Games Reviews

Warlander – รีวิว [REVIEW]

โดย G-jang

Warlander – รีวิว [REVIEW]

*รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5

ก่อนหน้านี้ เว็บของเราได้เคยลงความรู้สึกจากการเล่น Warlander เวอร์ชันเบต้าไปแล้วรอบนึงที่นี่บน PC โดย Reviewer Ocelot ซึ่งในคราวนี้ตัวเกมเวอร์ชันจริงก็เปิดให้เล่นกันแล้วฟรี ๆ ผมนาย G-jang จึงได้หยิบมาเล่นเพื่อบอกเล่าความรู้สึกให้ได้ทราบกันอีกครั้งสำหรับเวอร์ชันคอนโซลครับ


สำหรับ Warlander นี้เป็นเกมสไตล์แอ็กชันมุมมองบุคคลที่สาม ที่เน้นความเป็นมัลติเพลเยอร์ในแบบหลายผู้เล่นสูงสุด 100 คนด้วยกัน ดังนั้นเนื้อหาของเกมจึงไม่ใช่สิ่งสำคัญครับ เพราะเกมจะเน้นการที่คุณต้องลงไปเล่นเรื่อย ๆ และเรื่อย ๆ เพื่อเก็บค่าประสบการณ์ รวมถึงเงินต่าง ๆ ที่จะนำมาซื้อของแต่งกายใหม่ ๆ ให้กับตัวละครของคุณเอง

ในเกมนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสร้างตัวละครด้วยกันทั้งหมด 3 คลาสนั่นคือนักรบ, นักบวชและนักเวท ซึ่งแต่ละคลาสจะมีวิธีการเล่นแตกต่างกันออกไปในแบบที่คนคุ้นเคยกับสไตล์เกมแฟนตาซีก็คงพอจะเดากันได้อยู่ นั่นคือนักรบเป็นสายบู๊เน้นตีประชิด นักบวชจะได้ทั้งเข้าตีและใช้เวทฟื้นฟูเพื่อสนับสนุน ส่วนนักเวทคือสายยิงไกลซึ่งจะได้อารมณ์เหมือนกำลังเล่นเกมชูตเตอร์กลาย ๆ จากทั้งหมดที่ว่ามานี้ แม้จะเป็นคลาสเดียวกันแต่คนเล่นก็อาจจะปรับแต่งสิ่งต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน เพราะว่าคุณจะมีค่า CP เอาไว้ใส่สกิลรวมถึงของสวมใส่ที่จะเปลี่ยนค่าพลังต่าง ๆ ได้ตามรูปแบบการเล่นที่ต้องการ

แน่นอนล่ะครับว่าสไตล์เกมมัลติเพลเยอร์คุณจะเลือกติดตั้งของดีสุดทั้งหมดไม่ได้ ยังไง ๆ ก็ต้องยอมสละบางอย่างทิ้งไปแล้วเลือกสิ่งที่มันเข้ามือตัวเองที่สุดด้วยความที่ทุกอย่างจะผูกกับค่า CP ทั้งหมดนี่ล่ะครับ พวกสกิลใหม่ ๆ จะปลดล็อกได้ก็ต่อเมื่อเราทำเงื่อนไขในเกมเช่นใช้สกิลที่กำหนดจัดการศัตรูตามจำนวนครั้ง หรืออะไรพวกนั้น อาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ ๆ ก็จะได้มาหลังจากจบฉาก และบางทีเราก็สามารถใช้เงินซื้อมาได้ (ทั้งจากเงินที่เล่นได้ในเกมหรือใช้เงินจริงซื้อ Gold ก็ตามที)

โดยรวมแล้ว ผมคิดว่า Warlander เองเป็นเกมมัลติเพลเยอร์ที่สนุกใช้ได้อยู่ การบังคับควบคุมต่าง ๆ ก็ตอบสนองดีไม่มีอืด ไม่มีหน่วงถึงแม้ว่าจะเล่นร่วมกับผู้เล่นอื่น ๆ ร่วมร้อยคนก็ตาม และด้วยความที่มันเป็นมัลติเพลเยอร์นี่ล่ะ การที่แต่ละคน “รู้งาน” ของตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเริ่มมาในแต่ละฉากตัวคุณจะโดนจัดอยู่ในกลุ่มย่อยที่เกมจะระบุหน้าที่เฉพาะเลยว่าต้องไปทำอะไร หากคุณทำภารกิจสำเร็จ reward ที่ได้ก็จะมากขึ้น แต่ไม่ได้แปลว่าคุณจะไปช่วยกลุ่มอื่นไม่ได้นะ การจัดกลุ่มย่อยเหมือนเป็นแค่บทบาทคร่าว ๆ ที่คุณควรจะทำแค่นั้นเอง

