รีวิว MLB THE SHOW 23
*ขอขอบคุณ Sony Interactive Entertainment สำหรับโค้ดเพื่อการรีวิว
**รีวิวนี้เล่นบน PS5
เกมเบสบอลระดับพรีเมียมจากค่ายโซนี่ ออกภาคใหม่มาในช่วงเดียวกับที่ทีมชาติญี่ปุ่นกำลังชื่นมื่น จากการเอาชนะ ทีมชาติสหรัฐ 3-2 ในรอบชิงฯ เวิลด์ เบสบอล คลาสสิก ที่ ไมอามี่ โดลดีพอต ปาร์ก พร้อมทำสถิติชนะรวด 7 เกมในทัวร์นาเมนต์ คว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 3 เป็นทีมที่คว้าแชมป์มากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มแข่งขันในปี 2006
โดยไฮไลต์ดาวเด่นประจำทัวนาเมนต์ ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น โชเฮ โอตานิ พิตเชอร์จากลอสแองเจลิส แองเจิ้ลส์ ซูเปอร์สตาร์หน้ากล่องเกมภาคที่แล้ว MLB THE SHOW 22 นั่นเองครับ
ผมกะไว้แล้วว่าหมอนี่ต้องขึ้นหิ้งกลายเป็นระดับเทพ! และจะเป็นตำนานของวงการไปอีกนาน (ขอนอกเรื่องอีกนิด – สำหรับดาวเด่นคนถัดไปจากดินแดนปลาดิบ ผมขอทายไว้เลยว่าคือ “โรกิ ซาซากิ” จำชื่อเขาไว้ให้ดีเลยครับ แฟนกีฬาตีลูกบอลทั้งหลาย)
ทีนี้มาว่ากันต่อกับเกมภาค 23 ซึ่งหลังจากทดสอบเกมไปเสร็จสิ้นแล้ว ผมพบว่า ตัวเกมคราวนี้มาในธีมที่ต่างออกไปจากเดิม เพราะเขามุ่งเน้นเต็มที่กับโหมดย้อนประวัติศาสตร์ “นิโกรลีก” (มันชื่อนี้จริง ๆ ครับ ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาเหยียด) หรือ The Negro Leagues ซึ่งเขาลงทุนถ่ายทำเป็นสารคดีเหมือนเวลาเราดูสารคดีทางเน็ตฟลิกซ์นั่นเลย โดยจะตัดช่วงไฮไลต์ออกมาเป็นสถานการณ์ให้เราเล่นผ่านเอนจิ้นของตัวเกม ซึ่งเขาทำมาได้ดีซะด้วยสิ!
STORY
สำหรับโหมด Storylines: The Negro Leagues ซีซัน 1 นั้น ทางสตูดิโอซานดิเอโก ผู้พัฒนาเกมนี้ ได้ทำงานร่วมกับทาง “พิพิธภัณฑ์เบสบอล ลีกนิโกร แห่งสหรัฐอเมริกา” โดยได้ บ็อบ เคนดริก ประธานของพิพิธภัณฑ์ดังกล่าว มาเป็นคนดำเนินรายการ และคอยเล่าประวัติความเป็นมาด้วยลีลาออกรสออกชาติใช้ได้ เล่าสนุก ดูเพลินครับ
ในโหมดเนื้อเรื่องนี้ คุณจะได้สัมผัสกับชีวิตของผู้เล่นดาวเด่นประจำลีกทั้ง 8 คนในรูปแบบ episode เหมือนเวลาเราดูซีรีส์ ซึ่งผู้เล่นแต่ละคนจะมีหลายตอนไม่เท่ากัน แต่รวมทั้งหมดแล้วมี 73 ตอนให้สัมผัสในซีซัน 1
ยกตัวอย่างตอนแรก ๆ เราจะได้เห็นปูมหลังของ Satchel Paige มือขว้างคนดัง เจ้าของท่าไม้ตาย “ลูก Bee Ball” ซึ่งมีชีวประวัติยากลำบาก ปากกัดตีนถีบ ต่อสู้กับความทุกข์ยาก เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือตัวจริงในกีฬาชนิดนี้ โดยนายบ็อบ เคนดริก เล่าเรื่องอยู่ดี ๆ (ในรูปแบบภาพยนตร์ ผสมภาพวาดจำลองเหตุการณ์) ตัวเกมก็ตัดฉับ เข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญระหว่างการแข่งขัน แล้วผู้เล่นจะต้องรับบท Paige เพื่อปาลูกตามแชลเลนจ์ที่กำหนดให้ได้ (ซึ่งจำลองทุกช่วงเวลามาจากของจริงทั้งหมด)
เหล่านี้คือความน่าสนุก น่าประทับใจของตัวเกมในโหมดนี้นั่นเองครับ
ผมขอขยายความเกี่ยวกับลีกนิโกรอีกนิด กล่าวคือ เดิมทีลีกของคนผิวสีเกิดมาจากการไม่ได้รับการยอมรับให้เข้าร่วมลีกเบสบอลรายใหญ่และรายย่อยเนื่องจากการเหยียดเชื้อชาติในสหรัฐอเมริกาในยุคอดีต กลุ่มคนผิวสีและละตินที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้แรงงานจึงก่อตั้งทีมของตนเองขึ้นและสร้างทีมระดับมืออาชีพในช่วงทศวรรษที่ 1880
