Super Power 3 – รีวิว [REVIEW]

ความ Elden Ring ความ Horizon: Forbidden West ความ God of War Ragnarok และความผู้ท้าชิงรายอื่น ๆ นั้น ใครจะได้ Game of The Year ปีนี้ก็ได้ไป

แต่คุณผู้อ่านครับ ผมเจอแล้วครับ เกมที่จะได้รางวัลสาขา ชังชาติ ออฟ เดอะ เยียร์ ต้องเกมนี้เท่านั้น Super Power 3 จาก GolemLabs เกมที่พวกเขาบอกว่าจะให้ผู้เล่นได้ “คิด”

Super Power 3 คืออะไร

นี่คือเกมจำลองสถานการณ์ที่ขับเคลื่อนด้วยความทะเยอทะยานมากที่สุดเกมหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะมันรวมเอาตัวละคร 194 ประเทศมาไว้ในเกมเดียว และถือเป็นภาคที่ 3 ของซีรีส์นี้แล้ว อย่าให้หน้าปกเกมหลอกคุณได้ คุณอาจจะคิดว่าจำนวนประเทศที่มีให้เลือกเยอะขนาดนี้ มันก็คงใช้ข้อมูลคล้าย ๆ กัน คงไม่ต่างจากเปลี่ยนสกินตัวละครแต่มีมูฟเซตเหมือนกัน

ผมก็คิดแบบนั้น จนผมได้เลือกประเทศหนึ่งมาลองเล่น นั่นคือ ประเทศไทย ครับ

ถ้าไม่นับเรื่องตัวผู้นำที่เราสามารถตั้งชื่อและสร้างรูปร่างหน้าตาได้ ข้อมูลที่อยู่ในเกมนี้เป็นข้อมูลที่อัปเดตจนน่ากลัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพรรคการเมืองไทย ขนาดประชากร สิทธิ์พลเมือง แสนยานุภาพทางการทหาร และอีกมากมาย พูดไปเดี๋ยวหาว่าโม้เหม็น ให้ภาพมันเล่าเรื่องดีกว่าครับ

ดูจากภาพนี้ ถ้าไม่เกรงใจมันอาจเจาะลงตำแหน่งผู้ว่า หรือ สก. ประจำจังหวัดไปแล้ว คุณคิดดูว่าขนาดประเทศโลกที่สามอย่างเราเขายังพอรู้ตื้นลึกหนาบางขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นประเทศใหญ่ ๆ ประเทศที่เป็นตัวแปรสำคัญของวิกฤติการเมืองโลก เขาจะแม่นเรื่องข้อมูลขนาดไหน (อาจยกเว้น จีน ประเทศนึง)

ยังไม่พอแค่นั้นครับ Super Power 3 มันมาพร้อมโหมด Scenario หรือพูดบ้าน ๆ ว่าโหมดเนื้อเรื่องให้เราเลือกเล่น ซึ่งมีหลาย Scenario ด้วยกัน แล้วแต่ละอย่างแสบ ๆ ทั้งนั้น เพราะมันยืนพื้นบนสถานการณ์วิกฤติโลก ประเด็นสำคัญของแต่ละภูมิภาคจริง ๆ อย่างเรื่อง One Belt one Road, อนาคตของสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือ, วิกฤติเผด็จการบราซิล, วิกฤตินิวเคลียร์อิหร่าน, การบุกไต้หวัน ในทุก Scenario ก็จะมีประเทศที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเงื่อนไขที่ชนะต่างกันไปในแต่ละประเทศ เสียดายว่าเกมยังไม่มีวิกฤติสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ถ้าแสบที่สุดและเป็นที่มาของความชังชาติของเกมนี้คือ Scenario เผด็จการทหารพม่าครับ โดยถ้าเราเลือกจะเล่นเส้นทางนี้ หนึ่งในตัวละครหลักก็คือประเทศไทย แถมเงื่อนไขหนึ่งในการคว้าชัยชนะสำหรับประเทศนี้คือ ต้องให้รัฐบาลเผด็จการทหารพม่าอยู่รอดจ้า

