News

FINAL FANTASY VII REBIRTH รายละเอียดตัวละครและระบบเกมเพิ่มเติม

พื้นที่ในโลกของเกม FINAL FANTASY VII REBIRTH

คาล์ม (Kalm)

ที่นี่คือชุมชนอันเงียบสงบและปลอดภัยจากโลกภายนอกด้วยกำแพงหินอันแน่นหนา แม้ว่าที่นี่จะไม่มีเตาปฏิกรณ์ของตนเอง แต่ก็เจริญรุ่งเรืองได้ด้วยพลังงานมาโคที่ส่งมาจากท่อในมหานครมิดการ์ ซึ่งสามารถเห็นท่อนี้ได้จากหอนาฬิกาชื่อดังของเมือง

เหมืองมิธริล (Mythril Mine)

ที่นี่เคยเป็นเหมืองอันพลุกพล่านและเชื่อมต่อกับพื้นที่บริเวณทุ่งหญ้ากับจูนอน แม้ว่าครั้งหนึ่งจะเป็นสถานที่อันสำคัญเพราะมีแร่มิธริลมากมาย แต่เหมืองแห่งนี้ก็ตกอยู่ในสภาพทิ้งร้างหลังจากที่ชินระสามารถพัฒนาแร่ที่ดีกว่าได้ และบรรดาคนงานเหมืองที่เคยทำงานในที่แห่งนี้ต่างก็ถูกแทนที่ด้วยมอนสเตอร์แทน

ตัวละครใหม่

โบรเดน (Broden)

เจ้าของและผู้ดูแลที่พักในเมืองคาล์ม เขามีความแค้นกับชินระและเสนอให้ความช่วยเหลือคลาวด์กับเพื่อนพ้องหลบหนีจากผู้ที่มาตามล่าและจับตัวกลับไป รูปลักษณ์ผอมแห้งของเขาอาจเกิดจากอาการป่วยลึกลับเมื่อเร็ว ๆ นี้

รอห์นดา (Rhonda)

นายกเทศมนตรีและนายอำเภอแห่งอันเดอร์จูนอน บ้านของเธอครั้งหนึ่งเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงอันเจริญรุ่งเรือง แต่ว่าก็เสื่อมถอยลงไปหลังจากที่ชินระได้สร้างป้อมปราการขนาดใหญ่มาบดบังเมือง รวมถึงสร้างเตาปฏิกรณ์มาโคนอกชายฝั่งในทะเล แม้ว่าคลาวด์และเพื่อนจะมีสถานะเป็นผู้ก่อการร้าย แต่รอห์นดาก็ยังอนุญาตให้พวกเขาเดินทางผ่านเมืองของเธอไป

พริสซิลลา (Priscilla)

เด็กสาวผู้ร่าเริงที่ใช้ชีวิตอยู่ในอันเดอร์จูนอน และมักจะว่ายน้ำร่วมกับปลาโลมาที่เธอฝึกฝนมา เตาปฏิกรณ์มาโคนอกชายฝั่งได้ทำให้น้ำบริเวณโดยรอบปนเปื้อนไปหมดและพริสซิลลาก็กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของปลาโลมารวมถึงสัตว์น้ำตัวอื่น ๆ

บิลลี (ฺBilly)

หลานชายของบิล ผู้เป็นเจ้าของฟาร์มช็อคโคโบในบริเวณทุ่งหญ้า เขาสูญเสียพ่อกับแม่ไปตั้งแต่อายุยังน้อย ปู่เขาจึงเป็นผู้เลี้ยงดูเขามาพร้อมกับน้องสาว เขาเป็นคนอาสาสอนคลาวด์และเพื่อนให้เรียนรู้เกี่ยวกับการจับช็อคโคโบ โดยมีเงื่อนไขแค่ว่าขอให้มาช่วยซื้อของในร้านของน้องสาวบ้าง

โคลเอ (Chloe)

น้องสาวของบิลลี เธอเปิดร้านค้าในฟาร์มโดยขายวัตถุดิบสำหรับคราฟต์ไอเท็มและของน่าสนใจอื่น ๆ เธอเป็นคนจิตใจดีและพูดคุยกับคลาวด์รวมถึงเพื่อน ๆ อย่างสุภาพและรู้สึกขอบคุณที่แวะเวียนมาซื้อของ แต่ในขณะเดียวกันเธอก็กังวลกับความยึดมั่นในการหาเงินให้ได้มาก ๆ ของพี่ชายเหมือนกัน

ระบบต่อสู้

เรดเธอร์ทีน (RED XIII)

การโจมตีพื้นฐาน

เรดเธอร์ทีนจะทำการฟาดฟันศัตรูด้วยกรงเล็บ กดปุ่มค้างไว้เพื่อทำการโจมตีเป็นวงกว้างที่จะช่วยเพิ่มเกจ ATB ได้อย่างรวดเร็ว

