รีวิว Far Cry 6: Lost Between Worlds
ขอขอบคุณโค้ดเกม (PS5) เพื่อการรีวิว จากบริษัท UBISOFT มา ณ โอกาสนี้ครับ
ผมรีวิวเกมฟาร์ คราย 6, ภาคหลักไปเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว โดยให้คะแนนไว้สูงถึง 95/100 ซึ่งผมยังคงยืนยันคำเดิมว่ามันเป็นเกมที่ดีจริง, สมบูรณ์แบบในความเป็นฟาร์ คราย (สามารถย้อนอ่านได้ที่นี่ – FAR CRY 6 [ฟาร์ คราย 6] – รีวิว [REVIEW]
ต่อมาเกมภาคนี้ผลิต DLC และภารกิจเสริมออกมาอีกเพียบเลยครับ โดยเฉพาะกับ DLC 3 ชุดที่ให้เรารับบทเป็นอดีตตัวร้ายจากภาคเก่าแล้วเข้าฉากลุยฝันร้ายแบบเกมโร้คไลค์/โร้คไลท์ …ซึ่ง โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบเกมในแนวนั้นซักเท่าไหร่ ที่ผมรู้สึกว่าเล่นแล้วสนุกดี ก็เห็นจะเป็นภารกิจเสริมอย่าง แรมโบ้ หรือที่เอาดาราดัง แดนนี่ เทรโฮ เข้ามาเป็น NPC ให้เราไปทำภารกิจให้นั่นแหละครับ ที่ผมว่ามันโอเคดี
ใจนึงก็เชื่อเหลือเกินว่า เกมนี้คงสิ้นสุดเนื้อหาเสริมไว้แค่นี้แล้วล่ะมั้ง เพราะทำออกมาเยอะแล้ว คงต้องไปรอเล่นฟาร์คราย 7 กันเลยดีกว่า แต่ผมคิดผิดครับ เพราะล่าสุดยูบิซอฟต์เขายังทำ DLC แบบจ่ายตังค์ ออกมาอีก ในชื่อตอน Lost Between Worlds หรือชื่อไทย “หลงในพหุพิภพ” ซึ่งผมก็ได้ลองเล่นส่วนขยายที่มีขนาดไม่ยาวมากชุดนี้ไปเรียบร้อย ต่อไปนี้คือความรู้สึกหลังเล่นครับผม
STORY
มาดูพล็อตเรื่องกันก่อน โดยหลงในพหุพิภพ เล่าเรื่องของดานี่ โรฮาส ซึ่งเดินทางไปสำรวจจุดที่พบดาวตกลึกลับ แต่ต่อมาก็พบว่าตนเองตกเข้าไปอยู่ในมิติอันบิดเบี้ยวและพบกับสิ่งมีชีวิตไร้รูปร่างที่ชื่อว่า “เฟ” กลายมาเป็นเพื่อนร่วมทาง คนเล่นจะต้องซ่อมแซมยานอวกาศของเฟ โดยการเก็บรวบรวมเศษชิ้นส่วนทั้งหมดห้าชิ้น โดยแต่ละชิ้นจะเพิ่มเติมโอกาสโดยรวมในการเอาชีวิตรอดของดานี่ และช่วยให้ก้าวเข้าใกล้การหนีรอดไปได้อีกหนึ่งก้าว
การจะหาเศษชิ้นส่วนที่สาบสูญไปนั้น ผู้เล่นจะต้องฝ่าฟันบททดสอบหลายชนิด ที่เรียกว่าริฟท์ โดยระหว่างทางจะต้องเจอกับระบบการเล่นที่เรียกว่า Chromatic Combat เพื่อกำจัดพวก ชาร์ดเฟส ที่เป็นศัตรูคริสตัลรูปร่างมนุษย์และสัตว์ พร้อมทั้งหาหนทางไปยังประตูทางออก ในแต่ละริฟท์ที่มีลักษณะแตกต่างกันไป
ไม่ว่าจะเป็นซากป้อมปราการที่กระจัดกระจายและลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ และยังมีฉากเมืองเอสเปอรันซาที่จมใต้น้ำและเต็มไปด้วยกับดักต่าง ๆ
คนเล่นจะเลือกได้ว่าจะรับมือกับแต่ละริฟท์อย่างไร และจะได้พบกับอาวุธอันทรงพลังรวมถึงเครื่องมือต่าง ๆ ในระหว่างทาง ส่วน กลินท์ หรือ “ประกายแสง” ซึ่งเป็นเศษซากพลังงานที่กระจัดกระจายไปทั่วพื้นที่นั้นจะช่วยให้ผู้เล่นได้คืนชีพและลองเล่นริฟท์ใหม่อีกครั้งหนึ่งหากจำเป็น
