รีวิว Dead Island 2: DLC Haus
*ขอขอบคุณบริษัท PLAION สำหรับโค้ดเพื่อการรีวิว โดยรีวิวนี้เล่นบน PC
**ภาพประกอบทั้งหมด มาจากการเล่นด้วยตัวเลือกกราฟิกระดับ High
เป็นไปตามคาดครับ! ถ้าซื้อหวยก็คงถูกไปแล้ว…กับสิ่งที่ผมคาดการณ์ไว้ในตอนท้ายของบทรีวิวเกมตัวเต็มที่ผมเขียนไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา (ย้อนอ่าน – DEAD ISLAND 2 – รีวิว [REVIEW] ซึ่งตอนนั้นผมระบุว่า “…เมื่อเล่นจบอาจรู้สึกว่า พัฒนาการของเรื่องราวมันขยับไปได้ไม่เท่าไหร่ เหมือนหนังภาคต้นในไตรภาค ซึ่งผมเดาแบบแม่น ๆ ไว้ก่อนเลยว่า ต้องมีพวก DLC เนื้อเรื่องตามออกมาอีกเยอะแหง ๆ…”
ก็เป็นไปตามนั้นครับ เพราะหลังจากที่ผมเล่น DLC Haus จนจบ ก็ถึงกับอุทาน OMG! เพราะเนื้อเรื่องเฉลยปมเพิ่มขึ้นอีกเพียบจากตัวเกมหลัก ชนิดที่ว่า ถ้าคุณแค่ได้เล่น Dead Island 2 ภาคหลักอย่างเดียวอ่ะนะ…บอกเลยว่า คุณแทบไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องราวเบื้องหลังทั้งหมดที่เกิดขึ้น เหมือนเป็นแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็งที่ใต้น้ำลึกลงไปยังมีความลับซ่อนอยู่อีกมากมาย
และต่อให้เล่น DLC Haus จบ มันก็ยังมีปมให้ต้องไปตามเล่นกันต่อใน DLC หน้าอีกเพียบเลยครับ!
STORY
อ่ะ…กลับมาที่บทวิจารณ์ตัว DLC ในคราวนี้กันก่อน โดยในหัวข้อแรกในส่วนของเนื้อเรื่องนั้น ผมขออธิบายให้ทราบก่อนว่า Haus คือส่วนขยายเนื้อเรื่องชุดแรกของ Dead Island 2 ซึ่งจะพาผู้เล่นไปพบกับเรื่องราวประหลาดของลัทธิเทคโนเดธอันลึกลับของอภิมหาเศรษฐีรายหนึ่ง ผู้มีนามว่าคอนสแตนติน (Konstantin) โดยเขาได้ทำนายไว้ก่อนจะเกิดหายนะซอมบี้ในครั้งนี้ว่า ลัทธิของเขานั้นเองจะกลายเป็นศูนย์กลางของอนาคตใหม่ของโลกใบนี้
Haus ดำเนินเรื่องราวในสถานที่ใหม่เอี่ยมที่ไม่เคยมีมาก่อนในเกมภาคหลัก ซึ่งเป็นคฤหาสน์หรูลึกลับในย่านมาลิบู ที่มีการออกแบบชวนหลอน…แต่ก็น่าสนใจ น่าค้นหา
ผมจะไม่เล่ารายละเอียดของเนื้อเรื่องให้คุณฟังตรงนี้หรอก ไม่ต้องห่วง แต่ที่ผมจะมาชี้ให้เห็นก็คือ “ความเหนือชั้น” ของทีมงานที่เขาจับเอาเนื้อเรื่องที่เพิ่มเข้ามาใหม่นี้ “ร้อยรัดพันลึก” เข้าไปในปมของเนื้อหาเดิมได้อย่างแยบยล และจะทำให้คนเล่นถึงกับขนลุก ตื่นตะลึงแน่นอน เมื่อได้ทราบการเฉลยตอนท้าย ๆ DLC
