![Unknown 9 Awakening – รีวิว [REVIEW]](https://thaigamewiki.com/wp-content/uploads/2024/11/Unknown-9-Awakening-Review-Cover.jpg)
*ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5
สำหรับ Unknown 9 Awakening นี้ เป็นผลงานจากสตูดิโอ Reflector Entertainment ที่จัดจำหน่ายโดย Bandai Namco Entertainment ครับ ซึ่งทีมสร้างนั้นก็หมายมั่นปั้นมือจะสร้างแฟรนไชส์นี้ให้ครอบคลุม โดยมีทั้งนิยาย มีคอมิก มีซีรีส์คนแสดงลงช่อง มีพอดแคสต์ ฯลฯ กะว่าปังดังระเบิดแน่ ๆ กันเลยทีเดียว
แต่เอาล่ะ สำหรับเกมนี้หลังจากเล่นจบแล้วผมจะมาเล่าความรู้สึกให้ทราบกันครับว่าตัวเกมเป็นอย่างไร
เนื้อเรื่อง
สำหรับ Unknown 9 Awakening นี้ จะให้ผู้เล่นติดตามการผจญภัยของ Haroona (ซึ่งได้ Anya Chalotra มารับบท) ซึ่งเป็นผู้มีพลังพิเศษที่เรียกว่า Quaester ที่สามารถดึงพลังจากมิติลึกลับที่ชื่อ The Fold มาใช้ได้ และในวันหนึ่งเธอได้ติดตามผู้เป็นอาจารย์อย่าง Reika ไปยังซากสิ่งก่อสร้างโบราณของอารยธรรมที่สาบสูญซึ่งเรียกว่า Sahin ที่ทั้งวิทยาการ อายุขัยและความเข้าใจในพลังนั้นสูงล้ำ แต่ก็ถึงแก่การล่มสลาย เหลือแค่เพียง 9 ชีวิตที่มุ่งมั่นจะใช้องค์ความรู้ที่มีหยุดยั้งวัฏจักรแห่งการทำลายล้างที่จะเวียนมาบรรจบ ซึ่งทั้ง 9 ก็ดำรงชีพสืบมาเป็นตัวตนในตำนานและประวัติศาสตร์ในฐานะของ Unknown 9
ในวันที่ Haroona เดินทางมายังซากโบราณแห่งนั้น เธอกับ Reika ก็ได้พบเข้ากับกองกำลัง Ascendants นำโดย Vincent ที่มุ่งจะใช้พลังของ The Fold ในวัตถุประสงค์ที่จะก่อให้เกิดหายนะแก่ทั้งโลก ชะตากรรมของ Haroona จึงพลิกผันและเริ่มเดินไปในทิศทางที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน
มาจนถึงจุดนี้ ถามว่างงกันไหมครับ? ยอมรับว่าตอนเล่นผมก็งง เพราะว่าศัพท์เฉพาะหลายอย่างถูกใส่เข้ามาพรวดพราดในช่วงต้น ๆ ของเกมแบบที่ผู้เล่นยังงง ๆ อยู่ว่าตกลงพื้นเรื่องคืออะไร เซ็ตติ้งเป็นอย่างไร เหมือนจู่ ๆ เราก็มาเปิดดูซีรีส์ตอนที่สองน่ะครับ คือตัวละครคุยกันแบบรู้อยู่แล้วว่าอะไรมันคืออะไร แต่คนเล่นไม่รู้ แล้วใช้วิธีค่อย ๆ อธิบายเพิ่มเมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ ผ่านพวกเอกสารแทน ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจนะว่าวิธีแบบนี้มันเวิร์ครึเปล่าสำหรับคนอื่น แต่สำหรับผมนี่ผมคิดว่ามันไม่ค่อยเวิร์คเท่าไรนัก
ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมคิดว่าทีมงานอาจจะตั้งใจให้คนเล่นไปตามเก็บเนื้อหา ตามเก็บ lore เพิ่มเติมจากสื่อด้านอื่น ๆ แทนอย่างที่บอกไปข้างต้น (ซึ่งจะใช่รึเปล่าก็ไม่แน่ใจนะ เพราะผมไม่ได้ตามไปดู) แต่ว่าตั้งแต่ต้นจนจบนี่มีบางตัวละครที่ผมสงสัยว่าใส่มาทำไม โผล่มาเหมือนจะมีบทบาทสำคัญภายหลัง แต่แล้วก็ไม่มีบทอีกเลย
