รีวิว Indiana Jones and the Great Circle
* ขอขอบคุณ Bethesda สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
** รีวิวนี้เล่นบน PC
สวัสดีครับ กระผมนาย “ปอลนาโช่” กลับมารับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้อีกครั้งกับการอาจหาญนั่งแท่น ตั้งตนวิพากษ์วิจารณ์ผลงานเกมของคนอื่น 555 ซึ่งทำไปก็เพื่อผลประโยชน์ของผู้บริโภค คนจ่ายสตางค์เป็นสำคัญ! โดยคราวนี้ก็ถึงทีของเกมยักษ์ใหญ่ปลายปี 2024 กับ Indiana Jones and the Great Circle หรือชื่อไทย (ที่ผมตั้งเอง) ว่า ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า ตอน มหากงล้อแห่งโลกา
สำหรับภาพยนตร์อินเดียน่า โจนส์ นี่ผมไม่อยากจะบอกเลยว่าผมเกิดทันได้ดูตั้งแต่ภาคแรกอ่ะครับ ลองคิดกันดูเล่น ๆ ได้เลยว่าผู้เขียนอายุเท่าไรแล้ว? และผมก็ตามดูมาทุกภาค นับตัวเองเป็นแฟนตัวยงคนหนึ่ง ในลักษณะของการชื่นชอบตัวหนังแนวนี้ แต่ไม่ได้เชี่ยวชาญ Lore อะไรมากมายหรอกนะครับ เอาเป็นว่า โตมากับอินดี้ และสนุกทุกครั้งที่ได้ดูซ้ำ
ด้านตัวเกม The Great Circle เขาได้ทีมงานคุณภาพคับแก้วอย่าง MachineGames มาดูแลการสร้าง (ภายใต้ความร่วมมือกับ Bethesda Softworks และ Lucasfilm Game) ทีมนี้ไม่ธรรมดานะครับ เพราะพวกเขาคือทีมงานที่รวมทีมกันใหม่หลังออกมาจาก Starbreeze Studios ซึ่งเคยฝากผลงานอย่าง The Chronicles of Riddick: Escape from Butcher Bay มาก่อน พอมาทำสตูฯ ใหม่ในนาม MachineGames ก็ฉายแววเก่งต่อเนื่องกับเกม Wolfenstein หลายต่อหลายภาค ผมคนหนึ่งแหละที่เป็นแฟนเกมของแก๊งสวีเดนทีมนี้มาตั้งแต่ยุคทำเกม Riddick
เอาล่ะ…ต่อไปนี้จะเป็นการ “เล่าประสบการณ์และความรู้สึก” หลังเล่นเกม Indiana Jones and the Great Circle จบไปแล้ว โดยจะเป็นความเห็นส่วนตัวนะ แต่จะตีแผ่ให้ได้ทราบกันแบบมืออาชีพแน่นอน (เพราะรีวิวเกมมาก็สิบกว่าปีแล้วอ่ะ)
เนื้อเรื่อง
เริ่มต้นกันที่เนื้อเรื่อง ผมขอปูพล็อตให้ได้ทราบคร่าว ๆ กันก่อนว่า ตัวเกมภาคนี้เขาเดินเรื่องในช่วงเวลาระหว่าง Indiana Jones and the Raiders of the Lost Ark และ Indiana Jones and the Last Crusade ซึ่งถ้าเทียบเวลาในประวัติศาสตร์โลก ก็จะเป็นระหว่างปี ค.ศ.1936 – 1938 อันเป็นช่วงเวลาเดียวกับความรุ่งโรจน์ของอาณาจักรไรซ์ที่สามของ “นาซีเยอรมนี” (ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่สองจะปะทุในปี 1939)
