Them’s Fightin’ Herds – รีวิว [REVIEW]

*ขอขอบคุณโค้ดรีวิวจาก Ripples Thailand มา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5

ต้องสารภาพก่อนเลยว่าก่อนที่ผมจะได้ลองเล่นเกมนี้ ผมไม่เคยได้ยินชื่อเกมมาก่อนเลยครับ พอไปลองเสิร์ชดูถึงได้รู้ว่ามันเป็นเกมที่ไอเดียประหลาดดี เพราะสตูดิโอยักษ์ใหญ่น่าจะไม่ค่อยอยากเสี่ยงลองทำเกมไฟติ้ง 2D ที่กราฟิกเป็นตัวการ์ตูนในลักษณะลายเส้นคล้าย My Little Pony ที่ทุกตัวจะต้องมาขวิด มาพุ่งชน มาเตะใส่กัน แต่จุดนี้อาจเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของสตูดิโออินดี้ที่จะสามารถ “ทดลอง” ไอเดียอะไรแปลก ๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลอะไรมากมายนัก

ซึ่งก็นั่นแหละ ความแปลกนี่สะดุดตาใช้ได้แล้ว ส่วนจะเล่นแล้วโอเครึเปล่าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และนี่คือความรู้สึกของผมหลังจากได้ลองเล่นครับ

---

เนื้อเรื่อง

Them’s Fightin’ Herds นั้นเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโลกแฟนตาซีที่ชื่อว่า Foenum ที่ซึ่งบรรดาสัตว์สี่เท้ากินพืชต่างก็ใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุข แต่ทว่าวันหนึ่งความสงบสุขเช่นว่าก็เริ่มจะพังทลายลง เพราะเหล่าสัตว์กินเนื้อ (Predator) ที่ควรจะโดนผู้กล้าผนึกเอาไว้ในแดนแห่งความมืดเริ่มจะหวนกลับมาอีกครั้ง ความกังวลแผ่กระจายไปทั่วทุกสายพันธุ์ จนได้มีการคัดเลือกผู้ที่จะก้าวมาเป็นแชมเปียนซึ่งจะออกแสวงหากุญแจและทำการผนึกเหล่าสัตว์กินเนื้อเอาไว้อีกครั้ง และก็แน่นอนว่าบรรดาตัวละครที่เราเล่นได้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสายพันธุ์สัตว์กินพืชต่าง ๆ นี่ล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นวัวบ้าง ม้าบ้าง อัลปากาบ้าง เป็นต้น

ถ้าให้พูดถึงความประทับใจแรกสุดเลย ผมคิดว่าการสร้างเซ็ตติ้งและวางปูมหลังของโลกนั้นทำออกมาได้น่าสนใจและสนุกดีเหมือนกัน พวกบทสนทนาต่าง ๆ ก็แทรกมุกตลกเข้ามาบ่อย ๆ สมกับธีมนำเสนอของเกม (และเข้าใจว่าสิ่งนี้ก็ได้แรงบันดาลใจจากผลงานที่เป็นต้นกำเนิดของเกมอย่าง My Little Pony ด้วย) ซึ่งในส่วนของโหมดเนื้อเรื่องของเกมก็จะทำการแบ่งออกเป็นแต่ละ Chapter ที่จะซอยย่อยออกเป็นอีก 4 ตอน ในแต่ละ Chapter เราก็จะได้เล่นตัวละครที่ต่างกัน ซึ่งก็คือเหล่าตัวละครที่มีให้เล่นกันในโหมดอาร์เขดนั่นล่ะครับ

สไตล์การนำเสนอโดยเฉพาะในโหมดเนื้อเรื่องนี่ถือว่าไอเดียดีใช้ได้ไม่เบา เพราะทำออกมาในรูปแบบเหมือนพวกเกม RPG คลาสสิกจากยุคเครื่องคอนโซล 16 บิทที่ใช้กราฟิกแบบดอทพิกเซลในการเดินทางและสำรวจฉาก แต่พอเจอกับศัตรูถึงจะเข้าฉากต่อสู้ในรูปแบบไฟติ้งตามปกติ และก็แน่นอนว่าในแต่ละฉากจะมีของให้สำรวจและมีความลับให้ค้นหาอยู่พอควร โดยรางวัลที่ได้ก็จะเป็นพวกของแต่งกายตัวละครที่มักมาพร้อมกับคำบรรยายติดตลก ซึ่งบางชิ้นก็เป็นการล้อเลียนเกมไฟติ้งอื่น ๆ ด้วยเหมือนกัน