เอาเข้าจริง ผมคิดว่าตัวเกมมีจังหวะการเล่าเรื่องคล้าย ๆ กับภาพยนตร์หรือเกมตามล่าหาสมบัติแบบ Indina Jones, Tomb Raider หรือ Uncharted อะไรแบบนั้นครับ สภาพแวดล้อมจะมีการตัดสลับไปมาหลากหลายที่พอสมควร คุยตรงนี้จบ เคลียร์เรื่องตรงนี้ปั๊บ เราก็ไปแวะเมือง เข้าป่า ลุยเขา ลงซากโบราณ ฯลฯ อะไรพวกนั้น ซึ่งถ้ามองในแง่นี้ก็ถือว่าทำบรรยากาศออกมาได้ไม่เลวอยู่ สภาพแวดล้อมแต่ละฉากมันดูมีเอกลักษณ์ชัดเจนดีในด้านการนำเสนอ
ถึงอย่างนั้น ผมก็รู้สึกว่ามันแอบคล้อยตามไปกับเนื้อหาของเกมได้ยากเหมือนกันสำหรับผม เพราะอารยธรรม Sahin ที่คนทั่วไปไม่รู้จักหรือสาบสูญไปนี่ ซากโบราณแต่ละจุดจะต้องมีรูปปั้นขนาดใหญ่ มีวิหารที่โอ่อ่าใหญ่โตอลังการระดับที่ว่า ไม่รู้มันรอดสายตาคนมาได้ไงตั้งนาน ต่อให้เซ็ตติ้งของเกมคือปีค.ศ.1914 ก็เถอะ ไม่เพียงแค่นั้นพวกองค์กรลับอย่าง Ascendants นี่มันลับแบบตะโกนอะครับ ผมตลกตั้งแต่ตอนต้นเกมที่พวก Ascendants เดินกันไปมาในเมืองใหญ่ของอินเดียแบบสภาพ Full Gear แบบใส่ vest ใส่กางเกง cargo กันเต็มรูปแบบแล้วครับ ไม่รู้ว่ารัฐบาลปล่อยให้เดินเพ่นพ่านไปมากันได้ยังไง
ที่สำคัญคือ พอเรากำจัดศัตรูในพื้นที่หนึ่งหมด มีทั้งเสียงโวยวาย มีเสียงปืน มีเสียงระเบิดตูมตาม พอเปิดประตูเข้าอีกพื้นที่หนึ่งก็เจอ NPC จำนวนมากใช้ชีวิตประจำวันแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันเลยดูขัดกับความพยายามทำเกมให้สมจริงมาก ๆ
เนื้อหาโดยรวมก็จบแบบค่อนข้าง anti-climatic พอควรสำหรับผม เหมือนชงว่าพลังอำนาจที่จะโดนปลดปล่อยจาก The Fold นั้นยิ่งใหญ่มาก อาจถึงขั้นโลกนี้หายนะ แต่พอเอาเข้าจริง…มันดูจืดชนิดที่ว่าถ้าแค่นี้เรียกว่าแข็งแกร่งแล้ว ใช้พวกอาวุธมาตรฐานปัจจุบันยังจะสะดวกชีวิตกว่าเยอะครับ ผมคิดว่าปัญหาหลัก ๆ เลยคือทีมงานน่าจะอยากเล่นใหญ่และคิดอะไรเอาไว้ใหญ่มาก แต่มือยังไม่ค่อยถึงที่จะทำสิ่งที่นึกไว้ให้เป็นรูปเป็นร่างได้ครับ
เกมเพลย์
ระบบการเล่นของ Unknown 9 Awakening นี้ โดยหลักจะมีรูปแบบเป็นการเอาชนะศัตรูให้หมดในพื้นที่แล้วมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ต่อไป โดยจะไม่มีพื้นที่ให้ออกสำรวจอะไรมากนักครับ เต็มที่จะเป็นการมองหาเส้นทางแยกจากเส้นทางหลักเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อไปเก็บไอเท็ม เก็บแต้มพลัง หรือเก็บพวก lore ต่าง ๆ แค่นั้น แล้วพอข้ามไปยังพื้นที่ต่อไปปุ๊บก็มักจะย้อนกลับทางเดิมไม่ได้แล้ว ต้องเดินหน้าอย่างเดียวเท่านั้น เกมมันเลยมีลักษณะ linear มาก ๆ ทั้งเกมครับ