และก็เป็นพวกนาซีนี่เอง ที่แผ่ขยายอิทธิพลออกไปตามประเทศต่าง ๆ เพื่อบุกเข้าไปรุกแย่งเอาความลับแห่งพลังอำนาจ…ทั้งตามธรรมชาติและ “เหนือธรรมชาติ” เพื่อหวังมาใช้เสริมกำลังให้แก่จักรวรรดิของตน ร้อนถึงนักโบราณคดีชื่อดังอย่างอินเดียน่า โจนส์ ที่ไม่เคยกลัวอยู่แล้ว ต้องใช้ความรู้ความสามารถที่เหนือกว่าอีกฝ่ายอยู่หนึ่งก้าวเสมอ เดินทางไปไขความลับเหล่านั้นให้ได้ก่อนพวกนาซีคลั่งอำนาจจะมาแย่งไปได้
ใน The Great Circle จะพาเราไปตามประเทศต่าง ๆ หลายแห่งเลยครับ มันมีทั้งประเทศที่ยังไม่เคยเผยชื่อตามข่าวก่อนหน้านี้ด้วยนะ แต่ผมจะไม่บอกคุณหรอก เดี๋ยวจะหาว่าสปอยล์ แต่เอาเป็นว่าขอบอกเป็นจำนวนแทนดีกว่า คือมีถึง 8 ประเทศเลยทีเดียวที่คุณจะได้ไปเยี่ยมเยียน
ตัวเกมระบุว่าในปี 1937 อินดี้ ที่เพิ่งเลิกลากับแมรี่ (Marion Ravenwood) คู่หมั้นสาวนั้น กลับไปทำงานเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่ Marshall College (รัฐคอนเนทิคัต, สหรัฐอเมริกา) อยู่มาคืนหนึ่ง ห้องทำงานถูกชายร่างยักษ์บุกเข้ามาขโมยโบราณวัตถุล้ำค่าสิ่งหนึ่งไปจากตู้เก็บของมหาวิทยาลัย
ทำไมมันขโมยไปอย่างเดียว? ทำไมต้องเป็นสิ่งนี้? แล้วมันจะเอาไปทำอะไรต่อไป? หรือมันมีความลึกลับบางอย่างซ่อนอยู่หลังเหตุการณ์ครั้งนี้? และนี่อาจนำไปสู่เรื่องใหญ่ระดับโลกเลยหรือไม่?
ความสงสัยดังกล่าวส่งผลให้อินดี้ (และคุณผู้เล่น) จะได้ติดตามการผจญภัยของเขาไปหลากหลายประเทศนับแต่ฉากแรกดังกล่าว
เอาล่ะ…ขอรวบรัดหลังผมจบสิ้นการผจญภัยจากบรรทัดข้างบนไปเรียบร้อยแล้ว (ฮา) โดยขอฟันธงว่า เนื้อเรื่องเกมนี้แม่งโคตรมันส์เลยครับ สนุกจริง แต่!…มันก็ระดับเดียวกับหนังอินดี้ทุกภาคนั่นแหละ ไม่มากไม่น้อย ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ซึ่งสำหรับผมนั้นดูสนุกเล่นสนุกแน่นอน เพราะตรงตามรสนิยม มันเลยกลายเป็นคำแนะนำของผมที่ว่า “ที่ผ่านมาคุณดูหนังอินเดียน่าโจนส์แล้วชอบไหมล่ะ?” ถ้าชอบแบบนั้น แนวนี้ถูกใจใช่เลย ผมก็เชื่อว่าคุณจะชอบเกมนี้นะ ไม่น่ามีปัญหา
แต่ถ้าเคยดูแล้วไม่ค่อยถูกใจ ตินู่นตินี่ หนังเชยสะบัด ฯลฯ ก็ขอให้คุณไปอ่านต่อในหัวข้อเกมเพลย์เพิ่มเติม!
