ในงาน TAIPEI GAME SHOW 2025 ณ ไต้หวันในปีนี้ ทีมงานไทยเกมวิกิได้มีโอกาสลองเล่นเดโมเกมบางส่วน ซึ่งจะขอนำมาบอกเล่าความรู้สึกให้ได้อ่านกันในบทความนี้ครับ
Rushing Beat X Return of Brawl Brothers
Rushing Beat คือซีรีส์ Beat’em Up หรือเดินลุยต่อยเตะกับศัตรูในฉากจำนวนมากเพื่อผ่านฉาก และภาคนี้ก็คือภาคล่าสุดของซีรีส์ หลังจากที่ห่างหายกันไปกว่า 32 ปี เพราะภาคสุดท้ายอย่าง Rushing Beat Shura นั้นวางจำหน่ายปีค.ศ.1993 บนซูเปอร์แฟมิคอมนู่นเลยทีเดียว
สำหรับตัวเกมที่กลับมาในคราวนี้ก็ยังคงคอนเซปต์เกม Beat’em Up ครับ โดยที่เราเลือกตัวละครได้หลายตัวและก็แน่นอนว่าตัวเอกขาประจำซีรีส์อย่าง Norton ก็ยังคงมีให้เลือกใช้เหมือนเดิม สิ่งที่ตัวเกมเพิ่มเติมเข้ามาให้ทันสมัยขึ้นก็คือบรรดาท่าโจมตีต่าง ๆ ที่จะไม่ได้มีแค่เพียงกดต่อยแล้วออกคอมโบชุดเดิมจนจบเกมแล้ว แต่จะเพิ่มในส่วนของปุ่มออกท่าพิเศษ และการออกท่าโจมตีชุดที่แตกต่างกันไป และยังใส่ระบบการ juggle ที่งัดศัตรูลอยแล้วเรากระโดดโจมตีต่อเนื่องกลางอากาศได้อีกด้วยเช่นกัน และเมื่อเกจท่าไม้ตายใหญ่เต็ม ตัวละครของคุณก็จะใช้ท่าอันรุนแรงสร้างความเสียหายหนักให้ศัตรูได้ (ซึ่งควรเก็บไว้ใช้กับบอสนั่นแหละ)
โดยรวมแล้ว ในเบื้องต้นผมรู้สึกว่าตัวเกมรวดเร็วฉับไวและรุนแรงใช้ได้ ความต่างในการเล่นแต่ละตัวละครก็มีพอสมควรที่จะทำให้คุณลองหาคอมโบหรือคิดคอมโบที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด เชื่อว่าส่วนหนึ่งก็เพราะอิทธิพลของ Streets of Rage 4 ที่วางจำหน่ายไปก่อนหน้านี้แล้วยกเครื่องเกมเพลย์ใหม่หมดนี่ล่ะครับ เลยทำให้ Rushing Beat X เป็นเกมเดินหน้าต่อยไม่เลี้ยงที่มีระบบการเล่นลึกซึ้งอยู่ระดับหนึ่งเหมือนกัน
ถึงผมจะยังแอบงง ๆ ว่าทำไมรอบนี้ Rushing Beat X ถึงเริ่มมาให้เราต่อยกับซอมบี้ก็เถอะนะ…
Double Dragon Revive
การกลับมาของอีกหนึ่งเกมสไตล์ Beat’em Up ระดับตำนาน ที่หลังจากสร้างชื่อเอาไว้ตั้งแต่สมัยแฟมิคอมและซูเปอร์แฟมิคอม (และอาร์เขดบางภาค) ชื่อเสียงก็เริ่มถดถอยไปตามเวลา และที่ผ่านมาก็เคยได้รับการปลุกชีพมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ถึงอย่างนั้น ภาคนี้ก็ตั้งใจที่จะคืนชีพให้กับซีรีส์นี้ด้วยชื่อ Revive นี่ล่ะครับ
