Gotham Knights – รีวิวช่วงต้นเกม (Review in Progress)

*ขอขอบคุณ Epicsoft Asia สำหรับโค้ดเพื่อการรีวิวด้วยครับ

**รีวิวนี้เป็นการแสดงความคิดเห็นในช่วงต้นของเกมเท่านั้น (ประมาณ 2-3 ชั่วโมง) ส่วนรีวิวฉบับสมบูรณ์ของเกมจะมีการเผยแพร่ในภายหลัง

สเปคเครื่อง PC ที่ใช้เล่นในครั้งนี้คือ

GPU: NVIDIA GeForce 2070 SUPER

CPU: Intel(R) Core(TM) i5-9400F CPU @ 2.90GHz

แรม: 16 GB

OS: Windows 10 64-bit

**ภาพประกอบบทความทั้งหมดถ่ายจาก PC โดยตรง

ประเด็นเรื่องเฟรมเรท

ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาของเกม ผมขอพูดถึงประเด็นเมื่อคนเล่นเห็นว่าเกิดการล็อคเฟรมเรทเป็น 30 FPS บนคอนโซล แต่เนื่องจากรีวิวนี้ใช้ PC ในการเล่น ผมยืนยันได้แค่ว่าเฟรมเรทเกมรันได้ที่ 60 FPS บน PC ก็จริง แต่ก็ต้องปรับระดับกราฟิกปานกลางไปต่ำ เพราะการ์ดจอตัวที่ใช้ NVIDIA GeForce 2070 SUPER ก็มีอายุมากพอสมควรแล้ว

แต่ถึงจะปรับระดับตามที่บอกไป เฟรมเรทก็ยังมีแกว่งให้เห็นชัดเจน โดยเฉพาะตอนขี่ Batcycle รอบเมือง มีกระทั่งเกมค้างเพราะโหลดฉากไม่ทันชั่วคราว และถ้าพูดสำหรับเกมเมอร์บน Steam ทั่วไป ผลสำรวจประชากรส่วนใหญ่ก็ยังใช้การ์ดรุ่น GTX 1060 กันอยู่ ซึ่งน้อยกว่าความต้องการขั้นต่ำของเกมนี้

เลยขอบอกข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจสำหรับคนที่อยากซื้อวันที่เกมออกครับ

Gotham ขาดแบทแมนได้ แต่ขาดอัศวินไม่ได้

“Batman ตายไปแล้ว” นี่คือคำโปรยที่ Gotham Knights เผยมาตั้งแต่ต้น แน่นอนว่าหลายคนยังสงสัยในชะตากรรมของ Bruce Wayne และมีการตั้งทฤษฎีต่าง ๆ กันไป

ผมจะไม่ขอสปอยล์เนื้อหาส่วนนี้ แค่จะบอกใบ้ว่า ตั้งแต่เรากดเข้าเกม จะมีฉากสำคัญที่แสดงให้เราเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ Batman มันมีเหตุการณ์บางอย่างมากกว่าที่เราเข้าใจกัน รวมถึงเป็นการสยบลือ หรือ ยืนยันอย่างชัดเจนเลยว่าทำไมจะต้องมีการส่งไม้ต่อให้กับเด็ก ๆ รุ่นต่อไป

อัศวินตัวเอกทั้ง 4 คน คือ Batgirl, Nightwing, Red Hood และ Robin จะต้องสานต่อภาระอันสาหัสนี้ ไม่ใช่แค่เหล่าอาชญากรจะได้ใจจากการจากไปของอัศวินรัตติกาลเท่านั้น แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนก็แตกขบวน และมองอัศวินหน้าใหม่เป็นศัตรูเหมือนกัน

นอกจากจะรับศึกสองด้าน สิ่งที่พวกเขาจะต้องเจอคือสุดยอดวายร้ายผู้เคยปะทะกับ Batman มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Penguin, Mr. Freeze และศัตรูที่อยู่ลึกลงไปในก้นบึ้งของเมือง Gotham สมาคมลึกลับที่ฝังรากของมันนับแต่เมืองนี้ถือกำเนิด Court of Owls

ฉะนั้น แค่สี่คนร่วมใจยังไม่พอ บางทีพวกเขาต้องไปขอความช่วยเหลือจากอดีตคู่ปรับอย่าง Harley Quinn ด้วย ซึ่งจะไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ แน่นอน

