News

FINAL FANTASY VII REBIRTH วางจำหน่ายวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2024 สำหรับ PlayStation 5

Square Enix ประกาศวันวางจำหน่าย FINAL FANTASY VII REBIRTH ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2024 สำหรับ PlayStation 5

ในวันนี้ SQUARE ENIX® ได้เปิดเผยตัวอย่างใหม่สำหรับเกมแอ็กชันอาร์พีจี FINAL FANTASY VII REBIRTH และยังมีการเปิดเผยเรื่องราวใหม่ที่หลายคนรอคอยจากเกมในโครงการรีเมก FINAL FANTASY VII ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2024 นี้บน PlayStation®5 (PS5)
ตัวอย่างประกาศวันวางจำหน่าย FINAL FANTASY VII REBIRTH
https://youtu.be/N6-tHc9ixuc
เกี่ยวกับ FINAL FANTASY VII REBIRTH
FINAL FANTASY VII REBIRTH คือเรื่องราวใหม่ที่หลายคนรอคอยในโครงการรีเมก FINAL FANTASY VII นี่คือการตีความใหม่ของเกมต้นฉบับที่จะแบ่งออกเป็นสามเกมแบบสแตนด์อโลนจากผู้สร้างสรรค์เกมภาคต้นฉบับ ในเกมนี้ผู้เล่นจะได้สนุกไปกับองค์ประกอบใหม่ ๆ ที่จะเปิดเผยออกมาให้ได้รับรู้ และจะไปสิ้นสุดที่การเดินทางของปาร์ตี้สู่ “เมืองหลวงอันสาบสูญ” ที่ปรากฏใน FINAL FANTASY VII

หลังจากที่หลบหนีออกมาจากมหานครดิสโทเปียอย่างมิดการ์ (Midgar) คลาวด์ (Cloud) และเพื่อนพ้องก็ได้ตระเวนออกเดินทางไปทั่วดวงดาว การผจญภัยครั้งใหม่รอคอยพวกเขาอยู่ในโลกอันเต็มไปด้วยชีวิตชีวาและกว้างใหญ่ ให้คุณได้วิ่งไปทั่วท้องทุ่งบนหลังช็อคโคโบและออกสำรวจสภาพแวดล้อมที่แผ่ขยายออกไปมากมาย

โลกอันทอดยาวกว้างใหญ่

ในตอนที่ทุกคนออกตามหาเซฟิรอธ (Sephiroth) นั้น คุณจะได้สำรวจแต่ละพื้นที่ของโลกที่สวยงามและไพศาล พร้อมทั้งเปิดพื้นที่ใหม่ ๆ ให้ได้สำรวจ ลองมาดำดิ่งไปในโลกของ FINAL FANTASY VII พร้อมด้วยเนื้อหาเสริมและมินิเกมที่เต็มไปด้วยรางวัลต่าง ๆ พร้อมทั้งรูปแบบการเดินทางที่ไม่เหมือนใครให้คุณได้ท่องโลก

ระบบต่อสู้ที่พัฒนาขึ้นกว่าเดิม

ผสมผสานการคิดเชิงกลยุทธ์เข้ากับแอ็กชันอันดุเดือดร่วมกับมิตรสหาย รวมถึงตัวละครใหม่ที่เพิ่มเข้ามา สร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นแล้วปลดปล่อยคอมโบในแบบทีมอันทรงพลัง

ข้ามผ่านกำแพงแห่งโชคชะตา

ในการผจญภัยครั้งนี้ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนหรือเป็นผู้เล่นใหม่ก็ตาม จะได้รับรู้การเดินทางของคลาวด์และเพื่อนพ้องไปทั่วดวงดาว โดยที่โชคชะตาของพวกเขายังไม่ได้ถูกกำหนดเอาไว้ จึงทำให้ทุกก้าวนอกมิดการ์นั้นสดใหม่และลึกลับ

สารจากทีมสร้าง

“FINAL FANTASY VII REBIRTH มีกำหนดวางจำหน่าย 29 กุมภาพันธ์ 2024 นี้แล้วครับ ภาคที่สองของโครงการรีเมก FINAL FANTASY VII จะมีองค์ประกอบของเกมภาคก่อน และมีฟีเจอร์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นไปกว่าเดิมมากมาย อย่างเช่นเวิลด์แมปอันกว้างใหญ่ให้สำรวจ และการประสานความสามารถระหว่างสมาชิกในปาร์ตี้ เรื่องราวจะเปิดเผยออกมาอย่างยิ่งใหญ่กว่าที่เคย พร้อมด้วยจุดหักมุมใหญ่ ๆ มากมายไม่หยุดยั้ง เรารู้ว่าแฟน ๆ ต่างก็อยากเห็นกันอยู่ฉากนึงโดยเฉพาะครับ…FINAL FANTASY VII REBIRTH จะสนุกได้ในแบบสแตนด์อโลน ในตอนที่ปาร์ตี้ออกจากมิดการ์เพื่อสำรวจโลกกว้างภายนอก แต่สำหรับผู้ที่อยากทำความเข้าใจเรื่องราวให้มากขึ้นก็จะมีการย้อนความภาคก่อนให้ได้ชมเช่นกัน เราหวังว่าทั้งแฟน ๆ หน้าเก่าและผู้ที่ไม่เคยเล่น FINAL FANTASY มาก่อนก็จะสามารถสนุกไปกับเกมนี้ได้ครับ”
– โยชิโนริ คิตาเสะ (Yoshinori Kitase), โปรดิวเซอร์