คุณจะได้รู้ที่มาที่ไปเพิ่มขึ้น ของเรื่องราวในจักรวาลของ Dead Island 2 แถมเท่านั้นไม่พอ บางช่วงบางตอนยังมีหักมุมสับขาหลอกคนเล่นให้เหวออีกด้วย ผมพบว่าตัวเองสนุกสนานกับการติดตามเนื้อเรื่องในเกมนี้ตั้งแต่ต้นจนจบเลยทีเดียว
นอกจากนี้ หลังจบ DLC คุณจะพบว่าตัวเองต้องกลับมาในดินแดนซอมบี้นี้อีกครั้งด้วยใจถวิลหา DLC ตัวต่อไป (มีข่าวว่าจะออกมาในปีหน้าครับ) อย่างแน่นอน เพราะมันใกล้จะถึงจุดไคลแม็กซ์ของบั้นปลายท้ายเรื่องแล้วล่ะ
สรุปก็คือ เขาวางการเดินเรื่องให้คนเล่นได้ติดตามกันแบบใจจดใจจ่อ เหมือนเราต้องรอดูซีรีส์ในซีซันต่อไปนั่นล่ะครับ ถือว่าทำได้ดีจริง ๆ กับเกมนี้
หมายเหตุ – มีอีสเตอร์เอ้กที่แสดงความเคารพหนังสยองขวัญคลาสสิคของญี่ปุ่นในฉากหมู่บ้านใน DLC นี้ด้วยครับ ซึ่งผมชื่นชอบเป็นอย่างมาก แต่บอกไม่ได้ว่าหนังเรื่องอะไร เพราะเดี๋ยวจะเป็นการสปอยล์กันเปล่า ๆ ลองไปเล่นแล้วค้นหากันดูเอาเองนะครับ
GAMEPLAY
haus แบ่งออกเป็น 2 Act ใหญ่ ๆ ใช้เวลาเล่นก็ประมาณ 4-6 ชั่วโมงแล้วแต่สไตล์ โดยหากคุณเล่นเกมต้นฉบับจนจบแล้ว ก็สามารถเล่นภารกิจแรกของ haus ต่อบนเซฟเดิมได้เลย โดยคุณต้องเดินทางมาที่แมนชั่นของเอมม่าเสียก่อน ซึ่งตรงแถว ๆ หน้าประตูแมนชั่นจะมีจดหมายเชิญให้ไปเยือนคฤหาสน์ของคอนสแตนติน กดรับก็ถือเป็นการเริ่มต้นภารกิจ DLC
แต่ถ้าคุณเพิ่งเล่นนิวเกม คุณต้องเล่นเกมไปซักพักจนถึงภารกิจ The Chosen One เสียก่อน ภารกิจแรกของ haus จึงจะขึ้นแจ้งเตือนแก่คนเล่น
ทั้งนี้ DLC ชุดนี้ยังมาพร้อมภารกิจรองอีกจำนวนหนึ่ง โดยมาในรูปของ ไซด์เควสต์, ภารกิจ Missing Persons และ Treasure Hunt ด้านอาวุธใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามา ที่เด่นชัดที่สุดก็คือ K-ROSSBOW หรือหน้าไม้ ที่ออกแบบมาเพื่อความแม่นยำและความรุนแรง อาวุธนี้จะมีพลังทำลายล้างระยะไกลสูงและสามารถระเบิดสมองซอมบี้ได้อย่างง่าย (แต่รีโหลดช้ามากกกกก)
สุดท้ายก็คือ จะมีสกิลการ์ดใหม่ 8 ใบซึ่งจะมาขยายขอบเขตความสามารถของเหล่านักฆ่าซอมบี้ให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