เกมเพลย์
ประเด็นแรก เกมนี้เล่นในแบบเกมริดดิคนะครับ ไม่ใช่ Wolfenstein ตลอดเวลาเกินกว่า 16 ชั่วโมงของผม น่าจะได้ยิงปืนไปราวแค่ครึ่งชั่วโมงได้ นี่ผมไม่ได้เวอร์นะ นี่พูดจริงเลย ตัวเกมเน้นลอบเร้นแบบเข้มข้น บวกกับการอาศัยสภาพแวดล้อมและอุปกรณ์ตามฉากเข้าช่วยในการหลบหลีก หลอกล่อศัตรู ก็เหมือนเวลาเราดูหนังนั่นแหละ แบบนั้นเลย ขณะที่อีกกว่าครึ่งของการเล่นจะเป็น “การแก้พัซเซิล” ครับ (ขอสารภาพเลยว่าตอนแรกผมขนหัวตั้งมาก ๆ กับเรื่องนี้ เพราะกลัวติดพัซเซิลจนเล่นจบไม่ทันรีวิวแถมไม่มีเฉลยในยูทูบให้ดูด้วยเพราะดันได้เล่นก่อนชาวบ้าน ก๊ากกก แต่สุดท้ายก็เอาตัวรอดมาจนได้ ฟู่….) ส่วนสุดท้ายจะเป็นการเล่นเชิงแพลตฟอร์ม โหนนู่นนั่นนี่ ปีนหน้าผา ว่ายน้ำดำน้ำ ไปตามเรื่อง
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ ผสมรวมกันเป็นการเล่นที่ผมรู้สึกว่า มันเหมาะแล้วล่ะ กับเกมที่พยายามดำเนินเรื่องแบบภาพยนตร์ มันเมกเซนส์ และให้ความบันเทิงแบบพอดี ๆ คลอไปกับคัตซีนการแสดงคุณภาพสูง (ตรงคัตซีนนี่ผมจะแยกไปพูดเพิ่มในหัวข้องานศิลป์ในเกม)
ประเด็นที่สอง เรื่องของมุมกล้อง – พอได้เล่นจริง เกมนี้มันไม่ได้เป็น FPS เพียว ๆ ครับ มันมีความ TPS เยอะมากกกก ตัดสลับไปสลับมา ยกตัวอย่างเช่น เวลาคุณปีนป่าย, โหนแส้, กระโดดเกาะหรือปีนขึ้นลงบันได ฯลฯ มันจะเป็นมุมมองบุคคลที่สามทั้งหมดเลย แต่พอคุณเดินสำรวจฉาก, แอ็กชันชกต่อยหรือยิงปืน มันค่อยซูมเป็นบุคคลที่หนึ่ง ซึ่งก็ทำออกมาได้โอเคดีนะ ไม่ค่อยเวียนหัวอะไรเท่าไหร่ แต่มันมีฟีลลิ่งนึงที่ผมรู้สึกว่ามันเด่นชัดออกมามาก ๆ เลยก็คือ เวลาเกมมันเป็นบุคคลที่สาม (โดยเฉพาะที่เราต้องเจอแพลตฟอร์มแบบต่อเนื่อง) มันให้อารมณ์เกม “Uncharted” สูงมาก (หรือเขาใส่ FPS เข้ามาเพื่อให้มันแตกต่างกับ Uncharted? อันนี้ผมเดาเฉย ๆ นะ)
ประเด็นที่สาม ลักษณะของการออกแบบฉาก กึ่ง ๆ เซมิโอเพ่นเวิลด์ – ผมขออธิบายให้เห็นภาพอย่างนี้ดีกว่า โดยผมขอยกตัวอย่างแบบในเกม ก๊อด ออฟ วอร์ ภาคล่าสุด แบบนั้นเลยครับ! กล่าวคือ ตามประเทศใหญ่ ๆ ที่อินดี้จะได้เดินทางไปนั้น (โดยเฉพาะฉากอียิปต์ กับ สุโขทัย) ตัวฉากจะเป็นพื้นที่เปิดกว้างขนาดใหญ่ ให้คุณสามารถเดินทางได้อิสระไปตามจุดย่อย ๆ ทั้งหลายในแผนที่ ซึ่งมันจะมีภารกิจทั้งหลักและย่อยให้คุณได้ทำ ใช่แล้วครับ เกมนี้มีไซด์เควสต์!
