Articles Previews

EA Sports WRC – พรีวิว [Preview] ร่างจำแลงของ DIRT Rally 3.0!!

โดย ปอลนาโช่

พรีวิว EA Sports WRC

  • *ขอขอบคุณ Electronic Arts สำหรับโค้ดพิเศษฉบับ preview build เพื่อการทดสอบเกมในครั้งนี้
  • **พรีวิวนี้เล่นบน PC โดยคอมฯ ที่ใช้ทดสอบมีสเปคดังนี้
    – CPU i5 13400F
    – RAM 32 GB
    – VGA INNO3D GEFORCE RTX 4070 TWIN X2 12 GB GDDR6
    – เล่นในโหมดภาพ HD โดยปรับกราฟิกทุกอย่าง High
  • ***การทดสอบเกมในครั้งนี้ เล่นด้วยตัวเกมเวอร์ชันที่ยังไม่สมบูรณ์ ดังนั้นภาพประกอบเกมจะยังไม่ใช่เวอร์ชันวางจำหน่ายนะครับ

สวัสดีแฟน ๆ เกมมอเตอร์สปอร์ตทั้งหลาย!

ผมกลับมาพบเจอกับทุกท่านอีกครั้งในบทความพิเศษหลังได้รับเชิญให้ลองเล่นเกม EA Sports WRC ในแบบพรีวิวบิวด์ ที่ทาง EA เขาให้สื่อได้ลองเล่นกันก่อน ซึ่งยังเป็นเกมที่อยู่ระหว่างการผลิต ตัวฉากตัวกราฟิกและโหมดต่าง ๆ ยังมีให้เล่นได้ไม่ครบ แต่อย่างน้อยก็ยังพอได้เล่นได้เห็นภาพรวมของ EA Sports WRC ได้ในระดับหนึ่ง

ก่อนอื่นผมต้องขอเท้าความให้บางท่านที่ยังไม่ทราบเกี่ยวกับลิขสิทธิ๋ของศึกการแข่งขันแรลลี่โลก WRC ให้ได้รับรู้กันก่อนว่า แต่เดิมสิทธิ์การทำเกม WRC นั้นอยู่ในมือของบริษัท Kylotonn จากประเทศฝรั่งเศสมาอย่างยาวนาน ซึ่งพวกเขาก็ได้พัฒนาออกมาเป็นเกมในชื่อต้น WRC ออกมาหลายต่อหลายภาค จนถึงผลงานล่าสุด WRC Generations

และเมื่อสิทธิ์ดังกล่าวสิ้นสุดลงตามกฎหมาย ทางเจ้าของ WRC ก็ได้เจรจากับผู้พัฒนาเกมเจ้าอื่นอย่าง EA ซึ่งก็ตกลงกันได้ด้วยดี แล้วทาง EA ก็จัดแจงให้ทีมงานในเครืออย่าง Codemasters (มีผลงานดัง ๆ ได้แก่ DIRT และ Dirt Rally) มารับยี่ห้อ WRC ไปทำเป็นเกมใหม่ขึ้นมา โดยพวกเขาผูกสัญญาในครั้งนี้ไว้ถึง 5 ปีเต็มนับจากนี้

ก็เป็นอันว่า เกมแข่งรถแรลลี่ WRC ได้ถือกำเนิดใหม่แบบแบรนด์นิว ภายใต้นาม EA Sports WRC …ว่าแต่ ระบบเกมการเล่นจะใหม่เอี่ยมด้วยรึเปล่า? เราไปดูกันครับ

DIRT + WRC

เนื่องจากบทความในครั้งนี้ยังเป็นแค่การพรีวิวเบื้องต้น ดังนั้น ดีเทลเกี่ยวกับโหมดต่าง ๆ โดยเฉพาะพวกโหมดอาชีพนั้น ผมขอยกยอดไว้ไปกล่าวถึงตอนได้ “รีวิว” แบบเต็ม ๆ อีกครั้งช่วงเดือนพ.ย.นะครับ (หวังว่าทาง EA จะยังเอ็นดูทีมงานเราอยู่น้าาา 555) ฉะนั้น ที่ผมจะมาบอกเล่าในวันนี้ก็คือ ประสบการณ์จากเกมเพลย์ล้วน ๆ

เมื่อเข้าสู่เกม สิ่งแรกที่เห็นเลยก็คือ หน้าตาเกมเปลี่ยนไปพอสมควรถ้าเทียบกับ Dirt Rally 2.0 นั่นก็เพราะทีมงาน Codemasters เขายกเลิกเอนจิ้นเดิมอย่าง Ego ที่ใช้มานมนาน เปลี่ยนเป็น Unreal 5 ตามสมัยนิยมไปซะแล้ว ซึ่งภาพที่ได้ก็สวยแบบคม ๆ ดีครับ แต่โดยส่วนตัว ผมยังคิดถึงภาพและโทนสีในสไตล์ Dirt Rally 2.0 อยู่บ้างเหมือนกันนะ อีกประเด็นคือ กราฟิกที่ได้จาก Unreal 5 นั้นค่อนข้างรีดประสิทธิภาพของเครื่องคอมฯ พอสมควร ขนาดคอมฯ ผมว่าแรง ๆ แล้วยังแอบมีกระตุกบ้างนิด ๆ แต่ไม่มากนะครับ และมันอาจเป็นเพราะตัวเกมยังเป็นแค่ตัวทดลองเล่นอยู่ก็ได้