ถ้าจะให้ผมเล่าถึงภาพรวมสำหรับ DLC haus นี้ก็คือ มันจะให้อารมณ์ประมาณ ไบโอช็อคผสมกับเรสซิเดนต์อีวิลครับ กล่าวคือ ภายในหมู่บ้านจำลองของชุมชนชาว haus เนี่ย มันจะเต็มไปด้วยปริศนาเขาวงกตให้คุณต้องขบคิดหาหนทางเปิดประตูไปต่อให้ได้ เล่นแล้วคล้ายกับ RE ทว่าขณะเดียวกัน การเดินเรื่องต่าง ๆ จะเล่าผ่านเอนจิ้นเกมซึ่งจะทยอยเสิร์ฟความหลอนให้คุณได้รับรู้ ในบรรยากาศคล้าย ๆ เกมอย่างไบโอช็อคเลยครับ
ซึ่งไอ้ส่วนผสมที่ว่ามาเนี้ย มันเจ๋งเป้งสุด ๆ ให้ธีมการเล่นที่ต่างจากภาคหลักค่อนข้างชัดเจนเลยทีเดียว
ART & CREATIVITY
กราฟิกในเกมนี้เข้าขั้นสุดยอด แต่ที่เด็ดที่สุดสำหรับ haus ก็คือ การออกแบบสถาปัตยกรรมของอาคาร, ตัวบ้าน และห้องใต้ดินต่าง ๆ ในหมู่ตึกแมนชั่นขนาดมหึมาของสาวกชาว haus ที่สร้างได้หลอน, น่ากลัวดีมาก แถมยังมีความหลากหลายของทัศนียภาพ แต่ก็ยังคงอิงกับความเป็นจริง น่าเชื่อถือ สามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยาก
CONCLUSION
เมื่อผมเล่นเกมจบ ผมรู้สึกอิ่มเอมกับทุกนาทีของ DLC ชุดนี้ มันทั้งสนุก ระทึกขวัญ แต่ถึงจะบอกว่าอิ่ม แต่ก็เป็นอาการแค่ชั่วครู่ เพราะตัวเกมทิ้งปมขนาดใหญ่(อีกแล้ว) ไว้ให้เรากระหายอยากรับรู้เรื่องราวตอนต่อไป
ทางด้านระบบเกม ก็กระชับ และชาญฉลาดในการออกแบบ อย่างในฉากหมู่บ้านจำลอง ที่มีพื้นที่ปิดแคบ ๆ แต่ก็ทำให้เราต้องเล่นวนเวียนใช้เวลานานได้ด้วยการวางกลไกปริศนาต่าง ๆ แถมปริศนาในเกมนี้ยังแยบยล ซ่อนกลไว้ในคำพูด, วลีคำใบ้ที่พอตีโจทย์แตกแล้วคุณจะยิ่งรู้สึกสะใจเมื่อไขปริศนาได้ด้วยตนเอง
ขณะที่การต่อสู้กับบอสก็โหด ตึงมือ บีบให้คุณต้องงัดทุกสกิลทุกไอเท็มที่มีออกมาใช้จนหมดสต็อกแน่ ๆ ถึงจะล้มบอสใน DLC นี้ได้
Pros
– เนื้อเรื่องวางพล็อตมาได้อย่างยอดเยี่ยม มีการเฉลยปม และขยายปมให้คนเล่นอยากติดตามตอนต่อไป
– การเพิ่มเข้ามาของทั้ง พื้นที่ใหม่, อาวุธใหม่, สกิลใหม่ ๆ ได้ไปช่วยขยายระบบเกมในองค์รวมของเกมภาคหลักอย่างมีนัยสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถเอาหน้าไม้ K-ROSSBOW ไปสู้กับบอสยาก ๆ ทั้งหลายในเกมภาคหลักได้ทันทีหลังได้อาวุธชิ้นนี้มาจากเนื้อเรื่องใน DLC เป็นต้น
Cons
– Act 2 สั้นไปหน่อยและดูรวบรัดเกินไป เมื่อเทียบกับความลงตัวของ Act 1