รีวิว Star Wars Outlaws
* ขอขอบคุณโค้ดรีวิวจาก UBISOFT มา ณ โอกาสนี้
** รีวิวนี้เป็นตัวเกมฉบับ PS5
“สตาร์ วอร์ส: นอกกฎหมาย – กับทางเลือกของโจรชายขอบ”
ก็จบไปแล้วครับแบบ 100% กับเวลาที่ใช้ไป 20 ชั่วโมงกว่า ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ กับเกม Star Wars Outlaws ซึ่งเป็นเกมที่ผมตั้งตารอมากที่สุดในปีนี้ เนื่องด้วยผมนั้นเป็นแฟนขาประจำของจักรวาลสตาร์ วอร์ส จึงไม่มีพลาดอยู่แล้ว ที่จะได้เล่นได้สัมผัสกับผลงานระดับ AAA จากค่ายยูบิซอฟต์ บริษัทเกมที่คนไทยรู้จักกันดี อิอิ
ทีนี้ ผมขอออกตัวไว้ก่อนว่า การรีวิวในครั้งนี้ จะขอวิเคราะห์วิจารณ์ในส่วนของตัวเกมเพียว ๆ โดยจะไม่ไปแตะในเรื่องของรูปลักษณ์หน้าตาของตัวละครเอกหญิงในเกม โดยขอยกให้เป็นเรื่องของรสนิยมของผู้เล่นแต่ละท่านกันเองแล้วกัน จะชอบจะเกลียดจะอะไรก็ช่าง…พวกคุณสามารถดูหน้าตาของเคย์ เวสส์ กันได้อยู่แล้วจากภาพปกเกม ดังนั้น ใครมีความรู้สึกอย่างไรก็ไปตัดสินใจกันเอาเองนะครับ มันไม่มีประโยชน์ที่ผู้รีวิวจะมานั่งวิพากษ์ใด ๆ กับประเด็นดังกล่าว
(หมายเหตุ : ผู้เขียนใช้เวลาเล่นโดยเน้นเมนเควสต์เป็นหลักเพื่อให้เข้าใจเนื้อเรื่องทั้งหมดในภาพรวมได้ในเวลาที่จำกัด ด้วยเหตุผลสำหรับงานวิเคราะห์นี้เท่านั้น โดยตัวเกมยังมีภารกิจรองและงานเสริมอีกมากมายในทุกฉากดาวทุกดวง ซึ่งสามารถใช้เวลาเล่นต่อไปได้อีกนานตามแต่สไตล์ของผู้เล่น)
เนื้อเรื่อง
เอาล่ะ เมื่อทำความเข้าใจกันแล้ว ผมก็ขอลุยเลยแล้วกันกับประเด็นที่หนึ่ง นั่นก็คือ “เรื่องราวและการดำเนินเรื่อง” ในเกมนี้
โดย สตาร์วอร์ส เอาต์ลอว์ส เขาฉลาดตรงที่เลือกที่จะหยิบเอาตำนานบทที่แทบไม่ค่อยจะหาเจอกันในหนังสตาร์วอร์สภาคหลักมาเล่า (ถ้าในฉบับนิยาย ยังพอจะมีบ้าง) นั่นก็คือ วิถีชีวิตของพวกแก๊งอาชญากร ที่เหิมเกริมกันสุด ๆ ในยุคสมัยระหว่างภาค The Empire Strikes Back (1980) และ Return of the Jedi (1983) ซึ่งไอ้ช่วงเวลาดังกล่าว ตามดินแดนชายขอบสุดเขตแดนจักรวรรดินี่เหมือนสวรรค์ของโจรร้ายกันไปเลยครับ มีแก๊งใหญ่ ๆ ครอบครองดินแดน แบ่งสรรปันส่วนกันขูดรีดรังแกชาวบ้านมนุษย์ต่างดาวกันอย่างสนุก
