*ขอขอบคุณโค้ดรีวิวจาก Bandai Namco Entertainment Asia มา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5
ทุกวันนี้ผมเชื่อว่าพอพูดถึงชื่อกันดั้มขึ้นมา แม้จะเป็นคนที่ปกติไม่ได้ติดตามชมซีรีส์อนิเมเลย หรือไม่ได้มีงานอดิเรกเป็นการต่อกันพลาก็ตามที แต่ก็น่าจะพอนึกภาพออกถึงหุ่นยนต์รบสุดเท่ที่มักจะมีเอกลักษณ์เป็นเขาสองแฉกแปะหน้าผาก ซึ่งดีไซน์และที่มาของแต่ละภาคก็อาจแตกต่างกันไปในแต่ละภาค บ้างก็ขึ้นจักรวาลใหม่ บ้างก็ดำเนินเรื่องต่อจากภาคที่เคยฉายไปแล้ว แต่ไม่ว่าคุณจะมีภาพจำของกันดั้มในใจอย่างไร เกม SD Gundam Battle Alliance นี้ก็จะใช้ประโยชน์เต็มที่จากประวัติศาสตร์อันยาวนานของกันดั้มมานำเสนอเป็นเกมให้คุณได้เล่นในรูปแบบของโมเดลแบบ SD (super deformed) หรือก็คือโมเดลย่อส่วนที่ทำออกมาในสัดส่วนอ้วนป้อมน่ารักนั่นล่ะครับ
ซึ่งในคราวนี้ ผมในฐานะเกมเมอร์ทั่วไปที่รู้จักกันดั้มแบบผ่านหูผ่านตามาบ้างแต่ไม่ได้ติดตามระดับแฟนเดนตายก็จะมาเล่าให้ฟังกัน นี่คือความเห็นของคนที่ไม่ได้เป็นนิวไทป์ ไม่ใช่โคออดิเนเตอร์ ไม่มีความสามารถแบบอินโนเวเตอร์ ไม่สามารถเตะเสยตึกทั้งหลังได้แบบกันดั้มไฟเตอร์ และแน่นอนว่าไม่ได้เขียนรีวิวโดยเชื่อมต่อระบบแปดญาณ ขอเชิญอ่านต่อไปครับ
เนื้อเรื่อง
ในเกมนี้เราจะรับบทเป็นหัวหน้าหน่วยที่ลงสมรภูมิในยุทธการโอเดสซ่าซึ่งดำเนินเรื่องอยู่ในจักรวาลของศักราชอวกาศ แต่ในระหว่างที่ตัวเราซึ่งเป็นทหารของฝ่ายสหพันธ์โลกกำลังขับจิมเข้าปะทะกับซาคุของฝ่ายซีออนนั้น ได้เกิดเหตุการณ์ผิดปกติบางอย่างขึ้น เมื่อจู่ ๆ ตัวของเราพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สนับสนุนอย่างยูโน แอสทาร์ตพร้อมกับหุ่นฮาโร่คู่ใจพลันโดนดึงตัวมายังสถานที่ลึกลับแห่งหนึ่ง และได้พบกับหญิงสาวที่เป็นระบบ AI มากล่าวต้อนรับ
หลังจากมึนงงกันอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดหญิงสาว AI ที่ชื่อซากุระ สแลช ก็ได้อธิบายว่าสถานที่ที่ตัวเราอยู่ในปัจจุบันคือฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “G ยูนิเวิร์ส” ซึ่งได้เก็บรวบรวมข้อมูลประวัติศาสตร์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกันดั้มเอาไว้ จากทุกยุคทุกสมัยทุกความเป็นไปได้ที่มี แต่ว่าตอนนี้เกิดเหตุการณ์ประหลาดบางอย่างขึ้น ทำให้ประวัติศาสตร์แต่ละแห่งเกิดความผันผวน จนโมบิลสูทต่างยุคสมัยต่างจักรวาลกระโดดข้ามเส้นเรื่องกันไปมาอย่างมั่วซั่วตั้วเหล็งไปหมด ตัวเราและยูโน (รวมถึงฮาโร่) จึงต้องแก้ไขความผันผวนที่เกิดขึ้นเพื่อหาทางกลับไปยังโลกแห่งความจริงในศักราชอวกาศที่พวกตนจากมา
