Reviews

Marvel’s Spider-Man: Miles Morales PC – รีวิว [REVIEW]

by Reviewer Ocelot

Marvel’s Spider-Man: Miles Morales PC – รีวิว [REVIEW]

รีวิว Marvel’s Spider-Man: Miles Morales PC

*ขอขอบคุณโค้ดรีวิวจาก Sony Interactive Entertainment Singapore มา ณ โอกาสนี้

สเปคเครื่อง PC ที่ใช้เล่นในครั้งนี้คือ

GPU: NVIDIA GeForce 2070 SUPER

CPU: Intel(R) Core(TM) i5-9400F CPU @ 2.90GHz

แรม: 16 GB

OS: Windows 10 64-bit

**ภาพประกอบบทความทั้งหมดถ่ายจาก PC โดยตรง

นี่ก็จะเป็นอีกครั้งที่ผมคิดว่าเป็นหวยล็อคในวงการเกม สำหรับการนำ Marvel’s Spider-Man: Miles Morales มาแต่งตัวใหม่แล้วจับลงเครื่อง PC ดูจากคะแนนในเว็บ Metacritic ที่ปาเข้าไปถึง 85 (จากรีวิว 89 สำนัก) ก็คงพูดได้เต็มปากแล้วล่ะครับว่ากลยุทธ์ที่ Sony ทำอยู่ในปัจจุบันยังไงก็ไม่มีทางคว่ำ ถ้าไม่เจาะยางตัวเอง

สำหรับรีวิวนี้คงไม่ต้องมีการสาธยายอะไรมากครับ นอกจากมาส่งต่อความประทับใจในการพอร์ทเกม AAA จากมือชาว Playstation มาสู่มือชาว PC อีกเช่นเคย ซึ่งต้องบอกว่านี่นับเป็นปีที่ Sony เอาจริงเอาจังในการพอร์ทมากทีเดียว เราได้เห็นทั้ง Uncharted Legacy of Thieves ทั้ง Spider Man ภาคหลัก ไประเบิดพลังบน PC แถมส่งท้ายปีนี้ เราก็ยังได้เห็นไอ้แมงมุมรุ่นน้องผู้ครอบครองพลังไฟฟ้ามารับภาระดูแลเมืองแทน Spider Man รุ่นพี่อีก

คะแนนที่ให้จะไม่เอาปัจจัยเรื่องเนื้อเรื่อง เกมเพลย์ มาเป็นหลักนะครับ เพราะเรากำลังพูดถึงเกมที่พอร์ทอยู่ จะเน้นที่เรื่องประสิทธิภาพ ประสบการณ์ และความคุ้มค่าเป็นหลัก

การพอร์ทในครั้งนี้ Nixxes Software ที่เป็นคนพอร์ท Spider Man ลง PC ก็เป็นผู้รับผิดชอบภาคนี้อีกเช่นกันครับ พอเจอชื่อนี้เข้าไปก็อุ่นใจตั้งแต่ยังไม่ได้เล่นเลยว่ายังไงเขาก็ต้องเอาของคุณภาพมาเสิร์ฟให้อยู่แล้ว

ว่ากันถึงจุดขายของเกมภาคนี้ก็จะคล้าย ๆ กับ Spider Man ที่ผมรีวิวไปเลยครับ อย่างแรกก็คือความยืดหยุ่นในการปรับคุณภาพกราฟิกได้หลากหลายมากซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของ PC อยู่แล้ว ถึงคอมหรือการ์ดจอผมมันจะเข้าขั้นรอวันกลับบ้านเก่า แต่ทุกอย่างมันก็สามารถปรับตรงนั้น เพิ่มตรงนี้ได้ตลอด

สิ่งที่ผมชอบตั้งแต่ Spider Man ภาคแรกบน PC ก็คือ เราสามารถปรับภาพกราฟิกในขณะเล่นเกมแล้วมันจะเปลี่ยนให้เราดูเลยว่า ถ้าแสงเงาประมาณนี้โอเคมั้ย รอยหยักขนาดนี้รับได้มั้ย

กราฟิกในระดับที่ผมโอเคมาก ๆ ยังคงเป็น Very High แบบไม่เปิด Ray Tracing ครับ ซึ่งเกมก็สามารถรัน FPS 60+ ได้อย่างไม่มีปัญหา และกิน CPU ไม่มากมายอะไร

เหมือนกับว่าในส่วนของ Ray Tracing จะมีหัวข้อแยกย่อยลงไปอีกครับ นั่นคือ Ray Traced Shadows ซึ่งจะยกระดับเงาของวัตถุต่าง ๆ ตอนโดนแสงอาทิตย์ให้สวยขึ้น ส่วน Ray-Traced Reflection นั้น ก็ยังเป็นการเปิดเงาสะท้อนของวัตถุแบบสมจริงเหมือนเดิม แต่ก็มีคำเตือนในเกมเหมือนกันว่า  อาการหน่วงต่าง ๆ จากการเปิดฟังก์ชันนี้ก็อาจเห็นชัดขึ้น โดยเฉพาะยิ่งเราปรับกราฟิกภาพไปจนสูงอยู่แล้ว