ในเกมนี้จะมีแก๊งหลัก ๆ อยู่ 4 แก๊ง ได้แก่ ตระกูลอาชิกะ, แก๊งคริมสัน ดอว์น, ฮัตต์ คาร์เทล และ ไพค์ ซินดิเคต (มันจะมีแก๊งเซเร็ก เบช อีกกลุ่มนึง แต่บทบาทจะต่างออกไปในเกมครับ) ตัวเอกคือสาวแสบชื่อ เคย์ เวสส์ ถูกพ่อแม่ทิ้งให้เติบโตในบาร์เหล้า สู้ชีวิตมาตั้งแต่เกิด จนช่ำชองเริ่มจับงานขโมยเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนรับงานใหญ่ขึ้นและอันตรายยิ่งขึ้น…ว่ากันไปตามโชคชะตา
ผมขอแจ้งไว้ก่อนเลยว่า ที่หลายคนอาจจะกลัวว่า เกมจะล็อกภารกิจของแจบบาเดอะฮัตต์ไว้ใน DLC เท่านั้น มันไม่จริงครับ เพราะภารกิจที่เราต้องทำให้ฮัตต์ คาร์เทล มันมีในเมนเควสต์อยู่แล้ว เราได้เจอแจบบาแน่นอน ส่วนตัว DLC ที่เขาทำขายพ่วงกับซีซันพาสนั้นมันคือภารกิจที่จะเสริมให้เล่นเพิ่มอีกแค่นั้นเอง ซึ่งจะไม่ซื้อก็ได้ครับ แล้วแต่คนเล่น
ในส่วนของการเล่าเรื่อง ผมมีให้ทั้งคำชมและคำติครับผม
เริ่มจากสิ่งที่ชอบมากก็คือ พล็อตหลักในภาพรวม ที่เขาเลือกการเล่าเรื่องผ่านตัวละครรากหญ้าที่ค่อย ๆ รวบรวมพลพรรคนักปล้นที่เชี่ยวชาญสกิลกันไปคนละอย่าง คนนี้เก่งทำระเบิด, คนนู้นเก่งเรื่องกลไกหุ่นดรอยด์ ฯลฯ จากนั้นพอออกไปรับงาน ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรเป็นไปตามแผน 555 ความชิ-หายแต่ละอย่างประเดประดังถาโถมเข้าใส่ตัวเคย์ เวสส์ แอนด์เดอะแก๊งตลอดเวลา ทำให้เรื่องมันสนุกครับ มีอะไรให้เราคาดเดาอยู่ตลอดเวลาเลย
ด้านที่ไม่ชอบก็คือ “จังหวะ” การเล่าครับ เพราะช่วงต้นเกมกับกลางเกม มันไม่มีการผูกปมหรือพัฒนาตัวละครอะไรมากมายให้เราได้เห็น จนผมกะจะหักแต้มในส่วนนี้ไปแล้ว แต่พอช่วงท้ายเกมเท่านั้นแหละ โอ้โหพี่ ๆ ทีมงานเหมือนลืมนึกว่าเกมมันควรจะมีไคลแม็กซ์ได้แล้วป่าวว้า ก็เลยจัดความเข้มข้นมาให้แบบจุก ๆ จนผมต้องกดสต๊อปเพื่อโปรเซส (จริง ๆ คือเพ่งอ่านซับไตเติล 555) ว่ามันกำลังเปิดเผยคลี่คลายปมอะไรให้เราได้ดูบ้าง…ซึ่งต้องขอยอมรับว่า เกมทำได้ดีครับ ทำถึง โดยเฉพาะช่วง 2-3 ภารกิจเอนด์เกมนั้นสนุกตื่นเต้นมากเลยขอบอก
เกมเพลย์
ทีนี้มาว่ากันต่อในส่วนของเกมการเล่น โดยสตาร์วอร์ส เอาต์ลอว์ส เป็นเกมแอ็กชันผจญภัยในโลกโอเพ่นเวิลด์ ซึ่งไอ้ประเด็นความเป็นโลกโอเพ่นของมันเนี่ย เป็นสิ่งที่เราควรมาตีแผ่ให้ผู้บริโภคอย่างทุกท่านได้เข้าใจกันอย่างชัดเจนเสียก่อน