อบิลิตี้

เรดเธอร์ทีนจะมีทักษะมากมาย ตั้งแต่การโจมตีกายภาพที่รวดเร็วไปจนถึงการโจมตีด้วยเวทจากระยะไกล สตาร์ดัสต์เรย์ (Stardust Ray) จะเป็นการยิงลูกบอลแสงที่จะระเบิดและแผดเผาศัตรูที่โดนเล่นงาน

ความสามารถเฉพาะตัว: เวนเจินซ์โหมด (Vengence Mode)

ป้องกันการโจมตีเพื่อเพิ่มเกจเวนเจินซ์ แล้วปลดปล่อยพลังงานนั้นออกมาเป็นเวนเจินซ์โหมด ที่จะเสริมพลังการโจมตีกายภาพรวมถึงทักษะในการหลบหลีก ไซฟอนแฟงก์ (Siphon Fang) จะเป็นการโจมตีอันทรงพลังและในขณะเดียวกันก็ดูด HP บางส่วนมาจากศัตรู โดยไม่เสียเกจ ATB

แอริธ (Aerith)

ความสามารถเฉพาะตัว: วอร์ดชิฟต์ (Ward Shift)

แอริธจะสามารถวาร์ปไปยังสัญลักษณ์เวทที่เธอสร้างขึ้นได้ทันที ทำให้เคลื่อนไหวในฉากได้อย่างง่ายดายและใช้เวทได้เต็มประสิทธิภาพ

ระบบใหม่: ซิเนอร์จีอบิลิตี้

นี่คือการโจมตีอันทรงพลังที่ตัวละครสองคนจะร่วมมือกันเพื่อพลิกกระแสการต่อสู้ ความสามารถต่าง ๆ จะปลดล็อกออกมามากขึ้นเมื่อเลเวลของปาร์ตี้สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวเลขที่บ่งบอกว่าทีมของคุณแน่นแฟ้นกันแค่ไหนและบ่งบอกถึงค่าความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกทีมด้วย มาเติมเกจซิเนอร์จีโดยการใช้อบิลิตี้ จากนั้นก็ปลดปล่อยการโจมตีผสานร่วมกัน!

ตัวอย่างซิเนอร์จีอบิลิตี้

คลาวด์/ทิฟา: รีเลนต์เลสรัช (Relentless Rush)

คลาวด์จะส่งตัวทิฟาเข้าหาศัตรูเพื่อโจมตีประสานกัน

บาร์เร็ตต์/เรดเธอร์ทีน: โอเวอร์แฟงก์ (Overfang)

บาร์เร็ตต์จะส่งตัวเรดเธอร์ทีนพุ่งใหส่ศัตรูด้วยความเร็วสูง

ซิเนอร์จีสกิล

สมาชิกปาร์ตี้สองคนจะใช้งานอบิลิตี้ที่มีประโยชน์โดยไม่เสีย ATB คำสั่งเหล่านี้จะใช้งานได้ในตอนที่ป้องกันอยู่และจะก่อให้เกิดเอฟเฟกต์อันเป็นประโยชน์มากมาย แต่ละคู่จะมีเซ็ตความสามารถเฉพาะตัว บ้างก็ทำคความเสียหาย บ้างก็เป็นสกิลสนับสนุน

คลาวด์/แอริธ: สเปลเบลด (Spell Blade)

รวบรวมพลังจากนั้นก็ร่วมมือกันลงมือโจมตีและอัดแน่นไปด้วยพลังเวท

บาร์เร็ตต์/คลาวด์: แมดแดช (Mad Dash)

ร่วมมือกันแล้วพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับป้องกันการโจมตีไปในคราวเดียวกัน กดใช้งานเป็นจังหวะเพื่อก่อให้เกิดเป็นการโจมตีสามคอมโบ

เวทอัญเชิญ

การติดตั้งมาทีเรียอัญเชิญอสูรจะทำให้คุณใช้พลังของทวยเทพได้ เทพที่ถูกอัญเชิญมาเหล่านี้จะคอยติดตามการชี้นำของผู้เล่นและต่อสู้กับศัตรูโดยอัตโนมัติ แต่คุณก็สั่งพวกเขาให้ใช้งานความสามารถพิเศษได้เช่นกัน ก่อนที่พวกเขาจะออกไปจากการต่อสู้ พวกเขาจะทำการโจมตีครั้งสุดท้ายเพื่อก่อความเสียหายมหาศาล

คุจาตะ (Kujata)