ว่าด้วยจังหวะการเล่นนั้น เกมนี้ไม่ใช่ว่าคุณเลือกเป็นตัวละครนักรบแล้วจะวิ่งหน้าตั้งเข้าไปพะบู๊ได้ทุกคน เพราะว่าสกิลของคุณนั้นมีเวลาคูลดาวน์อยู่ ถ้าจังหวะที่คุณกดใช้มั่ว ๆ ใช้ผิดจังหวะ หรือใช้แล้วมันวืดก็อาจเจองานหยาบได้ เพราะตัวละครคุณไม่ได้เก่งกาจราวกับลิโป้ในสามก๊กอะไรแบบนั้น ลำพังแค่เจอกับผู้เล่นอื่นสู้กันตัวต่อตัวยังต้องคอยดูเชิงกันไปมา ถ้าเจอรุมสองนี่โอกาส Respawn ใหม่ก็สูงมาก ดังนั้นมันก็เลยเหมือนบังคับกลาย ๆ ว่าคุณควรจะไปไหนไปด้วยกับหน่วยของคุณ จะได้พึ่งพาสนับสนุนกันได้ ไม่เปิดโอกาสให้ใครเป็นฮีโรวันแมนโชว์ครับ

ผมคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดว่า Warlander จะให้ประสบการณ์ที่ดีกับคุณได้มากน้อยแค่ไหนก็คือว่าคุณไปเจอทีมที่ “เล่นเป็น” แค่ไหนด้วยครับ ถ้าคุณเจอทีมที่รู้งาน รู้ว่าตนควรทำอะไร ไปตีอะไร บุกยึดอะไร และใครที่ควรใช้เครื่องจักรเพื่อทะลวงฝ่าประตูปราสาท ใครควรเฝ้าดูเชิงแล้วสอยศัตรูจากระยะไกล ฯลฯ แบบนั้น การเล่นของคุณจะสมูธมาก แต่กลับกันถ้าไปเจอคนที่เอะอะก็วิ่งดุ่ยไปตายเอาดาบหน้าเพราะนึกว่าตัวเองกำลังเล่นเกมมุโซอยู่… ประสบการณ์ในตานั้นของคุณก็อาจจะดิ่งเหวไปเลยง่าย ๆ เหมือนกัน

มองกันในภาพรวม ผมคิดว่าโจทย์สำคัญของเกมนี้ก็คือการที่ทีมงานจะต้องหาวิธีดึงผู้เล่นให้อยู่กับเกมได้ยาวนานครับ เพราะด้วยความที่ธรรมชาติของเกมออกแบบมาให้เป็น competitive นี่ล่ะ ลูปเกมเพลย์มันจึงจะคล้าย ๆ กันในแต่ละตา คือคุณต้องบุกตีปราสาทฝั่งตรงข้ามให้แตก โดยสิ่งที่จะต่างกันไปก็คือพวกสภาพภูมิประเทศรวมถึงการจัดวางอุปกรณ์และของต่าง ๆ ของฉากนั้น ๆ ที่หากคุณชอบสไตล์ของเกมมาก คุณก็อาจจะเล่นได้ยาว ๆ แต่ถ้าไม่คุณก็อาจจะเข้ามาลองเล่นตาหรือสองตาแล้วก็กลับไปเล่นอย่างอื่นต่อ ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าตัวเกมไม่มีการเพิ่มเติมคลาสใหม่ ๆ อาวุธใหม่ ๆ หรือมีอะไรที่จะเข้ามาเพิ่มความสดใหม่ให้กับเกมล่ะก็ เกรงว่าอาจจะยืนระยะได้ไม่นานเท่าที่ควร

โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่า Warlander เป็นเกมที่ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน เยอะในแง่ของสิ่งที่ต้องเรียนรู้ต้องทำความเข้าใจ ทั้งคลาสของตัวละคร ทั้งสกิลที่ติดตั้ง ทั้งค่าพลังว่าเหมาะกับบทบาทไหน รวมถึงต้องรู้จังหวะในการบุกและจังหวะในการถอยของแต่ละฉากพอสมควร เพราะไม่เช่นนั้นคุณก็อาจจะวิ่งไปโดนสอยบ่อย ๆ จนอยากเลิกเล่นไปเลยได้ง่าย ๆ

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เกมนี้เป็นเกมฟรี ผมก็อยากให้ทุกท่านลองโหลดมาเล่นแล้วตัดสินใจกันดูครับว่า Warlander จะโดนใจใช่เลยสำหรับคุณมากแค่ไหน ถ้าใช่คุณก็มีอะไรเล่นได้ต่อเนื่องอีกเกมนึง แต่ถ้าไม่คุณก็แค่ลบเกมออกจากเครื่องไปแล้วหาอะไรอย่างอื่นมาเล่นต่อเท่านั้นเอง

The Review

70% จัดกระบวนทัพ รับมือในศึกร้อยคน

Warlander เป็นเกมมัลติเพลเยอร์ที่น่าสนใจในแง่ของระบบการเล่น แต่อาจยังต้องการคอนเทนต์มาดึงผู้เล่นให้อยู่กับเกมได้นาน ๆ

70%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์