ทั้งหมดทั้งมวลนั้นดูดีและเข้าท่าไม่หยอก จนกระทั่ง…ผมจบ Chapter 1 ครับ แทนที่จะได้เล่น Chapter 2 ต่อด้วยตัวละครอื่น กลับกลายเป็นว่าเกมขึ้น To Be Continued โดยที่ยังไม่สามารถเล่นต่อได้ ไม่สามารถปลดล็อกได้ ผมก็สงสัยว่าต้องทำอะไรยังไง จนได้ทราบว่าจนถึงตอนนี้ Chapter 2 ยังไม่เสร็จครับ และคาดว่าจะมีการปล่อยให้เล่นต่อในรูปแบบการอัปเดตในภายหลัง (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไร)

ประเด็นสำคัญที่ต้องกล่าวถึงคือเดิมทีเกมนี้ปล่อยให้เล่นกันแบบ early access บน Steam ในปี 2018 ก่อนจะวางขายแบบ full release ในปี 2020 และมาวางจำหน่ายเวอร์ชันคอนโซลล่าสุดก็เมื่อเดือนตุลาคม 2022 ที่ผ่านมานี่เอง เท่ากับว่าเวอร์ชันคอนโซลนี่ก็เป็นฉบับที่ประกอบไปด้วยคอนเทนต์ล่าสุดเท่าที่เกมจะมีในปัจจุบัน แต่ Chapter 2 ก็ยังไม่เสร็จอยู่ดี…ก็ขอให้เป็นข้อมูลในการพิจารณาเอาไว้แล้วกันครับ

---

เกมเพลย์

ในแง่ของระบบการเล่นนั้น ค่อนข้างเซอร์ไพรส์อยู่เหมือนกันครับ คือโดยส่วนตัวผมไม่ใช่เซียนเกมไฟติ้งอะไรแบบนั้น ฝีมืออยู่แค่ในระดับ “พอเล่นไหว” แต่ไม่เคยไปศึกษาพวกเทคนิคการเล่น ไม่เคยนั่งจำเฟรมในการออกท่า ไม่เคยนับจังหวะหรือนั่งฝึกต่อคอมโบเป็นวัน ๆ ให้ร่างกายจดจำได้แบบไม่ต้องคิดอะไรพวกนั้น

ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมคิดว่าระบบการต่อสู้ใน Them’s Fightin’ Herds นี่ออกแบบมาได้แน่นและเล่นสนุกเอาเรื่องอยู่ เพราะเกมรวดเร็วฉับไวและสมูธใช้ได้ การกดปุ่ม การออกท่าต่าง ๆ ตอบสนองได้ดีไม่มีสะดุด ที่สำคัญคือมีพวกระบบหลายอย่างในแบบที่เกมไฟติ้งปัจจุบันพึงมี ไม่ว่าจะการ reversal เอย การใช้ท่าใหญ่เอย พวกโหมดฝึกฝนก็มีตัวอย่างการต่อคอมโบให้ได้ลองฝึกกัน ที่ทำให้รู้ว่าระบบของเกมนี้ลึกซึ้งใช้ได้อยู่

สิ่งที่ทำให้การต่อสู้ในโหมดอาร์เขดและโหมดเนื้อเรื่องต่างกันก็คือ โหมดอาร์เขดนั้นเราก็จะได้เล่นสู้กับบรรดาตัวละครที่มีให้เลือกเล่นตั้งแต่ต้นไปจนจบ แต่พอเป็นโหมดเนื้อเรื่องจะมีหลายช่วงที่เราจะได้สู้กับบรรดาสัตว์กินเนื้อตลอดเวลา และในหลายช่วงตัวเกมก็จะออกแบบมาโดยมีกิมมิกมีลูกเล่นคล้ายเกมแอ็กชันแพลตฟอร์ม เพราะบางทีเราก็ต้องกระโดดข้ามเหวบ้าง หรือไม่ก็กระโดดปีนขึ้นด้านบนบ้าง และการสู้บอส (รวมถึงตัวละครอื่น ๆ ที่มีให้เล่น) ก็จะปรับให้มีลูกเล่นในสไตล์เกมแอ็กชัน (ซึ่งหลายครั้งแอบน่ารำคาญเหมือนกัน) ที่บังคับให้เราจำแพทเทิร์นการโจมตีเพื่อหลบ มากกว่าจะเป็นการหาจังหวะเข้าต่อคอมโบครับ

