บริษัท SEGA CORPORATION ได้เผยรายละเอียดสไตล์การต่อสู้ 2 แบบ “โอริว” และ “เอเจนต์” ในเกม “Like a Dragon Gaiden: The Man Who Erased His Name” (จากนี้ไปจะเรียกว่า “Like a Dragon Gaiden”) เกมบนแพลตฟอร์ม PlayStation®5, PlayStation®4, Xbox Series X|S, Xbox One, Windows, PC (Steam)
สไตล์การต่อสู้ 2 แบบ “โอริว” และ “เอเจนต์” เลือกใช้ได้ตามสถานการณ์
ในการต่อสู้ของ Like a Dragon Gaiden ผู้เล่นสามารถสลับรูปแบบการต่อสู้ได้ 2 แบบคือ “โอริว” (Yakuza Style) และ “เอเจนต์” (Agent Style)
อัดศัตรูด้วยพละกำลัง! รูปแบบสุดท้ายของวิถีแห่งการต่อสู้ที่เป็นตำนาน “โอริว”
คาซึมะ คิริว เป็นที่รู้จักในนาม “มังกรแห่งโดจิมะ” กลายเป็นตำนานแห่งโลกใต้ดินหลังผ่านการต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วน วิถีการต่อสู้ที่ทุ่มพลังในทุกด้านทั้งการเตะและต่อย เข้าจัดการกับศัตรูผู้แข็งแกร่งตรงหน้าทั้งหมด และใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมเป็นอาวุธได้อย่างช่ำชอง แม้จะอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มไดโดจิ แต่วิธีการต่อสู้นี้ก็ได้พัฒนาขึ้นและเข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบเข้าไปทุกที เป็นรูปแบบการต่อสู้สุดท้ายที่ตั้งชื่อตามรอยสักของคิริว
ควบคุมสถาณการณ์ด้วยความเร็ว! รูปแบบการต่อสู้ที่เน้นการใช้อุปกรณ์ที่หลากหลาย “เอเจนต์”
ศิลปะการต่อสู้ลับ “เทคนิคการสังหารรูปแบบไดโดจิ” ที่เหล่าสายลับของกลุ่มไดโดจิได้คิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้ในงานรวบรวมข่าวกรอง เมื่อผสานเทคนิคที่รวมเอาศิลปะการต่อสู้จากทั่วทุกมุมโลกเข้ากับอุปกรณ์ที่เรียกว่า “แก็ดเจ็ต” แล้ว ว่ากันว่าผู้ที่ใช้งานมันได้อย่างช่ำชองจะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย เป็นศิลปะการต่อสู้ที่กลุ่มไดโดจิสอนให้คิริว เพื่อที่เขาจะได้สามารถทำภารกิจให้สำเร็จได้ในทุกสถานการณ์ ในฐานะที่เขาเป็นสายลับของกลุ่ม สไตล์การต่อสู้ของโจริว ชายผู้ซึ่งทิ้งชื่อเดิมของตัวเองไป
■Heat Action สุดร้อนแรงเปี่ยมไปด้วยสีสัน!
ในภาคนี้ยังคงมี Heat Action แอ็กชันท่าไม้ตายอยู่เช่นเคย และยังมาพร้อมกับ “Extreme Heat Mode” ที่เสริมกลยุทธ์การต่อสู้และความเร้าใจให้มากขึ้น
■ Heat Action
Heat Action สามารถแบ่งกว้าง ๆ ได้เป็น 2 ประเภท คือประเภทที่ออกโดยโอริว และประเภทที่ออกโดยเอเจนต์ โดยHeat Action ของโอริวสไตล์นั้น เต็มไปด้วยท่วงท่าอันทรงพลังมากมายไว้ใช้บดขยี้ศัตรูในแบบคิริว ในขณะที่เอเจนต์สไตล์ จะเป็นเทคนิคที่โหดเหี้ยมและซับซ้อน ซึ่งทำให้เห็นถึงแก่นแท้ของศิลปะการต่อสู้ของไดโดจิ “เทคนิคการสังหารรูปแบบไดโดจิ”
■ Extreme Heat Mode
