*ขอขอบคุณ SEGA Corporation สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
**ตัวเกมวางจำหน่ายบน Nintendo Switch
สำหรับ Kimetsu no Yaiba หรือที่ชื่อสากลคือ Demon Slayer นั้น มีชื่ออย่างเป็นทางการในประเทศไทยคือดาบพิฆาตอสูร ที่เป็นมังงะและอนิเม ว่าด้วยการเดินทางของเด็กหนุ่มคามาโดะ ทันจิโร่ที่ชีวิตพลิกผันต้องกลายมาเป็นนักล่าอสูรภายหลังจากที่ครอบครัวโดนสังหารและน้องสาวอย่างเนซึโกะ ก็มีอันต้องกลายเป็นอสูรไป เขาจึงมีเป้าหมายออกเดินทางเพื่อฟื้นคืนความเป็นมนุษย์ให้กับน้องสาว
เรื่องราวของดาบพิฆาตอสูรนั้นโด่งดังเพราะการดำเนินเรื่องที่เข้มข้น ตัวละครอันมีเอกลักษณ์ และยุคสมัยที่เดินเรื่องอย่างยุคไทโชเลยมีการผสานความเป็นญี่ปุ่นโบราณเข้ากับวิถีชีวิตสมัยใหม่เข้าด้วยกันแบบไม่ขัดตา และนอกจากอนิเมโทรทัศน์, อนิเมภาพยนตร์ รวมถึงสินค้าต่าง ๆ แล้ว ผลงานล่าสุดก็คือเกมที่ใช้ชื่อว่า Sweep the Board ที่ทุกท่านอ่านอยู่นี่ล่ะครับ
ถ้าจะให้ผมบอกรายละเอียดว่าตัวเกมเป็นอย่างไร…เอาเป็นว่าถ้าคุณเคยเล่นหรือเคยเห็นเกมปาร์ตี้อย่าง Mario Party Superstars มาก่อน เกมนี้ก็เล่นแบบเดียวกันล่ะครับ โอเคจบรีวิว…
ล้อเล่นครับ ยังไงผมก็ต้องอธิบายรายละเอียดต่อไป เพื่อที่คุณจะได้รู้ว่าเกมนี้มันเหมาะกับใครบ้าง
สำหรับ Demon Slayer -Kimetsu no Yaiba- Sweep the Board! นี้ แก่นของเกมมันก็คือเกมปาร์ตี้ที่ให้คุณได้เล่นเป็นหมู่คณะกับเพื่อนฝูงและครอบครัวสูงสุด 4 คนโดยหยิบเอาตัวละครและเซ็ตติ้งจากดาบพิฆาตอสูรมาใช้นั่นล่ะครับ
การเล่นแต่ละรอบนั้น คุณเลือกตัวละครกันมาสี่ตัว เลือกกระดาน จากนั้นก็ลงไปลุยแข่งขันกันเพื่อเฟ้นหาผู้ชนะในแต่ละรอบ ซึ่งคุณจะปรับได้ว่ากระดานนั้นจะเล่นกันกี่เทิร์น โดยที่แต่ละกระดานก็จะมีกิมมิกและฟังก์ชันบางอย่างที่ต่างกัน แต่ว่าวิธีเล่นโดยรวมนั้นจะมีรูปแบบการเล่นที่ไม่ต่างกันมากนัก นั่นคือแต่ละคนจะผลัดกันทอยลูกเต๋าเพื่อวัดว่าจะเดินได้กี่ช่อง เมื่อไปตกช่องใดก็จะเกิดเอฟเฟกต์ของช่องนั้น ๆ บ้างก็เป็นการให้เราซื้อของ บ้างก็เพิ่มเหรียญเงิน บ้างก็ทำให้ได้ความช่วยเหลือจากนักล่าอสูรคนอื่น ๆ ฯลฯ
วิธีการเอาชนะในการเล่นก็คือ คุณต้องรวบรวมคะแนนนักล่าอสูรให้ได้มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งคะแนนที่ว่านี้มันก็เปรียบได้กับ “ดาว” ใน Mario Party Superstars นั่นล่ะครับ ซึ่งการที่คุณจะได้มาก็ง่าย ๆ นั่นคือทอยเต๋าให้เข้าสู่จุดหมายที่ระบุบนกระดาน แต่ว่าถ้าทุกคนทอยเต๋ากันครบทุกตาแล้วยังไม่มีใครเข้าจุดหมายเลย เกมก็จะให้ทุกคนได้เล่นมินิเกมพร้อมกันทั้งสี่คน ซึ่งก็มีทั้งการเล่นแบบตัวใครตัวมัน และบางมินิเกมก็จะเป็นการจับคู่กับผู้เล่นอื่น ที่หากคุณชนะก็จะได้เหรียญเงินเอาไปซื้อไอเท็มอำนวยความสะดวก หรือไม่ก็จ่ายเพื่อใช้งานกิมมิกบนกระดาน (เช่นล่องเรือไปขึ้นจุดอื่นอะไรแบบนั้น)