ตัวเกมในคราวนี้ ก็เป็น Beat’em Up เหมือนกัน และมีตัวละครให้เลือกเล่นได้หลายตัว และแน่นอนว่าแต่ละตัวก็จะมีท่าโจมตีแตกต่างกันไป และมีท่าพิเศษที่ต่างกันเช่นเดียวกัน ระบบหลายอย่างก็จะเป็นในแบบที่คุณคาดหวังได้จากเกมสไตล์นี้ครับ อย่างเช่นการหยิบอาวุธบนพื้นขึ้นมาใช้เป็นต้น
ในภาคนี้มีระบบตามสมัยนิยมเหมือนกัน เช่นการต่อคอมโบใส่ศัตรูที่ลอยอยู่กลางอากาศ ซึ่งก็จะทำให้คุณลองสรรหาวิธีว่าจะโจมตียังไง จะงัดแบบไหนให้ทำแดเมจได้สูงสุด ซึ่งเกมนี้ก็มีระบบเด้งออกจากกำแพงดังนั้นเมื่อคุณซัดศัตรูใส่กำแพงเมื่อไรมันก็คือโอกาสให้คุณโจมตีต่อเนื่องได้เมื่อนั้น จุดหนึ่งที่ผมสังเกตก็คือเกมภาคนี้จะเล่นปฏิสัมพันธ์กับฉากหลังได้เยอะขึ้น อย่างตอนที่คุณจับศัตรูไว้ ถ้าคุณลากมันไปใกล้ผนังก็จะกดโจมตีเป็นท่าพิเศษกว่าการทุ่มธรรมดาได้ครับ คล้าย ๆ กับระบบ Heat Action ในซีรีส์ Like A Dragon นั่นล่ะ
และก็เช่นกันที่เกมนี้มีเกจท่าไม้ตายใหญ่ที่คุณเอาไว้ใช้ไปงัดหน้าบอสได้เพื่อทำแดเมจมหาศาล เรียกได้ว่า Double Dragon Revive เองก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่มีระบบการเล่นลึกซึ้งและน่าจะถูกใจเกมเมอร์สายแอ็กชันครับ
Venus Vacation Prism: Dead or Alive Extreme
นี่น่าจะเป็นเกมที่หลายคนหมายมั่นปั้นมืออยากหามาเล่นและเล็งกันตาเป็นมัน เพราะนี่คือเกมภาคล่าสุดในซีรีส์ย่อยอย่าง Dead or Alive Extreme ซึ่งให้คุณได้ใช้เวลาร่วมกับสาว ๆ ทั้งหมด 6 คนด้วยกันบนเกาะสวรรค์เขตร้อนที่ชื่อ Venus Islands โดยที่เป้าหมายคือทำให้ Venus Festival ประสบความสำเร็จ
จุดเด่นนั้นผมคิดว่าคงไม่ต้องพูดกันเยอะ เพราะว่าสาว ๆ ทั้ง 6 คนนั้นล้วนแต่ปั้นโมเดลกันมาชนิดที่ว่าถูกใจชายหนุ่มแน่ ๆ และทุกคนก็ล้วนแล้วแต่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีทั้งนั้นครับ
ตัวเกมในเดโมจะเล่นในสไตล์ของเกมจีบสาว นั่นคือมีตัวเลือกให้เลือกคำตอบและจะมีผลเป็นการเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับลดค่าความสัมพันธ์ตามสิ่งที่เราเลือก เช่นถ้าหากว่ามิซากิบอกเราว่าวันรุ่งขึ้นเธอมีเวลาว่างและอยากใช้เวลาร่วมกับคุณ แต่แล้วคุณก็ได้คุยกับนานามิแล้วเธอก็ถามคุณเหมือนกันว่าพรุ่งนี้คุณว่างรึเปล่า เพราะเธออยากใช้เวลากับคุณ ถ้าคุณตอบตกลงใครไปค่าความสัมพันธ์กับอีกคนที่คุณปฏิเสธก็จะลดฮวบอะไรแบบนั้นครับ