พอนึกไปนึกมา ไอ้ความตกใจของผมที่รู้สึกว่าทำไมคนนอกมันบังอาจรู้เรื่องเราได้ขนาดนี้อาจจะเวอร์ไปหน่อย เพราะในสายตาของชาติอื่น ๆ โดยเฉพาะชาติตะวันตกเขาน่าจะมองประเทศไทยในแบบที่… ก็แบบในภาพด้านบนมาตั้งนานแล้วแหละครับ

เพราะข้อมูลที่เขาอ้างว่าเป็นตัวยืนพื้นในการสร้างเกมก็มาจากหลายแหล่งทั้ง CIA World Factbook, ฐานข้อมูล UN หรือ OECD, Our World in Data, ฐานข้อมูล SPIRI Military Expenditures ยังไม่รวมพวกข้อมูลตามเว็บไซต์รัฐบาลประเทศต่าง ๆ หรือ ข้อมูลจากองค์การไม่แสวงหากำไรอย่าง Reporters Without Borders อีก คือถ้าเกมนี้เป็นงานวิจัย ในส่วนทบทวนวรรณกรรม (Literature Review) ก็ต้องบอกว่าแน่น Here Here

เกมเพลย์

ก่อนจะว่ากันถึงเรื่องเกมเพลย์ ผมอยากให้ทุกคนได้ดูตัวอย่างเกมนี้ก่อน เพื่อซึมซับความรู้สึกแรกหลังจากได้ดูจบ หลายคนอาจจะมีคำถามว่าทุกสิ่งที่คุณได้เห็นในตัวอย่าง Super Power 3 มันเอาแต่ตัวเลขมาขึ้นแล้วซ่อนของสนุกไว่ในเกมจริงรึเปล่า

ไม่เว่ย อะไรที่คุณเห็นหรือดูน่าปวดหัวในตัวอย่าง มันคือตัวตนของ Super Power 3 เลยครับ ตัวตนอันซับซ้อนจนการไปลงสมัคร สส. ยังง่ายกว่า ถ้าย่อยให้ง่ายที่สุด เกมจะใช้วิธีเดินเวลาไปเรื่อย ๆ เหมือนเกมสร้างอารยธรรมทั่วไป ส่วนบนหน้าจอของเกมเราจะต้องควบคุมจัดการ 4 หน้าต่างครับ คือ

หน้าต่างประชากร จะเป็นส่วนที่เราคอยเฝ้าดูการเติบโตของตัวเลขคนในประเทศ รวมไปถึงวัฒนธรรม และการสนับสนุนการปกครองของเรา ในหมวดนี้จะมีความพิเศษที่มีเรื่องของอินเทอร์เน็ต ซึ่งเราสามารถเลือกระดับความเปิดกว้างของเสรีภาพเรื่องนี้ได้ ยิ่งเราปิดหูปิดตาประชาชนเท่าไร คะแนนนิยมในพรรคก็ยิ่งสูง

หน้าต่างการปกครองน่าจะมันที่สุดสำหรับผมแล้ว มันแสดงการเมืองภายในประเทศ แสดงชื่อพรรค รวมถึงสิทธิเสรีภาพต่าง ๆ ที่กำลังเป็นประเด็นใหญ่ในตอนนี้ ทั้งเสรีภาพในการแสดงออก เสรีภาพในการทำแท้ง เสรีภาพการแต่งงานคนเพศเดียวกัน และต่าง ๆ เราสามารถเลือกให้ประชาชนมีสิทธิ์หรือไม่มีสิทธิ์ทางกฎหมายเรื่องไหนก็ได้

(พูดเสียงกระซิบ) เราทำให้พรรคการเมืองบางพรรคผิดกฎหมายได้ด้วยนะ

ส่วนด้านการต่างประเทศ ก็จะมีตัวเลือกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ เช่น จะเปิดสถานทูตมั้ย จะเปิดพรมแดนมั้ย หรือจะเปิดแม่มเลย แต่ขอบอกว่าพอเปิดสงครามแล้ว การจะกลับไปยังจุดหยุดยิงนี่ยากมาก ๆ