โดยตัวเกมไม่ได้นำเสนอโลกเปิดที่มีแมปเชื่อมต่อเป็นเนื้อเดียวกันแบบ GTA, เดอะวิชเชอร์ หรือฟอลเอาต์ แต่สิ่งที่เอาต์ลอว์สเป็นก็คือ การมีฉากแผนที่ขนาดกระทัดรัด 5(+1) ฉาก มาเชื่อมต่อกัน ซึ่งทั้ง 5 ฉากก็คือดาวเคราะห์ 5 ดวงที่เป็นฉากหลังให้กับเนื้อเรื่องในเกม ได้แก่ ดาวแคนโทนิก้า โทชาร่า คิจิมิ ทาทูอิน และ อาคิว่า
ทีนี้ ตัวเลข (+1) คืออะไร? มันก็คือ ชั้นบรรยากาศนอกดวงดาวแต่ละดวง ที่เราสามารถนำยานเทรลเบลเซอร์บินขึ้นไปทำภารกิจ, หาของ ฯลฯ ได้ตามใจนึก
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้, ทั้งพื้นที่รอบวงโคจรตลอดจนดินแดนบนพื้นผิวดาว จะมีขนาดไม่ใหญ่มากครับ เล็ก ๆ ถ้าเราเดินทางไปสุดแผนที่มันก็จะบอกว่าเราไปต่อไม่ได้แล้ว ทำให้ผมค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อย เพราะมันเหมือนเป็นการย้ำเตือนเราตลอดเวลาว่าทั้งหมดนี้มันเป็นแค่โรงละครฉากหนึ่ง หาใช่โลกจำลองในมหากาพย์สตาร์วอร์สแต่อย่างใด
ถามว่าตัวเกมมี “บอส” มั้ย ขอตอบว่ามีครับ แต่มีน้อยมากกกก เหมือนเป็นไฟต์บังคับตามเนื้อเรื่องมากกว่าว่าเราจำต้องสู้กับไอ้ตัวนี้ หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเราจะเจอเฉพาะช่วงท้ายเกมซะด้วย ดังนั้น บอสจึงไม่ใช่แก่นแกนหลักของตัวเกม และประเด็นนี้นำไปสู่คำถามถัดไปว่า แล้วอะไรคือหัวใจหลักในส่วนของเกมเพลย์ของสตาร์วอร์ส เอาต์ลอว์ส?
ผมขอตอบให้รับรู้โดยทั่วกันเลยครับว่า สตาร์วอร์ส เอาต์ลอว์ส เป็น “เกมลอบเร้นเน้นแทรกซึม” เกือบ 80% ของเมนเควสต์คือการที่คุณต้อง “แอบลักลอบเข้าไปขโมยของบางอย่างหรือไฟล์ข้อมูลสำคัญ จากรังโจรหรือฐานทัพ จากนั้นก็ต้องหลบหนีออกมาให้ได้”
นั่นแหละครับ หน้าตาที่แท้จริงของตัวเกม!
มันไม่ใช่เกมยิงแหลกแหกค่ายแน่ ๆ (ยกเว้นคุณจะเลือกอีซี่) โดยเขาเน้นหนักเลยว่า พวกคุณคือแก๊งโจร ก็ต้องแอบย่องปล้นย่องตอด ให้สมฐานะความเป็นโจรของคุณ และที่ผมมองว่าเป็นของดีอีกอย่างก็คือการกด L1 เพื่อออกคำสั่งให้เจ้านิกซ์ สัตว์คู่หูของเราให้ไปช่วยเหลือเราได้ในฉากในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งมันสะดวกมากเลยครับ และช่วยได้จริง มีประโยชน์สุด ๆ
อืมมม มันมีอีกประเด็นที่ผมควรบอกกล่าว นั่นคือ “บรรยากาศ” ของเกมนี้ระหว่างเล่น มันเหมือน สตาร์ วอร์ส เจได: เซอร์ไวเวอร์ มากเลยครับ โดยเฉพาะพวกเกมเพลย์ในส่วนของการปีนป่ายกับบรรดาคัตซีนต่าง ๆ ที่เราจะได้ดู