ถ้าจะให้พูดในแง่ของเนื้อหาในตัวเกมนี่ ถือได้ว่าบันเทิงใช้ได้เลยครับ เกมนี้เป็นแฟนตาซีสำหรับแฟน ๆ ของกันดั้มอย่างแท้จริง คือต่อให้คุณตามแค่บางซีรีส์ หรือจำเนื้อหาได้แบบผ่าน ๆ หรืออาจจะแค่รู้จักตัวละครว่าใครมาจากเรื่องไหนก็ตาม แต่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่คุยกันข้ามเส้นเรื่อง หรือไปโผล่ผิดที่ผิดทางนี่ถือว่าสนุกไม่เบาเลย เวลาได้เห็นแต่ละคนพูดแบบงง ๆ ว่าเอ๊ะ มันมีกันดั้มรุ่นนี้ด้วยเหรอวะ…? ไม่ก็บทสนทนาของตัวละครออริจินัลที่มาจากศักราชอวกาศ แต่ก็ต้องอึ้งทึ่งกับความพิลึกในสิ่งที่เกิดขึ้นของศักราชอนาคตนี่ แม้แต่ผมที่ไม่ได้เชี่ยวชาญกันดั้มอะไรขนาดนั้นยังมีหลุดหัวเราะออกมาเรื่อย ๆ ทั้งเกม เชื่อว่าถ้าใครที่เป็นแฟน ๆ กันดั้มเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจะต้องยิ่งชอบกว่าเดิมแน่นอนครับ
ส่วนหนึ่งที่ผมต้องยกให้เลยจริง ๆ ก็ไม่พ้นการแปลไทยของเกมนี้นี่ล่ะครับ ทีมงานผู้แปลนี่ทำออกมาได้ดีมาก คำที่เลือกใช้แปลลื่นไหล จังหวะการส่งมุกและตบมุกของตัวละครก็แปลออกมาเป็นธรรมชาติใช้ได้ อีกทั้งยังมีการเลือกใช้คำที่คนซึ่งคลุกคลีกับวงการมังงะ/อนิเม/เกมจากฝั่งญี่ปุ่นจะต้องคุ้นเคยกันดีแน่นอน ในส่วนการแปลนี่คือคะแนนเต็มเท่าไรก็ให้เท่านั้นล่ะครับ
จุดนึงในแง่ของการเล่าเรื่องที่ผมคิดว่ามันช่วยเรื่องความลื่นไหลของเกม และไม่ทำให้คัตซีนแต่ละช่วงยาวนานเกินไปก็คือบรรดาอรรถาธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์พื้นหลังของแต่ละเรื่องราวนี่ จะไปแยกให้ชมต่างหาก ไม่บังคับให้คนเล่นต้องดู พูดง่าย ๆ คือถ้าใครที่รู้จักกันดั้มแต่ละภาคดีอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลารำลึกรายละเอียด หรือถ้าใครไม่ค่อยสนใจว่ากันดั้มแต่ละเรื่องมันเกิดอะไรขึ้นบ้างและอยากลงสนามไว ๆ ก็ไม่ต้องมาโดนขัดจังหวะครับ ถ้าอยากรู้เรื่องราวเบื้องหลังแต่ละภาคเพิ่มเติมตอนไหนก็ค่อยไปกดดูเองตอนนั้นเวลาว่าง ๆ
เกมเพลย์