ขอบ่นตรงไซด์เควสต์นี่นิดนึง ก็คือเวลาคุณกดดูเมนูช่วยเหลือ ในเกมนี้มันจะแทนด้วย “สมุดโน้ต” ของอินดี้ เขาจะจดเรื่องที่ต้องทำไว้ในนี้ สำหรับเมนเควสต์อินดี้เรียกมันว่า Adventure ส่วนงานรอง ๆ ลงมา เขาเรียกมันว่า งานภาคสนามหรือ field work คุณสามารถรับทำงานเหล่านี้ได้เพื่อหาทุนเพิ่มไว้ซื้อไอเท็ม หรือเพื่อเพิ่มค่าแต้มไว้ปลดล็อกสกิลพิเศษต่าง ๆ ทีนี้ ไอ้ฟิลด์เวิร์กเนี่ย ดูค่อนข้างเข้าใจยาก และถ้าคุณไม่เคยเข้ามา “อ่าน” การจดบันทึกทั้งหลาย คุณก็อาจพลาดบรรดาเควสต์รองเหล่านี้ เพราะลักษณะของเกมมันจะทำให้คุณเผลอ “เล่นเกมเป็นเส้นตรง” ลุยตามเนื้อเรื่องไปเรื่อย ๆ จนท้ายเกม แล้วค่อยมาตรัสรู้ตอนหลังว่าคุณได้พลาดเควสต์รองไปมหาศาลเลย
แต่ไม่ต้องกลัวนะ จบเกมแล้วสามารถเล่นต่อได้ ไปฉากไหนก็ได้เพื่อไล่เคลียร์เควสต์ที่เหลือให้จบ
สรุปสำหรับหัวข้อเกมเพลย์ ผมมองแบบนี้ว่า ตัวเกมมันตั้งใจเสนอการเล่นเฉพาะตัว เป็นเกมผจญภัยในแบบอินเดียน่าโจนส์ ไม่เน้นยิง ไม่เน้นสู้ เน้นวิ่งหนี 555 คือคุณต้องทำความเข้าใจให้ได้ก่อนไงแล้วจะเล่นสนุก ถ้าหวังมาบู๊อย่างเดียว เกมนี้อาจไม่เหมาะสำหรับคุณ แล้วถ้าถามว่า “แล้วไอ้การออกแบบเกมที่เน้นลอบเร้น+แพลตฟอร์ม+ไขปริศนา ของเขาเนี่ย มันทำออกมาได้ดีมั้ย?” ผมขอตอบว่า แพลตฟอร์ม = ดี ผมชอบเลยล่ะ, ปริศนา = ไม่ยากไม่ง่าย กำลังดี, แต่เคยเล่นเกมอื่นที่เจ๋งกว่า
ส่วน ลอบเร้น = ยังไม่ดี มีจุดอ่อนเยอะมาก กับปัญหาเดิม ๆ นั่นคือ AI ศัตรูที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ แถมเกมบังคับลอบเร้น ยิงสู้แหกค่ายไม่ได้เลย เพราะปืนน้อย กระสุนน้อยมาก แถมยิงลูกซองอัดหัวศัตรูแบบจ่อ ๆ 2 เม็ดซ้อนแม่งยังไม่ตาย…คือยังไงก็จะให้เราหลบ ๆ ซ่อน ๆ เข้าไปให้ได้อ่ะ บางครั้งก็เหนื่อยใจเหมือนกัน ข้อดีอย่างเดียวเลยก็คือ เวลาลอบเข้าไปน็อกเอาต์ศัตรูจากด้านหลังหรือใช้แส้ฟาด ก็มักจะได้เจอกับแอนิเมชันตลก ๆ ตามสไตล์หนังอินดี้เท่านั้นแหละ
งานศิลป์, การบอกเล่าในสไตล์ภาพยนตร์ และประเด็นร้อนเรื่องการยัดเยียดแนวคิด