ด้านการเล่นบนอวกาศในแบบเกมขับยานยิงกัน ก็ทำออกมาได้เบสิค, กำลังดีครับ ไม่ยากไม่ง่าย รวมถึงการขี่จยย.สปีดเดอร์ ก็ทำได้ดีเช่นเดียวกัน
ต่อกันด้วย ระบบความสัมพันธ์กับแก๊งต่าง ๆ โดยในเกมจะแบ่งออกมาเป็น 5 ระดับ คือ Terrible, Bad, Poor, Good และ Excellent แต่ละระดับ จะเป็นตัวกำหนดของรางวัลพิเศษกับสถานะพิเศษ เช่น เทอริเบิลก็โดนไล่ยิงทันที พัวก็จะโดนขับไล่ ไม่ให้เข้าพื้นที่ พ่อค้าไม่ขายของ งานจ้างก็ไม่ให้ทำ กู้ดจะเริ่มได้ของกำนัล พวกชุดเสื้อผ้า ปืน แล้วก็รับงานพิเศษได้ ส่วนเอ็กเซลเลนซ์ได้เพียบ แถมด้วยความพิเศษเล็กน้อยช่วงฉากจบ
อ่ะ! ต่อจากนี้ไปจะเป็นการจับผิดล้วน ๆ นะครับ (ฮา) กล่าวคือ หลังจากผมเล่นเกมจนจบ ผมพบปัญหาหลายอย่างในส่วนของเกมเพลย์ เริ่มด้วยเรื่องแรกก็คือ บรรดาภารกิจต่อเนื่องในฉากโอเพ่นเวิลด์นั้นจะเต็มไปด้วยความบั๊กความกระโดกกระเดก ก่งก๊งของเอไอ ที่มักทำให้เกิดความยุ่งยากโดยไม่จำเป็นแก่ผู้เล่น ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงเกมจากบริษัทเดียวกันเกมอื่น อาทิ Ghost Recon Wildlands หรือ Ghost Recon Breakpoint นั่นเลย
ที่เวลาเราต้องนำทางตัวละคร NPC หรือการกดอินเตอร์แอคทีฟกับจุดเป้าหมาย แล้วมันไม่ได้ เพราะตัวละครติดฉากมั่ง, เดินตกน้ำมั่ง, ลิฟต์ค้างเพราะมีศัตรูไปติดคาอยู่ ฯลฯ อะไรแบบเนี้ยอ่ะครับ มีเพียบเลย ผมถือว่านี่เป็นการเก็บงานไม่เนี้ยบ
ประเด็นต่อมาคือ บั๊กเยอะอยู่น้าาา ผมเล่นของ PS5 มีเกมแคลชออกมาหน้าโฮม 3-4 รอบเลยครับ หรือการกดฟาสต์แทรเวลแล้วมันไปโผล่กลางดินแดนที่เราไม่ได้เลือก ก็มีบ่อยเหมือนกัน
ประเด็นสุดท้ายที่ผมไม่ค่อยชอบก็คือ เกมเขาจะใจดี “ออโต้เซฟ” ให้เราถี่มาก จนหลายครั้งมันไปเซฟให้เรากลางดงศัตรู ซึ่งอย่างที่บอกไปว่าเกมนี้เป็นเกมเน้นลักลอบเข้าพื้นที่หวงห้าม หลายครั้งเราอาจลองผิดลองถูก เลือกไปในหลาย ๆ เส้นทาง แต่พอเกมมันเล่นออโต้เซฟให้เราแบบถี่ ๆ ผลก็คือ พอเราโดนจับได้แล้วตายระหว่างยิงปะทะ เกมมันโหลดโผล่มาแถว ๆ นั้นใหม่อ่ะ ให้เราตกอยู่ในภาวะเดินหน้าก็ลำบากถอยหลังก็ไม่ได้แล้ว…จนต้องเปิดเมนูเพื่อเลือกออโต้เซฟอันก่อนหน้ามาเล่นแทน
บางคนอาจบอกว่า ทำไมไม่กดเซฟแมนนวลเองล่ะ คือขอแจ้งว่า เกมให้เราเซฟแมนนวลได้เองเฉพาะในฉากโอเพ่นเวิลด์ หรือตอนที่เราไม่ได้อยู่ระหว่างทำภารกิจครับ พอเราเลือกลงมือปล้นเมื่อไหร่ มันจะพาเราเข้าไปในโซนเป้าหมาย ซึ่งระหว่างนี้เรามีแต่ออโต้เซฟเท่านั้น