ส่วนของระบบต่อสู้จะเน้นที่การเข้าปะทะระยะประชิดเป็นหลักโดยที่ Haroona จะอาศัยหมัดเท้าเข่าศอกในการบวกกับเหล่าทหารรับจ้างในชุดฟูลเกียร์ที่มีอาวุธครบมือ ปืนมั่ง กระบองไฟฟ้ามั่ง ชนิดที่ว่ามากันเป็นสิบแต่ก็โดนผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ในชุดที่ดีไซน์แบบผสมผสานความโมเดิร์นเข้ากับวัฒนธรรมอินเดียต่อยคว่ำกันเป็นแถบ ๆ (แต่เกมมันมีคอนเซปต์พลังเหนือธรรมชาติเลยหยวน ๆ ให้ได้หน่อย)
ทั้งนี้ทั้งนั้น ระบบคอมแบตก็ต้องถือว่าทำออกมาเพลินดีใช้ได้กับลูกล่อลูกชนที่เราจะได้ใช้งานในระหว่างการสู้ ทั้งการต่อยปกติ การชาร์จพลังต่อยเพื่อทำลายการ์ด การใช้พลังผลักศัตรูตกเหว ดึงศัตรูเข้ามาหวด การใช้พลังทำให้ถังเชื้อเพลิงระเบิด ฯลฯ อะไรแบบนี้ แต่ถ้าจะมีอะไรที่ผมคิดว่าไอเดียค่อนข้างเข้าท่าก็คือการเข้าสิงศัตรูแล้วบังคับให้ไปโจมตีศัตรูตัวอื่น หรือไปตีวัตถุรอบข้างให้ระเบิดกันถ้วนหน้านั่นล่ะครับ ช่วงจังหวะชุลมุนนี่การใช้ความสามารถนี้จะทำให้ผู้เล่นได้มีจังหวะพักแล้วก็อาจเคลื่อนย้ายศัตรูไปในจุดที่ตนเองจะได้เปรียบขึ้น ถือเป็นระบบที่ค่อนข้างโอเคใช้ได้
อย่างไรก็ตาม รูปแบบการเล่นส่วนใหญ่จะไม่ใช่ว่าให้เราวิ่งไปต่อยศัตรูให้หมดอย่างเดียว เพราะหลายครั้งที่คุณเจอศัตรู เกมจะอยู่ในช่วงลอบเร้นเป็นอันดับแรกเสมอ แต่การลอบเร้นของเกมนี้จะเป็นสไตล์เรียบง่ายครับ เช่นการหลบในพงหญ้า (ที่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมองเราไม่เห็น) การลอบโจมตี การใช้พลังปาพื้นดึงความสนใจ การใช้พลังพรางตัว ใช้วัตถุตามสภาพแวดล้อมเพื่อเล่นงานศัตรู ฯลฯ อะไรแบบนั้น ซึ่งถ้าคุณใจเย็นพอก็ค่อยไล่เก็บไปทีละคน ๆ จนหมดได้ แต่ถ้าใจร้อนโดดไปบวกเลยก็ไม่ได้มีผลเสียอะไร อยู่ที่ว่าคุณถนัดการเล่นแบบไหนแค่นั้นเอง
สิ่งที่จะมาเสริมความสามารถก็คือระบบอัปเกรดตัวละคร ซึ่งก็จะต้องหาแต้มจากการเก็บ Anomaly ที่ซุกซ่อนในฉากต่าง ๆ ครับ โดยสิ่งที่อัปเกรดก็อย่างที่พอจะเดากันได้อาทิเช่น พรางตัวนานขึ้น โจมตีแรงขึ้น เกจพลังขึ้นไวกว่าเดิม ฯลฯ อะไรทำนองนั้น หากจะมีจุดที่น่าตำหนิก็คือตลอดทั้งเกมคุณจะมีแต้มไม่พออัปเกรดครบทุกอย่าง แถมเกมนี้ไม่มีระบบการรีสกิล คุณอัปอะไรแล้วก็ถือว่าอัปไปเลย ดังนั้นถ้าเล่นรอบแรกแล้วคุณไม่สามารถทำโทรฟี่หรืออชีฟเมนต์บางอย่างได้ครบเพราะแต้มไม่พออัปสกิลที่จำเป็น เราก็คือเพื่อนกัน
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ผมคิดว่าระบบการเล่นของ Unknown 9 Awakening เป็นอะไรที่พอเล่นได้เพลิน ๆ เพียงแค่ว่าหลายอย่างมันจืดและธรรมดาแถมยังไม่มีความหลากหลายด้วย เพราะตลอดทั้งเกมคุณจะได้ต่อสู้ด้วยสองมือและสองเท้า รวมถึงพลัง Fold ที่มีรูปแบบใช้งานมาตรฐานแค่นั้น อย่างการปาพลังหลอกล่อศัตรู การกางโล่ป้องกัน ไม่มีการได้อาวุธใหม่ ไม่มีอุปกรณ์เสริมให้ใช้ ไม่มีปลดล็อกมูฟเซ็ตไหนเพิ่มเติม
