Games News Reviews

Dead Rising Deluxe Remaster – รีวิว [REVIEW]

โดย G-jang

Dead Rising Deluxe Remaster – รีวิว [REVIEW]

*ขอขอบคุณ Capcom Singapore สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5

Dead Rising Deluxe Remaster นี้ เป็นเกมฉบับรีมาสเตอร์ตามชื่อของ Dead Rising ภาคแรกสุดที่เคยวางจำหน่ายบนเครื่อง Xbox 360 ในปีค.ศ.2006 ก่อนที่จะได้รับการรีมาสเตอร์รอบแรกไปในปีค.ศ.2016 บน PS4, Xbox One และ Windows ครับ ซึ่งตัวเกมในครั้งนั้นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในด้านของเกมเพลย์ที่อิสระ และเปิดโอกาสให้ผู้เล่นรับมือกับซอมบี้ได้มากมายหลากหลายแบบ โดยในรอบนี้ปีค.ศ.2024 เกมก็ได้กลับมาอีกครั้งพ่วงด้วยชื่อว่า Deluxe Remaster ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น ผมจะมาเล่าให้ทราบกันครับ


เนื้อเรื่อง

สำหรับ Dead Rising Deluxe Remaster นั้น ก็ยังคงเดินเรื่องเหมือนเกมต้นฉบับรวมถึงฉบับรีมาสเตอร์ก่อนหน้านี้ครับ นั่นคือปีค.ศ.2006 นั้น ตัวเอกของเกมแฟรงก์ เวสต์ (Frank West) ผู้มีอาชีพเป็นนักข่าวอิสระได้ทราบข้อมูลว่าเกิดสถานการณ์บางอย่างในเมืองวิลลาเมตต์ (Willamette) ซึ่งอยู่ในรัฐโคโลราโด (Colorado) เขาจึงได้ว่าจ้างเฮลิคอปเตอร์บินเข้าเมืองเพราะทางเข้าออกตามถนนนั้นโดนปิดกั้นจากกองทัพจนหมดสิ้น

เมื่อเขาเข้ามาถึงบริเวณเมืองแล้ว แฟรงก์ได้เข้าสู่วิลลาเมตต์ ปาร์กวิว มอลล์ (Willamette Parkview Mall) ที่เป็นห้างประจำเมืองจากบนดาดฟ้า ก่อนที่เขาจะได้พบว่าขณะนี้ในเมืองได้เกิดเหตุการณ์เชื้อซอมบี้ระบาดโดยไม่ทราบสาเหตุ และผู้รอดชีวิตต่างก็ได้นำเอาข้าวของมากั้นประตูเอาไว้ ทุกอย่างก็ดูจะพอวางใจได้ระดับหนึ่ง…จนกระทั่งมนุษย์ป้าผู้รอดชีวิตได้ไปเปิดประตูเพื่อให้สุนัขของเธอได้ตามเข้ามาในห้างด้วย ความบรรลัยระดับป่าช้าแตกจึงเกิดขึ้นในบัดดล แล้วแฟรงก์เองก็เลยต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ 72 ชั่วโมงก่อนที่เฮลิคอปเตอร์จะมารับ และค้นหาความจริงเบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้

ว่ากันตามตรงแล้ว ถ้าใครที่เคยเล่นเกมต้นฉบับมาแล้วก็จะรู้แน่นอนว่าเกมมันเกิดอะไรขึ้น ใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ ทำไปเพื่ออะไร และบทสรุปสุดท้ายของเกมเป็นอย่างไร แต่ถ้าคุณไม่เคยเล่นภาคนี้มาก่อนเลย เนื้อหาเกมมันก็อยู่ในระดับที่โอเคครับ ชวนติดตามได้เพลิน ๆ อาจไม่ได้มีแง่มุมที่มันลึกซึ้งหรือหักมุมชวนตะลึง แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดต้องเอามือก่ายหน้าผาก โทนของเกมมันจะอยู่กึ่ง ๆ ระหว่างความซีเรียสจริงจังกับความตลกหลุดโลกครับ ยิ่งถ้าคุณแต่งตัวบ้า ๆ บอ ๆ เข้าฉากคัตซีนที่มันจริงจังล่ะก็ บรรยากาศมันก็ชวนให้ซีเรียสไม่ลงแน่นอน