ทิ้งท้ายในหัวข้อนี้กับเรื่องที่มีหลายคนในโลกออนไลน์โจมตีว่า การย่องเข้าไปน็อกเอาต์ศัตรูที่สวมหมวกทหารด้วยการเคาะกระโหลกเบา ๆ ของสาวเคย์นั้นดูไม่สมจริงเอาซะเลย ส่วนตัวผมมองว่ามันเป็นกลไกหรือฟีเจอร์สำเร็จรูปของเอนจิ้นที่ใช้พัฒนาเกม ผมไม่มีปัญหาอะไรนะ มันก็ทำหน้าที่ในเกมได้ดี อาจไม่สมจริงบ้าง…แต่มันก็เกมอ่ะ มีอะไรสมจริงขนาดไหนกันเชียว
กราฟิกและดนตรี
ภาพรวมของเกมนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเล่นเกม “เดอะ ดิวิชัน” ในฉากทัศน์แบบสตาร์ วอร์ส แต่มันมีอยู่เรื่องนึง ที่ผมรู้สึกว่ามันแปลก จนต้องไปสืบค้นเพิ่มเติมจากประวัติการสร้างเกม นั่นก็คือ “มุมกล้อง” ที่เกมเลือกใช้ครับ
ขอบอกก่อนว่า มุมมองผู้เล่นด้านหลังตัวละคร มันจะอยู่ใกล้มาก ๆ ติดกับแผ่นหลังของเคย์เลยทีเดียว ทำให้เราเห็นภาพตรงหน้า(ของตัวละคร)ได้ชัดเจน แต่การรับรู้สภาพแวดล้อมโดยรอบจะแคบมาก ส่งผลให้ฉากลอบเร้น ผมต้องส่ายกล้องตีวงมามองด้านหลังบ่อยมาก เล่นไปเล่นมาก็รู้สึกว่ามันเหนื่อยเสียเหลือเกิน
ก็พอดีไปเจอบทสัมภาษณ์ของทีมงานเข้าครับ อ่านแล้วก็ถึงบางอ้อ เพราะทีมพัฒนาเขาตั้งใจให้ภาพเกมการเล่นมันมีเอกลักษณ์ของตัวเอง และเขาบอกว่า ทำจอแบบนี้มันจะให้ภาพเหมือนกับในหนังเรื่อง Rogue One ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน พอดีผมยังไม่ได้เอาหนังมาเปิดเทียบดู อย่างไรก็ดี ในเมนูอ็อปชัน คุณสามารถเข้าไปปรับซูมวงกว้างให้เราได้เห็นสภาพรอบข้าง(ตัวละคร) เพิ่มมากขึ้นได้ พอเลือกแล้วเล่นง่ายขึ้นเยอะเลยครับ
สำหรับคุณภาพกราฟิกบนเครื่อง PS5 ผมต้องขอบอกตามตรงว่ามันยังดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นะ งานภาพค่อนข้างหยาบ อาศัยใช้ film grain เข้ากลบเกลื่อน ผลงานเกมก่อนหน้าของ Massive Entertainment อย่าง Avatar: Frontiers of Pandora ดูสวยกว่านะผมว่า และผมเชื่อว่าเอนจิ้นที่พวกเขาใช้ที่ชื่อ Snowdrop มันให้ภาพบน PC สวยกว่าบนคอนโซล ยิ่ง PC แรง ๆ นี่สวยกว่าแน่ ๆ ดูได้จาก เดอะ ดิวิชัน 2 เป็นตัวอย่าง ดังนั้น ถ้าใครเน้นภาพสวย ผมแนะนำให้จัดเกมนี้บนเวอร์ชัน PC ดีกว่าครับ ในกรณีที่คุณมี PC สเปคถึงน่ะนะ