ฐานทัพใหม่ Belfry มรดกสุดท้ายของ Batman

Belfry เป็นหอนาฬิกายักษ์ที่ Batman ฝากไว้ให้เป็นฐานที่มั่นของอัศวินทั้ง 4 ถึงสภาพของมันจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ก็เป็นที่มั่นแห่งสุดท้ายที่มีศักยภาพซ่อนอยู่อีกมาก มันสามารถใช้เป็นห้องประชุมวางแผนการขั้นต่อไป ใช้เป็นที่ฝึกฝนพื้นฐานการต่อสู้ การอัปเกรด การสร้างอาวุธ ชุดเกราะ รวมถึงให้ผู้เล่นใช้เปลี่ยนตัวละครด้วย

สำคัญที่สุดคือฐานแห่งนี้จะมี Alfred ชายผู้เคยรับใช้ Bruce มาคอยดูแล หลังจากสูญเสียนายเก่าไป Alfred ก็สานต่องานของเขาด้วยการคอยอำนวยความสะดวกให้อัศวินหน้าใหม่

หากคุณเลือกจะเดินออกจากประตู Belfry เกมจะเข้าส่วนที่เรียกว่า การลาดตระเวนยามค่ำคืน และนั่นคือช่วงที่เราจะได้ไปทำภารกิจกัน

ภารกิจยามค่ำคืน

เมื่อเลือกออกลาดตระเวน เกมเพลย์ส่วนนี้จะปล่อยให้ผู้เล่นบังคับตัวละครออกผจญภัยใน 5 เขตของ Gotham โดยอาศัยสลิงดึงตัว และ Batcycle ไม่ว่าผมจะเลือกเล่นเป็นใคร ตัวเลือกในการเดินทางก็ยังเป็นสองสิ่งนี้จนกว่าเราจะทำชาลเลนจ์ เพื่อปลดล็อคความสามารถ Knighthood ให้ตัวละครทั้ง 4 เดินทางในแบบตัวเองได้ เช่น Batgirl สามารถสยายปีกร่อนเหมือน Batman

การลาดตระเวนจะมีสิ่งให้เราทำเหมือนภาค Arkham City เป็นต้นมาเลยครับ ก็คือเราสามารถช่วยผู้บริสุทธิ์จากอันธพาล ขัดขวางอาชญากร ซึ่งก็จะมาในรูปแบบที่ค่อนข้างวนซ้ำไปมา อย่าง ปล้นแบงก์ รังแกคนอ่อนแอ สุมหัวกันพยายามบุกเข้าไปในอาคาร ซึ่งถ้าเล่นไปไกลกว่านี้พวกเขาอาจมีกิจกรรมเลวร้ายอย่างอื่นให้ทำกันก็ได้

ส่วนภารกิจหลัก ค่อนข้างทำมาได้ดีตามมาตรฐานครับ แบ่งเฟสลอบเร้น เฟสไขคดี และเฟสต่อสู้ได้ไม่มากไม่น้อยเกินไป

ยังมีจุดที่เรียกว่า การใช้ AR ไขคดี นี่เป็นระบบใหม่ซึ่งผมเห็นว่ามันแอบมีความน่าสนใจในตัว แต่ช่วงแรกของเกมมันแค่ให้เราจับคู่หลักฐานสองชิ้นก็ไขปริศนาได้ ผมยังบอกไม่ได้ว่าระบบนี้จะเพิ่มความซับซ้อนเข้าไปเรื่อย ๆ รึเปล่า แต่ก็หวังให้เป็นแบบนั้น เพราะดูแล้วมันสามารถเอาไปทำเป็นพัซเซิลที่ดีได้อยู่

ระบบต่อสู้

เมื่อพูดถึงเรื่องระบบต่อสู้ ผมต้องโยนประสบการณ์ตอนเล่นเกมซีรีส์ Arkham ทิ้งไปบางส่วน และต้องคอยเตือนตัวเองว่า Gotham Knights ไม่ได้อยู่จักรวาลเดียวกับซีรีส์ Arkham ถึงมันจะมีการสืบทอดกลไกหลาย ๆ อย่างมา