แต่ทว่าสำหรับเกมไฟติ้งแล้ว…ผมคิดว่าเกมนี้มันก็มีจุดบอดใหญ่มาก ๆ อยู่จุดนึงเลยเหมือนกัน นั่นคือตัวละครที่มีให้เล่นทั้งเกมมีแค่ “7” ตัวในตอนนี้ครับ ซึ่ง 7 ตัวที่ว่านี่ไม่มีตัวไหนที่เป็นบอสคาแรคเตอร์ ไม่มีตัวลับอะไรแบบนั้น เพราะถ้าคุณเล่นโหมดอาร์เขดจนสู้กับตัวละครอื่น ๆ จนครบ สิ่งที่จะพอเรียกได้ว่าเป็นบอสก็คือบรรดาศัตรูที่เป็นเหล่าสัตว์กินเนื้อที่คุณจะได้สู้ตลอดเวลาในโหมดเนื้อเรื่องนั่นล่ะครับ แค่ว่าคุณจะต้องสู้ต่อเนื่องไปตั้งแต่ต้นจนกว่าจะชนะหมด

เพราะงั้นในแง่ของเนื้อหาเกมนี่ ผมคิดว่ามันมีอะไรน้อยมาก คือผมไม่ปฏิเสธนะว่าระบบการเล่นนี่ออกแบบมาดีใช้ได้และเป็นเกมไฟติ้งที่เล่นสนุกเลย เพียงแค่ว่าด้วยเนื้อหาที่มีในตอนนี้มันก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะบอกว่าเกมมันยังไม่เสร็จดีเหมือนกัน เว้นแต่ถ้าคุณไม่ได้สนใจเนื้อหาอื่น ๆ และชอบแค่การประลองฝีมือกับคนอื่นในแบบออนไลน์ มันก็พอไปวัดไปวาได้อยู่

---

กราฟิก

ในส่วนนี้ถือเป็นจุดเด่นของเกมครับ ในส่วนของฉากต่อสู้นั้นวาดออกมาได้สวยงามและสมูธมาก เห็นแล้วรู้ได้ชัดเจนว่าเดิมทีตั้งใจทำเป็นเกมแฟนเมดของ My Little Pony (ก่อนจะโดนบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์แจ้งให้หยุด) ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น IP ต้นฉบับของตัวเอง สีหน้าท่าทางตัวละครนี่วาดออกมาได้หลากหลายและมีเอกลักษณ์มากในแต่ละตัว ซึ่งพอปรับมาเป็นกราฟิกแบบพิกเซลในโหมดเนื้อเรื่องก็ทำออกมาได้สวยงามในแบบที่เป็นและได้บรรยากาศแบบเกมคลาสสิกแท้ ๆ

---

เพลงประกอบ

เพลงประกอบของเกมนี่ทำออกมาได้สนุกใช้ได้ครับ หลายเพลงนี่ติดหูดีไม่เบา เพลงประจำฉากของแต่ละตัวละครนี่จะมีจังหวะเร็ว คึกคักและแตกต่างเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างสมกับรูปลักษณ์ตัวละครอยู่ อีกอย่างหนึ่งคือเพลงประกอบของแต่ละฉากนี่ มันจะมีท่วงทำนองที่เปลี่ยนไปเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามเงื่อนไขบางอย่างด้วย (เช่นการสู้กันในตาสุดท้าย เป็นต้น)

ส่วนพวกเสียงเอฟเฟกต์ในโหมดเนื้อเรื่องที่ทำภาพแบบกราฟิกพิกเซลก็ออกแบบเสียงมาโดยตั้งใจให้ได้บรรยากาศแบบเกม 16 บิท ยิ่งซาวด์ตอนได้ของสวมใส่ชิ้นใหม่มานี่ แอบนึกถึงซีรีส์ The Legend of Zelda อยู่เหมือนกัน

---

สรุป

โดยรวม ๆ แล้ว ผมคิดว่า Them’s Fightin’ Herd นี่เป็นเกมไฟติ้งอินดี้ที่ตั้งใจทำและรับรู้ได้เหมือนกันว่าทีมงานทำกันสุดฝีมืออยู่ เพราะคุณภาพโดยรวมถือว่าอยู่ในขั้นดีเลย เพียงแค่ว่าสิ่งที่เป็นตัวฉุดก็คือความที่เกมมันออกมาดู “ไม่เสร็จ” นี่ล่ะครับ ถึงกระนั้นผมก็ขอวางข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้ตรงนี้ด้วยแล้วกันครับ ว่าเกมขายอยู่ที่ราคา 289 บาทบน Steam และ 1,059 บาทบน PlayStation Store ในตอนนี้ (เวอร์ชันธรรมดาทั้งสองแพลตฟอร์ม) หากคุณสนใจเกมไฟติ้งที่แปลกและระบบโอเค ก็ลองหามาสัมผัสกันดูได้ครับ