ในส่วนของ Photo Mode เองก็ยังน่าชื่นชมเหมือนเคย เป็นโหมดที่ผมคิดว่าถ้าเครื่องใครไม่ไหวจะเล่น Ray Tracing แบบปกติ ก็เอามาใช้กับโหมดถ่ายภาพนี่ล่ะครับ มันมีลูกเล่นให้ใช้เยอะแยะไปหมด ไม่ว่าจะ สติกเกอร์ กล่องคำพูดแบบการ์ตูน การเปลี่ยนชุด เปลี่ยนสภาพอากาศ คือทุกอย่างก็สมกับมาตรฐานเกม Sony

อีกเรื่องก็ต้องยกให้การกำกับภาพเหมือนเดิมครับ คือมันเป็นเกมที่มีฉากคัตซีนแบบกดแชะช่วงไหนก็ดูสวย ซึ่งเราเห็นความเทพของการลำดับภาพและมุมกล้องตั้งแต่ภาคหลักแล้ว ในภาคเสริมนี้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย ถึงจะไม่ใช่ฉากคัตซีน แต่พวกท่าเผด็จศึกต่าง ๆ ก็ออกแบบมาให้มีเอกลักษณ์สุดเท่เฉพาะตัวของ Miles และยั่วให้กดถ่ายภาพตลอดเวลา

ถ้าพูดกันถึงในแง่การโชว์ประสิทธิภาพ ผมว่าภาค Spider-Man: Miles Morales โชว์ของได้เยอะกว่าภาคหลักครับ เพราะพลังของ Miles เองเป็นไฟฟ้าชีวภาพ พวกท่าไม้ตายต่าง ๆ เราเลยได้เห็นพลังแสงเงาค่อนข้างเต็มตา แล้วผมต้องบอกว่าเอาแค่กราฟิกในระดับ Very High ไม่ต้องเล่น Ray Tracing ผมว่าท่วงท่าการต่อสู้มันก็อลังการได้ที่แล้ว

ส่วนในแง่ของฉาก ภาค Miles ก็จะดูมีชีวิตชีวามากกว่า เมือง Harlem จะให้ความรู้สึกเป็นเมืองเทศกาล มีหิมะ มีการประดับแสงสี โดยเฉพาะการโหนใยเที่ยวตอนกลางคืนก็เป็นประสบการณ์ที่ดีเอาเรื่อง

ถึงผมจะชงให้ขนาดนี้แล้ว เอาเข้าจริงผมก็ยังรู้สึกว่าราคาเกมค่อนข้างแรงพอตัว ป้ายราคาใน Steam คือ 1,290 บาท ซึ่งพูดจากใจก็ไม่ใช่ราคาที่น่าเกลียด แต่คิดว่าส่วนต่าง 400 บาท ลดกว่านี้น่าจะได้ เพราะตัวเกมภาคหลักที่มีภารกิจหลักยาวกว่าพอสมควร แถมมี DLC มัดรวมมาให้แบบจุใจยังแค่ 1,690 บาท ถ้าจะมีอะไรให้ติเกี่ยวกับการพอร์ทนี้แบบเน้น ๆ ก็คงเรื่องนี้เรื่องเดียวครับ

ในตอนที่รีวิวนี้เผยแพร่ ตัวเกมก็ได้วางจำหน่ายไปสักระยะแล้วท่ามกลางกระแสของเทพแห่งสงครามไล่จามเทพนอร์สในศึก Ragnarok จนหลายคนอาจลืมไปว่าของดีอย่าง Spider-Man: Miles Morales เวอร์ชันพอร์ท PC ก็ออกตามมาใกล้ ๆ กัน แฟน ๆ ตัวยงคงตำกันไปหลายครกแล้ว แต่ไม่เป็นไรครับ ถือซะว่ารีวิวนี้เป็นการแจ้งเตือนเล็ก ๆ เรียกแขกให้ไอ้แมงมุมรุ่นน้องเพิ่มเติม เพราะของเขาดีจริง และเป็นการปูพื้นอันสมบูรณ์แบบก่อนเราจะได้ไปโหนใยสู้ศึกใหญ่ของภาค 2

จุดเด่น

  • ความยืดหยุ่ในการปรับเปลี่ยนคุณภาพกราฟิก
  • พลัง Ray Tracing ที่ทำให้การถ่ายภาพยกระดับไปอีกขั้น
  • เมือง Harlem และพลังไฟฟ้าของ Miles ช่วยให้เราเห็นความอลังการด้านกราฟิกยิ่งกว่าภาคหลัก

จุดด้อย

  • ราคาอยู่ในขั้นแรงนิดหน่อย แต่ไม่น่าเกลียด

The Review

85% ความดีงามตามท้องเรื่องที่ตามรุ่นพี่ไปติด ๆ

85%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์