GAMEPLAY
มาถึงส่วนสำคัญ นั่นคือเกมเพลย์ครับ โดยผมขออธิบายพื้นฐานเบื้องต้นให้ทราบก่อนว่าเกมนี้ มาในแนวโร้กไลท์ให้คุณตะลุยผ่านฉากแต่ละพื้นที่ ที่ออกแบบมาอย่างซับซ้อนสวยงาม (บางโซนเป็นเหมือนเขาวงกตเลยทีเดียว) ถ้าคุณตายก็ไปเริ่มใหม่ แต่เวลาเล่นแล้วตายไปเรื่อย ๆ คุณจะได้อุปกรณ์ใหม่ ๆ เข้ามา บวกกับการเปิดเส้นทางเพิ่มเติมที่ทำให้รอบใหม่ของคุณ เล่นได้ก้าวหน้ารวดเร็วกว่าเดิม
ก็ตามมาตรฐานเกม roguelite แบบเกมอื่น ๆ นั่นแหละครับ
ด้านการต่อสู้ ตัวเกมออกแบบให้ศัตรู (ชาร์ดเฟส) มี 2 สีคือแดงกับน้ำเงิน เช่นเดียวกับปืนของคุณ ที่จะมีแบบสีแดงกับน้ำเงิน พวกชาร์ดเฟสสีแดง คุณก็ต้องใช้ปืนแดงยิง ส่วนพวกสีน้ำเงินคุณก็ต้องกดเปลี่ยนปืนเป็นสีน้ำเงินเพื่อยิงทำลายพวกมัน
เกมการยิงใน Lost Between Worlds ก็จะสาละวนอยู่กับการสลับปืนไปมา ให้ความรู้สึกยุ่งยากวุ่นวายมากกว่าสนุกอ่ะบอกเลย
ART & CREATIVITY
คุณภาพกราฟิกในส่วนเสริมชุดนี้เข้าขั้นสุดยอดเลยครับ อันนี้ผมชมจริง ๆ เข้าใจว่าทีมงานแผนกนี้ของยูบิซอฟต์น่าจะเต็มไปด้วยยอดฝีมือ พวกเขาใช้การซ้อนกันของวัตถุที่อยู่ต่างระยะกัน เพื่อให้เกิดมุมมองทิวทัศน์ในภาพรวมที่สวยหมดจดดุจดังภาพวาด…ฝีมือสุดยอดกันจริง ๆ
อย่างไรก็ดี โดยส่วนตัวผมชอบความสวยงามใน Lost Between Worlds แต่ผมไม่ปลื้มความซับซ้อนของมัน โดยตลอดการเล่น ผมหลงทางบ่อยมาก ไม่รู้ต้องไปทางไหนต่อ บางครั้งต้องอาศัยดูคนอื่นเล่นในยูทูบเพื่อดูเส้นทางกันเลยทีเดียว…แต่ประเด็นนี้ หลายคนอาจชื่นชอบก็ได้นะครับ
CONCLUSION
ฟาร์ คราย 6 “หลงในพหุพิภพ” เป็นส่วนเสริมที่ออกมาเหมือนงานทดลองทิศทางใหม่ ๆ ของแฟรนไชส์ระดับตำนานเกมนี้ ตัวเกมเล่นคล้าย ๆ เกมโร้คไลท์ทั่วไปในท้องตลาด ขณะที่กันเพลย์ยังไม่โดดเด่น แค่การสลับปืน, สลับสี ผมว่ามันยังไม่ใช่ระบบเกมที่ควรเอาไปใช้ต่อยอดในเกมอื่น ๆ ควรยุบแนวคิดนี้ไปเลย
โดยสรุปแล้ว ผมมองว่า DLC ชุดนี้ ควรเป็นตัวแถมฟรีให้เกมภาคหลักจะเหมาะสมกว่า หรือถ้าใครอยากลองจริง ๆ ก็รอตอนเขาลดราคาแล้วค่อยซื้อมาเล่นก็ได้ครับ เพราะค่ายนี้มีโปรโมชั่นบ่อย จัดส่วนลดแทบทุกเทศกาล
Pros
- งานออกแบบฉาก (ส่วนของคุณภาพกราฟิก) สวยงาม น่าตื่นตา
- งานแปลภาษาไทย ยังดีเหมือนเดิม คุณภาพแบบเดียวกับตัวเกมหลัก
Cons
- เมื่อมันเป็น roguelite ดังนั้น การยิง/การต่อสู้ จึงเป็นหัวใจที่สำคัญมาก ทว่า ระบบ “แดง-น้ำเงิน” ที่เกมนำเสนอ มันเอาไม่อยู่ครับ น่าเบื่อพอสมควร
- บางครั้งฉากดูซับซ้อนเกินจำเป็น หาทางไปยากเหลือเกิน