รูปแบบการเล่นของเกมนี้จะเป็นเกมแอ็คชันแบบตรงไปตรงมาเลย ก็คือในแต่ละฉากเราจะโดนหย่อนปุลงไปในแมป ซึ่งก็จะอ้างอิงมาจากแต่ละเหตุการณ์ของกันดั้มแต่ละเนื้อเรื่องนั่นล่ะครับ สิ่งที่เราต้องทำก็ไม่มีอะไรมาก ลุยแหลกแจกบีมใส่ศัตรูทุกตัวที่ขวางหน้าแล้วมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายเพื่อจัดการกับบอส ซึ่งอาจจะเป็นโมบิลสูทที่ตรงตามเนื้อหาหรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับฉากที่คุณเล่นเป็นแบบผันผวนหรือเป็นแบบจริง
แต่ว่าก่อนที่จะลงสนามในแต่ละครั้ง คุณจะสามารถเลือกได้ว่าจะขับกันดั้มอะไรไปลงฉาก ซึ่งก็ตามธรรมเนียมแหละครับว่าเริ่มต้นเกมสิ่งที่คุณจะได้ก็คือหุ่นจิมที่มีตำแหน่งเสมือนเป็นหุ่นหน้าโหลของกันดั้มในหลาย ๆ ภาค แต่เมื่อคุณเล่นไปเรื่อย ๆ และได้แบบแปลนมาก็จะสามารถพัฒนาหุ่นใหม่มาใช้ได้เพิ่มเติม รวมถึงบรรดาวิงแมนที่จะมาร่วมทางไปกับคุณซึ่งจะปลดล็อคมาพร้อม ๆ กับหุ่นที่คุณปลดได้นั่นล่ะ โดยวิงแมนแต่ละคนก็คือเหล่านักบินกันดั้ม (หรือไม่ใช่กันดั้ม) ประจำเครื่องนั้น ๆ ที่คุณปลดมา ซึ่งจุดที่ผมชอบของการเลือกวิงแมนข้ามเส้นเรื่องมาก็คือหลายครั้งจะมีบทพูดเฉพาะระหว่างกันด้วย
และก็แน่นอนว่า พอเป็นเกมกันดั้มสิ่งที่ตามมาก็คือการอัปเกรดหุ่นที่คุณมี รวมถึงการติดตั้งพาร์ทเสริมที่จะช่วยเพิ่ม (หรือไม่ก็ลด) ค่าพลังในด้านต่าง ๆ ที่ทำออกมาได้เรียบง่าย มองปราดเดียวก็รู้ว่าอะไรคืออะไรและค่าไหนทำอะไร ถ้ามีเงินก็อัปหุ่นได้ และเงินได้จากไหน ก็ได้จากการเลือกฉากเล่นแล้วลงไปลุยถล่มศัตรูนั่นล่ะครับ ส่วนตัวของผู้เล่นเองก็สามารถติดตั้งสกิลเพิ่มค่าสถานะบางอย่างได้เมื่อเลเวลอัปเช่นกัน
ทีนี้ ปัญหานึงของระบบการค้นหาแบบแปลนก็คือ ตัวเกมจะบังคับให้คุณต้องเล่นฉากเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมาบ่อยครั้ง เพราะแบบแปลนบางอย่างอาจจะอยู่ในฉากแบบผันผวน แต่บางอย่างจะอยู่ในฉากจริง มิหนำซ้ำก็คือหุ่นบางตัวจะต้องใช้แบบแปลนหลายอย่างที่อาจจะกระจายไปอยู่ตามฉากอื่น แถมแต่ละอย่างก็ต้องใช้หลายชิ้นด้วย เมื่อคุณรวมแบบแปลนครบเมื่อไรหุ่นถึงจะปลดมาให้คุณเล่นได้ มันเลยทำให้คุณอาจต้องเข้าเล่นฉากเดิมสามรอบหรือสี่รอบเพื่อที่จะปลดหุ่นที่ต้องการ ยังไม่นับว่าพอเล่น ๆ ไปจะมีการปลดฉากประเภท “อลหม่าน” (Chaos) เพิ่มเข้ามาที่แยกจากฉากปกติแต่ต่างกันคือจะมีโมบิลสูทพิเศษปรากฏตัวให้คุณไปสู้เพื่อเอาแบบแปลนมาอีกนะ