ด้านลักษณะของเกมเพลย์ มันเห็นได้ชัดเจนเลยว่า นี่คือ Dirt Rally ชัด ๆ จะให้เรียกว่ามันเป็น Dirt Rally 3.0 ก็น่าจะได้เลยนะ แต่! มีการอัปเกรดสำคัญเกิดขึ้นครับ นั่นคือมันไม่ลื่นไถลปรื๊ด ๆ แบบเกม Dirt ดั้งเดิมแล้ว เขาปรับจูนให้เกิดความต่างระหว่างพื้นถนนลาดยาง, ทางลูกรัง, ทางหิมะ มากขึ้นกว่าเดิมแบบเห็นได้ชัด จะว่าไปก็เล่นคล้ายเกมของ Kylotonn อยู่เหมือนกัน

โดยเฉพาะกับพื้นถนนยางมะตอย เวลาเล่นจะรู้สึกว่ามันหนึบมาก ต้องอาศัยเทคนิคการบังคับรถเฉพาะของมัน แต่พอพุ่งลงทางลูกรังเมื่อไหร่จะให้ความรู้สึกเหมือนคนละเกมกันไปเลย ต้องอาศัยการดริฟต์เข้าโค้งเพื่อทำเวลาให้ดีที่สุด

อีกประเด็นหนึ่งที่ผมมองว่านี่คือการเปลี่ยนแปลง และเป็นการเปลี่ยนที่ออกจะคล้ายการหยิบเอาจุดเด่นของ WRC Generations มาไว้กับตัว นั่นคือการออกแบบสนามแข่งครับ

กล่าวคือ ทุกสนามที่ผมได้เล่นไปในเกม แทบทุกเส้นทางจะมีลักษณะถนนที่แคบกว่าซีรีส์ Dirt Rally และทุกสนามจะมี “จุดตาย” ผมใช้คำถูกเปล่านะ คือมันเหมือนเป็นกับดัก หรือจุดที่ยากที่ต้องตั้งใจบังคับรถให้ดีอ่ะครับ ยกตัวอย่างเช่น วิ่งทางตรงมาดี ๆ จะเจอทางรอดแคบมาก ๆ ใต้สะพาน, หรือทางโค้งหักศอกติดกันสองอันในเส้นทางลงเขาลาดชัน ฯลฯ

ซึ่งไอ้สไตล์แบบเนี้ย เราพบบ่อยในเกมของ Kylotonn อ่ะครับ ก็นับว่าทาง Codemasters เขาเข้าใจดึงเอาจุดเด่นจุดดังของแฟรนไชส์ WRC มาพัฒนาต่อยอดได้ดีมาก

อีกประเด็นในหัวข้อเกมเพลย์ก็คือ EA Sports WRC เขาจะมีโหมดบีกินเนอร์ให้กับมือใหม่ด้วยนะครับ โดยเขาตั้งค่าโหมดนี้ไว้ง่ายแบบ ง่ายมาก ๆ กดคันเร่งค้างได้เลยแทบไม่ต้องผ่อน คอยบังคับเลี้ยวเอาอย่างเดียว ก็ถือว่าเป็นฟังก์ชันเพิ่มความสนุกให้กับคอเกมแคชชวล จะได้ไม่หัวร้อนกันเกินไปเมื่อมาจับเกมแรลลี่เป็นครั้งแรกครับ

บทสรุป

ที่ผ่านมา ตัวผมเองเป็นแฟนทั้งสองแฟรนไชส์ ผมชอบความเข้มข้นของสนามแข่ง ความสมจริงของฟิสิกส์และการยึดเกาะพื้นผิวจากเกม WRC ของทีมงานดั้งเดิม แต่เขามีจุดอ่อนเรื่องกราฟิกครับ เกมไม่ค่อยสวย ขณะที่ผมชื่นชมความสวยงามของฉากและภาพรวมทั้งหมดของเกม Dirt Rally เล่นแล้วเพลิดเพลินผ่อนคลายกว่าเกมแรก

ดังนั้น การมาถึงของ EA Sports WRC น่าจะกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวที่สุด น่าจับตามองที่สุด แล้วก็น่าเล่นมากที่สุดแล้วในปีนี้ สำหรับแฟนเกมแข่งรถแรลลี่ทุกคน!

ดูรายชื่อรถยนต์ในเกมได้ที่นี่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์