ถึงอย่างนั้น เกมนี้ก็มีกิมมิกที่ออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับเซ็ตติ้งของดาบพิฆาตอสูรที่ทำออกมาได้เข้าท่าเข้าทางเหมือนกันครับ นั่นคือพอมีใครเข้าเส้นชัยปุ๊บ ตัวเกมจะเปลี่ยนจากกลางวันเป็นกลางคืน แล้วก็จะมีพวกอสูรที่เราคุ้นเคยจากมังงะและอนิเมปรากฏตัวขึ้นมา ที่เอาเข้าจริงมันก็คือการกำหนดจุดหมายใหม่ให้แต่ละคนแข่งกันทอยเต๋าไปเข้าเส้นชัยนั่นล่ะครับ เพียงแค่ว่ารอบนี้ เมื่อใครไปถึงเส้นชัยแล้วก็อาจสุ่มได้ตัวเลือกที่ต้องสู้กับอสูรตัวนั้น ๆ และทุกคนก็จะต้องมาร่วมมือกันเพื่อกำจัด และแน่นอนว่าแม้จะร่วมมือกันสู้ แต่ใครทำผลงานดีสุดก็จะได้คะแนนนักล่าอสูรเยอะที่สุดไป
หากจะมีอะไรที่ต้องชมก็คือฉากสู้กับอสูรนั้น ทำพรีเซ็นเทชันออกมาได้สวยงามดีเหมือนดูอนิเมครับ พวกเอฟเฟกต์นี่จัดจ้านมาก แถมยังมีการตัดฉากให้เหมือนตัวละครกำลังใช้ท่านั้นอยู่ด้วย ขนาดที่ว่าบางทีก็นึกว่าพี่ทำเกมสไตล์ RPG ไปเลยจะดีกว่าไหมนะ
แต่เอาล่ะ วิธีการเล่นก็จะตามมาตรฐานที่คาดหวังได้จากเกมกระดานปาร์ตี้นั่นล่ะครับ เวลาคุณทอยเต๋าก็จะสามารถเลือกใช้ลูกเต๋าพิเศษที่มีเอฟเฟกต์พิเศษได้ จะใช้ไอเท็มเพื่อเพิ่มช่องการเดิน หรือไม่ก็กลั่นแกล้งผู้เล่นอื่นอย่างการสลับตำแหน่งบนกระดานก็ได้ ฯลฯ โดยรวมแล้วดีไซน์ของเกมนี้ออกแบบมาเพื่อให้นั่งเล่นกันเฮฮากันระหว่างสมาชิกครอบครัวหรือเพื่อนฝูงไม่ว่าจะออฟไลน์หรือออนไลน์ แต่ถ้าคุณเล่นคนเดียวกับคอมพิวเตอร์ก็จะแอบจืดชืดครับ
องค์ประกอบอื่น ๆ สำหรับแฟนของดาบพิฆาตอสูรก็จะเป็นพวกการปรับแต่งป้ายชื่อ หรือรายละเอียดของตัวผู้เล่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนกรอบชื่อ เปลี่ยนฉายา เปลี่ยนหน้าจอแบ็กกราวด์ของเกม รวมถึงเปลี่ยนภาพที่แสดงตนเองในป้ายชื่อ เพราะทั้งหมดทั้งมวลล้วนนำมาจากอนิเมดาบพิฆาตอสูรทั้งนั้น และจำนวนที่มีก็เยอะจุใจใช้ได้อยู่ เพียงแค่ว่าคุณอาจต้องเล่นนานหน่อยกว่าจะได้แต้มมากพอที่จะนำไปไขสุ่มรางวัลจนได้สิ่งที่ถูกใจคุณ
โดยรวมแล้วผมคิดว่า Demon Slayer -Kimetsu no Yaiba- Sweep the Board! ก็เป็นเกมปาร์ตี้ที่เล่นได้เพลิน ๆ ตามที่คุณคาดหวังจากเกมสไตล์นี้ครับ เพียงแค่ว่าถ้าคุณไม่ได้เป็นแฟนของแฟรนไชส์นี้ ก็อาจไม่ได้รู้สึกอินไปกับเซ็ตติ้งและบรรดาตัวละครมากนัก และถ้าคุณเป็นเกมเมอร์ที่ชอบเล่นอะไรคนเดียวเงียบ ๆ ก็อาจไม่เหมาะกับเกมนี้เหมือนกัน แต่ถ้าคุณชอบดาบพิฆาตอสูรเป็นทุนเดิม และมีพรรคพวกเพื่อนฝูงที่ชอบเรื่องนี้เหมือนกัน ก็ลองชวนกันมาเล่นกันให้บันเทิงได้เลย