Games News Reviews

Dragon Ball Sparking Zero – รีวิว [REVIEW]

โดย G-jang

Dragon Ball Sparking Zero – รีวิว [REVIEW]

*ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5

ผมเชื่อว่าจนถึงตอนนี้ ถ้าพูดชื่อ Dragon Ball ขึ้นมา ต่อให้คนที่ไม่เคยตามอ่านหรือตามดูผลงานเรื่องนี้จริงจัง ก็ต้องมีภาพจำในหัวเป็นการต่อสู้ของเหล่าผู้มีพลังเหนือมนุษย์โดยเฉพาะชาวไซย่าที่นับวันจะยิ่งเล่นใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ สู้กันทีเมืองพัง ภูเขาถล่ม ดาวแตก กาแล็กซี่โดนล้างผลาญ จักรวาลทลายกันไปข้างนึง

และในคราวนี้ Dragon Ball กลับมาอีกครั้งในชื่อว่า Sparking Zero ที่นำเอาระบบการเล่นในแบบของภาค Budokai Tenkaichi ที่หลายคนชื่นชอบกลับมาใช้อีกครั้ง ส่วนเล่นแล้วเป็นอย่างไรผมจะมาเล่าความรู้สึกให้ฟังครับ


เนื้อเรื่อง

สำหรับเนื้อหาหลักของเกมนั้น หากว่าคุณติดตามดราก้อนบอลมายาวนาน ก็จะคุ้นเคยกับเรื่องราวที่เกมนำเสนอในภาพรวมเป็นอย่างดีครับ โดยเฉพาะเมื่อคุณเลือกเล่นโกคูก็จะมีเส้นเรื่องตั้งแต่ที่ราดิซมาเยือนโลกในช่วงต้นของ Dragon Ball Z ยาวไปจนจบศึกประชันพลังของ Dragon Ball Super กันเลย แต่ว่าเกมจะไม่ได้ให้คุณสัมผัสการต่อสู้ที่โกคูไม่ได้เป็นคนสู้เอง ดังนั้นการเล่าเนื้อหามันจะไม่ได้ต่อเนื่องในลักษณะเหมือนอ่านมังงะหรือดูอนิเม เพราะถ้าคุณเลือกเป็นตัวละครอื่น ๆ เช่นเบจิต้าหรือโกฮัง คุณก็จะได้เล่นเป็นตัวละครเหล่านั้นในการต่อสู้ที่พวกเขามีส่วนร่วมตามเนื้อหาของต้นฉบับ ให้คนเล่นได้รับรู้มุมมองอื่น ๆ ของแต่ละคน

ซึ่งจุดนี้ หลายคนอาจจะมองว่ามันก็เรื่องราวเดิม ๆ เนื้อหาเดิม ๆ ที่รับรู้กันมาตลอดสามสิบกว่าปีแล้วจะมีอะไรแปลกใหม่อีกได้ล่ะ? จุดนี้ตัวเกมมีการใส่ลูกเล่นเรื่องราวสไตล์ What If? เข้ามาที่เรียกว่า Sparking! Episode ครับ ซึ่งการปลดล็อกเส้นเรื่องเหล่านี้จะอยู่ที่การต่อสู้ในบางฉากที่คุณต้องทำตามเงื่อนไขให้สำเร็จ แล้วคุณจะได้พบกับมุมมองเรื่องราวที่อาจจะแปลกตาและต่างไปจากเดิมแบบสิ้นเชิงเลยก็ได้

อาทิเช่น หากโกคูไม่ได้สละชีวิตในตอนสู้กับราดิซล่ะ เรื่องราวจะเดินไปในทิศทางไหน? ถ้าหากตอนที่เบจิต้ามาบุกโลกนั้น โกคูกลายเป็นซูเปอร์ไซย่า ณ ตอนนั้นเลย เหตุการณ์จะพลิกผันไปแบบใด? สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะทำให้แม้แต่แฟนระดับเข้าเส้นของดราก้อนบอลจะต้องสนใจและอยากรู้ว่าเส้นเรื่องที่แตกต่างออกไปจะมีอะไรมาให้เห็นบ้างครับ ผู้เล่นจะอยากกลับมาเล่นเพื่อเก็บเนื้อหาให้ครบหมดแน่นอน


เกมเพลย์

ต้องบอกตามตรงเลยว่าผมเองนั้นก็ไม่ได้ชื่นชอบหรือเล่นภาค Budokai Tenkaichi มาอะไรมากมายขนาดนั้นตั้งแต่สมัยก่อนแล้วครับ เลยไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกที่หลายคนตื่นเต้นในตอนที่ได้รู้ว่า Sparking Zero ก็คือร่างเกิดใหม่ของ Budokai Tenkaichi และมองว่าเกมก็มีลักษณะคล้าย ๆ กับ Anime Arena Fighter ที่มีเต็มท้องตลาด แต่หลังจากได้เล่นแล้วผมก็พอเข้าใจว่าทำไมคนถึงชื่นชอบแฟรนไชส์นี้กันเยอะมาก