เดโมที่เราได้ลองเล่นมายังไม่มีมินิเกมอะไรให้เล่นนอกจากเลือกตอบคำถามครับ แต่จุดหนึ่งที่น่าจะเป็นจุดเด่นและเป็นจุดขายของเกมก็คือในระหว่างคุยนั้น คุณสามารถกดปุ่มถ่ายภาพได้ตลอด ซึ่งสาว ๆ ก็จะหยุดให้คุณปรับโฟกัส ปรับฟิลเตอร์ เลือกซูม ฯลฯ อะไรแบบนั้น พอถ่ายเรียบร้อยแล้วบทสนทนาถึงจะดำเนินต่อไป ก็คือใครที่ปุบปับอยากถ่ายภาพขึ้นมาก็ถ่ายได้เลยตลอดเวลา ถึงตอนนี้คงยังบอกอะไรไม่ได้มาก แต่ถ้าใครชอบเกมสไตล์จีบหญิงอยู่แล้วก็น่าจะเล่นได้เพลิน ๆ ครับ
แถมท้ายว่าตอนเราเข้าไปเล่นเดโมนี่ พนักงานดูแลบูธต้องขอดูพาสปอร์ตเพื่อเช็คอายุด้วยนะ แถมโซนเล่นเดโมก็ต้องเอาพวกผ้าใบลงมาบัง ๆ เอาไว้ระดับหนึ่งเหมือนกัน เข้าใจว่ากันไม่ให้เด็ก ๆ เห็นนั่นล่ะครับ (แต่ดันมีภาพตัวละครในชุดชั้นในแขวนอยู่ข้างบูธ…)
Rusty Rabbit
นี่คือเกมแอ็กชันสไตล์ Metroidvania ที่จัดจำหน่ายโดย NetEase ซึ่งระบบการเล่นก็สไตล์มาตรฐานที่คาดเดาได้จากแนวนี้นั่นล่ะครับ คือคุณจะยิ่งเล่นไปก็ยิ่งได้ความสามารถใหม่ ๆ มาใช้เพื่อไปเปิดทางที่ผ่านไม่ได้ก่อนหน้านี้ ถือว่าเล่นได้เพลิน ๆ ถ้าคุณชอบแนวนี้เป็นทุนเดิม
ความเด่นของเกมนี้อย่างหนึ่งก็คือ การนำเสนอบรรดาตัวละครทั้งหลายในเกมเป็นกระต่ายที่มีคำพูดคำจาไม่สมกับหน้าตาครับ แต่ละตัวมีบุคลิกนิสัยที่โดดเด่นใช้ได้ และบทสนทนาก็จะออกแนวตลกโบ๊ะบ๊ะเอาเรื่อง ตบมุกกันแทบจะตลอดเวลาถึงแม้ว่าตัวเอกของเกมอย่าง Stamp จะแสดงออกในแบบขรึม ๆ เข้ม ๆ กร้านโลกก็ตาม ยิ่งพอคนให้เสียงพากย์ Stamp (เวอร์ชันญี่ปุ่น) คือคุณทาคายะ คุโรดะ ที่ให้เสียงคาซึมะ คิริว (จาก Like a Dragon) แล้วนี่ พอเสียงเข้มออกมาจากหน้าตาที่นุ่มฟูมันก็ชวนขำโดยอัตโนมัติแล้วครับ
ตัวเกมออกแบบมาในธีมที่ค่อนข้างไม่มีพิษไม่มีภัย เป็นแอ็กชันแพลตฟอร์ม Metroidvania ที่เด็กก็เล่นได้เพราะไม่มีการนำเสนออะไรที่รุนแรงครับ แต่เกมจริงจะเป็นอย่างไรก็ค่อยมาว่ากันอีกทีหนึ่ง
และทั้งหมดนั้นก็คือเดโมเกมน่าสนใจที่เราไปลองมาจาก Taipei Game Show 2025 ในรอบนี้ครับ รอบหน้าจะเป็นงานอะไรหรือเราจะมีอะไรมานำเสนออีกบ้าง เราก็ยังไม่รู้เหมือนกัน (อ้าว) แต่คอยติดตามกันไว้นะ วันนี้ขอลาไปก่อนครับ