“ชูความอลังการในแบบภาพยนตร์” คือนิยามที่ผมให้แก่ Indiana Jones and the Great Circle เพราะทั้งคุณภาพกราฟิก การแสดงของตัวละครจากนักแสดงจริง และงานพากย์เสียงต่าง ๆ ทำได้ในแบบเกรด AAA คือผมไม่รู้สึกว่าเล่นเกมนะ เอาจริง, ผมรู้สึกเหมือนดูหนังมากกว่า นี่ไม่ใช่เปรียบเปรยแบบลวก ๆ นะครับ มันรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ เพราะคัตซีนเยอะมาก เยอะแบบเยอะสุด ๆ ฉายแต่ละครั้งผมวางจอยเลยอ่ะ นั่งดูเพลินเลย พอมันตัดให้เราเล่นแป๊บนึง ก็วิ่ง ๆ เล่น ๆ ไปซักพักก็วางจอยนั่งดูหนังต่อ ….อารมณ์แบบเนี้ยอ่ะเกมเขา
ผมขอชื่นชมเป็นการส่วนตัวต่อนาย ทรอย เบเกอร์ ที่สามารถให้เสียงตัวละครออกมาละม้ายคล้ายแฮริสัน ฟอร์ด เป็นอย่างมาก และสไตล์การพูดการจา ก็แสดงความเป็นอินเดียน่า โจนส์ ได้อย่างสมจริง สุดยอดจริง ๆ นายคนนี้ แถมด้วยการโชว์สกิลพูดภาษาไทยในแบบ “ฝรั่งพูดไทย” ก็ฮาดีไม่ใช่น้อย
ด้านงานออกแบบเชิงศิลป์ของฉากประเทศในเกม ก็สวยสมจริงแต่มีประเด็นแยกย่อยเกี่ยวกับฉาก “ประเทศไทย” ซึ่งผมขอแยกไว้พูดในหัวข้อถัดไปดีกว่า เพราะมันเรื่องใหญ่!
อีกเรื่องก็คือ ผลงานการแสดงทิ้งทวนของ โทนี่ ทอดด์ (Tony Todd) ผู้รับบทสำคัญในเกม ก็ฝากฝีมือไว้อย่างน่าจดจำ สิ่งนี้ยิ่งช่วยให้ทุกครั้งที่เห็นเขาในฉากล้วนมีความหมายมากยิ่งขึ้นไปอีกครับ (นักแสดงผู้นี้เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านมานี้เอง)
มาถึงประเด็นสุดท้ายในหัวข้อนี้ กับความกังวลของใครหลายคนเกี่ยวกับความโว้ก หรือกลัวว่าเกมจะยัดแนวคิดต่าง ๆ นานาเข้ามาสู่เกมจนเบียดบังความสมจริงและอิสระในการสร้างสรรค์ ซึ่งผมจะทำเป็นไม่สนใจแง่มุมนี้เลยก็คงไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องใหญ๋ในฝั่งของผู้บริโภค ซึ่งผมขอบอกให้ทราบทั่วกันว่า ตัวเกมแทบไม่มีการยัดเยียดจนน่าเกลียดแบบเกมอื่น ๆ (เพราะถ้ามีผมคงหักคะแนนยับ) เล่นจนจบผมเจอแค่สองสามประโยคที่พาดพิงนิด ๆ เกี่ยวกับเรื่องเพศ นอกนั้นตัวเกมจะเทหน้าตักไปกับการ “เหยียดนาซี” ในแทบทุกโอกาสเลยครับ ตลอดจนการต่อต้านระบอบฟาสซิสต์แบบออกนอกหน้า (ในเกมก็คือพวกพรรคชาตินิยมฟาสซิสต์ของมุสโสลินี) ซึ่งผมไม่มีปัญหาอะไรเลยกับการเหยียดไอ้พวกนั้น
ถ้าจะให้ผมวิเคราะห์ ผมเดาว่าเนื้อเรื่องเกม กับยุคสมัยในเกมมันไม่เปิดช่องให้ทีมยัดอะไรนอกเหนือจากแกนเรื่องหลักได้มากนักหรอก ซึ่งก็นับว่าเป็นโชคดีของแฟนหนังอินดี้รุ่นใหญ่อย่างผม ที่ไม่ต้องเจอเรื่องปวดหัวโว้ก ๆ ในเกมที่ตั้งใจรอเล่นเกมนี้