ระบบการเล่นที่ดูแล้วเหมือนจะง่าย ๆ นั้น เอาเข้าจริงแล้วมันลึกซึ้งกว่าที่ผมคิดเอาไว้มากทีเดียว หากดูผิวเผินก็จะคิดว่าเกมมีแค่การรัวต่อยคอมโบ ปล่อยพลัง ชาร์จพลัง ฯลฯ แต่พอได้ลองศึกษาระบบเกมแล้ว ทุกแอ็กชันในเกมนั้นมีวิธีโต้กลับ มีวิธีแก้ทาง มีวิธีหลบหมดครับ คุณอาจโจมตีคู่ต่อสู้แล้วเตะงัดลอย พุ่งตามไปต่อยแล้วทุบลงพื้น ยิงพลังอัดซ้ำ หรือเมื่อโดนโจมตีคุณก็ออกท่าเคาเตอร์สวน หรือเคลื่อนตัวหลบพริบตาอ้อมหลังคู่ต่อสู้ แต่ถึงแบบนั้นเมื่อคุณเคาเตอร์แล้ว คู่ต่อสู้คุณก็อาจเคาเตอร์กลับมาได้ หรือคุณตลบหลังแล้วอาจโดนตลบหลังซ้ำได้อีก

การเล่นในแต่ละไฟต์ของเกมนี้มันเลยออกมาดุเดือดและรุนแรงมากถ้าคุณแม่นระบบ กดหลบเป๊ะ กดโจมตีเป๊ะ ภาพที่เห็นคือการตอบโต้ระหว่างผู้เล่นที่ราวกับดูอนิเมเลยก็ว่าได้ ทั้งการแปลงร่างเพิ่มพลัง การยิงท่าใหญ่ที่ตัดมุมกล้องเท่ ๆ เอฟเฟกต์อลังการ ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเรียกได้ว่าเป็นเกมจากติ่งดราก้อนบอลเพื่อติ่งดราก้อนบอลโดยแท้ครับ หากจะมีอะไรที่ผมค่อนข้างชอบในการต่อสู้ของโหมดเนื้อเรื่องเกมนี้ก็คือ AI ของคู่ต่อสู้นั้นไม่ใช่อะไรที่คุณสแปมปุ่มมั่ว ๆ กดยิงท่าโต้ง ๆ แล้วจะผ่าน คุณต้องใช้เวลาทำความเข้าใจเมคานิกของเกมถึงจะเล่นได้มีประสิทธิภาพครับ

สิ่งสำคัญคือเกมนี้เร็วมากครับ ทุกอย่างเร็วไปหมด ต่อยเตะกันเร็ว ยิงพลังกันเร็ว เคลื่อนที่เข้าหากันแบบปุบปับ ทุกแอ็กชันนี่คุณง้างรอรับมือไม่ค่อยได้ ต้องอาศัยการเดาทาง เดาความเคลื่อนไหวกันเป็นหลัก ถ้าจังหวะที่คู่ต่อสู้ตลบหลัง คุณต้องเดาแล้วตลบหลังซ้ำล่วงหน้า ถ้าคู่ต่อสู้เคาเตอร์มา คุณก็ต้องเดาแล้วเคาเตอร์ดักกลับอีกที ทั้งหมดทั้งมวลนี้มันต้องคิดไวทำไวหมด เพราะฉะนั้นถ้าคุณได้เห็นคนที่เล่นกันแบบกดแม่น ๆ เดาจังหวะเป๊ะ ๆ สู้กัน คุณจะได้เห็นการดักสวนกันไปมา แว้บกันไปมาเหมือนดูอนิเมเลย

องค์ประกอบอื่น ๆ ของเกมนั้นก็เรียกได้ว่าทำมาเอาใจแฟน ๆ แบบไม่ต้องสงสัยเช่นการรวบรวมดราก้อนบอลจากการเล่นแล้วขอพรเทพมังกร ไม่ว่าจะขอตัวละคร ขอเงิน ขอของปรับแต่ง ฯลฯ แต่องค์ประกอบหนึ่งที่ผมชอบที่สุดก็ไม่พ้นความเห็นของบรรดาตัวละครสาว ๆ คู่ใจของชาวไซย่าในเกมครับ มันชวนขำและจิกกัดแฟรนไชส์ตัวเองได้แสบ ๆ คัน ๆ ไม่เบาเลย

ถ้าคุณชื่นชอบดราก้อนบอลเป็นทุนเดิมล่ะก็ เกมนี้มาเติมเต็มความติ่งให้คุณได้แน่นอนครับ ถ้าหากจะมีจุดที่บางคนอาจไม่ชอบก็คือด้วยความที่เกมเป็น Arena Fighter เป็นหลัก ดังนั้นเกมจะไม่มีองค์ประกอบของเกมแนวอื่น ๆ นะครับ จะไม่มีการสำรวจ ไม่มีการค้นหาความลับอะไรแบบนั้น