มาว่ากันถึงระบบต่อสู้กันบ้าง ระบบต่อสู้เกมนี้เข้าใจง่ายครับ ปุ่มโจมตีปกติจะมีสองแบบคือตีเบากับตีหนัก และถ้ากดตีเบาค้างก็จะเป็นการโจมตีกวาด ส่วนกดตีหนักก็จะเป็นการโจมตีงัดศัตรูลอย ซึ่งการกดโจมตีนี่จะใช้เกจบูสต์ ถ้าหมดเมื่อไรก็จะต้องรอให้เกจฟื้นฟูก่อน ซึ่งเกจโจมตีที่ว่านี่ก็จะใช้ร่วมกับการออกแอ็คชันอื่น ๆ อย่างการกระโดดหรือแดชหลบด้วย เรียกได้ว่าคุณจะกดตีรัว ๆ แล้วแดชหลบมั่ว ๆ ก็ไม่ได้ ต้องบริหารเกจระดับนึงเหมือนกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น หุ่นทุกตัวจะมีคอมโบต่างกันไป และอาวุธสำรองก็จะต่างกันไปด้วยเช่นกัน ผู้เล่นจะต้องเลือกมาลองแล้วก็หาตัวที่เหมาะกับตนเองหรือใช้แล้วเข้ามือที่สุดกันเอาเองครับ
บทบาทของโมบิลสูทในเกมนี้จะแบ่งเป็นสามประเภทก็คือออลราวเดอร์ คือหุ่นชนิดที่มีความสามารถรอบด้านแต่ไม่เก่งสุดด้านใดด้านหนึ่ง ในขณะที่อินไฟเตอร์จะเป็นสายตีประชิดแต่อาวุธยิงจะด้อย และชูตเตอร์ที่อาวุธยิงจะดีตามชื่อแต่ประชิดแย่ แน่นอนว่าบทบาทลักษณะนี้จะส่งผลกับบรรดาวิงแมนที่คุณเลือกมาด้วย เพราะบทบาทของแต่ละคนก็จะให้ผลและค่าแพสซีฟที่เกิดขึ้นต่างกันนั่นเอง
ต้องยอมรับว่าเล่นไปช่วงแรก ๆ นี่ผมก็รู้สึกว่าตัวเกมมันเป็นแอ็คชันแบบไม่ต้องคิดอะไรเยอะ กด ๆ ตีไปยิง ๆ ไปก็คงผ่านได้ไม่ยาก ด้วยความที่ตัวเกมนำเสนอด้วยโมเดลแบบ SD มันเลยให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเกมสำหรับเด็กเล่น แต่เอาเข้าจริงพอผ่านไปสักพักก็รู้สึกได้เลยว่าถ้าไม่ทำความเข้าใจระบบเกมให้ดี ไปช่วงหลังนี่ตึงมือแน่นอนครับ เพราะตัวเกมออกแบบมาให้มีความลึกซึ้งในระดับหนึ่งเหมือนกัน ถ้าจะเอาตัวรอดให้ได้คนเล่นก็ต้องรู้จักวิธีการเคาเตอร์ รู้จักการหลบฉิวเฉียด ต้องเลือกใช้เชนเบรกเกอร์ให้ถูกจังหวะ หรือไม่ก็กดใช้โรลแอ็คชันตามสถานการณ์ อะไรแบบนั้น โดยเฉพาะในตอนที่เจอโมบิลสูทระดับบอสที่ทุกตัวจะไล่บี้เราแบบดุมาก แถมมันยังมาพร้อมกับ super armor ที่ตีแล้วไม่ค่อยสะเทือนและไม่ค่อยเสียจังหวะ ถ้าเราเอาแต่กดตีมั่ว ๆ ก็เตรียมโดนชุดใหญ่กลับมาได้เลย
กระนั้นก็เถอะ จุดบอดใหญ่ของเกมนี้เลยจริง ๆ คือมุมกล้องครับ มีหลายจังหวะมากเลยในระหว่างเล่นที่มุมกล้องเข้าจุดอับแล้วมองไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น ยิ่งถ้าเป็นพวกฉากในเมืองที่เดินลอดใต้สะพานได้นี่จะชัดเจนมาก แถมไม่ต้องพูดถึงเวลาเจอบอสพวกโมบิลอาร์เมอร์ที่เป็นไซส์บิ๊กเบิ้มด้วย นอกจากตีมันไม่สะเทือนแล้ว พอเข้าไปใกล้เกินบางทีก็เห็นแต่ขาของมันจนดูไม่รู้เรื่องว่าตอนนั้นตัวเราอยู่ตรงไหน กลายเป็นโดนเหยียบไปแบบงง ๆ ก็หลายครั้ง