เกมเพลย์

ในส่วนของเกมเพลย์นั้น Dead Rising Deluxe Remaster มีคอนเซปต์เหมือนกับเกมต้นฉบับ นั่นคือเป็นเกมแอ็กชันแซนด์บอกซ์ที่คุณจะได้เผชิญกับซอมบี้จำนวนมากมายมหาศาลในฉาก ซึ่งคุณจะหยิบจับแทบทุกอย่างในห้างมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ครับ อาจจะเป็นพวกม้านั่ง เป็นดัมเบลล์ เป็นทีวี เป็นอะไรต่อมิอะไร เกมเพลย์จะค่อนข้างอิสระกว่าซีรีส์ Resident Evil ของแคปคอมเอง ซึ่งภายในห้างก็แบ่งออกเป็นพื้นที่โซนต่าง ๆ ที่เราวิ่งเล่นได้ และไปไหนมาไหนได้ตามใจชอบ จะสำรวจอะไร จะใส่ชุดอะไร จะหยิบอะไรมากิน จะทำน้ำปั่น จะเอาเนื้อสเต็กไปปรุงให้สุก ทุกอย่างแล้วแต่คุณเลย

ทีนี้อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ว่าแฟรงก์ต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ 72 ชั่วโมง เกมนี้ก็เลยใช้ระบบโปรเกรสของเนื้อเรื่องด้วยสิ่งที่เรียกว่าสกู๊ปครับ ซึ่งถ้าเอาเข้าใจง่าย ๆ สกู๊ปมันก็เหมือนกับเควสต์นั่นล่ะครับ ซึ่งสกู๊ปหลักนี่จะทำหน้าที่เหมือนเป็นเนื้อเรื่องหลัก แต่ระหว่างทางก็จะมีพวกสกู๊ปรองซึ่งก็จะเป็นการพาคุณไปเจอกับบรรดาผู้รอดชีวิตคนอื่น ๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ หรือไม่ก็อาจพาคุณไปเจอกับบอสที่เป็นบรรดาคนปกติที่เสียสติเพราะเจอสถานการณ์ซอมบี้ระบาด ไม่ได้เป็นพวกซูเปอร์ซอมบี้หรือตัวอะไรกลายพันธุ์ในแบบที่คุ้นเคยกัน

แต่ประเด็นก็คือสกู๊ปพวกนี้ที่ว่ามันจะมีเวลาจำกัดให้เราไปทำครับ หากเป็นพวกสกู๊ปรองนี่ถ้าคุณพลาดไปก็เท่ากับว่าคุณเสียโอกาสในการช่วยผู้รอดชีวิตหรือไม่ก็เจอบอสนั้น ๆ ไปเลย แต่ถ้าเป็นพวกสกู๊ปหลักนี่ เมื่อพลาดปุ๊บคุณก็จะไม่สามารถเดินเรื่องต่อไปจนจบสมบูรณ์ได้อีกแล้วในรอบนั้น ๆ นอกจากบริหารไอเท็มแล้วคุณเลยต้องบริหารเวลาด้วยเช่นกันว่าจะวิ่งไปไหน ช่วยใครก่อน แต่ถึงแม้ว่าคุณจะพลาดสกู๊ปหลักไป คุณก็ยังเลือกได้ว่าจะเล่นต่อรึเปล่าเพื่อที่จะได้เก็บของ เก็บเลเวลตัวละครเพื่อนำไปใช้เล่นวนในรอบใหม่ในแบบที่ตัวละครของคุณเก่งขึ้น มีความสามารถ มีท่าต่าง ๆ มากขึ้น

