รีวิว Concord
*ขอขอบคุณโค้ด PS5 สำหรับใช้รีวิวเกม จากบริษัท SONY มา ณ โอกาสนี้
ก่อนเริ่ม! ผมขอแจ้งก่อนว่า ผมเองได้เคยเขียนผลการทดสอบเกมเวอร์ชันเบต้าของ Concord เอาไว้แล้ว สามารถย้อนอ่านได้ที่นี่
Concord [BETA] – พรีวิว [PREVIEW]
ซึ่งตอนนั้น ผมค่อนข้างชื่นชอบคุณภาพของเกมโดยรวม มันฉายความเป็นเกมทุนสูงให้เห็นอย่างเด่นชัด เก็บงานดี คุณภาพกราฟิกและคัตซีนระดับเกรดเอ บั๊กแทบไม่มีให้เห็น แถมปรับจูนตัวเกมให้เหมาะกับการยิงด้วยจอยของเครื่องคอนโซลได้ดีมาก ส่วนข้อเสียที่ผมเห็นตอนนั้นก็คือ การออกแบบตัวละครที่ไม่ค่อยบาลานซ์กัน ส่งผลให้การเล่นโซโล่เดี่ยวแบบชิล ๆ จะยากมากหากไปเจอทีมที่เขาแบ่งหน้าที่กันมาอย่างดี
เอาล่ะ! ทีนี้ก็มาถึงคราวของเกมฉบับสมบูรณ์กันบ้าง มาดูกันซิว่าเกมมันจะออกมาหน้าตาแบบไหน และมีสภาพแวดล้อมของชุมชนชาวเกมเมอร์ในแบบใด
อันดับแรกที่ผมต้องขอแจ้งให้ทราบก่อนเลยก็คือ เกมนี้เขามีดราม่ากันอยู่เรื่องกลุ่มคนสองฝ่ายที่ข้างหนึ่งเขาไม่พอใจการออกแบบหน้าตาตัวละครในเกม กลุ่มนี้มองว่าหน้าตาไม่ดึงดูดใจให้เล่นเอาเสียเลยโดยเชื่อกันว่าเป็นการจงใจใส่มุมมองทางการเมืองเข้าไปในการออกแบบดังกล่าว ด้านฝ่ายตรงข้าม (ถ้าไม่นับชุมชนชาวโว้ก) ก็คงจะเป็นแฟนคลับที่พอทำใจหยวน ๆ เล่นเกมเอาสนุก ไม่จับเอาประเด็นอื่นเข้ามาร่วมตัดสินใจในการเลือกเกมเล่น
ส่วนตัวผู้เขียนขอ(รีบ)ออกตัวก่อนเลยครับว่า ผมไม่ค่อยสนเรื่องหน้าตาตัวละครเท่าไรหรอก พอเล่นได้อ่ะแหละ……….แต่ถ้าให้ตอบตรง ๆ ก็คงไม่ค่อยชอบตัวละครบางตัวในเกมนี้เท่าไรนัก 5555 ใช้คำว่าไม่ชอบอาจจะไม่ตรง ขอใช้คำว่า รู้สึกไม่ค่อยดึงดูด หรืออยากที่จะเลือกมาเล่นเท่าที่ควรอ่ะครับ
อันนี้ถือว่าผมจริงใจกับพวกคุณคนอ่านเลยนะ! แหะ ๆ
อย่างไรก็ดี ผมขอแจ้งว่า บทความชิ้นนี้ (รวมถึงการให้คะแนน) จะไม่นับประเด็นภาพลักษณ์ดังกล่าวเข้ามาร่วมตัดสินอย่างแน่นอน เพราะมันไม่ใช่ปัจจัยหลักในการให้คะแนนของผมครับ
มาเข้าเรื่องกันต่อ โดยผมทดสอบเกมนี้ด้วยเครื่อง PS5 ก็พบว่า การจะจับคู่หาคนเข้าเกมแต่ละที มันนานอยู่นะ ใช้เวลาประมาณ 2-5 นาทีสำหรับทุกโหมดในเกม ไม่มีแบบกดปุ๊บได้เล่นปั๊บเลยแม้แต่ครั้งเดียว ประเด็นนี้ส่งผลให้เกิดความรู้สึกกังวลในระยะยาวว่า นี่ขนาดช่วงเกมออกยังรอนานขนาดนี้ แล้วถ้าผ่านไปซักครึ่งปี-หนึ่งปี จะเหลือคนเล่นเท่าไหร่กันนะ?
