลังจากภาคแรกก็พูดได้ ส่วนมุกเหยียดสารพัดอันเจ็บแสบ เราขอละไว้ให้เป็นหน้าที่ของวิจารณญาณผู้เล่นแล้วกันครับ และนี่คือ รีวิว Destroy All Humans 2 – Reprobed จากเรา