หมวดเศรษฐกิจจะให้คุณตัดสินใจว่าอยากลงทุนด้านอะไรเป็นพิเศษ ก็จะแบ่งเป็นหมวดมาเลยครับ ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณะสุข การศึกษา โฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งการลงทุนในแต่ละด้านมันจะส่งผลถึงมิติอื่น ๆ ในประเทศด้วยนะ อย่างถ้าคุณลงทุนด้านโฆษณาชวนเชื่อเยอะ รัฐบาลคุณก็จะได้รับการสนับสนุนมากตามไปด้วย ถ้าคุณลงทุนการศึกษาเยอะ ประชาชนก็มีทักษะไปทำงานระดับสูง ๆ เอาเม็ดเงินเข้าประเทศได้ดี แต่มันก็ทำให้ท่านผู้นำรำคาญใจ เพราะชอบตั้งคำถาม ส่งผลเสียต่อความมั่นคงรัฐบาล

สุดท้ายคือหมวดที่ถนัดมือ เป็นเรื่องแสนยานุภาพของกองทัพ ตรงหมวดนี้แหละที่เราสามารถดูหน่วยรบของเราทั้งบก น้ำ อากาศ และเทคโนโลยีต่าง ๆ ถ้าประเทศไหนมีหัวรบนิวเคลียร์ ก็มีมาให้แต่แรกเลย

เท่าที่อ่านมาเกมดูมีมิติและรายละเอียดการเมือง เศรษฐกิจ สังคมสูงมาก แต่ข้อที่ผมจะวิจารณ์คือ มันเหมือนเอาข้อมูลมากองรวมกัน คัดแยกหมวดหมู่ แล้วไม่รู้ว่าจะทำให้มันเป็น “วิดีโอเกม” แบบจริงจังยังไง ปกติบรรดาพวกเกมสร้างอารยธรรม หรือ แนวบริหารจัดการบ้านเมืองมันก็เรียกร้องให้ผู้เล่นต้องใช้เวลาเรียนรู้กับมันไปสักพักอยู่แล้ว แต่เวลาคุณเล่นพวก Civilization หรืออย่างเดโม Floodland ที่ผมพรีวิวไป ถึงรายละเอียดที่ต้องเรียนรู้มันจะเยอะ แต่คุณยังได้ความเพลิดเพลินจากการเห็นคนมันออกมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ไปจนถึงสร้างสิ่งมหัศจรรย์ของโลก คือความบันเทิงมันยังอยู่ในระดับพอรับได้ให้เรายอมเสียเวลาเรียนรู้กับเกมไปเรื่อย ๆ น่าเสียดายที่มันไม่มีสิ่งนี้ใน Super Power 3

นอกจากนี้เกมยังมีข้อผิดพลาดทางเทคนิคให้พบเห็นบ้าง เช่น เวลาเลือกประเทศที่ต้องการเชื่อมสัมพันธไมตรีด้วย เลือกประเทศนี้กลับได้ประเทศอื่น รวมถึงการโหลดที่ใช้เวลานานกว่าที่ควรจะเป็น

สรุป

เวลากดเข้า Super Power 3 มันเหมือนผมกดเข้าแอปข่าวสำนักหนึ่งที่มีการรวบรวมข้อมูลประเทศทั่วโลกมาได้อย่างมหาศาล แล้วเอาข้อมูลนั้นมาทำภาพกราฟิกให้คุณได้ส่องดูประเทศนั้นประเทศนี้ และให้จำลองสถานการณ์ด้วยหน้าจออินเทอร์เฟซคล้ายกระดานเทรดหุ้นอย่างเมามัน (ถ้ารู้สึกแบบนั้นได้ คุณคือคนโชคดีคนนึง) ในขณะมิติที่เรียกว่า วิดีโอเกม นั้นนอนหายใจรวยรินเต็มที

ถ้าจะให้ผมนิยาม Super Power 3 มันคือ “ท่านผู้นำ ซิมูเลเตอร์” ทุกกิจการในประเทศและต่างประเทศสามารถบริหารจัดการได้ด้วยปลายนิ้ว ขอแค่คุณมีความอดทนเหมือนพระมหาชนกว่ายน้ำเข้าหาฝั่งเท่านั้นเอง และนั่นคือทั้งหมดของผมสำหรับสุดยอดเกมชังชาติแห่งปี Super Power 3 ครับ