ด้านดนตรีในเกมนี้อลังการงานสร้างและไพเราะเหมาะกับทุกสถานการณ์ ผมขอคารวะ และไม่มีอะไรตำหนิทั้งสิ้นครับ ไม่เชื่อลองหาฟังกันดูได้ สุดยอดจริง ๆ ครับ
สรุป
Star Wars Outlaws เป็นเกมที่ “เล่นสนุก” ในสไตล์แบบเกมแอ็กชันผจญภัย Old School ที่ยังต้องขัดเกลา ปรับจูนรายละเอียดในเกมอีกซักหน่อย ไปแก้พวกบั๊กกับแก้ไขงานด้านภาพอีกนิด เกมก็จะสมบูรณ์กว่านี้ ซึ่งผมเชื่อเหลือเกินว่าเขาต้องอัปเดตตัวเกมอีกหลายรอบแน่ ๆ เพราะยังมี DLC เนื้อเรื่องขนาดใหญ่จ่อตามออกมาอีกตั้งสองชุดในอนาคต (ยกตัวอย่าง อัสแซสซินส์ครีด วัลฮัลลา ที่เกมเวอร์ชัน PS5 ตอนออกใหม่ ๆ กับเวอร์ชันปัจจุบัน คุณภาพต่างกันลิบลับเลยครับ)
ทว่า เมื่อมองไปที่สนนราคาที่ตั้งขายในสโตร์ กับคุณภาพงานในชั้นต้นได้ออกมาระดับนี้ ผมจึงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเคาะคะแนนให้ที่ 75 แต้ม โดยตัดคะแนนจากจุดบกพร่องตามที่ได้กล่าวไป แต่ผมก็ไม่อยากให้ตัวเลขกลายมาเป็นมายาบดบังหน้าตาที่แท้จริงของตัวเกม เอาเป็นว่า ผมรับรองได้ว่า ถ้าคุณเป็นแฟนสตาร์ วอร์ส, เป็นแฟนดั้งเดิมของเกมยูบิซอฟต์ เกมนี้จัดได้เลยครับ ไม่ผิดหวังแน่นอนเชื่อผม แต่ถ้าคุณเป็นขาจร ก็ไปรอตอนลดราคาซักรอบก่อนก็ได้ไม่ว่ากัน
ข้อดี
- พล็อตเรื่องน่าสนใจ คัตซีนคุณภาพดี อาทิ ฉากยานอวกาศบินเข้า/ออกชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ เป็นต้น
- ระบบเกมโดยรวมถือว่าโอเค และที่เด็ดสุดคืองานออกแบบโลกและบรรยากาศในเกม โดยเฉพาะเมืองมอสไอส์ลีย์ ที่ทาทูอิน แค่เดินเล่นทั่วเมืองก็ฟินสุด ๆ สำหรับแฟนสตาร์วอร์ส
- การใช้งาน นิกซ์ สัตว์คู่หู ทำออกมาได้ดี ช่วยงานโจรได้สะดวกมาก
- ระบบความสัมพันธ์กับแก๊งต่าง ๆ ที่ตอนแรกดูเหมือนไม่มีอะไร แถมยังดูวุ่นวายในช่วงต้น กลับให้ผลตอบแทนได้อย่างน่าประทับใจช่วงปลายเกม
ข้อด้อย
- บั๊กเพียบ
- เกมเน้นลอบเร้น หลบซ่อน-หลบหนี ไม่เน้นยิงต่อสู้ ใครที่อยากได้เกมยิงแหลกในธีมสตาร์วอร์ส คุณเข้าใจผิดแล้ว เอาง่าย ๆ นะ เกมนี้เคย์ เวสส์ มีปืนสั้นแค่กระบอกเดียวจนจบเกม พวกปืนยาวคุณหาเก็บในฉากได้ แต่เป็นไอเท็มระยะสั้น ยิงได้ไม่กี่ทีก็ต้องทิ้ง
- โลกโอเพ่นเวิลด์…ภายใต้ข้อจำกัดเยอะมาก ไปได้ไม่สุดแผนที่ ทั้งในอวกาศและบนพื้นผิวดาว แถมว่ายน้ำก็ไม่ได้
- คุณภาพกราฟิกบนเครื่อง PS5 ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าที่ควร