ใช่ครับ เกมนี้มีระบบเลเวลอยู่ ซึ่งก็ตามธรรมเนียมของเกมที่คุ้นเคยกันนั่นคือเมื่อคุณเก็บค่าประสบการณ์ถึงจุดที่กำหนดก็จะเลเวลอัป ที่จะให้ผลเป็นการเพิ่มพลังชีวิตของคุณบ้าง เพิ่มช่องเก็บไอเท็มบ้าง เพิ่มพลังโจมตีบ้าง เพิ่มความเร็วการวิ่งบ้าง และเพิ่มท่าโจมตีมือเปล่าต่าง ๆ เยอะแยะมากมาย นั่นแปลว่าถ้าเล่นรอบแรกแล้วคุณรู้สึกว่าเกมมันยากไป เล่นรอบใหม่จะง่ายขึ้นแน่นอน ซึ่งค่าประสบการณ์ที่ว่าของเกมนี้จะเรียกว่า PP ที่คุณจะได้จากการกำจัดซอมบี้ ปราบบอส ช่วยผู้รอดชีวิตกลับไปจุดปลอดภัย หรือไม่ก็การถ่ายภาพในรูปแบบต่าง ๆ ให้สมกับที่คุณเป็นนักข่าวอิสระนั่นล่ะครับ

ถ้าจะให้พูดไปแล้ว เกมเพลย์ของ Dead Rising Deluxe Remaster นี้ มันจะผสมผสานระหว่างความดิบโหดรุนแรงเลือดสาด เพราะเวลาคุณโจมตีซอมบี้นี่มีทั้งหัวแตก ตัวขาด แต่ในทางกลับกันสิ่งของต่าง ๆ ที่คุณอาจหยิบมาใช้ทารุณกรรมซอมบี้นี่บางชิ้นบางอันก็อาจเป็นสิ่งของชวนตลกโปกฮา หรือไม่ก็เป็นเสื้อผ้าหน้าผมของตัวละครคุณนี่แหละที่มันดูไปไกลสุดกู่มาก ๆ กระทั่งพฤติกรรมของบรรดาบอสมันก็ชวนขำแบบแปลก ๆ สไตล์ดาร์กคอมเมดี ซึ่งเอกลักษณ์พวกนี้ก็เลยเปรียบเสมือนเป็นรากฐานของแฟรนไชส์ Dead Rising ไปเลย


Quality of Life Improvement

ทั้งหมดที่ผมกล่าวไปในแง่ของเกมเพลย์นั้นถ้าคนที่เคยเล่นต้นฉบับมาน่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ต้องพูดถึงในการรีมาสเตอร์ครั้งนี้ก็เป็นบรรดาระบบช่วยเหลือต่าง ๆ อำนวยความสะดวกคนเล่นนี่ล่ะครับ

อย่างแรกเลยก็คือแผนที่ของเกมที่รอบนี้จะมีข้อมูลสำคัญบอกเรามากขึ้น อย่างพวกสกู๊ปต่าง ๆ ที่จะขึ้นบอกตำแหน่งบนแผนที่ให้เห็นเลยว่าต้องไปจุดไหนยังไง รวมถึงบรรดาสิ่งที่เราต้องเก็บสะสมอย่างเช่นพวกเสื้อผ้าเอย หรือ PP สติกเกอร์ที่แปะซ่อนอยู่ตามจุดต่าง ๆ นั้น ในฉบับ Deluxe Remaster นี้จะมีการบอกตำแหน่งที่อยู่ในการไปเก็บให้กับผู้เล่นเลย มีภาพเป็นคำใบ้ให้พร้อม ช่วยให้ทุกอย่างง่ายดายขึ้นมาก แม้แต่แชลเลนจ์ต่าง ๆ ก็มีบอกหมดว่าทำอะไรแล้วได้รางวัลอะไร