Extreme Heat Mode จะสามารถเปิดใช้งานได้เมื่อสะสม Heat Gauge จนถึงระดับที่กำหนด มีผลในการเพิ่มพลังของสไตล์การต่อสู้แต่ละแบบให้ออกมาสูงสุด
<โอริว> (Yakuza Style)
เพิ่มพลังทำลายล้างและจู่โจมศัตรูอย่างต่อเนื่องอย่างไร้ความปราณี สามารถกำจัดศัตรูที่แข็งแกร่งได้ด้วยการอาละวาดโดยที่ไม่อาจหยุดยั้งได้ ทั้งการคว้าอาวุธที่อยู่ใกล้เคียงมาโจมตี หรือระเบิดพลัง Heat Action อย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดชะงัก
<เอเจนต์> (Agent Style)
ปลดปล่อยประสิทธิภาพของแก็ดเจ็ตให้ถึงขีดสุด และกำจัดศัตรูจำนวนมากอย่างมีสไตล์ กำจัดศัตรูด้วยเทคนิคการโจมตีที่ใช้ประโยชน์จากแก็ดเจ็ตต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อาทิ การหมนุตัวเตะด้วยความเร็วสูงซึ่งใช้พลังจากรองเท้าไอพ่น “The Serpent”, การใช้โดรน “Bee” ในการรุมจู่โจมแบบสายฟ้าแลบ, นาฬิกา “The Spider” สำหรับยิงเส้นลวดจำนวนมากเพื่อใช้จับศัตรู และ ระเบิดบุหรี่ “Firefly” ระเบิดที่มีพลังทำลายล้างมากเสียยิ่งกว่าเครื่องยิงจรวด เป็นต้น
■องค์ประกอบแอ็กชันการต่อสู้แบบใหม่ ที่หลอมรวมรูปแบบใหม่ล่าสุดกับรูปแบบก่อนหน้าเข้าไว้ด้วยกัน
มีการเพิ่มองค์ประกอบใหม่ “Ultimate Counter” ซึ่งเป็นการสะท้อนกลับการโจมตีพิเศษของบอส และ “Charge Attacks” ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับศัตรูมากกว่าการโจมตีปกติ
■ Ultimate Counter
ศัตรูประเภทบอสทุกตัวจะมีท่าพิเศษที่เป็นท่าไม้ตายประจำตัว คิริวสามารถตอบสนองต่อท่าพิเศษนี้ได้ด้วยการโจมตีตอบโต้ที่เรียกว่า “Ultimate Counter” และหากสำเร็จ จะสามารถสร้างความเสียหายให้กับบอสได้อย่างมหาศาล Ultimate Counter สไตล์โอริวนั้น เป็นเทคนิคที่จะโต้กลับการโจมตีของศัตรูอย่างดุเดือด ทำลายการป้องกันของศัตรูด้วยลูกเตะ แล้วจับเหวี่ยงบอสออกไปด้วยการขว้างที่รุนแรง Ultimate Counter สไตล์เอเจนต์นั้น เป็นท่าสำหรับสะกัดการโจมตีของศัตรูด้วยการเตะและฟาดศอกอย่างรวดเร็ว แล้วเหวี่ยงบอสไปรอบ ๆ ด้วยแก็ดเจ็ต The Spider และทำให้ศัตรูที่อยู่รอบ ๆ ติดร่างแหเข้าไปด้วย เป็นเทคนิคการต่อสู้อย่างมีสไตล์
■Charge Attacks
ลักษณะเด่นประการหนึ่งของการต่อสู้สไตล์โอริว คือมี Charge Attacks ได้หลากหลายประเภท Charge Attacks เป็นการโจมตีอันทรงพลังซึ่งปล่อยออกมาโดยการกดปุ่มค้าง เป็นวิธีการโจมตีที่สร้างความเสียหายให้กับศัตรูมากกว่าการโจมตีปกติ ผู้เล่นสามารถปลดปล่อยการโจมตี Finishing Blows ได้หลังจากการโจมตีต่อเนื่อง หรือชาร์จการโจมตีเพื่อโจมตีโต้กลับหลังจากถูกศัตรูจู่โจมด้วย Resolute Counter ได้ หากทำสำเร็จจะสามารถอัดศัตรูให้กระเด็นไปติดกับกำแพงได้ พลังโจมตีอันมหาศาลนี้ เป็นหนึ่งในลักษณะเด่นของโอริวรูปแบบสุดท้ายขั้นสูงสุด
■ เพิ่มความแข็งแกร่งและเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ด้วย “ตำราเรียน” แบบต่าง ๆ