ที่สำคัญคือดีไซน์เกมที่โบราณเหมือนการวิ่งเคลียร์ห้องไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดหมายครับ พวกระบบปีนป่ายก็ไม่ได้อิสระหรือมีจุดให้โดดให้เกาะเหมือนพวกเกมแนวล่าสมบัติจริง ๆ เพราะจุดที่โดดได้เกาะได้นั้นน้อยมาก เหมือนมีไว้พอเป็นพิธีเฉย ๆ เท่านั้นเอง ยังไม่นับว่าระหว่างสู้นี่ก็ยังเก็บงานไม่ค่อยเนี้ยบด้วยนะ เพราะมีหลายครั้งที่ผมซัดศัตรูแล้วมันขึ้นไปยืนบนวัตถุแบบที่ไม่ควรจะเป็นแล้วมันลงมาไม่ได้ก็มี
กราฟิกและการนำเสนอ
โดยส่วนตัวผมคิดว่างานออกแบบฉากต่าง ๆ ในเกมนี้ทำออกมาได้ค่อนข้างโอเคนะครับ ฉากเมืองก็ดูเป็นเมืองที่มีผู้คนพลุกพล่าน พวกป่าเขาลำเนาไพรก็ทำออกมาดูสวยงามดี ติดแค่ว่าสิ่งที่เห็นนั้นส่วนมากเราไปแตะไปสำรวจมันไม่ได้ เราได้แค่เดินไปตามทางที่เป็นเส้นตรงอย่างเดียว แล้วอีกจุดที่ผมคิดว่ายังทำไม่ถึงก็เป็นสีหน้าท่าทางตัวละครที่ดูแข็งโป๊กครับ การวางตำแหน่งตัวละครหรือการออกท่าทางก็ยังไม่ค่อยเนี้ยบในฉากคัตซีน ตัวละครเดินแล้วขาจมหินที่อยู่บนพื้นก็มีให้เห็นจะ ๆ ตาเหมือนกัน
เพอร์ฟอร์มานซ์ของเกมก็อาจจะเรียกได้ว่าพอผ่าน แต่มีบางจุดที่เฟรมหล่นให้เห็นอยู่เหมือนกัน แต่รวม ๆ ก็เรียกได้ว่าเล่นได้ครับ ไม่ได้ย่ำแย่ขนาดที่ไม่สามารถเล่นต่อได้เลย
เสียงพากย์และเพลงประกอบ
ถ้าจะว่ากันตามตรง ผมคิดว่า OST ของเกมนี้มันไม่มีเพลงไหนที่ติดหูผมเลยตั้งแต่เล่นมา ในระหว่างที่ผมเขียนรีวิวนี้ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าเพลงประกอบของเกมนี้มีทำนองอย่างไรบ้าง แต่ในส่วนของเสียงพากย์นั้นผมคิดว่าแต่ละคนก็ให้เสียงกันได้ดีนะครับ ไม่มีอะไรที่ขัดหูหรือฟังแล้วแปลก เลยเป็นอะไรที่ก็แอบเสียดายแทนบรรดานักแสดงผู้ให้เสียงอยู่เหมือนกัน
สรุป
ผมคิดว่า Unknown 9 Awakening นี้เป็นโปรเจคต์ที่ทีมงานวางโครงสร้างเอาไว้ใหญ่มาก และตั้งใจชงให้เป็นมหากาพย์อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ปัญหาคือในหลายจุดยังทำได้ไม่ถึง ที่สำคัญคือผมคิดว่าเกมเพลย์สไตล์นี้เรียกได้ว่ามาช้าไปเป็นสิบปีครับ ถ้าหากว่าเกมวางจำหน่ายในช่วงที่ Uncharted หรือ Tomb Raider สร้างกระแสให้คนฮือฮา ก็อาจได้การตอบรับที่ดีกว่านี้ (หรืออาจจะไม่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน) แต่เอาเป็นว่าเกมอยู่ในระดับที่พอเล่นได้ ถ้าคุณมีเงินเหลือและอยากให้กำลังใจทีมงานก็ลองหามาเล่นกันดูแล้วกันครับ แต่จะถูกใจหรือไม่อันนี้ผมรับประกันให้ไม่ได้นะ