ในส่วนของผู้รอดชีวิตเอง จากฉบับเดิมที่ค่อนข้างขึ้นชื่อเรื่อง AI ค่อนข้าง…ไม่ฉลาดนั้น รอบนี้ก็ถือว่าดีขึ้นพอควรครับ ถึงแม้จะยังมีอาการวิ่งชนกันเองให้เห็นอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้ว AI เอาตัวรอดได้ดีขึ้น แถมยังมีรายละเอียดบอกด้วยว่าใครชอบไอเท็มชิ้นไหน ถ้าคุณให้ไอเท็มที่ถูกใจกับพวกเขาก็จะยิ่งทำให้พวกเขาเอาตัวรอดได้มีประสิทธิภาพขึ้นไปอีก คุณจะไม่รู้สึกว่าต้องกระเตงตัวภาระไปไหนมาไหนด้วยอีกแล้ว

การกดท่าโจมตีต่าง ๆ ในรอบนี้ก็ทำออกมาให้กดสะดวกขึ้น อย่างการกลิ้งหลบนี่ถ้าเป็นต้นฉบับคุณจะต้องดันอนาล็อกไปในทิศทางเดียวกันสองครั้ง มันเลยจะเกิดอาการกลิ้งแบบไม่ได้ตั้งใจบ่อยครั้ง แต่บทจะตั้งใจกลิ้งก็ไม่กลิ้ง รอบนี้ก็เปลี่ยนมาเป็นกดปุ่มวงกลมเพื่อกลิ้งหลบแทนและตัดปัญหาจุกจิกไปได้เยอะเลย ยังไม่นับว่าเวลาเล็งอาวุธปืนก็จะใกล้เคียงกับเกม TPS มากขึ้นเพราะสามารถเดินไปเล็งไปได้แล้วด้วยครับ

และอีกอย่างหนึ่งที่ต้องพูดถึงสำหรับเกมเมอร์สายล่าถ้วยและล่าอชีฟเมนต์ ในรอบนี้ก็ยังคงมีเงื่อนไข 7-Day Survivor ใน Infinity Mode หลังจบเกมครับ แต่รอบนี้คุณสามารถเลือก Suspend เพื่อเซฟเกมและพักได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องนั่งเล่นในเซชชันเดียว 14 ชั่วโมงรวดเพื่อบั่นทอนชีวิตตัวเองอีกต่อไป


สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงจากต้นฉบับ

พูดถึงสิ่งที่ปรับปรุงกันไปแล้ว ผมก็ขอพูดถึงสิ่งที่ยังเหมือนเดิมก็คือในแง่ของระบบต่อสู้โดยหลักนั้นยังคงเป็นการยกยอดจากต้นฉบับมาใช้ เพราะงั้นมันเลยจะไม่มีพวกระบบล็อกเป้าศัตรู หรือล็อกเป้าบอส เวลาสู้มันเลยจะเกิดการงึก ๆ งัก ๆ ตีวืดตีว่าวอยู่บ่อย ๆ เพราะพวกบอสนี่มักจะวิ่งไวและคล่องตัวกว่าเราโดยพื้นฐาน พอเราเงื้อตีบางทีมันขยับออกนอกระยะไปแล้ว สถานการณ์วิ่งไล่จับ หรือไม่ก็วิ่งวนรอบตัวบอสเพื่อหลบการโจมตีแล้วค่อยตีสวนก็จะเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ ครับ

อีกส่วนก็คือพวกระบบฟิสิกส์ต่าง ๆ ในเกมนี่ก็ยกยอดจากต้นฉบับมาเหมือนกันครับ เพราะงั้นเล่น ๆ ไปคุณอาจเห็นซอมบี้นอนลอยในตำแหน่งแปลก ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร


กราฟิกและการนำเสนอ

กราฟิกในฉบับ Deluxe Remaster นี้ทำออกมาได้สมราคาของ RE Engine ครับ เสื้อผ้าหน้าผมตัวละครสำคัญในเกมแต่ละคนจะมีรายละเอียดตามที่คาดหวังได้จากเอ็นจิ้นนี้เพราะสามารถนำเสนอความแตกต่างของพวกรายละเอียดเนื้อผ้าต่าง ๆ ออกมาได้เด่นชัดดี ถ้าจะมีอะไรที่ออกจะสมจริงเกินไปก็คงเป็นเรื่องแสงเงานี่ล่ะครับ ด้วยความที่ตัวเกมเน้นเรื่องเวลาที่หมุนเวียนไปตลอดเวลา 3 วันของเกม ดังนั้นห้างในเกมก็เลยมีเวลาเปิดปิดไฟเหมือนกัน ซึ่งพอช่วงเวลาที่ไฟปิดนี่มันก็มืดซะมองแทบจะไม่เห็นเลยครับ ถ้าใครอยากเล่นสะดวกก็อาจต้องไปปรับความสว่างของเกมขึ้นหน่อย


ระบบเสียง

ในส่วนของเสียงในเกมนี้ ผมคิดว่าบรรดานักพากย์คนใหม่ของแฟรงก์ในเกมเวอร์ชันนี้ทำออกมาได้ดี ไม่รู้สึกว่าผิดคาแรคเตอร์หรือแปลกหูอะไร พวกเพลงประกอบต่าง ๆ ในระหว่างวิ่งเล่นในห้างก็จะเป็นเพลงที่คุ้นเคยกันจากต้นฉบับ แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือพวกเสียงพูดประกาศต่าง ๆ ที่เป็นพวกระบบอัตโนมัติที่เราจะได้ยินบ่อย ๆ ตลอดเกม ช่วยสร้างบรรยากาศให้เหมือนเดินห้างจริง ๆ ได้ดี

อีกประการหนึ่งก็คือพวกบทสนทนานอกคัตซีนเวลาคุยกับ NPC ในห้องเซฟ หรือไม่ก็บรรดาผู้รอดชีวิตที่รอบนี้จะมาพร้อมเสียงพากย์เต็มตัวกันทุกคนแล้ว จากเดิมที่จะมีแค่ข้อความขึ้นกันแบบเงียบ ๆ เท่านั้น มันเลยช่วยสร้างชีวิตชีวาให้กับเกมได้มากขึ้นพอดูเลย


สรุป

Dead Rising Deluxe Remaster เรียกได้ว่าเป็นฉบับที่สมบูรณ์ที่สุดของ Dead Rising ภาคแรกครับ ด้วยการปรับปรุงคุณภาพชีวิตที่ดีมากมายหลายประการและกราฟิกที่พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าบางอย่างจะยังคงเดิมเพราะโครงสร้างเกมยกยอดมาจากต้นฉบับ แต่ถ้าใครที่ไม่เคยเล่นภาคแรกมาก่อนนี่ก็คือโอกาสที่คุณจะได้ลองเล่นในแบบที่กลมกล่อมที่สุด ส่วนแฟนเก่าก็อยากขอชวนให้มาลองเล่นกันดูอีกรอบครับ คุณอาจจะรักเกมนี้เหมือนครั้งแรกที่ได้เล่นก็เป็นได้ ถ้าจะมีอะไรที่น่าเสียดายก็คงเป็นที่ว่าไม่ได้มีการเสริมในส่วนของเนื้อหาพิเศษอะไรเพิ่มเติมเข้ามาครับ

The Review

85% โหดมันฮาล่าซอมบี้

Dead Rising Deluxe Remaster คือเวอร์ชันสมบูรณ์ของเกมภาคแรกประจำแฟรนไชส์ที่มาพร้อมการปรับปรุงอำนวยความสะดวกมากมายที่ผู้เล่นใหม่จะสนุกไปกับเกม ส่วนผู้เล่นเก่าก็จะได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น

85%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์