“ในที่สุดเราก็สามารถประกาศวันวางจำหน่ายกันได้แล้ว! พวกเราทำงานกันอย่างไม่เหน็ดไม่เหนื่อยเพื่อสร้าง FINAL FANTASY VII REBIRTH นับตั้งแต่ตอนวางจำหน่ายของ FINAL FANTASY VII REMAKE เลยครับ และเราก็แทบรอไม่ไหวให้พวกคุณได้สัมผัสกับผลงานที่สร้างขึ้นด้วยความรักของเราชิ้นนี้ ในเกมนี้ คลาวด์และเพื่อนพ้องที่ออกมาจากมิดการ์จะได้ออกเดินทางไปทั่วโลกอันไพศาล สู่การผจญภัยที่ยังไม่เคยได้รับการบอกเล่าเพื่อตามล่าเซฟิรอธ ผู้เป็นโซลเจอร์ในตำนาน และถึงแม้ว่าเนื้อหาหลักจะใหญ่โตขึ้นและทะเยอทะยานขึ้นมากกว่าภาคก่อน แต่ FINAL FANTASY VII REBIRTH ก็ยังคงมีคอนเซปต์ของ “การสำรวจอิสระ” ที่ประกอบไปด้วยเรื่องราวอันดึงดูด, มินิเกมแสนสนุก, มอนสเตอร์ที่แข็งแกร่ง และอีกมากมายให้ค้นหาไปทั่วเวิลด์แมป เราหวังว่าคุณจะได้สำรวจโลกนี้กันอย่างละเอียดยิบ เพราะการผจญภัยร่วม 100 ชั่วโมงรอคุณอยู่ เราหวังว่าคุณจะเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ครั้งใหม่ของ FINAL FANTASY ครับ”
– นาโอกิ ฮามางุจิ (Naoki Hamaguchi) ไดเร็กเตอร์

“นี่ถือเป็นภาคที่สองจากไตรภาคครับ และจะครอบคลุมเนื้อหาตั้งแต่เริ่มต้นการเดินทางนอกมิดการ์ไปจนถึงช่วงกลางของเนื้อหาใน FINAL FANTASY VII ภาคต้นฉบับ ถ้า FINAL FANTASY VII REMAKE ถือเป็นบทนำให้รู้จักกับโลกและเตรียมตัวพวกคุณให้พร้อมกับการเดินทางครั้งนี้ FINAL FANTASY VII REBIRTH ก็จะเปรียบเหมือนเป็นภาพวาดของเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดการเดินทาง เป็นการออกสำรวจหนทางของผู้คนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเป็นการเดินทางเพื่อมุ่งหน้าสู่บทสรุป มีหลากหลายองค์ประกอบที่ได้รับการเลือกสรรมาอย่างดีสำหรับเกมนี้ และด้วยความที่มันเป็นซีรีส์ เราจึงมีโอกาสในการมาตรวจสอบและนำเอาฟีดแบ็กจากภาคก่อนมาปรับใช้ อย่างเช่นการเพิ่มจำนวนของตัวละครครับ ผมมั่นใจว่ามาตรฐานของผลงานชิ้นถัดไปก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีก เพราะเราได้ใส่องค์ประกอบอันยอดเยี่ยมมากมายลงไปในเกมนี้ แต่ถึงอย่างนั้น ทีมงานทุกคนก็ยังคงมุ่งมั่นทำงานกันอย่างขยันขันแข็งเพื่อพัฒนาเกมออกมาให้ดี ถึงตอนนี้ก็ยังคงมีคำถามที่ล่องลอยวนเวียนกันอยู่ว่า โชคชะตาหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่ว่าคุณจะเคยเล่นเกมต้นฉบับมาก่อน หรือจะออกผจญภัยในคราวนี้เป็นครั้งแรกก็ตาม เราก็หวังว่าคุณจะได้เผชิญกับตอนจบของผลงานชิ้นนี้ในแบบของตัวเองครับ”
– เท็ตซึยะ โนมุระ (Tetsuya Nomura), ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์