ผู้เล่นสามารถซื้อตำราเรียนที่อยู่ในแค็ตตาล็อกที่ไดโดจิจัดเตรียมให้ และเรียนรู้ทักษะและความสามารถใหม่ ๆ จากตำราเหล่านี้ ตำราเรียนที่ว่านี้มีมากมายหลากหลายประเภท ได้แก่ ตำราการเรียนการสอน หนังสือวิชาการ นวนิยาย การ์ตูน ฯลฯ บางครั้งอาจมีตำราอันทรงคุณค่าที่มีราคาหลายแสนเยนโผล่มาอีกด้วย ตำราเหล่านี้มีทั้งเทคนิคที่ถูกเขียนไว้อย่างชัดเจน หรือมาในรูปแบบแรงบันดาลที่ทำให้คิริวได้ค้นพบเทคนิคใหม่ ๆ และบางทีก็เตือนให้คิริวนึกถึงเทคนิคเก่าที่เขาเคยใช้ในอดีต การเพิ่มแค็ตตาล็อกดูเหมือนว่าจะสามารถทำได้ แต่จะต้องใช้เงินจำนวนมากในการสั่งซื้อเพื่อเรียนรู้ทักษะทั้งหมดและเสริมความสามารถ
■ แก็ดเจ็ตทั้ง 4 แบบที่เป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้
ด้วยการใช้แก็ดเจ็ตทั้ง 4 แบบ “The Spider”, “The Serpent”, “Firefly และ “Bee” ผู้เล่นจะสามารถโจมตีด้วยคุณสมบัติที่แตกต่างกันได้
■ The Spider
จับศัตรูด้วยการยิงเส้นลวดขนาดเล็กพิเศษที่ติดตั้งอยู่ในนาฬิกาข้อมือ จากนั้นเหวี่ยงศัตรูไปรอบ ๆ แล้วอัดศัตรู ทั้งยังเป็นแก็ดเจ็ตที่ใช้งานได้หลากหลาย เช่น ใช้ในการเก็บอาวุธที่หล่นออยู่ที่พื้นขึ้นมา หรือใช้แย่งชิงอาวุธที่ศัตรูถืออยู่
■ The Serpent
เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงด้วยกลไกไอพ่นขนาดเล็กที่ติดตั้งอยู่ในรองเท้า รอกตะขอที่ถูกปล่อยออกมาด้วยความเร็วสูง นำมาซึ่งพลังทะลวงราวกับหัวรบ ยังสามารถใช้ร่วมกับแก็ดเจ็ตอื่น ๆ ในขณะที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วได้ และหากใช้อย่างชำนาญ ผู้เล่นจะสามารถผสานทำงานร่วมกันของแก็ดเจ็ตออกมาได้อย่างหลากหลาย
■ Firefly
ระเบิดขนาดเล็กรูปร่างคล้ายบุหรี่ มันสามารถยิงได้อย่างต่อเนื่องและระเบิดออกหลังจากผ่านไประยะเวลาหนึ่ง จัดเป็นแก็ดเจ็ตเชิงกลยุทธ์ที่สามารถสร้างผลกระทบต่อการต่อสู้ได้อย่างมาก ขึ้นอยู่กับเวลาและตำแหน่งในการขว้าง
■ Bee
โดรนสนับสนุนการต่อสู้อัตโนมัติปฏิบัติการด้วย AI แก็ดเจ็ตที่คอยเป็นคู่หูผู้ติดตามที่พึ่งพาได้ของโจริวในฐานะสายลับ พวกมันจะคอยบินไปรอบ ๆ เพื่อก่อกวนศัตรู
■ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแก็ดเจ็ต
แก็ดเจ็ตแต่ละชิ้นจะมีเลเวลและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้นได้ โดยการนำไปอัปเกรดที่ช่างทำอาวุธ ประสิทธิภาพต่าง ๆ อาทิ จำนวนและเวลาที่สามารถเปิดใช้งานได้จะได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่ออัปเกรดเลเวล The Spider จำนวนเส้นลวดที่สามารถยิงออกมาได้จะเพิ่มมากขึ้น เป็นต้น แก็ดเจ็ตบางชิ้นสามารถเพิ่มฟังก์ชั่นการทำงานบางอย่างได้ด้วย ซึ่งจะอยู่ในแค็ตตาล็อกเช่นเดียวกับตำราเรียน ผู้เล่นสามารถเพิ่มระดับเลเวลและติดตั้งฟังก์ชั่นเพิ่มเติมได้โดยใช้เงินที่มีอยู่