“ความไทย” ในเกม
มาถึงหัวข้อสำคัญที่สุดของการรีวิวในครั้งนี้! 555 แหม่ ขอบอกเลยว่าตอนผมเล่นฉากสุโขทัยครั้งแรกถึงกับเหวอไปเลย (ด้วยความตื่นตาตื่นใจ!) เพราะเกมมี “พากย์ไทยครับ” ตัวละครคนไทยทั้งตัวเด่นและตัวประกอบพูดไทยกันฉ่ำเลย แถมพากย์ด้วยฝีมือทีมพากย์อาชีพที่เราคุ้นหูกันดีจากหนังไทยทั้งหลาย ผมไม่รู้หรอกว่าเขาจ้างบริษัทไหนมารับผิดชอบ รู้แต่ว่า ตัวละครนำสองคนอย่าง ลุงสุนัน ได้การแสดงและเสียงพากย์ของคุณวิทยา ปานศรีงาม นักแสดงไทยระดับอินเตอร์ชื่อดัง ขณะที่ ไพลิน แสดงโดยคุณ Grace Vorananth หรือ เกรซ TheFaceThailandSeason3 และทั้งสองคนก็โชว์ฝีมือกันได้อย่างสุดยอด
อ้อ พวกตัวละครฝรั่งทั้งอินดี้ และจีน่า ก็พยายามพูดไทยในหลายโอกาสด้วยนะ ฟังแล้วฮาดีใช้ได้เลย
แล้วฉากสุโขทัยนี้ไม่ใช่แค่ฉากน้ำจิ้มให้อินดี้แวะแค่แป๊บเดียวนะครับ มันคือฉากขนาดใหญ่ที่คุณต้องเล่นกันนานเลย มีหลายเควสต์ให้ต้องทำมากมาย บวกด้วยคัตซีนพากย์ไทยคุณภาพคับแก้วอีกเพียบ! เหมือนเล่นเกมที่เป็นหนังไทยเลยอ่ะครับ ผมแม่มโคตรเซอร์ไพรซ์!
ด้านตัวประกอบก็ให้เสียงสุดยอดกันทุกคน โดยเฉพาะคณะกลุ่มเคลื่อนไหวที่ต่อมาน่าจะกลายเป็นกลุ่มเสรีไทยนี่แหละ ให้เสียงเป็นฉากหลังกันสนุกเลย อาทิ (ขณะยิงต่อสู้)พวกเราหลบเร็ว! เข้าที่กำบัง พวกมันมาแล้ว! สู้โว้ย! อะไรแบบนี้อ่ะครับ
แถมด้วยฉากบู๊ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในไทยนี่ก็เช็กลิสต์มาจากหนังไทยคลาสสิคมากมาย เช่น การนั่งเรือหางยาวไล่ยิงกัน, การไล่ล่ากันในวัดโบราณ ฯลฯ นี่เขาใส่ของแบบนี้เข้าไปแบบเอาใจคนไทยกันสุด ๆ
อย่างไรก็ตาม ผมต้องแจ้งให้ทราบก่อนว่า การสร้างฉากสุโขทัยนี้ของทีมงาน ไม่มีอะไรเหมือนของจริงนะครับ คือมันเหมือนหมู่บ้านในเมืองไทยอ่ะใช่ แต่เหมือนที่ตลาดน้ำดำเนินสะดวกมากกว่า เพราะมันมีแต่คลองกับบ้านเรือนไทย ส่วนพวกเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้านที่จำลองความเป็นไทยนี่ถือว่าทำได้ดี