ระบบต่อสู้ของเกมนี้จะมีการกดโจมตีปกติและเพิ่มการกดโจมตีค้างให้เป็นการโจมตีขั้นรุนแรง ส่วนท่าเคาเตอร์ศัตรูโดนเปลี่ยนให้เป็นการโจมตีระยะไกลในทุกตัวละคร

มีเรื่องที่ผมค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับระบบต่อสู้อยู่พอตัว เรื่องแรกก็คือสัญญาณเตือนเมื่อศัตรูจะโจมตี มันออกแบบมาค่อนข้างดูยากและมินิมอลเกินไปหน่อย ทั้งการโจมตีระยะใกล้ (แสดงเป็นวงกลมสีขาว สีแดงบนมือศัตรู) และระยะไกล (เล็งเป็นเส้นสีขาว และจะกะพริบเมื่อเตรียมยิง) ใครที่เคยเล่นภาค Arkham มายังไงก็ต้องมีการปรับตัวให้คุ้นเคยครับ

ส่วนอีกเรื่องนั่นคือระดับความลึกของมัน คือผมดูจากสายสกิลต่าง ๆ ที่มีให้อัปแล้ว ผมแอบรู้สึกว่าเกมเหมือนเอาความสามารถของ Batman ในภาคก่อน ๆ แบ่งแยกย่อยให้กลายเป็นตัวละคร 4 ตัว ถ้าเล่นแบบหลายคนผมเชื่อว่ามันจะมีเทคนิคให้คิดสร้างสรรค์กันร้อยแปดพันอย่าง แต่ผมไม่แน่ใจว่าถ้าเล่นแบบคนเดียวโดด ๆ ผมจะสนุกกับมันไปได้ไกลแค่ไหน

ถึงมันจะมีความสามารถหลายอย่างที่ดูเฉพาะตัว เช่น Nightwing จะเก่งเรื่องการโจมตีทางอากาศ Robin จะสร้างร่างปลอมหลอกศัตรู และถนัดลอบเร้น Batgirl มีความใกล้เคียง Batman มากที่สุด และ Red Hood จะเด่นการใช้ปืน

แต่สกิลที่ทั้ง 4 มีเหมือนกันก็เยอะ แล้วยังมีสกิลประเภทเพิ่มความสามารถให้เพื่อน ซึ่งถ้าคุณจะใส่เดี่ยวทั้งเกมมันก็คงไม่มีประโยชน์ที่จะเอาแต้มไปลง? ส่วนนี้ผมยังไม่แน่ใจนักว่าถ้าเล่นไปเรื่อย ๆ เราจะได้เล่นผสมโรงกับ AI ด้วยมั้ย ขอเก็บเรื่องนี้เป็นการบ้านก่อนนะครับ

โดยภาพรวมของระบบต่อสู้ ผมค่อนข้างคิดถึงความเป็น Batman ในซีรีส์ Arkham มากกว่า เพราะการเคาเตอร์ศัตรูแบบสองถึงสามตัวพร้อมกันมันได้อารมณ์กว่าการโจมตีระยะไกลในภาคนี้เยอะ

แต่ก็ต้องยกประโยชน์ให้จำเลยก่อนล่ะครับ เพราะเขาไม่ได้เคลมว่าเกมนี้เป็นภาคต่อ และไม่แน่ถ้าเล่นเนื้อเรื่องไปไกล ๆ จนเจอศัตรูหลากหลายมากขึ้น มีชั้นเชิงมากขึ้น ผมอาจมองเห็นเหตุผลที่เขาเปลี่ยนระบบต่อสู้ให้เป็นแบบนี้ก็ได้

ส่วนที่ยืนยันได้อีกเรื่องว่าไม่แพ้ซีรีส์ Arkham คือเรื่องแอนิเมชันปิดฉากศัตรู ทำออกมาได้แหวกแนว เท่กระตุกจิตทั้ง 4 ตัวละครเลย

นั่นคือเท่าที่ผมพอสรุปได้ในเวลานี้สำหรับ Gotham Knights มีอะไรหลายอย่างที่ผมยังสนุกคือส่วนของภารกิจหลัก เนื้อเรื่องชวนติดตาม และมีหลายอย่างต้องปรับจูนกันพอสมควร โดยเฉพาะระบบต่อสู้ซึ่งต้องให้เวลาในการพิสูจน์ แล้วพบกันในรีวิวฉบับสมบูรณ์ครับ