ทั้งนี้ ในยุคเริ่มแรก เนื่องจากทั้งนักกีฬาและคนดูส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนทำงานตอนกลางวัน จึงมีเวลาว่างมาแข่งขันกันเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น ทำให้ประสบปัญหาการมองลูกบอลไม่เห็นกันเป็นเรื่องปกติครับ (แต่คนดูอาจเฮฮาก็ได้มั้ง)
ต่อมา หลังจากสิ้นสุดสงครามกลางเมืองอเมริกา การแข่งขันจึงเริ่มขยายไปในหลายรัฐของประเทศ ทีมต่าง ๆ เช่น Jamaica Monitor Club, Albany Bachelors , Philadelphia Excelsiors และ Chicago Uniques เริ่มจัดแข่งกันเป็นประจำในระบบลีกสากล จากนั้นกระแสความนิยมก็มีขึ้นมีลงตามธรรมชาติของวงการกีฬา ก่อนที่สุดท้ายตัวลีกจะค่อย ๆ ลดระดับลงไปเรื่อย ๆ เพราะสังคมยอมรับเบสบอลเมเจอร์ลีก (ลีกหลัก) มากกว่าและการเหยียดผิวก็หายไปจากวงการกีฬาสหรัฐนานแล้ว นิโกรลีกจึงปิดฉากตัวเองในเกมสุดท้ายเมื่อปี 1958
GAMEPLAY
ด้านระบบเกมการเล่น ก็คงต้องบอกกันตามตรงว่า คล้ายเดิมเกือบทั้งหมดครับ (หมายถึงภาค 21 และ 22) ผมชักเริ่มเป็นห่วงการทำงานของทีมงานนี้แล้วล่ะ ดูเหมือนระบบเกมมันอิ่มตัว ดิ้นไปไหนไม่ได้แล้ว
แต่ถ้าให้มองอีกมุมหนึ่ง ซีรีส์นี้อยู่ในจุดที่ค่อนข้างแข็งแกร่งมาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงจึงเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยในปีนี้ มีการปรับโฉมเล็กน้อย ตรงนู้นนิดตรงนี้หน่อย มีการปรับจูนกลไกการขว้างที่แม่นยำกว่าเดิม (คุณไม่ต้องพึ่งความจำของกล้ามเนื้ออีกต่อไปแล้ว) ทำให้การดวลระหว่างพิชเชอร์กับแบทเตอร์เข้มข้นกว่าที่เคยนะ
การเล่นกับ AI ถือว่าโอเค แต่การเล่นกับคนด้วยกัน ยังคงเป็นความมันส์อย่างแท้จริงของเกมเบสบอล ซึ่งถ้าว่ากันที่ประเด็นนี้เพียว ๆ ตัวเกมถือว่าทำได้ดีมากครับ
ART & CREATIVITY
กับประเด็นนี้ไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการนะ…แต่เป็นความรู้สึกส่วนตัวของผมล้วน ๆ เลยว่า หลังจากที่เกมเขาทำออกมาให้เป็นมัลติแพลตฟอร์มเพื่อลงให้กับเครื่องนินเทนโดสวิตช์ด้วย (เริ่มทำมาตั้งแต่ภาค 22) ผมรู้สึกว่าภาพกราฟิกมันมีดีเทลลดลง น่าจะเพื่อให้ปรับสเกลไปลงให้กับเครื่องอื่น ๆ ได้สะดวก
ผมทดสอบเกมบน PS5 ภาพมันคมชัด งดงามจนเหมือนเราได้ดูเบสบอลจริง ๆ จากการถ่ายทอดสด แต่นั่นคือเวลาเรามองที่ภาพรวม หากเข้าไปดูใกล้ ๆ ในระดับรายละเอียด ผมว่ามันยังราบเรียบไปหน่อย เผลอ ๆ ภาค 21 ยังสวยกว่าอีก
อย่างไรก็ดี ใน THE SHOW 23 นี้เขาอวดว่ามีการใช้เทคโนโลยีจับภาพใบหน้าจริงจากนักกีฬาอาชีพชื่อดังมาใส่ในเกม ซึ่งทำให้ดูสมจริงยิ่งขึ้น ตรงนี้ก็ขอชื่นชมทีมงานไว้ด้วยละกัน
CONCLUSION
ลีกนิโกร คือ MVP ของ MLB The Show 23 อย่างแท้จริง โหมดเกมแบบสารคดีเชิงโต้ตอบนี้ เล่นสนุก แถมจะเล่นเพื่อการศึกษา หรือเพื่อความบันเทิงก็ได้ทั้งนั้น เหมาะกับแฟน ๆ อเมริกันเกม ขณะที่โหมดขาประจำอย่าง Diamond Dynasty, Road to the Show ก็ทำมาคล้ายเดิม แต่เพิ่มเติมคือการอัปเดตข้อมูลให้ทันสมัยยิ่งขึ้น
ทีนี้ ถ้าคุณมีเกมภาค 22 อยู่แล้ว และรู้สึกไม่ค่อยสนใจโหมดเนื้อเรื่องใหม่อย่างลีกนิโกร ก็อาจยังเล่นภาคเดิมต่อไปได้อีกซักปีนึงได้แหละ ไม่เสียหาย ไม่พลาดอะไรไปหรอกครับ แต่ถ้าใครยังไม่เคยเล่นภาคไหนมาก่อน ผมแนะนำให้เริ่มที่ THE SHOW 23 นี้เลย เพราะได้โหมดหลัก ๆ มาครบแถมด้วยโหมดห้องเรียนประวัติศาตร์อย่างลีกนิโกรมาให้เล่นได้อีก
Pros
- Negro Leagues สร้างสรรค์ออกมาได้ดีมาก เล่นแล้วเพลิน
Cons
- หลายส่วนในเกม…เหมือนเดิมจนดูเหมือนไม่พัฒนา โดยเฉพาะคุณภาพกราฟิก