เทพผู้มีรูปร่างเป็นวัวและอาละวาดไปทั่วการต่อสู้ด้วยพลังของไฟ, น้ำแข็งและสายฟ้า คุจาตะสามารถเหวี่ยงซัดศัตรูได้ด้วยเขาขนาดใหญ่และปลดปล่อยพลังเวทที่จะเล่นงานจุดอ่อนของศัตรูจากระยะไกล โดยท่าเบลซซิงฮอร์น (Blazing Horn) จะทำการโจมตีศัตรูด้วยพลังงานความร้อนอันเข้มข้นทำให้พวกมันกระเด็นกลับไป ซึ่งคุจาตะจะปลดปล่อยท่าไตรดิสแอสเตอร์ (Tri-Disaster) ก่อนออกจากการต่อสู้ ซึ่งนี่เป็นการโจมตีที่กินบริเวณกว้างอันทรงพลังด้วยพลังแห่งไฟ, น้ำแข็งและสายฟ้า ที่จะเล่นงานศัตรูได้จำนวนมากและอาจกวาดพวกมันทั้งหมดได้เลย

ข้อมูลของโลก

แชดลีย์จะขอความช่วยเหลือจากคุณเพื่อทำความเข้าใจโลกให้มากขึ้น เมื่อคุณออกสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ ของโลก คุณจะได้พบกับพื้นที่ใหม่อันเต็มไปด้วยสมบัติและสิ่งอัศจรรย์ตามธรรมชาติ แต้มข้อมูลที่คุณรวบรวมมาได้ในการเดินทางจะสามารถนำไปใช้พัฒนามาทีเรียใหม่อันมีประโยชน์ได้

โปรโตเรลิก (Protorelic)

โปรโตเรลิกคือวัตถุที่ไม่ทราบแหล่งที่มาและมีสัญญาณพลังงานเฉพาะตัว วัตถุโบราณที่หาได้ยากเหล่านี้จะซุกซ่อนอยู่ทั่วโลก แต่ว่าด้วยหอคอยเรมนาเวฟที่เปิดใช้งานแล้วแชดลีย์จะสามารถระบุตำแหน่งให้กับคุณได้ แต่ก็ขอให้ระวังเอาไว้ เพราะดูเหมือนว่ามันจะทำให้กาลอวกาศบิดผันและก่อให้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดได้เช่นกัน

การพัฒนามาทีเรีย

การให้ความช่วยเหลือแชดลีย์ในการค้นคว้าจะทำให้คุณได้รับแต้มข้อมูลมา ซึ่งสามารถนำไปใช้พัฒนามาทีเรียใหม่ได้ บ้างก็ทำให้คุณเข้าถึงเวทที่มีคุณสมบัติหลากหลายได้ บ้างก็จะให้คุณได้ใช้งานอบิลิตี้เฉพาะตัว ซึ่งทั้งหมดต่างก็มีประโยชน์ในการรับมือกับศัตรูอันแข็งแกร่

ระบบปรับแต่ง

ช็อคโคบูติก (Chocoboutique)

ฟาร์มช็อคโคโบยังเป็นสถานที่ตั้งของช็อคโคบูติก ซึ่งคุณจะสามารถปรับแต่งและเปลี่ยนสีสำหรับอุปกรณ์ของช็อคโคโบได้ตั้งแต่หัวไปยันเท้า ซึ่งของสวมใส่พวกนี้จะส่งผลต่อการแข่งความเร็วช็อคโคโบด้วย ดังนั้นมาหาสิ่งที่เข้ากับสไตล์ของคุณแล้วมุ่งเป้าชิงถ้วยทองมาเลย!

รูปแบบการเล่น/ระดับความยากง่าย

FINAL FANTASY VII REBIRTH จะมาพร้อมกับรูปแบบการเล่นและระดับความยากง่ายที่เหมาะกับผู้เล่นทุกระดับ

โหมด “Active” จะให้ผู้เล่นสามารถควบคุมทุกความเคลื่อนไหวของตัวละครได้ และก่อให้เกิดเป็นกลยุทธ์ชั้นสูงขึ้นมาได้ง่ายดาย

โหมด “Classic” จะทำการออกแอ็กชันพื้นฐานให้โดยอัตโนมัติ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เล่นมุ่งไปที่การเลือกคำสั่งเป็นการเฉพาะ

ระดับ “Easy” จะให้ผู้เล่นได้เน้นสัมผัสเรื่องราวแทนที่จะเป็นแอ็กชัน ส่วน “Normal” จะมีความท้าทายที่สมเหตุสมผลสำหรับผู้เล่นส่วนใหญ่ และความยากที่เพิ่มเข้ามาใหม่อย่าง “Dynamic” นั้น ศัตรูจะแข็งแกร่งขึ้นไปพร้อม ๆ กับคุณ จึงเหมาะกับผู้เล่นที่ต้องการความท้าทายตลอดเวลา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์