กราฟิกและการนำเสนอ

กราฟิกของเกมนั้นนำเสนอในรูปแบบของโพลีกอนเซลเฉดที่ทำออกมาได้สวยงามมากราวกับกำลังชมอนิเม เมื่อผนวกกับเอฟเฟกต์การยิงพลังแล้วมันก็ยิ่งเสริมความอลังการ ความโม้เหม็นและความดุดันของดราก้อนบอลออกมาได้เป็นอย่างดีมาก ๆ การยิงพลังต้านกัน การปะทะหมัดกัน ต่อยเตะรัว ๆ ใส่กันแบบที่มองตามไม่ทัน ฯลฯ ทุกอย่างมันดราก้อนบ๊อลดราก้อนบอล

แต่อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษคือการออกแบบหน้าจอเมนูของเกมครับ ไม่ใช่แค่การเลื่อนหัวข้อขึ้นลง แต่เกมนี้จะตอบโจทย์ความเป็นดราก้อนบอลด้วยการเปลี่ยนภาพหลังไปเรื่อย ๆ เช่น หากเป็นโหมดเนื้อเรื่องโกคูจะเคลื่อนย้ายพริบตามาที่บ้านบลูม่าซึ่งมีตัวละครหลายคนที่คุ้นเคยอยู่ด้วยกัน ถ้าไปหมวดแกลเลอรี่ก็จะแว้บไปที่บ้านของมร.ซาตาน พอจะไปเช็คภารกิจประจำเกมและรับรางวัลก็วาร์ปไปยังบัลลังก์ของเซ็นจัง ฯลฯ ทุกอย่างมันมีพลวัตหมด และเพิ่มชีวิตชีวาให้กับเกมได้มากเลยทีเดียว

หากจะมีจุดที่แอบเสียดายก็คงเป็นการนำเสนอฉากเรื่องราวในโหมดเนื้อเรื่องที่ไม่ค่อยมีคัตซีนเต็มรูปแบบครับ ส่วนมากจะเน้นใช้เป็นภาพนิ่งพร้อมคำบรรยายขึ้นแทน แต่ก็เข้าใจว่าด้วยความที่เกมนำเสนอเรื่องราวยาวเหยียดตั้งแต่เริ่ม Z ไปจนจบ Super ถ้าทำแบบนั้นทั้งเกมก็น่าจะเป็นงานช้างมาก ๆ แถมยังมีหลายตัวละครนอกจากโกคูด้วยก็เลยพอเข้าใจได้


เพลงและเสียงประกอบ

ในส่วนของเพลงและเสียงประกอบนี้ หากใครชื่นชอบและติดตามดราก้อนบอลอยู่แล้วก็จะคุ้นเคยกับพวกเสียงเอฟเฟกต์ในเกมครับ เพราะใช้เสียงในลักษณะเดียวกันกับในอนิเม เสียงการชาร์จพลัง ยิงพลัง เสียงเอฟเฟกต์ตอนหลบการโจมตี ฯลฯ ทั้งหมดนี้มันขับเน้นความเป็นดราก้อนบอลแท้ ๆ แบบไม่ต้องสงสัย ซึ่งก็เสริมในสิ่งที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ว่าการสู้แต่ละรอบมันเหมือนดูอนิเมนั่นล่ะครับ

ยิ่งถ้าคุณมี anime music pack ด้วยล่ะก็ เพลงที่คุ้นเคยจะเล่นในระหว่างการต่อสู้สำคัญหรือศึกตัดสินของเนื้อหาแต่ละช่วงด้วย มันช่วยสร้างความคึกให้กับผู้เล่นได้ดีมาก (ประสบการณ์ตรง)


สรุป

Dragon Ball Sparking Zero คือเกมสไตล์ Anime Arena Fighter ที่คุณภาพสูงมากอย่างไม่ต้องปฏิเสธ ระบบการเล่นที่เข้าใจง่ายแต่ลึกซึ้ง การนำเสนอที่ซื่อตรงต่อเนื้อหาต้นฉบับ พร้อมด้วยเรื่องราวพิเศษในแบบฉบับของเกมเอง นี่คือเกมดราก้อนบอลสำหรับแฟนดราก้อนบอลแน่นอน เพียงแต่ว่าถ้าคุณไม่ชอบเกมแนวต่อสู้กันก็อาจจะรู้สึกว่าความสนุกมันลดทอนลงไปบ้างครับ

The Review

80% เขย่าปฐพี บดขยี้สวรรค์

เกมดราก้อนบอลพันธุ์แท้ที่จะให้คุณได้ต่อสู้อย่างดุเดือด รุนแรง รวดเร็วสมฐานะของเผ่าพันธุ์นักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล

80%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์