น่าห่วงอยู่นะครับ เหมือนคนเล่นจะน้อยอ่ะ…
ในส่วนของเกมเพลย์ ผมแนะนำให้เลือกระบบการจับคู่แบบแยกแพลตฟอร์ม เพราะถ้าเลือกแบบครอสเพลย์ล่ะก็ คอนโซลจะไปสู้พวกใช้เมาส์กับคีย์บอร์ดไม่ไหวหรอกครับ ทีนี้ ตัวเกมเวอร์ชันคอนโซลที่เล่น ผมพบว่าเขาปรับจูนเกมให้เล่นง่ายกว่าตอนเบต้ายิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะการยิง, การเคลื่อนไหวโดยรวม ทำให้ Concord เป็นเกมที่เล่นง่าย ยิงง่าย สู้สนุก
ขณะที่จุดเด่นของเกมก็ยังเหมือนเดิมเลยครับ คือมันต้องแบ่งหน้าที่กันเล่นเป็นทีม เกมนี้ไม่ค่อยเหมาะกับการเล่นโซโล่คนเดียว เพราะถึงคุณจะเก็บคิลได้เยอะ เน้นปั๊มเลเวลให้ตัวเอง แต่ทีมที่เล่นกันแบบนี้มักจะแพ้แต้มรวมในท้ายที่สุด สุดท้ายก็ได้สกอร์ส่วนบุคคลไม่เท่าทีมชนะอยู่ดี
นำไปสู่ข้อกังวล(อีกแล้ว)ของผมว่า อ้าวถ้าจะเล่นเป็นทีม แล้วเราจะไปกล่อมให้เพื่อนมันซื้อเกมนี้ไหวเหรอเนี่ย 555 เอาเป็นว่า ใครอยากเล่นจริงจัง ก็ไปหาจัดทีมกันกับคนอื่นในดิสคอร์ดดูนะครับ น่าจะพอมีบ้างแหละ
อีกเรื่องนึงก็คือ ผมสังเกตได้อย่างหนึ่งว่า Concord ตั้งมูลค่าของตัวเองไว้ที่ 1,290 บาท (ราคาเท่ากันทั้งในสตีมและ PS สโตร์ไทย) ในขณะที่บรรดาคู่แข่งที่เป็นเกมแนวเดียวกันอื่น ๆ ส่วนใหญ่เปิดให้เล่นฟรี (แล้วค่อยไปขายของในเกม) ซึ่งไอ้ปัจจัยเนี้ย ผู้บริโภคอย่างเรามีสิทธิ์เอามาคำนวณร่วมในการประเมินการลงทุนนะครับ ส่งผลให้เราอาจคิดได้ว่าตัวเกมตั้งราคาแพงไปรึเปล่าในสภาพของตลาดปัจจุบัน อีกทั้ง คนที่สมัครสมาชิก PS Plus ก็ไม่มีเกมนี้ให้เล่นในแคตตาล็อกด้วยนะ
ทีนี้ลองไปดูในส่วนของ “ความแตกต่าง” ที่ Concord พยายามสร้างขึ้นมาให้แปลกและดูมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมา นั่นก็คือ คัตซีนคุณภาพงานแสดงจากคนจริง ที่จะเผยแพร่ตอนใหม่ ๆ ในแบบประจำทุกสัปดาห์เพื่อให้คนเล่นได้ติดตามเนื้อเรื่องหลักของเกม ซึ่งผมพบจุดอ่อนสำคัญในส่วนนี้ของเกม…ซึ่งก็ไม่พ้นบรรดาตัวละครที่อุตส่าห์ออกแบบกันมานั่นแหละครับ พอมันดูไม่น่าสนใจแล้ว เราก็พลอยไม่แคร์ชะตากรรมของพวกเขาสักเท่าไหร่ และแนวเกมแบบนี้ ความสำคัญของเรื่องราวมันดูเป็นเพียงน้ำจิ้ม ๆ เสริมเกมเพลย์เสียมากกว่า
ปัจจุบัน Concord แบ่งโหมดเกมออกเป็น 3 กลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมีแมตช์การแข่งในรูปแบบต่าง ๆ สามารถสรุปคร่าว ๆ ได้เป็น ทีมเดธแมตช์, แข่งกันยึดโซนที่กำหนด แล้วก็แบบ no respawn รวมทั้งสิ้น 6 โหมด ซึ่งดูแล้วก็ไม่แตกต่างกับเกมแนวเดียวกันเกมอื่น ๆ ในท้องตลาด ได้แต่หวังว่าในอนาคตที่ทีมงานระบุว่าจะมีการเพิ่มเติมโหมดใหม่ ๆ เข้ามาให้เล่นนั้นจะน่าสนใจเพียงพอ และมาทันท่วงทีก่อนที่คนเล่นจะหนีหายกันไปหมด
สรุป
Concord ไม่ใช่เกมที่แย่ครับ ผมขอนั่งยันนอนยัน แต่มันเป็นเกมที่ขาด “เสน่ห์” แถมโดนปัจจัยอื่น ๆ นอกเหนือจากแก่นของเกมเพลย์มารุมโจมตีเสียจนไอ้เกมที่ดูไร้เสน่ห์อยู่แล้ว ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากมากขึ้นไปอีก นี่อาจเป็นบทเรียนให้กับทีมงานหรือแม้แต่ทางผู้จัดจำหน่ายได้เรียนรู้ว่า ควรทำเกมที่เป็นเกม เป็นสื่อเพื่อความบันเทิง หาใช่การทำตำราวิชาการ ดังนั้น บางครั้งก็ควรกำหนดให้การพัฒนามุ่งไปทางที่ถูกที่ควร ก็จะเป็นการดีที่สุด
ข้อดี
- ระบบเกมการเล่นทำได้ดีตามมาตรฐาน
- คัตซีนคุณภาพสูง กราฟิกสวยงาม การแสดงสมจริง
ข้อด้อย
- การออกแบบตัวละคร ชวนให้คิ้วขมวดมากกว่าจะให้ความรู้สึกชื่นชม
- ตัวเกมในภาพรวม ดูไม่คุ้มราคาค่าตัวเมื่อเทียบกับบรรดาคู่แข่งอื่น ๆ ในวงการ (แถมเกมพวกนั้นเล่นฟรีอีกต่างหาก)