ด้านโครงสร้างของฉากก็จะย่อให้มีความเป็นเกมมากกว่าชีวิตจริง อาทิ ย้ายวัดมหาธาตุ (จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) มาอยู่สุโขทัยเฉยเลย หรือจับสถานที่สำคัญต่าง ๆ มาย่นระยะทางให้คนเล่นล่องเรือไปแป๊บเดียวก็ถึง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ก็ต้องทำเพื่อเอื้อต่อการเล่นเกมเป็นสำคัญ
ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วนึกภาพไม่ออก ผมแนะนำให้ไปดูวิดีโอรีวิวการเล่นฉากนี้ในช่อง Thaigamewiki ของเรา แล้วจะเห็นภาพได้ชัดขึ้นครับ
เอาล่ะ ผมขอสรุปในหัวข้อนี้ในแบบนี้ว่า บรรยากาศความเป็นไทยในเกมนี้ มันก็ยังมีกลิ่นเอ็กโซติกแบบฝรั่งมองไทยนั่นแหละ แต่คราวนี้เราได้คนไทยจริง ๆ ไปทำงานในส่วนการแสดงและให้เสียง (และน่าจะรวมถึงการแปลบทพูดด้วย) ทำให้อย่างน้อย มันออกมาดูดีในระดับเดียวกับเวลาเราดูหนังฝรั่งที่มีคนไทยเล่น ผมให้ผ่านนะ แล้วบวกแต้มให้ด้วย ด้านข้อติ ก็คงจะเป็นปัญหาโลกแตกของฟอนต์ไทยในเกม ที่ตามป้ายชื่อสถานที่ต่าง ๆ มันสระลอย วรรณยุกต์ตกหล่น ซึ่งไม่รู้ทำไมถึงแก้ปัญหานี้กันไม่ค่อยได้ ไม่ว่าจะเป็นเกมอะไรก็ตาม
ส่วนใครจะมองว่า มันไม่สมจริง, มันไม่เหมือนสุโขทัยซักนิด, การแต่งกายก็ย้อนยุคไปใส่ชุดไทยตะเบงมานไกลเกินจริง ฯลฯ ผมคงต้องยกตัวอย่างเปรียบเทียบกับซีรีส์ shogun อ่ะครับ คืออันนั้นคนญี่ปุ่นดูแลการสร้างมันก็เลยออกมาญี่ปุ่นแท้ ถ้าเราอยากได้เกมไทยแทร่ก็รอให้คนไทยได้สร้างเกมระดับนี้กันก่อนนะครับ
สรุป
เขียนมาซะยืดยาว 555 เอาเป็นว่า ผมแปลกใจตัวเองเหมือนกันที่เมื่อถามตัวเองแบบจริงจังหลังเล่นจบว่า รู้สึกยังไง? คำตอบคือ ชอบเลยว่ะครับ มันมีสิ่งที่ถูกใจมากกว่าขัดใจ มันเป็นเกมที่ดีนะ สนุกโบ๊ะบ๊ะในแบบหนังอินเดียน่า โจนส์แท้ ๆ เลย ส่วนตัวแล้ว ผมเข้าใจดีว่าเกมนี้กำลังเป็นที่จับตา เพราะมีกระแสนอกเหนือจากตัวเกมเข้ามาโจมตีมากมาย (รวมทั้งตัวผมเองก็ง้างรอจะทิ่มอยู่เหมือนกัน ก๊าก) แต่กลายเป็นว่า ผมตกหลุมชอบใจไปซะงั้น แต่มีคำเตือนอยู่นิดเดียว นั่นคือ เกมเขาเน้นเรื่องราวมากเสียจน หากคุณไปเลือกดูคนอื่นเล่นบนยูทูบแล้วล่ะก็ ความว้าวตอนเล่นเองมันแทบจะไม่เหลือ ยิ่งหากคุณไปสปอยล์ตัวเองจนรับรู้ว่า แท้จริงแล้ว Great Circle มันคืออะไร นี่ความน่าเล่นจะหดหายไปเกือบหมด ฉะนั้น ถ้าคิดจะเล่น อย่าไปดูใครเขาเล่นก่อนเลยเชื่อผม ซื้อแล้วเล่นเองดูเอง ดีที่สุด!