ถ้าจะมีการต่อสู้ไหนในเกมที่ผมรู้สึกว่าน่ารำคาญที่สุดก็ไม่พ้นการสู้กับพวกโมบิลอาร์เมอร์นี่แหละครับ แล้วดันมีให้สู้ซะเยอะด้วยนะ แต่อะไรก็ไม่น่าหงุดหงิดเท่าเวลาเราอยากล็อกเป้าตีตำแหน่งของบอสที่อยู่สูง แต่ตัวเราดันกระโดดไม่ถึงนี่ล่ะครับ เพราะเกมไม่มีระบบบินพุ่งตัวขึ้นสูงโดยใช้บูสเตอร์แบบที่กันดั้มควรจะทำได้เต็มที่ก็ได้แค่กระโดดแล้วแดชไปหาแค่นั้นเอง
กราฟิกและการนำเสนอ
ในแง่ของกราฟิกเกมนี้ ผมคิดว่าก็ทำได้ตามแนวทางที่เกมอยากนำเสนอนั่นล่ะครับ ไม่มีอะไรที่ดีเทลละเอียดยิบขนาดนั้น โมเดลพวกวัตถุประกอบฉากมักจะมีรายละเอียดน้อย ๆ ไม่ค่อยเน้น สิ่งที่จะเน้นก็เป็นพวกโมเดลหุ่นแต่ละตัวที่แม้จะเป็น SD แต่ก็เก็บรายละเอียดมาสวยใช้ได้อยู่ พูดง่าย ๆ ว่าทำมาขายแฟน ๆ กันดั้มโดยเฉพาะนั่นแหละ เพราะงั้นพวกฉากก็เลยไม่มีรายละเอียดอะไรเยอะ ไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไรให้ทำมากนัก เหมือนมีไว้ให้เราหาทางไปเจอกับบอสประจำฉากแค่นั้น
ถึงงั้นก็เถอะ พวกเอฟเฟคต์เอยอะไรเอยเวลาโจมตี หรือใช้พวกท่าใหญ่ต่าง ๆ นี่อลังการและดุดันใช้ได้อยู่นะ เวลายิงบีมที่มันควรจะใหญ่อลังการก็ใหญ่อลังการแบบที่ควรเป็น สู้กันแล้วรู้สึกได้ถึงความดุดันและรุนแรงก็เพราะเอฟเฟคต์นี่ล่ะครับ
เพลงประกอบ
หัวข้อนี้ผมว่าน้ำหนักอยู่ที่ว่าคุณซื้อ Premium Sound & Data Pack ของเกมมาด้วยหรือไม่น่ะครับ เพราะทันทีที่คุณซื้อ DLC ชุดนี้มา ทั้งเกมจะเต็มไปด้วยเพลงที่คุ้นเคยจากซีรีส์กันดั้มต่าง ๆ ตลอดเวลา และผมก็มั่นใจว่าเพลงพวกนี้นี่แหละที่มันช่วยเสริมบรรยากาศในระหว่างเล่นได้เยอะมากถ้าเทียบกับเพลงประกอบตามปกติของเกม เชื่อเถอะว่าพอคุณเข้าฉากที่เป็นเนื้อหาของภาค Gundam Wing แล้วมีเพลง Just Communication ดังไปตลอดทั้งฉาก หรือไม่ก็ลงฉากที่มาจาก Gundam Sees Destiny แล้วมีเพลง Ignited ดังขึ้นมานี่มันชวนฮึกเหิมจริง ๆ นะ
สรุป
SD Gundam Battle Alliance นี่เป็นเกมที่ด้วยตัวระบบเองยังมีหลายจุดที่น่าติและควรปรับปรุงอยู่ครับ จุดที่เห็นได้ชัดเลยก็คือการบังคับให้ต้องเล่นฉากเดิมซ้ำไปมาเพื่อปลดล็อคหุ่นใหม่ และมุมกล้องที่ทำหน้าที่เป็นศัตรูของผู้เล่นในอีกประเภทหนึ่งแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่ว่าด้วยความที่กันดั้มเองก็เป็น IP ที่แข็งแกร่งมากในตัวเองเช่นกัน องค์ประกอบหลายอย่างในความเป็นกันดั้มนี่แหละที่สามารถแบกเกมเอาไว้ได้ครับ ถ้าคุณชอบกันดั้มอยู่แล้วคุณก็ไม่น่าจะพลาดเกมนี้ครับ